มี Sex บ่อยๆ ทำให้ดูอ่อนเยาว์ได้จริงหรือ
หลายคนอาจเคยเห็นกระทู้การตั้งคำถามตามโซเชียลอยู่บ่อยๆ ในประเด็นที่ว่า ถ้าคนเรามี Sex บ่อยๆ หรือมี Sex ก่อนนอนทุกวัน จะทำให้หน้าดูเด็กลง มันจริงหรือไม่? ซึ่งบทความวันนี้ พญ.ชัญวลี ศรีสุโข จะเป็นผู้มาไขข้อสงสัยให้กับทุกคนได้รู้ว่า ในคนที่มี Sex บ่อยๆ ส่งผลให้ดูอ่อนเยาว์ลงได้จริงหรือ?ตอบคำถามประเด็นร้อน ‘มี Sex บ่อยๆ ทำให้ดูอ่อนเยาว์ได้จริงหรือ?’คำตอบคือ เซ็กซ์ทำให้อ่อนเยาว์จริงค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเซ็กซ์จากคู่ครองหรือการช่วยตนเองจนถึงจุดสุดยอด โดยยืนยันจากผลงานวิจัยตีพิมพ์เป็นหนังสือ เรื่อง Secrets of the Super Young โดย David Joseph Weeks อันที่จริงประเด็นเรื่องความอ่อนเยาว์จากเซ็กซ์นั้นเป็นผลรวมจากประโยชน์ของเซ็กซ์ที่มีการศึกษาวิจัยอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ตีพิมพ์ในปี 1994 จากการประชุมระดับโลกครั้งที่ 14 (14th World Congress of Sexology) ในการประชุมครั้งนั้นมีการประกาศว่าความสุขทางเพศ รวมถึงการช่วยตนเอง เป็นแหล่งเกิดของสุขภาพกาย สุขภาพใจ และสุขภาพทางจิตวิญญาณ (Physical Health, Mental Health, Spiritual Health) และให้ถือเป็นสิทธิของมนุษย์ทุกคน (Human Right) และจากประเด็นสำคัญที่ได้รับการยืนยันจากงานวิจัยต่างๆ นั้นจะขยายความต่อดังนี้
เซ็กซ์ช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์ (Youthfulness)งานวิจัยทำนานต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ในหญิงชายชาวยุโรปและอเมริกา จำนวน 3,500 คน ผู้ที่ประเมินแล้วดูอ่อนกว่าวัย 7-12 ปี เรียกซูเปอร์ยัง (Superyoung) การศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ทำให้ดูอ่อนกว่าวัยที่มีนัยสำคัญสูงคือ การมีกิจกรรมทางเพศสม่ำเสมอ (Active Sexual Life) ในกลุ่มซูเปอร์ยังมีเซ็กซ์สัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยเฉลี่ย เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่มี 2 ครั้ง หรือน้อยกว่านั้นต่อสัปดาห์ นอกจากนั้นกลุ่มซูเปอร์ยังยังมีความมั่นใจในรสนิยมทางเพศ (Sexual Identity) มากกว่า นอกจากนี้ยังพบข้อดีอื่นๆ ของการมี Sex บ่อยดังนี้
เซ็กซ์ทำให้หุ่นดีเซ็กซ์เบิร์นพลังงานและไขมัน มิหนำซ้ำ คนที่มีกิจกรรมทางเซ็กซ์สม่ำเสมอมักชอบการออกกำลังกายสม่ำเสมอมากกว่าคนไม่มีเซ็กซ์ ในทางกลับกัน คนที่ชอบออกกำลังกายสม่ำเสมอก็จะมีเซ็กซ์สม่ำเสมอมากกว่าคนไม่ออกกำลังกาย แถมเกร็ดความรู้ว่า เซ็กซ์ไม่มีผลลบในการแข่งกีฬา ยกเว้นมีภายใน 2 ชั่วโมงก่อนแข่ง แบบนี้พลังงานที่สูญเสียไปมักยังไม่กลับคืนมา
เซ็กซ์และอนามัยเจริญพันธุ์ (Sexual and Reproductive Health)เซ็กซ์ทำให้มีลูกง่าย งานวิจัยในปี 2002 ทำในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าการมีเซ็กซ์และถึงจุดสุดยอดขณะมีประจำเดือนลดการเกิดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ทั้งการมีเซ็กซ์บ่อย 4 ครั้งขึ้นไปในหนึ่งสัปดาห์ มีโอกาสตั้งครรภ์มากกว่าร้อยละ 80 ใน 6 เดือน การศึกษาในปี 1998 พบว่าการถึงจุดสุดยอดของฝ่ายหญิงมีการหลั่งฮอร์โมนออกซิโตชิน ทำให้เกิดผนังมดลูกหดตัว ดูดอสุจิขึ้นไปผสมกับไข่ และทำให้อสุจิค้างอยู่ในช่องคลอดนาน 10-15 นาที ทำให้มีโอกาสท้องมากขึ้น คุณภาพของอสุจิ ทั้งจำนวนและการเคลื่อนไหวในคนที่หลั่งบ่อยๆ ดีกว่าคนที่ไม่ค่อยได้หลั่ง การถึงจุดสุดยอดทำให้ประจำเดือนตรง ไข่ตก ลดการปวดประจำเดือน การสัมผัสอสุจิไม่ว่าจะโดยการสอดใส่หรือออรัลเซ็กซ์ ก่อนและตอนตั้งครรภ์จะช่วยลดการคลอดก่อนกำหนด ลดการเกิดครรภ์เป็นพิษ เซ็กซ์ลดอาการช่องคลอดแห้ง และทำให้อวัยวะชายแข็งตัวดี เพราะเพิ่มเลือดไปหล่อเลี้ยง
เซ็กซ์ช่วยลดอาการปวดเรื้อรัง ผ่อนคลาย ลดความเครียดเซ็กซ์ทำให้หลับสบาย การถึงจุดสุดยอดทำให้มีการหลั่งฮอร์โมนออกซิโตชินและเอ็นดอร์ฟิน ทำให้หลับสนิทเหมือนได้ยาระงับประสาท เซ็กซ์ลดอาการปวดเรื้อรัง เช่น ปวดข้อ ปวดหัว ไมเกรน ปวดท้อง ปวดประจำเดือน เพราะการถึงจุดสุดยอดเพิ่มฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟินและคอร์ติโคสเตียรอยด์ ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย
เซ็กซ์มีผลดีต่อสุขภาพจิต อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ (Psychological, Emotional, Social and Spiritual Health)เซ็กซ์เพิ่มคุณภาพชีวิต มีความมั่นใจ เห็นคุณค่าชีวิต ลดความเครียด ลดความคิดฆ่าตัวตาย ลดซึมเศร้า มีสุขภาพจิตดี เชื่อว่าเป็นผลจากฮอร์โมนออกซิโตชินที่ทำให้ผ่อนคลาย คนที่มีความสุขในเซ็กซ์มาก่อนมักมีคุณภาพชีวิตดีตลอดทั้งชีวิต ความพึงพอใจในเซ็กซ์ทำให้สัมพันธภาพคู่ครองมั่นคง มีความผูกพันกันทางจิตวิญญาณ เซ็กซ์ทำให้อายุยืนการศึกษาทำในประเทศอังกฤษ (Caerphilly, South Wales) ติดตามนานถึง 10 ปี ในชาย 918 คน อายุ 45-59 ปี ทุกคนได้รับการซักประวัติ ตรวจร่างกาย วัดความดันโลหิต ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เมื่อติดตามไปนาน 10 ปี ชายที่มีการหลั่ง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือมากกว่า พบว่าโอกาสเสียชีวิตลดลงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับชายที่มีการหลั่งแค่เดือนละครั้ง และจากงานวิจัยของนอร์ทแคโรไลนา ติดตามไปถึง 25 ปี พบปัจจัยที่ให้ชีวิตยืนยาวเกี่ยวกับเซ็กซ์ในชายคือความถี่ของเซ็กซ์โดยเฉลี่ย และความสุขในการมีเซ็กซ์ในอดีต ส่วนในผู้หญิง อายุยืนยาวสัมพันธ์กับความสุขในการมีเซ็กซ์ในอดีต ไม่สัมพันธ์กับความถี่ของเซ็กซ์เช่นกัน ส่วนความสุขในการมีเซ็กซ์ในปัจจุบันไม่เกี่ยวกับอายุยืนยาวทั้งหญิงและชาย
งานวิจัยจากประเทศสวีเดนก็เช่นกัน ทำการศึกษาในชายหญิงอายุ 70 ปี ติดตามไป 5 ปี จนถึงอายุ 75 ปี พบผู้ชายที่หยุดมีเซ็กซ์ตั้งแต่อายุน้อยเสียชีวิตมากกว่าคนที่ไม่หยุดมีเซ็กซ์อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับผู้หญิง การหยุดมีเซ็กซ์ตั้งแต่อายุน้อยไม่เกี่ยวกับอายุยืนหรือไม่ยืน การศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1980 ในหญิงชายอายุเกิน 60 ปี พบร้อยละ 92.7 ของชาย และร้อยละ 70.4 ของหญิง ยังมีเซ็กซ์อย่างสม่ำเสมอ โดยส่วนใหญ่เชื่อว่านี่คือแหล่งเกิดสุขภาพดี ทำให้อายุยืน
เซ็กซ์ลดการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือด และเบาหวาน งานวิจัยพบความถี่ของการมีเซ็กซ์ 2 ครั้ง หรือมากกว่าต่อสัปดาห์ จะช่วยลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ในการติดตามนาน 10 ปี พบคนที่มีความถี่ของเซ็กซ์น้อยกว่าเดือนละครั้ง มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันมากกว่าถึง 2 เท่า งานวิจัยหลายชิ้นพบการถึงจุดสุดยอดทำให้เกิดการหลั่งฮอร์โมนเพศชาย Dhea ทั้งในหญิงและชาย ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ งานวิจัยในประเทศอิสราเอล ในผู้ป่วยหญิงที่นอนโรงพยาบาลด้วยโรคหัวใจ จากการศึกษาพบว่า หญิงที่ป่วยเหล่านี้ไม่มีความสุขในเรื่องเซ็กซ์ และมีกามตายด้าน (Frigidity) มากกว่าหญิงที่ไม่ป่วยด้วยโรคหัวใจอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้งานวิจัยหลายชิ้นยังยืนยันว่า การมีเซ็กซ์บ่อยมีความสัมพันธ์กับเรื่องรูปร่างด้วย โดยการลดรอบเอวและรอบสะโพก ดังนั้นจึงป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน และโรคอ้วน ซึ่งสัมพันธ์กับความกว้างของรอบเอวและรอบสะโพก
เซ็กซ์ลดมะเร็งเต้านม เนื่องจากเซ็กซ์เพิ่มฮอร์โมนออกซิโตชินและฮอร์โมนเพศชาย (Oxytocin and Dhea) ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านม นอกจากนั้นการตั้งครรภ์ การมีลูก การสัมผัสกับอสุจิ ก็ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม การไม่มีลูกเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม แต่หากมีเซ็กซ์โอกาสเกิดมะเร็งเต้านมต่ำกว่าคนไม่มีเซ็กซ์
เซ็กซ์ลดมะเร็งต่อมลูกหมากงานวิจัยในปี 2004 พบการหลั่งจำนวน 21 ครั้งต่อเดือน ลดมะเร็งต่อมลูกหมาก การหลั่งเพิ่มขึ้นหนึ่งครั้ง จาก 3 ครั้งต่อหนึ่งสัปดาห์ ลดการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ร้อยละ 15 เชื่อว่าเพราะมีการล้างสารก่อมะเร็งออกไปพร้อมการหลั่ง นอกจากนั้นการถึงจุดสุดยอดยังช่วยลดความเครียด ช่วยป้องกันการแบ่งตัวของเซลล์ที่ผิดปกติ
สรุป
[*]งานวิจัยที่ยกตัวอย่างมา สนับสนุนการมีสุขเพศเช่นเดียวกับสุขภาพทางกายและใจ ซึ่งต้องฝ่าด่านความเชื่อ ค่านิยม ความคิดเห็น และวัฒนธรรมของแต่ละเชื้อชาติ การมีสุขเพศที่ดี ไม่ได้ดีต่อคู่รักและครอบครัวเท่านั้น แต่มีผลโดยตรงกับการพัฒนาและความมั่นคงอย่างยั่งยืนของประเทศชาติอีกด้วย
หน้า:
[1]