มนตราพาเสียว..เริ่มต้น
****เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน****@@@บางเนื้อหาอาจรุนแรง อ่านเพื่อความบรรเทิงเท่านั้น@@@
****สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกคนน วันนี้กลับมาแล้วเอาเรื่องใหม่มาให้อ่านครับ****
***แนะนำตัวนะครับ ผมชล เกย์รับร่าน 555 อายุ 19 ปี ครอบครัวผมมีอาชีพทำสวนปลูกผักขาย มีสวนประมาณ เกือบ 50 ไร่ ซึ่งเป็นที่มรดกตกทอดมาจากรุ่นทวดแล้ว การทำสวนผักก็จะมีการปลูกหมุ่นเวียนทั้งปี ครอบครัวผมดูแลปลูกเอง และมีกะบะครอกไว้ส่งผักด้วย แต่หากช่วงเร่งก็จะมีจ้างชาวบ้านมาช่วยบางครั้ง ด้วยความกว้างของพื้นที่ย่าจึงสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ ไว้ท้ายไร่เพื่อได้นอนเฝ้าดูแลสวนด้วย ที่บ้านก็จะสลับสับเปลี่ยนกันไปนอนเฝ้า ส่วนตัวบ้านจะอยุ่ท้ายหมู่บ้าน จึงค่อนข้างเงียบสงบ บ้านเราทำเกษตรไม่ได้รวยมากแต่ถือว่าพออยู่ได้ไม่อดอยาก ในพื้นที่บ้านของผมนั้น จะมีบ้านอยู่ 3 หลังปลูกอยู่ใกล้ๆ กัน โดยจะมีหลังแรก คือบ้านลุงชิต พี่ชายแท้ๆของพ่อผม แกอยู่กับป้าแก้วเมียแก และหลานชายวัยเกือบ 4 ขวบที่ลูกสาวคนโตแกฝากเลี้ยง 1 คน ลุงชิตมีลูกสาว 2 คน คนโตแต่งงานแล้วแต่ด้วยงานสวนมันจะไม่ได้มีรายได้สม่ำเสมอแกกับผัวเลยไปทำงานโรงงานที่นิคมแทน และลูกสาวคนเล็กไปทำงานอยู่ ต่างประเทศได้ 3 ปีแล้ว บ้านหลังที่ 2 ตรงกลางคือบ้านผมเอง บ้านผมก็จะอยู่กัน 3 คน คือย่า แกอายุประมาณเกือบ 70 ปีแล้ว แกก็จะอยู่บ้านมั้งไปวัดปฏิบัติธรรมกับเพื่อนที่วัดมั้ง และก็พ่อผมชื่อ พ่อชาติ พ่อผมเป็นพ่อหม้ายเมียทิ้งซึ่งก็คือแม่ของผมเองส่วนเหตุผลที่ทิ้งผมก็ไม่รู้เพราะผมได้เจอแม่ครั้งสุดท้ายตอน 6 ขวบ แล้วก็ไม่ได้เจออีกเลย ผมเสียใจหนักมากๆ ก็มีแต่ย่าละที่คอยปลอบ และคนที่ 3 คือผมเอง บ้านหลังที่ 3 เป็นบ้านของปู่เชิตซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ คนสุดท้องของย่าผม แกเลยอายุยังไม่เยอะมากแต่ผมเรียกปู่ตามศักดิ์ แกเป็นพ่อหม้ายเมียตายได้เกือบ 10 ปีแล้ว บ้านแกก็อยู่กับ อาทาม ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของแก อาทามเองก็ไม่ได้ทำสวนด้วย แต่ทำงานในอู่ซ่อมตั้งแต่แกจบ ปวช.มา เพื่อหารายได้มาหมุนเวียนในบ้านแก นี่คือบ้านที่อยู่ในพื้นที่ตกทอดของทวดผมเอง รอบรั้วบ้านก็จะเป็นแนวรั้วต้นไม้ ทำให้บรรยากาศเงียบสงบ แต่มันอาจจะไม่สงบสำหรับผม เพราะตั้งแต่แม่ทิ้งไป พ่อก็แทบจะไม่เคยอุ้มผมอีกเลย และบางครั้งเวลาดื่มแกชอบด่าชอบว่าผมตลอด เพียงเพราะว่าผมนั้นเป็นเกย์ และเมื่อผมโดนว่าบ่อยๆ ก็ยิ่งเหมือนเด็กขาดความอบอุ่น เลยยิ่งชอบทำตัวแรดๆ เข้าไปอีก
****แผล้งงงงง!!!เสียงแก้วแตกจากฝีมือของพ่อผม ตามมาด้วยเสียงด่าตะคอกใส่ผม วันนี้ย่าไม่อยู่ไปนอนวัด พ่อจึงไม่ต้องเกรงใจใคร ส่วนจะให้บ้านข้างๆ ช่วยเหลือก็คงไม่เพราะทุกๆคนเขาไม่อยากยุ่งด้วย
พ่อ : มึงแอบดูกูอาบน้ำทำไมหะอีลูกเหี้ย
ผมได้แต่ก้มหน้าไม่พูดอะไร
พ่อ : มึงเป็นตุ๊ดเป็นเกย์แค่เนี่ยกูก็พยายามจะรับให้ได้ เมิงทำตัวร่านไปทั่วไม่พอ ยังเสือกมาแอบดูกูอาบน้ำอีก อีลูกเลว
ผม : หนูขอโทษษษ(ผมพูดก้มหน้าเสียงอ่อย)
พ่อ : ไม่ต้องมาขอโทษอะไรกูหรอก แต่ต่อไปนี่มึงห้ามแอบดูกูอีก มึงจะไปที่ไหนก็ไปปปปป(พ่อยังเสียงแข็ง)
ผมได้แต่ก้มหน้าน้ำตาคลอๆ แล้วเดินออกนอกบ้านขับมอเตอร์ไซค์ออกไปหาที่เงียบๆ เพื่อปลดปล่อยอารมย์
พ่อ : เอ้อออ ไปให้พ้นๆ หน้ากูนะอีลูกเหี้ย(เสียงตะโกนไล่หลังมา)
ผมขับรถเหมอลอยมาเรื่อยๆ จนมาถึงแถวๆ สวนสารธารณะของอำเภอที่ผมอยู่ ตัวอำเภอจะห่างจากบ้านผมระมาณเกือบ 15 กม. อำเภอที่ผมอยู่จะเป็นอำเภอเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ตอนนี้เกือบเที่ยงคืนแล้ว ยิ่งทำให้เงียบเข้าไปอีก สวนสาธารณะที่ว่าเป็นสวนมีบึง ขนาดไม่ใหญ่มากเทศบาลทำขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านมาออกกำลังกายและพักผ่อน แต่ตอนนี้ปิดไฟสวนมืดทั้งหมดแล้ว ก็จะมีแต่ไฟถนนที่ไม่ค่อยสว่างมากส่องเข้ามา ผมขับรถมาจบที่นี่ ผมจอดมอเตอร์ไซค์แอบๆ ไว้ในมุม แล้วเดินเข้าไปในสวนฯ ซึ่งเงียบสงบและออกจะวังเวงน่ากลัว แต่ตอนนั้นผมกลับรู้สึกไม่กลัว แต่กลับรู้สึกเขว้งขวางมากกว่า ผมเดินเข้าไปจนสุดสวน มันมีลานหญ้าเล็กๆ ผมจึงนั่งลงเงียบ ๆ รับลมเย็น ๆ เพื่อสงบจิตใจของผมไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ อยู่ ๆ ก็มีลมเย็นๆ พัดมา ผมสัมผัสได้ ผมเองไม่ได้กลัวผีเลยไม่ได้คิดกลัว แต่ผมกลับเกรงว่าฝนจะตกแทน เลยลุกขึ้นเพื่อที่จะกลับบ้าน แต่พอผมลุกหมุนตัวกำลังจะเดินกลับบ้านนั้น ลันเห็นเงาตะคุมๆ เดินเขามาหาผม ผมเริ่มกลัว ไม่ได้กลัวว่าจะเป็นผีแต่กลัวถูกทำร้ายมากกว่ายิ่งตัวเล็กๆ บางๆผมกำลังจะรีบวิ่งออกไป ก็ได้ยินเสียงเรียกให้หยุด แต่ใจผมตอนนั้นอยากวิ่งหนีไป แต่ร่างกายเหมือนต่อต้าน ผมรู้สึกกลัวแต่ก็ทำให้เข้มแข็งไว้ ร่างกายนั้นเริ่มเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นๆ จนเริ่มเห็นเป็นคนเดินเข้ามา ลักษณะคล้ายจะเป็นคนจรจัดเพราะขนาดบรรยากาศสะลัว ๆ ยังมองเห็นได้ แกถือถุงกระสอบมาด้วย ผมยีงรู้สึกกลัวอยู่จะเดินหนีแต่ขากลับก้าวไม่ออก จนร่างนั้นมายืนใกล้ๆ ห่างจากผมไม่ถึง 1 เมตร
คนจร : น้องๆๆๆ ไม่ต้องกลัวพี่นะพี่ขอตังค์กินข้าวหน่อยดิ
ผม : (เงียบมองงงๆ พยามกวาดสายตาจำหน้าตาและบุคลิคของบุคคลนั้นไว้เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันจะได้บอก ตร.ถูก)
คนจร : พี่ไม่ทำร้ายใครหรอก พี่แค่หิวข้าวเลยจะขอตังค์ไปซื้อข้าวกิน(เสียงนิ่งๆ ไม่ได้มีท่าทีคุกคามหรือขู่)
ผม : (คิดในใจ ให้ไปดีกว่าถ้าไม่ให้เดี๋ยวอาจโดนทำร้ายร่างกาย แล้วพ่อจะด่าอีก) ผะผะผม มีแค่ 200 นะครับ (ผมล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นเงินให้คนจรไป)
คนจร : ขอบคุณมาก ๆ ที่มีน้ำใจ
ผม : มะมะไม่เป็นไรครับพี่(คิดเสียน้อยดีกว่าเสียมาก ถึงแม้จะมีเงินในตัวแต่ผมยังมีกุญแจมอเตอร์ไซค์ด้วย)
คนจร : (แกรับเงินไปเสร็จแกใส่กระเป๋ากางเกงแก) อะๆ พี่มีอะไรจะให้(แกก้มลงเปิดถุงกระสอบที่แกถือมาแล้วค้นหาอะไรสักอย่าง)
ผม : มะมะไม่ต้องก็ได้(ผมรีบตอบออกไปเพราะกลัวแกจะเปิดถุงแล้วเอาอาวุธมาทำร้ายผม ใจผมวิ่งไปถึงรถแล้วแต่ขาเจ้ากรรมดันก้าวเดินไม่ออก ดังกลับถูกสะกดไว้)
คนจร : อะให้ตอบแทน 5555(แกยื่นกระดาษแผ่นเท่าๆ กับเงินมาให้) แลกกันนะตอบแทนน้องงง
ผม : ขะขะขอบคุณครับ(ผมยื่นมือสั่นๆ ไปรับมาแล้วเปิดกระดาษที่ผับไว้ดู ในบรรยากาศที่มืดสลัวๆ แทบจะมองอะไรไม่เห็น แต่ผมกลับมองเห็นตัวอักษรอย่างเด่นชัดขึ้นมา มีแค่ตัวอักษรประมาณ 6 คำ ผมมองเห็นและอ่านครั้งเดียวกลับจำได้ใส่สมองเลยทันที ผมอยากออกไปจากตรงนี้เร็วๆ จึงรีบผับกระดาษแผ่นนั้นใส่กระเป๋ากางเกงเพื่อจะออกไปจากตรงนี้) ผะผะผมไปก่อนนะครับพี่
คนจร : ท่องคาถาในใจทุกครั้ง ถ้าอยากมีอะไรกับใคร(ผมที่ก้าวขาออกแล้วนั้นกำลังจะเดินสวนคนจรนั้น พอยื่นเสมอก็ได้ยินเสียงพูดจากคนจรอีกครั้ง ใจหนึ่งผมจะต่อแต่อีกใจอยากหยุดฟัง) หึหึหึ (เสียงหัวเราะในลำคอแต่สัมผัสได้ถึงความกังวาลของเสียง) ต่อให้เขาไม่ชอบหรือไม่เคยเขาก็จะมีอะไรกับเอ็ง แล้วยิ่งถ้าเอ็งได้รับน้ำเชื้อเยอะๆ เอ็งจะยิ่งแข็งแกรงขึ้นๆ ไปอีก หึหึๆๆๆ (เสียงหัวเราะทิ้งท้าย)
ผมจึงรีบวิ่งออกจากตรงนั้น โดยไม่หลังกลับไปดูจนมาถึงมอเตอร์ไซค์ ผมรีบก้าวขาขึ้นรถ แล้วสตาร์ท มอเตอร์ไซค์กลับบ้านตนเองทันที
ผม : เห้อออเสียเงินให้คนบ้าสะแล้ว 5555 (ผมบ่นเบาๆ ตอนขับรถกลับบ้าน)
*****จบภาคต้นนะครับ รอติดตามในตอนต่อไป
รอตอนต่อไปเลยครับ งานนี้บันเทิงแน่ ขอบคุณคับ รอติดตามนะ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ รอติดตาม ีรอครับบบ ตื่นเต้นดี ขอบคุณ รอตอนต่อไป ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ รออออออ ามาต่อออ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ปูเรื่องน่าติดตามคับ
ลุ้นตอนต่อไป ขอบคุนคับ ขอบคุณครับ เสียวมาก น่าสนใจดีครับ รอตอนต่อไป รอๆ ครับ เริ่มต้นได้น่าสนใจดีค่ะ ขอบคุณนะคะ