บทหนึ่งของชีวิต ตอน โลกมันกลม 7 โดย Orama
บทหนึ่งของชีวิต ตอน โลกมันกลม 7 โดย Oramaเรื่องที่ผมจะเขียนต่อไปนี้เป็นเรื่องแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเพราะมี FC ส่งข้อความมาหาว่าอยากให้เขียน “บทหนึ่งของชีวิต ตอนเจ้าบ่าวลองชุดแต่งงาน” ต่อ ผมเลยลองจินตนาการเขียนไปเรื่อย ๆ ไม่มีเส้นเรื่องไม่มีตอนจบ อาจจะหนักไปทางดราม่า มากกว่าบท 25+ ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นภาคต่อ ที่ผมเขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง ตัวละคร พฤติกรรม สถานที่ และเหตุการณ์ในเรื่องเป็นเหตุการณ์สมมติ มิได้พาดพิงถึงองค์กร วิชาชีพ หรือกลุ่มบุคคลใด ๆ ใครไม่ชอบก็ผ่านไปได้เลย...เข้าใจตามนี้นะครับ----------------------------------------------------“ก๊อกก๊อก ต๊ะ....ต๊ะ...ตื่นหรือยังลูก”ผมงัวเงียขึ้นมาโดยพัดลุกขึ้นมายืนตาตื่นข้างๆ ผม“ต๊ะ....เมื่อคืนนายนอนที่นี่หรอ”“อืม...เห็นพัดนอนหลับเลยไม่อยากปลุก”“ฉิบหายแล้วงานนี้โดนคุณแม่ด่าเละแน่”“ไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง”“ต๊ะต๊ะ...ทำอะไรอยู่ลูก”“มาแล้วครับ”“อ้าวพัดมาอยู่นี่เองเมื่อกี้แม่ให้เจียมขึ้นไปตามบอกว่าพัดไม่อยู่ห้อง”“เออ.....ผมให้พัดลงมานอนเป็นเพื่อนนะครับ...แปลกที่เลยนอนไม่หลับ”“แม่ก็ว่าจะถามอยู่...ดีแล้วลูก”“แล้วนี่ยังไม่อาบน้ำกันหรอไหนว่าจะไปเซอร์ไพร์พี่สาวเราแต่เช้า”“ครับ ๆงั้นเดี๋ยวผมขออาบน้ำแปบนึงครับ”“พัดไปอาบเหมือนกันครับ”“อย่าช้านะลูกแม่รอที่โต๊ะอาหาร”“ครับ ๆ”ผมอาบน้ำอย่างรวดเร็วชุดเก่าในกระเป๋ายังไม่ได้ซักสักตัวเลยเปิดตู้เสื้อผ้า ลองเอามาใส่ดูของใครก็ช่างขอยืมก่อนแล้วกันผมเลือกได้เสื้อคอกลมผ้าลินินสีครีมแขนสามส่วนกับกางเกงแบบลำลองขายาวสีน้ำตาลเข้มผมใส่ได้พอดีเป๊ะนึกอยู่ว่าของใครรูปร่างช่างพอดีกับผมเหลือเกิน ไม่ถึง 20นาทีผมก็มายืนยิ้มแฉ่งในห้องอาหาร“หลับสบายมั้ยลูก”“สบายครับ”“สบายที่ไหนต้องไปลากตาพัดมานอนเบียดกัน”“อ้าวทำไมล่ะ”“ห้องมันใหญ่ครับ เลยโหวงเหวง”“5555555555555แปลกที่มากกว่ามั้ง”“กลัวผีหรอคะคุณ”“เจียม...เอ็งก็พูดไปเรื่อยเปื่อยผีเผอมีที่ไหน”“เรานอนคุยกันจนเผลอหลับไปมากกว่าครับไม่ได้กลัวอะไรหรอกครับ”“คนเขาวัยเดียวกันคุยกันรู้เรื่อง”“แล้วเสื้อผ้าใส่พอดีมั้ยลูก”“พอดีครับ ว่าแต่ของใครครับผมขอยืมใช้ก่อน ชุดผมไม่ได้ซักเลยสักชุด”“ก็ของต๊ะไงลูก จะของใครอีกล่ะ”“ของผม.........”“จ้า...ก่อนขึ้นเครื่องมาตาพัดโทรมาบอกทางนี้เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว”“คะ...ครับ..ขอบคุณครับ”“เดี๋ยวชุดในกระเป๋าเจียมช่วยจัดการด้วยนะ”คุณแม่หันไปกำชับเจียม“ค่ะ”“เออ...ไม่เป็นไรครับคุณแม่....เดี๋ยวผมจัดการซักเองครับ”“ให้เจียมทำนะดีแล้ว...มาเรามานั่งข้างๆ แม่” ผมเดินตัวลีบไปนั่งข้าง ๆ คุณแม่“แล้วนี่ตาพัดทำไมช้าจังควักไส้ออกมาล้างกันหือไง...เจียมไปดูซิ”“มาแล้วคราบบบบบบบบบบบ” พัดวิ่งถลามาแต่ไกล“พัดผิดไปแล้วครับคุณแม่”“ยังจะมาเล่นลิ้นอีก ไปไปนั่งตรงโน้น.....”“ให้มานั่งตรงนี้ก็ยังดีเนาะเจียมเนาะดีกว่าโดนไล่ให้ไปกินในครัว”“คุณพัดก็ช่างเย้าคุณท่านเหลือเกิน”“ต๊ะอย่าไปถือตาพัดนะลูก....บ้าขึ้นทุกวัน”“ครับ” เราทานข้าวต้มกุ๊ยกันฝีมือทำกับข้าวเจียมถือว่าใช้ได้“เออพ่อ...พี่สาวต๊ะทำกับข้าวอร่อยมากเลยนะ”“ลองแม่ชมใครนี่แสดงว่าต้องอร่อยจริง”“จริง ๆ”“วันหลังเชิญมาทำอาหารทานกันที่บ้านเราดีมั้ยพี่สาวเราก็อยู่เชียงใหม่ไม่ใช่หรอต๊ะ”“อยู่เชียงใหม่ครับ”“มาอยู่ได้กี่ปีแล้วล่ะ”“5-6 ปีแล้วครับตอนแรกเปิดร้านที่ขอนแก่น แต่ตลาดมันแคบเลยมาหาทำเลที่เชียงใหม่ตลาดกว้างกว่า”“แล้วกิจการเป็นไงบ้าง”“ดีครับเห็นพี่ต้อยต้องรับลูกจ้างเพิ่มอยู่เรื่อย”“งานยุ่งขนาดนั้นยังทำกับข้าวอร่อยอีก”“เห็นว่าได้วิชามาจากคุณแม่อีกที...ใช่มั้ยต๊ะ”“ครับ...แต่พี่ต้อยเป็นคนชอบทำกับข้าวด้วยครับ”เราทานข้าวเช้ากันเสร็จพัดชวนผมไปเซอร์ไพร์พี่ต้อยตอนแรกคุณแม่ว่าจะไปขอโทษด้วยที่ชวนผมมา แต่ดูท่านเพลีย ๆจากการเดินทางผมเลยไปกับพัดสองคน“หวัดดีค่ะ..เชิญด้านในค่ะ..ว้ายยยยยยยยยยคุณต๊ะ”“หวัดดีครับพี่จก”“คุณต๊ะมาได้ไงคะ...มายังไง...มากับใคร..มาถึงเมื่อไหร่คะ”“ใจเย็นพี่จก..ทีละคำถาม...มาเมื่อเห็นนี่แหละครับ...พี่ต้อยอยู่มั้ย”“โถ..........ทูนหัวของบ่าวดูเมื่อไหร่ความหล่อก็ไม่เคยจืดจาง”พี่จกวิ่งเข้ามาสวมกอดผมแน่น“คุณต๊ะมายังไงค๊ะไม่ได้มาพร้อมคุณต้อยเมื่อวานหรอค๊ะ แล้วนี่ค้างที่ไหนค๊ะ กลับเมื่อไหร่”“ใจเย็นพี่จกอย่าเพิ่งถาม....ตอบผมก่อนว่าพี่ต้อยอยู่มั้ย”“แล้วนี่ไปเอาเสื้อผ้าใครมาใส่ค๊ะ...หล่อมากกกกกกกกกกกก”“พี่จก....ตอบคำถามผมก่อน”“เออ....คุณต๊ะถามว่าอะไรค๊ะ”“พี่ต้อยอยู่มั้ย”“อ๋อ.........เมื่อกี้เห็นอยู่ชั้นลอยนะค่ะ”“ใครมาจก....อ้าวต๊ะ....มาได้ไง”“หวัดดีครับพี่ต้อย”“อ้าวพัด...ไปยังไงมายังไงแล้วต๊ะไม่ได้กลับขอนแก่นหรอ”“เออ...........คือ”“คืองี้ครับพี่ต้อยผมชวนต๊ะมาเองครับ ผมเห็นคุณแม่มีความสุขแล้วผมเลยเห็นแก่ตัวขอร้องแกมบังคับให้ต๊ะมาด้วย”“แล้วมายังไง”“มาเครื่องตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับถึงประมาณหกโมงกว่า ๆคิดว่าพี่ต้อยคงยังมาไม่ถึง...คุณแม่เลยให้นอนที่บ้านผมนะครับ”“พวกพี่มาถึงเกือบ 4ทุ่ม...โคตรเมื่อยเลย”“แล้วพี่นิด พี่หวาน แล้วพี่สักละครับ”“หวานกับพี่สักไปนอนบ้านมันส่วนพี่นิดไม่รู้ว่าหลับหรือซ้อมตายอยู่ข้างบน”“ใครนินทาว๊ะ” พูดถึงก็โผล่มาเลย“หวัดดีครับพี่นิด”“หวัดดีครับ” พัดไหว้ตามผม“ดีแล้วที่ไม่มาด้วย...โคตรเมื่อยเลยทีหลังไม่เอาแล้วนะแบบนี้”“ก็จะขับให้ก็ไม่เอา”“แหม...นั่งหลับเมาขี้ตามาตลอดทางขืนให้ขับก็ลงข้างทางพอดี”“เออ.....แล้วค่าเครื่องแกเอาที่ไหนต๊ะ”“ไม่ต้องหรอกครับคุณแม่จ่ายให้ทุกอย่างแค่ต๊ะมาด้วยนี่ก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว”“แต่...............”“ไม่มีแต่ครับ...คุณพ่อยังให้ชวนพี่ต้อยไปที่บ้านด้วยคุณแม่มาคุยใหญ่เลยว่าพี่ต้อยทำกับข้าวอร่อย คุณพ่อเลยอยากชิมฝีมือพี่ต้อย”“จริงหรอต๊ะ”“จริงครับ”“โห...........เล่นแบบนี้คงต้องไปไว้ท่านแล้ว”“ตอนแรกคุณแม่ว่าจะมาขอโทษพี่ต้อยด้วยตัวเอง”“ขอโทษพี่เรื่องอะไร”“ก็เรื่องที่พาต๊ะมาโดยไม่บอก...แต่พอดีดูคุณแม่เพลียๆ เลยให้พักผ่อนอยู่ที่บ้านวันหลังค่อยมา”“บอกท่านไม่ต้องมาหรอกเดี๋ยวพี่จะไปไหว้ท่านเองไปขอบคุณที่ท่านกรุณาเอ็นดูต๊ะเป็นพิเศษ”“เออ...แล้วนี่จะกลับเมื่อไหร่”“อีกสองวันครับผมกลับกรุงเทพพร้อมกับต๊ะ”“งั้นก่อนวันที่ต๊ะจะกลับก็ทำอาหารไปให้ท่านชิมซิต้อยถือเป็นการขอบคุณ”“จะเป็นการรบกวนเกินไปมั้ยครับถ้าจะให้พี่ต้อยไปทำอาหารที่บ้าน....คุณแม่บอกจะเตรียมของสดไว้ให้เต็มที่....เออ....คือจริงๆ แล้วคุณแม่อยากแอบขโมยสูตรด้วยนะครับ”“55555555555555555555 แบบนั้นเขาไม่เรียกว่าขโมยแล้วเขาเรียกว่าตีหัวเข้าบ้านเลยล่ะ 5555555555”“ได้ ๆ พี่ไม่มีปัญหาแล้วนี่ต๊ะจะมานอนกับพี่มั้ย”“เออ.................ผม”“คุณแม่คงยอมหรอกต๊ะ...ขนาดเมื่อคืนคุณแม่ยังแทบจะลากที่นอนไปนอนเฝ้าหน้าห้องต๊ะ”“พัดก็พูดเวอร์เกินไป” ผมสังเกตเห็นสีหน้าพี่ต้อยกับพี่นิดมีแววกังวลเล็กน้อยก่อนที่จะส่งสัญญาให้ผมเดินตามไป“ถ้างั้นก็ไปเอาเสื้อผ้าสักสองสามชุดบนห้องแล้วกันปะเดี๋ยวพี่พาไป”“เออ......ช่วงอยู่ที่นี่คุณแม่เตรียมไว้ให้หมดแล้วครับ”พัดพูดขึ้นมา“งั้นเดี๋ยวไปเอาตังกับพี่ติดตัวไว้สักนิดก็ดี”พี่ต้อยพยายามจะพาผมขึ้นไปข้างบนให้ได้ พูดเสร็จแล้วพี่ต้อยก็ลากผมไปห้องนอนจนได้พอเข้าห้องปิดประตูได้สีหน้าพี่ต้อยก็เริ่มวิตกกังวลขึ้นมาทันที“คิดดีแล้วหรอต๊ะ”“คิดอะไรพี่”“ก็ที่หนีตามเขามานี่ไง”“พี่จะบ้าหรอ...ผมไม่ได้หนีตามใครมาก็สงสารคนแก่คนนึง...เอาน่าพี่ต้อยคิดเสียว่าทำบุญ”“แต่เท่าที่ฟังมาพี่กลัวเรื่องมันจะไปกันใหญ่เกิดหวงแกไม่ยอมให้แกไปไหน ขังไว้ในบ้านแกจะทำไง”“พี่ดูละครมากเกินไปปะนี่”“กูซีเรียสนะต๊ะ....ถ้ามึงเป็นไรไปกูจะบอกพ่อกับแม่ว่ายังไง”พี่ต้อยพูดเสียงเครียดขึ้นมาทันทีและดูสีหน้ากังวลขึ้นจนเห็นได้ชัดและเสียงดังจนผมเองก็ตกใจเพราะไม่เคยเห็นพี่ต้องแสดงอารมณ์แบบนี้“เอาน่าพี่...ผมเอาตัวรอดได้ อีกอย่างผมเชื่อว่าจิตใจท่านไม่มีอะไรแอบแฝงหรอกเพียงแต่ท่านกำลังชดเชยให้กับสิ่งที่ท่านคิดว่าท่านเป็นต้นเหตุของการสูญเสีย”“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี”“เดี๋ยวอีกสองวันพี่ก็ได้ไปรู้จักบ้านช่องท่านแล้วพี่ก็ลองสังเกตดูว่าท่านทั้งสองมีพฤติกรรมอย่างที่พี่กลัวหรือเปล่า”“ใจชั้นอยากไปดูวันนี้ด้วยซ้ำไป”“ถ้าเขาจะกักขังผมจริงเขาคงไม่ปล่อยให้ผมมาหาพี่ต้อยแบบนี้หรอกครับ”“ก็จริง.............แต่ก็ยังอดเป็นห่วงแกไม่ได้”“เอาน่าพี่ยังไงผมก็ไม่ท้องกลับมาแน่นอน55555”“ทำเป็นเล่นไปเถอะ.....เอานี่ตังติดตัวไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด” พี่ต้อยยื่นเงินให้ผม 5000 บาท“ขอบคุณครับ....รักพี่ต้อยที่สุดเลย” ผมโผเข้ากอดพี่ต้อยพร้อมกับหอมแก้มฟอดใหญ่“งั้นเสื้อผ้าคงไม่ต้องแล้วทางโน้นจัดเตรียมให้...ไหนหมุนตัวดูซิ…ชุดนี่หรอที่เขาเตรียมไว้ให้”“ครับ”“เชี่ย.............แม่งแบรนเนมทั้งนั้น”“อะไรครับ”“เสื้อตัวนี้ตัดจากผ้าลินินอย่างดีราคาไม่ต่ำกว่า4,000 บาท” พี่ต้อยยกชายเสื้อผมขึ้นเพ่งมอง“หา..............................” พอผมได้ยินราคาเสื้อผมแทบนั่งไม่ลง ยืนกางแขนกางขาทันที“ไอ้บ้าต๊ะเอ็งเป็นอะไร”“เดี๋ยวของเขาจะขาดพี่....พี่เอาชุดใหม่มาให้ผมเปลี่ยนเถอะ”“มึงจะบ้าหรอ.....เขาให้แล้วก็ใส่ๆ ไปเถอะ”“เออ....เสื้อผ้าแบบนี้อยู่ที่โน่นอีกหลายชุดเลยพี่”“โห.....ทุ่มทุนสร้างว่ะ...แต่แกใส่แล้วหล่อบาดใจเลยว่ะ”“แหงะ.....หันมาอวยกันเองอีกแล้ว”“ไป...ไปเดี๋ยวพัดรอ...ว่าแต่เสร็จจากที่นี่แล้วไปไหนต่อ”“ยังไม่ได้วางแผนเลยครับตั้งใจมาเซอร์ไพร์พี่ก่อน”“ทีหลังมึงก็อย่าเซอร์ไพร์กูบ่อยนัก...กูหัวใจจะวายตายเสียก่อน”“555555555555555”สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
คิดถึงเจตกับเพื่อนๆ จบแล้วยังได้เจอกันอีกมั๊ย ข อ บ คุ ณ ค รั บ {:5_122:} ขอบคุณมากกกครับ 🎉 เออออ. ทุ่มทุนขนาดนี้ต้องมีสาเหตุ ขอบคุณครับ ขอบคุณ ข อ บ คุ ณ ค รั บ
หน้า:
[1]