เรื่องเล่าของตูน ตอนที่ 3
"ตูน หน้าง่วงจังวะ" ผมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนเงยหน้าขึ้นมามองพี่กร หนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัทที่เดินมาทักผมขณะที่ผมสรุปข้อมูลจาก Social Listening ของลูกค้าแบรนด์หนึ่งอยู่"นิดหน่อยครับพี่ อาถรรพ์เช้าวันจันทร์มั้งครับ" ผมบอกแกไปยิ้มๆ พลางคิดในใจ จะไม่ให้ง่วงได้ไงล่ะ เมื่อวานหลังจากไปกินหมูกระทะกับบมาร์คเป็นมื้อเย็น เจ้าตัวก็มานั่งเล่นที่ห้องผมต่อ คุยจ้อไม่ยอมกลับห้องสักทีจนเกือบตี 3 นู่นแหละถึงยอมกลับ
"เออ แล้วบริษัท AAA ที่พึ่งไปคุยมาอ่ะ เป็นไงบ้าง เขาดูโอเคไหม?" พี่กรถามผมยิ้มๆ
"ก็โอพี่ เหมือนเขาอยากปั้นเพจให้มีผู้ติดตามและมีความเคลื่อนไหวมากขึ้น จะได้สื่อสารข้อมูลผ่านโซเชียลได้ง่ายๆ คนจะได้รู้จักมากขึ้นด้วย" ผมตอบไปตามปกติ แต่แอบใจไม่ดีหน่อย ก็บริษัทนี้เป็นบริษัทที่บาสทำงานอยู่น่ะสิครับ
"งั้นก็ดีแล้ว ดูไม่ยากเท่าไหร่ แต่งานเพิ่มขึ้น โอเคกันไหม" ผมมองหน้าพี่กร ชายวัยกลางคนตัวสูงใหญ่ ผายาวหยักศกอย่างกับนักรบที่เห็นในจอทีวีแล้วยิ้มให้เขา
"ไหวดิพี่ ทีมมีเดียกับทีมออกแบบก็ยังดูทำไหว ถ้ามีอะไรเดี๋ยวผมแจ้งไปครับ" ผมบอกแกไป พี่กรมักจะเดินมาชวนคุย ให้ความเอ็นดูทีมผมและให้งานใหม่ๆ มาทำอยู่เสมอ ปัจจุบันแกกำลังคบกับพี่ตาว ลูกพี่ลูกน้องของผมที่ชวนผมมาทำงานที่นี่แหละ
"จะว่าไป พี่มีเรื่องให้ช่วยว่ะ ไปคุยกับพี่ที่ห้องหน่อยนะ" แกบอกผมแล้วเดินนำไปที่ห้องแก หน้าตาจริงจังคล้ายคนมีอะไรในใจ ผมก็ทำได้เพียงเดินตามไปแบบงงๆ
"ไอ้ตูน อย่าบอกนะว่าจะมีงานเพิ่มอีกอ่ะ" เสียงไอ้ฟาร์ม มือกราฟิกตะโกนถามผมตอนเดินผ่านโต๊ะทีมออกแบบ ผมทำได้แค่ยักไล่แล้วส่ายหน้าอย่างคนไม่รู้ คนในทีมออกแบบบางคนก็หันมามองผมแบบคาดหวังคำตอบ
"ถ้าหนักไปเดี๋ยวกูคุยให้ ตอนนี่เริ่มตึงๆ มือกันแล้วใช่ป่าว" ผมถามอย่างอดห่วงไม่ได้ เพราะหลักๆ ผมมีหน้าที่คุย ดีลงาน ประสานงาน ศึกษาข้อมูล เหมือนดูภาพรวมใหญ่ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า แต่คนที่ลงมือทำคือคนในทีมครับ ลูกค้าจะปรับจะแก้อะไรพวกเขาก็เป็นคนทำ
"ไหวอยู่ แค่ถามดูเฉยๆ จะได้เตรียมใจไว้" ขิง สาวกราฟิกอีกคนบอกมา "แต่หนูเชื่อ ว่าถ้างานเข้ามาเพิ่ม พี่ต่อรองให้พวกหนูแน่นอน" ก็จริงอย่างที่ขิงว่า ผมเป็นพวกถือคติงานหนักได้แต่ต้องได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม อีกอย่างผมทำงานที่นี่มานานพอสมควร พอจะรู้ว่าปัญหาของตำแหน่งไหนคืออะไร สไตล์การทำงานของทีมไหนเป็นแบบไหน พอรู้ปัญหาจะรีบไปคุยกับทางพี่กรเพื่อแก้ปัญหาหรือหาทางออกร่วมกัน ให้สมกับตำแหน่ง Project Manager ที่ได้รับการโปรโมตเมื่อไม่กี่เดือนก่อนเสียหน่อย
.......................
"พี่ว่าพี่จะขอตาวแต่งงาน" พี่กรบอกผมหลังจากผมเข้าห้องแกมา ยังไม่ทันได้นั่งด้วยซ้ำ
"โถพี่ ก็นึกว่าเรื่องงาน 555 ยินดีด้วยครับ" ผมบอกแกอย่างอดโล่งใจไม่ได้
"เห้ยย นี่พี่จริงจังอยู่นะเนี่ย พี่อยากวางแผนเซอร์ไพร์สตาว ขอแต่งงานที่บาร์สวยๆ บรรยากาศดีๆ มีเพื่อนๆ ของพี่และตามมาร่วมแสดงความยินดีด้วย" แกพูดถึงไอเดียแกให้ผมฟัง
"ก็ดีนะครับ แล้วจะขอเมื่อไหร่ล่ะ มีสถานที่ในใจหรือยังครับ?"
"กะว่าจะขอเช่าร้านของเพื่อนนี่แหละ มันรีโนเวทบ้านเก่าเป็นร้านนั่งชิลเล็กๆ เคยพาตาวไปแล้วเห็นบอกว่าชอบ แต่ยังหาวันไม่ได้เนี่ยสิ" พี่กรบอกผม
"ช่วงนี้ฝั่ง AE แทบไม่ได้เข้าตึก พี่ตาวน่าจะหัวหมุนพอสมควรเลยครับพี่กร เห็นวันก่อนบอกผมว่ามีหน่วยงานทางรัฐติดต่อเรื่องงานเข้ามา 2 เจ้า น่าจะต้องดูเรื่องเอกสาร เงื่อนไขกับงบพอสมควรก่อนส่งต่อมาให้ทางฝ่ายผมดูต่อ...หมายถึงถ้าไปพิชชิ่งได้อ่ะนะ" ผมบอกแกไปตามที่ผมรู้มา
"ใช่ วันก่อนทีม AE ประชุมกันแล้วขอให้พี่ ไอ้ข้าว ไอ้พุฒิ ช่วยกันดูเรื่องนี้อยู่ อย่างว่าแหละ ช่วงนี้โซเชียลเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสื่อสารทีควรให้ความสำคัญ เขาก็คงอยากมีช่องทางนี้ไว้ ไม่แน่อีกหน่อยอาจมีเพิ่มอีกก็ได้" พี่กรบอกผม จริงๆ แล้วบริษัทนี้เกิดจากการรวมหุ้นของเพื่อนมหาวิทยาลัย 3 คน คือพี่กร พี่ข้าว และพี่พุฒิ แต่ละคนก็เก่งเอาเรื่องทั้งเรื่องงาน เรื่องบริหารคนและเรื่องกินดื่ม
"มีได้นะพี่ แต่ขอรับคนเพิ่ม สงสารทีมออกแบบจะแย่" ผมเปรยกับแกไปก่อน
"เอาน่า รับเพิ่มแน่ แต่ขอกลับมาเรื่องงานแต่งพี่ก่อน ตูนพอจะช่วยพี่ได้ไหม?" พี่กรถามผม
"อยากให้ช่วยอะไรครับ"
"คือเรื่องสถานที่อ่ะ พี่อยากให้ตูนหาคนไปช่วยแต่งร้านให้หน่อย พี่มีงบให้ ส่วนเรฟงานกับคอนแทคร้านเดี๋ยวพี่ส่งให้ ตอนนี้ติดแค่ไม่ได้วัน ทั้งพี่ทั้งตาวจนถึงสิ้นเดือนดูเหมือนจะหาวันว่างตรงกันยากมากเลย" แกบ่นอย่างนอยๆ
"เอาไว้ได้วันแล้วพี่บอกผมอีกทีแล้วกันครับ เดี๋ยวผมหาของแต่งร้านคร่าวๆ ไว้ก่อน" ผมบอกแกอย่างยินดี เพราะพี่กรกับพี่ตาวก็คบกันมาตั้งแต่ผมเริ่มฝึกงานที่นี่เลย
"ขอบใจมาก อย่าพึ่งบอกใครนะ กลัวตาวรู้" แกบอกผม
"ยินดีครับ ว่าที่พี่เขย ยังไงผมจะหาเวลาไปดูสถานที่จริงก่อน อาจจะชวนอาร์มไปด้วย ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ" ผมบอกแกแล้วเดินออกมาทำงานต่อ แกพยักหน้ารับทราบทีหนึ่ง ระหว่างผ่านทีมออกแบบ ผมก็ยักไหล่บอกไปว่าไม่มีงานเพิ่มนะแล้วเดินไปทำงานต่อ
........................
"หวัดดีพี่!!" ผมสะดุ้งสุดตัวพร้อมกับหันไปมองข้างหลัง เห็นมาร์คยืนยิ้มอย่างพอใจที่แกล้งผมได้ตรงหน้าโถงลิฟต์คอนโด
"อะไรเนี่ย" ผมหันไปบ่นเขาอย่างไม่ถือสา
"เห็นพี่เดินมาลอยๆ แล้วอดแกล้งไม่ได้" มาร์คตอบผมหน้าตาย "แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง?" มาร์คถามผม
"ยังเลย เดี๋ยวค่อยสั่งในแอพ ข้างนอกคนเยอะ อยากอยู่เงียบๆ"
"ไปเดินซื้อข้าวกับผมแถวนี้ไหมล่ะ กำลังจะไปหาซื้ออะไรมากินที่ห้องพอดี" เขาพูดพร้อมชูถุงผ้าเปล่าๆ ให้ผมดู ผมยืนชั่งใจอยู่แปปหนึ่งก็พยักหน้าเดินไปกับเขา
"ผมถือกระเป๋าให้เอาไหม ใส่โน๊ตบุ๊คไว้น่าจะหนักนะ" มาร์คพูดระหว่างเดินออกจากคอนโดพร้อมกับยื่นมือมาหาผม ผมส่ายหน้าแล้วยิ้มให้ "ไม่เป็นไรหรอก ชินแล้ว"
"โถ กะจะเอาใจสักหน่อย ช็อตฟีลจัด" มาร์คมองผมอย่างตัดพ้อ
"ฮ่าๆๆ" ผมหัวเราะให้กับท่าทางของเขา "จะกินไรดีล่ะ พี่อยากกินไก่ทอด" ผมถามเขาแต่บอกสิ่งที่ตัวเองอยากกินไปพร้อมกัน
"พูดขนาดนี้ ก็ไปร้านไก่ทอดกันเถอะ" เขาพูดแล้วยิ้มให้ผม
"พี่แค่อยากกินไก่ทอด มาร์คอยากกินอะไรก็บอกได้ เดี๋ยวเดินไปซื้อด้วย" ผมหันไปบอกเขา
"จริงๆ กะว่าจะกินเมี่ยงปลาเผา" เขาบอกผม "ผมออกกำลังกายแล้วอยากคุมอาหารไปด้วย...แต่วันนี้เป็นชีทเดย์แล้วกัน อะไรที่พี่กิน ผมกินด้วย"
"โถ มาร์คเอ้ย" ผมหันไปคุยกับเขาพร้อมดึงแขนไปที่ร้านเมี่ยงปลาเผา "อันนี้พี่ก็อยากกิน" เขาหันมามองผมแล้วยิ้มให้
"เอาใจผมแบบนี้ คิดอะไรกับผมป่ะเนี่ย" เขาทำเสียงยียวนใส่ผม
"แล้วตามใจพี่ตะกี้ คิดไรกับพี่ป่ะเนี่ย" ผมแซวเขาคืน เขายืนทำหน้าเหรอหรา
"เอาเมี่ยงปลาเผาไหมจ๊ะ ชุดใหญ่หรือชุดเล็ก" เสียงแม่ค้าดังแทรกขึ้นมาพร้อมกับยิ้มให้
"ชุดใหญ่แล้วกันครับ" ผมหันไปบอกแม่ค้า
.........................
เรากินมื้อเย็นด้วยกันที่ห้องของผม ระหว่างนั้นก็เปิดทีวีไปด้วย
"งานเยอะไหมพี่วันนี้" มาร์คถามผมพร้อมกับยัดผักและปลาเข้าไปในปากคำโต
"มันเยอะทุกวันแหละ ฮ่าๆๆ แต่ไหวชิล" ผมบอกเขาไปพร้อมกับกัดไก่ทอดไปด้วย
"ช่วงนี้ผมเรียนอย่างหนักเลย อาจารย์ให้เลือกทำโปรเจคจากหัวข้อที่เคยเรียน คุยกับเพื่อนยังไม่ลงตัวเลย ว่าจะทำอะไรดี"
"งานกลุ่มเหรอ?" ผมถามแล้วเขาก็พยักหน้า
"คนหนึ่งก็อยากทำเรื่องหนึ่ง อีกคนก็อยากทำอีกเรื่อง นี่ถ้าสเกลงานมันทำคนเดียวได้ ผมทำคนเดียวไปละ" เขาบนแล้วดึงขาไก่ในมือผมไปกิน ผมส่ายหน้าแล้วคุยกับเขาต่อ
"ลองลิสต์หัวข้อสิ ว่าที่จะทำมีอะไรบ้าง แล้วให้คนในกลุ่มเรียงลำดับ 1-5 จากถนัดมากที่สุดไปน้อยที่สุด เลือกหัวข้อที่มีคนถนัดรวมกันมากที่สุดมาทำ โปรเจคแบบนี้คะแนนมาจากงานที่เสร็จ บางครั้งก็ต้องยอมอะไรที่ขัดกับสิ่งที่ตัวเองอยากทำหรือถนัดน้อยลงมาหน่อย แต่ทุกคนทำได้ ดีกว่าทำอะไรที่ตัวเองถนัดแล้วคนอื่นทำไม่ได้เลย ทีนี้งานหนักจะตกไปที่คนถนัดคนนั้นแหละ เผลอๆถ้าเราได้ทำหัวข้อที่เราไม่ถนัดมากในโปรเจคนี้เสร็จ เราจะกลายเป็นคนถนัดเรื่องนี้ขึ้นมาเลยก็ได้นะ" มาร์คมองผมแล้วพยักหน้าอย่างครุ่นคิด"หรือไม่ก็จับฉลากไปเลย" ผมบอกมาร์คแล้วเขาก็ส่ายหัวให้ผม
"โอ้ยยย พี่ก็...แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ" มาร์คบอกผม
หลังจากกินข้าวเสร็จ4 ทุ่มก็แล้ว 5 ทุ่มก็แล้ว นี่ใกล้เที่ยงคืนแล้ว มาร์คก็ยังไม่ยอมกลับ ผมอาบน้ำเสร็จก็แล้ว มาร์คก็ยังนั่งเล่นนอนเล่นบนโซฟาของผมต่อ
"มาร์ค พี่ขอโทษนะ แต่พี่ง่วงแล้วอ่ะ พี่ขอไปนอนก่อนได้ไหม?" ผมบอกมาร์คไปตามตรง เพราะผมรู้สึกเพลียมากจริงๆ
"ผมยังอยากอยู่กับพี่อ่ะ ยังไม่อยากกลับห้อง" มาร์คเดินมาทำหน้างอเล็กน้อย
"ฮ่าๆๆ ติดพี่แล้วเหรอ" ผมหันไปแซว
"มั้ง..."เขามองผม
"งั้นก็ไปอาบน้ำแล้วมานอนด้วยกัน" ผมบอกเขา
..............................
"พี่ตูน ขอกอดได้ไหม" มาร์คพูดขึ้นมาหลังจากรีบไปอาบน้ำแล้วกลับมานอนกับผม
"..." ผมไม่ตอบ แกล้งหลับตาต่อ
"หลับแล้วเหรอ?" เขาพูด จากนั้นมีเสียงขยับตัวเบาๆ พร้อมกับน้ำหนักเตียงที่เอียงเข้ามาหาผม ผมรู้สึกถึงลมหายใจที่ปะทะกับหน้าผากแล้วปลายจมูกผม ที่มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
"ยังไม่หลับ" ผมลืมต่อแล้วพูดออกไปเสียงดังพอประมาณ พร้อมกับรู้สึกได้ว่ามาร์คผงะออกไปเล็กน้อย
"โหยพี่ ตกใจหมด นิสัยไม่ดีเลย" น้ำเสียงเขาดูเหมือนจะตัดพ้อผมเล่นๆ พอสมควร
"จะทำอะไรพี่อ่ะ" ผมบีบเสียงงแกล้งแซวเขา
"ไม่ทำไรน่า จะนอนแล้ว" เขาทำเสียงฮึดฮัดแล้วหันหลังนอนตะแคงให้ผมทันที ผมหัวเราะเบาๆ แล้วพูดขึ้นมาลอยๆ "เสียดาย อยากมีคนนอนกอดสักหน่อย"
ในเงามืด ผมเห็นเขาหันหน้ามามองผมเล็กน้อยแล้วหันหลังนอนตะแคงต่อ ผมตัดสินใจนอนต่อ พลางคิดในใจ นี่มาร์คงอนผมจริงๆ หรือแกล้งเล่นเนี่ย
"พูดแล้วนะว่าอยากให้กอดอ่ะ" เสียงมาร์คพูดเบาๆ แล้วเขาก็ค่อยๆ พลิกตัวเอาแขนข้างหนึ่งมาก่ายผม อีกข้างสอดลงไปที่ซอกคอแล้วอ้อมมาโอบผมเอาไว้ จากนั้นก็กระชับกอดให้ผมใกล้เขามากยิ่งขึ้น
"เมื่อกี้กะจะมองหน้าเฉยๆ ว่าหลับจริงๆ หรือเปล่า ไม่ได้จะทำอะไรนะ" เขากระซิบบอกผม "ว้า เสียดายจัง" ผมแกล้งแหย่เขา แล้วเขาก็แกล้งเอาหน้ามุดเข้ามาที่ซอกคอผมแล้วหอมแรงๆ ทำเอาผมจั๊กกะจี้ไปหมด
"อยากให้ทำมากกว่านี้เหรอ" เขาแหย่ผมกลับ "อยากสิ แต่ไม่ใช่วันนี้นะ อยากนอนให้เต็มอิ่มสักคืน" ผมหันไปมองหน้าเขาในเงาสลัว ตาของมาร์คจ้องที่ผมไม่กระดิก แล้วเขาก็จับหน้าผมช้อนขึ้นแล้วจูบที่ปากผมเบาๆ "หวังว่าพี่จะไม่ลืมสัญญานะ ว่าครั้งต่อไปของเราจะเป็นยังไงน่ะ" มาร์คพูดบอกผมหลังจากถอนจูบออกมา
"วันนี้พี่ใช้สมองเยอะ ตอนนี้หลงๆ ลืมๆ ไปหมด" ผมแกล้งมาร์คต่อ
"ผมรู้พี่ไม่ลืมหรอก" แล้วเขาก็จูบปากผมอีกที คราวนี้บดริมฝีปากแน่น พร้อมทั้งใช้ลิ้นหวาดเข้ามาในโพรงปากของผมจนผมเผลอครางเสียงต่ำออกมาตอนที่เขาถอนจูบออก
"จูบเก่งขึ้นเยอะเลยนะเรา"
"มีคู่ซ้อมดีก็งี้แหละ"
"แต่วันนี้นอนก่อนนะมาร์ค ถ้าไปต่อพี่ว่าพรุ่งนี้ไม่ได้ไปทำงานแน่" ผมหันไปบอกเขา
"ได้ครับ แต่ให้ผมนอนกอดต่อได้ใช่ไหม" เขามองผมด้วยแววตาซุกซน
"อืม" ผมพยักหน้าบอกเขา
.........................
"ตูน กินข้าวว้อย" เสียงอาร์มดังขึ้นก่อนที่ตัวมันจะเดินมาถึงโต๊ะผมเสียอีก
"รู้แล้วๆ" ผมพูดพร้อมกับเดินออกไปหามัน
"มึงโอเคยังวะ" อาร์มถามผม
"สบายมากมึง ตอนนี้รู้สึกเฉยๆ มา ติดแค่กังวลนิดหน่อยถ้าต้องไปคุยงานที่บริษัทบาส ถ้าเป็นไปได้ก็อยากประชุมผ่าน Zoom" ผมบอกอาร์มไป
"เออ แล้วเย็นนี้ว่างป่าววะ อยากไปบาร์ที่หนึ่งว่ะ" ผมหันไปถามอาร์ม
"อ้าว ไหนว่าโอเคขึ้นแล้ว อยากดื่มกลางสัปดาห์เลย ยังไงวะเพื่อน" มันถามผมด้วยสีหน้างงๆ
"เออน่า ไปเป็นเพื่อนหน่อย เดี๋ยวเล่าให้ฟังระหว่างขับรถไป" ผมหันไปบอกมัน
ระหว่างกินข้าวผมกับอาร์มคุยกันหลายเรื่อง มันเล่าเรื่องเกมส์ที่มันเล่นจนเคลียร์ให้ฟังอย่างออกรส ไปจนถึงเรื่องที่แฟนมันงอนแล้วมันตามง้ออย่างยากลำบาก ก่อนที่พวกเราจะกลับไปทำงานต่อจนถึงเย็น
"มึง กูมีเรื่องจะบอกว่ะ" ผมบอกอาร์ม ขณะที่รถกำลังวิ่งออกจากลานจอดรถในตัวตึก
"ว่า" มันหันมามองผมแว๊บหนึ่งแล้วเลี้ยวซ้ายออกไปที่ถนนใหญ่เพื่อไปบาร์ที่ผมขอให้มันไปเป็นเพื่อน
"พี่กรจะขอพี่ตาวแต่งงาน" ผมบอกมันไป
"ห๊ะ เชดเขร้" มันพูดอย่างตื่นเต้น
"เออ แต่อย่าพึ่งบอกใครนะ เขาอยากเซอร์ไพร์ส เลยให้กูมาช่วยดูสถานที่หน่อยนึง กูบอกเขาว่าจะชวนมึงมาด้วย รู้กันแค่นี้ก่อนนะ" ผมบอกอาร์มพร้อมกับแอบขำกับท่าทางตื่นเต้นของมัน
"เออ ได้ๆ กูจะรูดซิปปากให้เงียบเลย" อาร์มให้คำมั่นกับผมอย่างมั่นใจ
..........................
ผมกับอาร์มเดินลงจากรถเดินไปที่บ้างสไตล์ Mid Century หลังไม่เล็กไม่ใหญ่ ที่ดัดแปลงให้เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์ บรรยากาศดูน่ารักเป็นกันเอง ไม่แปลกใจที่พี่ตาวถึงชอบที่นี่
"ตูนน้องของกรที่บอกจะมาดูสถานที่ใช่ไหมครับ" ผมหันไปมองต้นเสียงแล้วยกมือไหว้พร้อมกับอาร์มพร้อมกับแนะนำตัว"ใช่ครับ ผมชื่อตูน คนนี้ชื่อาร์มครับ"
"พี่ชื่อนายนะ ป่ะ เข้าไปดูข้างในกัน" พี่นายเป็นผู้ชายตัวสูง ตัดผมทรงสกินเฮด แต่งตัวด้วยชุดสีดำทั้งตัว ดูเหมาะกับเครื่องประดับโลหะสีเงินที่เขาสวม เขาเดินพาพวกเราตัดผ่านสวนเล็กๆ เข้าไปที่ตัวร้านที่ดูภายนอกก็รู้แล้วว่า ข้างในต้องสวยมากๆ แน่นอน
"ดูดีอยู่นะ" อาร์มกระซิบผม
"มึงนี่นะ ชอบชี้ให้กูดูผู้ชายอยู่เรื่อย" ผมหันไปบ่นมัน
"เออน่า ไว้ใจกูได้ กูจะชงผู้ชายทุกคนที่กูเห็นว่าโอเคให้มึงจนมึงไม่โสดเลย" มันกระซิบบอกผมขณะที่เรากำลังจะเดินเข้าไปในร้าน ผมได้แต่มองค้อนมันนิดๆ มันก็ทำหน้าตาระรื่นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
พี่นายพาพวกเราดูสถานที่ พร้อมกับเสนอไอเดียตามเรฟที่พี่กรให้เขามา ซึ่งผมก็เห็นด้วยว่ามันโอเคแล้วหลายจุด รวมถึงเขาก็โอเคมากๆ ที่ผมเสนอการเพิ่มดอกเดซี่และของตกแต่งรูปพระจันทร์และดาวเล็กๆ แบบที่พี่ตาวชอบ
"ผมขอเสนออย่างหนึ่งนะครับ ไม่รู้จะได้ไหม" ไอ้อาร์มพูดขึ้นมาหลังจากที่ฟังเราสองคนพูดจบ "ปกติร้านของพี่นายจะเปิดเพลงเบาๆ ให้ลูกค้าใช่ไหมครับ ผมว่าวันนั้นพวกเราหาวงดนตรีเล็กๆ มาเล่นในวันนั้นด้วยดีไหมครับ จำได้ว่าพี่กรร้องเพลงเพราะแล้วพี่ตาวก็ชอบร้านชิลที่ดนตรีดีๆ มากด้วย ถ้าพี่กรร้องเพลงให้พี่ตาว บรรยากาศคงดีสุดๆ ไปเลยนะครับ"
"ก็ดีนะ เดี๋ยวพี่ไปคุยกับกรแล้วให้กรลองวงดู ระหว่างนี้พวกเราหาพร็อบมาแต่งร้านกันไปก่อน แล้วถ้าได้วันค่อยมาช่วยกันแต่งร้าน โอเคไหม?" พี่นายเสนอความเห็นซึ่งผมกับอาร์มก็เห็นดีด้วย
"ว่าแต่ ตูนกับอาร์มจะกินข้าวที่ร้านพี่ไปเลยไหม วันนี้พี่เลี้ยงเอง" พี่นายเสนอ
"ได้ครับพี่ แต่ของซื้อของขาย ให้พวกผมจ่ายเงินดีกว่าครับ" แล้วผมกับอาร์มก็ถือโอกาสฝากท้องไว้ที่นั่นเป็นมื้อเย็น อยู่ๆ ผมก็นึกถึงมาร์คขึ้นมาว่าแต่มาร์คจะกินอะไรเป็นมื้อเย็นนะ แต่พอเปิดแชทขึ้นมาดู ก็เห็นมาร์คพิมพ์มาบอกว่า ติดทำโปรเจคกับเพื่อนพร้อมส่งรูปเซลฟี่กับเพื่อนทั้งกลุ่มมาให้ดู อีกรูปเป็นรูปอาหารตามสั่งที่ส่งมาให้ดูพร้อมบอกว่า เย็นนี้กินข้าวกับเพื่อนน่าจะกลับดึก ผมยิ้มนิดๆ ที่เห็นข้อความของเขาก่อนจะถ่ายรูปในร้านส่งไปให้เขา บอกว่ามากินข้าวกับเพื่อนเช่นกัน
"มึงยิ้มไรอ่ะตูน" เสียงอาร์มดังขึ้นอย่างมีเลศนัย ผมจึงพูดออกมาเบาๆว่า "เรื่องของกู" ก่อนที่มันจะทำหน้าเหรอหราใส่ผม
............................
เวลาผ่านไปเกือบสองอาทิตย์หลังจากที่ผมและอาร์มไปดูสถานที่ แม้จะไม่ค่อยได้เจอกันเนื่องจากต่างคนต่างมีความรับผิดชอบเป็นของตัวเอง แต่เราก็แชทคุยกันเรื่อยๆ ผิดกับอาร์มที่พักหลังคอยจับผิดและพยายามตามติดผมอยู่ตลอด ถึงขนาดที่วันนี้มันขับรถมาส่งผมที่คอนโด
"มึงซ่อนใครไว้ใช่ไหมตูน" มันถามผมอย่างคนเย้าเล่น ไม่ได้คาดหวังคำตอบ
"มั้ง" มันทำตาลุกวาวหลังจากได้ยินคำตอบนั้น
"เล่ามาซิ กูอยากใส่ใจ" เสียงของมันกระตือรือร้นสุดๆ
"เอาตรงๆ คือคุยกัน คบกันเป็นพี่น้อง ยังไม่เคยเอากัน" ผมแอบไขว้นิ้วด้านหลังไม่ให้มันเห็น ว่าแต่การมีอะไรกันภายนอกนี่ถือเป็นการเอากันไหมเนี่ย ผมคิดกับตัวเอง
"แล้วคนนั้นเป็นใครวะ เจอกันได้ไง"
"มึงนี่ขี้เสือกเหมือนกันนะ" ผมพูดออกมาแบบไม่จริงจังนะ
"มึงอ่ะ หยาบคายกับกู เขาเรียกว่าคนชอบใส่ใจคนอื่น ไม่ใช่คนขี้เสือก" มันอธิบายให้ผมฟังด้วยท่าทีจริงจัง
"เอาเป็นว่า เป็นรุ่นน้องที่กูเจอโดยบังเอิญ แล้วอยู่คอนโดเดียวกัน แค่นั้นแหละ คุยกันถูกคอเฉยๆ" ผมพยายามตอบมันให้จบเร็วที่สุด
"อ๋าา เป็นเช่นนั้น" มันพยักหน้าแล้วหรี่ตามองออกไปนอกรถ ทำท่าทางเหมือนมีกล้อง 2 คอยรับหน้ามันอยู่ยังไงยังงั้น "พูดตามตรงนะ กูกับมึงเป็นเพื่อนกันมานาน กูเป็นห่วงมึงเฉยๆ รู้งี้กูก็สบายใจขึ้น" มันพูดต่อ
"ขอบใจมากมึง" ผมพูดแล้วหยักหน้าให้มัน พอดีกับรถที่ผ่านตลาดใกล้ๆ คอนโดผมพอดี "มึงจอดตรงนี้แหละ เดี๋ยวกูแวะซื้ออะไรไปกินที่ห้อง"
มันเปิดไฟเลี้ยวแล้วจอดรถให้ผม "ยินดีที่ใช้บริการครับคุณลูกค้า" มันพูดแล้วยิ้มทะเล้นให้ผม "เดี๋ยวกดให้คะแนนเต็ม 5 ดาวให้เลยนะครับ ขอบคุณครับ" ผมบอกมันแล้วลงจากรถ
ผมเลือกซื้อของกินอยู่ 2-3 อย่าง กับผลไม้นิดหน่อย พอดีกับมีเสียงพูดใกล้ๆ หูผม "ใครมาส่งอ่ะ" ผมหันกลับไปเห็นมาร์คยืนยิ้มให้ มีเหงื่อซึมเล็กน้อยในชุดนักศึกษา
"เพื่อนมาส่งน่ะ ว่าแต่วันนี้เลิกช้าเหรอ" ผมหันไปถามมาร็คพร้อมค้นกระเป๋าแล้วยื่นพัดลมแบบพกพาไปให้ เขายิ้มให้ผมตาหยีแล้วรับไปเปิดเป่าหน้าไล่ความร้อน
"ใช่พี่ ปั่นโปรเจคเสร็จพอดี พรุ่งนี้พรีเซนต์ตอนบ่าย วันนี้เลยแยกย้ายกลับมาอ่านข้อมูลที่ตัวเองต้องพูด" ผมพยักหน้ารับทราบช้าๆ
"นี่ผมนั่งวินผ่าน เห็นพี่ลงรถพอดีเลยวิ่งมาหานะเนี่ย" มาร์คบอกผมอย่างกระตือรือร้นทำเอาผมอดยิ้มตามไม่ได้
"ไปหาซื้อไรกินเร็ว เย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกัน พี่ซื้อแกงจืดกับผัดบล็อคโคลีกุ้งมาแล้ว" ผมพูดแล้วชูถุงอาหารที่ซื้อมาให้มาร์คดู มาร์คยิ้มแล้วเอามือเอื้อมมาดันหลังผมให้ออกเดินไปข้างหน้า "เดินดูกับผมอีกสักรอบแล้วกันนะพี่"
....................
หลังจากกินข้าวเสร็จ เรามานั่งดูทีวีกันสักพัก จะว่าดูทีวีก็ไม่ถูกหรอก เพราะเราคุยกันแล้วให้ทีวีดูเราสองคนเสียมากกว่า มาร์คมองผมอยู่นานเหมือนเขามีอะไรจพูด แต่ไม่พูดออกมาสักที
"มีอะไรป่าวมาร์ค" ผมถามมาร์คไปตรงๆ
เขาหลับสายตาผมแปปนึงแล้วพูดว่า "คืนนี้มาขอมานอนนี่นะ" ด้วยเสียงอ้อมแอ้ม
"โถ มาร์ค ได้สิ" ผมยิ้มอย่างอดขำไม่ได้
"พี่ตูน...คืนนี้เราสองคน แบบว่า" มาร์คพูดพร้อมกับเกาหัวตัวเอง แต่ผมรู้ความหมายที่เขาจะสื่อ
"อยากทำเหรอ" ผมถามเขา เขาพยักหน้า หน้าเริ่มแดงด้วยความเขิน แต่ให้ตายเถอะ ผมก็ใจเต้นแรงและแอบเขินไม่แพ้กัน
"พรุ่งนี้มีพรีเซนต์งานไม่ใช่เหรอ?" ผมถามเขาไป
"ตั้งบ่ายโมง อยากได้กำลังใจก่อนพรีเซนต์ ได้ไหมครับ" เขาทำหน้าอ้อนวอนผม
"อ้าว เอาเป็นรางวัลหลังพรีเซนต์เสร็จไม่ดีกว่าเหรอ?" ผมถามเขา
"แต่ถ้าได้ก่อนมันมีกำลังใจไง สัญญาเลยว่าจะตั้งใจพรีเซนต์ให้ดีที่สุด อีกอย่างผมทำข้อมูลและสรุปสไลด์จนจำได้แม่นแล้ว" เขาพูดแล้วค่อยๆ เอื้อมมือมาจับมือผม "นะพี่ตูน นะครับ" เขาอ้อนผมอีกรอบ
ผมดึงหน้าเขาเข้ามาใกล้ๆ แล้วบอกเขา "แยกย้ายกันไปอาบน้ำก่อนไป แต่ถ้าจะมีอะไรกัน ต้องมีถุงนะ" มาร์คยิ้มอย่างเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจพร้อมกับบอกผม "ซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่วันก่อนแล้วครับ" เขาหอมแก้มผมแล้ววิ่งกลับห้องเพื่อไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว
.....................
บรรยากาศในห้องนอนผมตอนนี้ มันประหม่าไปหมด ถึงเราสองคนจะเห็นร่างเปล่าเปลือยของกันมาแล้ว ถึงจะคุยกันมาสักระยะ ถึงจะแกล้งกันแซวกันมาบ้างแล้ว แต่พอถึงเวลาที่จะมีเซ็กส์กันจริงๆ มันอดที่จะเผยท่าทีเก้ๆ กังๆ แบบไม่ตั้งใจออกมาไม่ได้เลยเนี่ยสิ
"เขินว่ะพี่" มาร์คบอกผมขณะที่นั่งข้าางผมแล้วจับมือของผมบีบเบาๆ
"เออดิ เขินเหมือนกัน" ผมตอบเขาไปตรงๆ ผมหันมองเพดานห้องที่เปิดไฟส่างโร่
"ปิดไฟไหม" ผมหันไปถาม เขาส่ายหน้า "อยากสำรวจพี่ให้เต็มตา" เขาบอกแล้วขยับหน้าเข้ามาใกล้
"มาพี่ จูบกันก่อน" เขาหันมาแล้วเอามือเชยคางผมขึ้น ปากของเราสองคนค่อยๆ ประกบกันช้าๆ ผมหลับตาพยามยามตัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปให้หมด มืออีกข้างของมาร์คจับมือของผมให้ไปวางที่น้องชายของเขาแล้วเอื้อมมือสอดเข้าไปในชุดนอนของผมเพื่อเล่นกับหน้าอกของผมเบาๆ มือของผมสัมผัสได้ถึงน้องชายของมาร์คที่เริ่มขยายตัวผมสอดมือเข้าไปในกางเกงนอนของเขาในขณะที่ปากความเรายังขยิบชิมรสชาติของอีกฝ่ายไม่หยุด มืออีกข้างของผมเอื้อมไปจับหลังคอและท้ายทอยของเขาพร้อมคลึงเล่นเบาๆ เสียงมาร์คครางรอดไรฟันออกมาพร้อมกับถินจูบออก เรามองกันตาเยิ้ม หยุดนิ่ง ไม่พูดอะไร แต่รับรู้ได้ว่าข้างในของเราทั้งคู่กำลังเริ่มเดือดพล่านไปด้วยไฟอารมณ์ที่พร้อมเต้นรำกับอีกฝ่ายแล้ว
มาร์คโถมตัวเข้าหาผมก่อน เขาเลิกเสื้อผาขึ้นแล้วใช้ลิ้นหมุนวนพร้อมเม้มหน้าอกผมอย่างหื่นกระหายจนผมขนลุกขึ้นมา ผมครางออกมาอย่างอดกลั้นไม่ได้และดูเหมือนมาร์คจะพอใจที่ทำให้ผมเป็นเช่นนั้น เขาดึงเสื้อผมออกจากตัวเอามือกอดร่างผมแล้วฝังหน้าเข้ากับอกผมนิ่งพร้อมสูดลมหายใจเข้าอย่างเจอกลิ่นที่ถูกใจ พร้อมครางออกมาเบาๆ "กลิ่นสบู่พี่ทำผมแทบบ้า" เขาชันตัวลุกขึ้นนั่งถอดเสื้อออก ดึงแขนให้ผมลุกขึ้นนั่งพร้อมกอดผมแน่นเอาหน้าซุกไว้ที่คอผม ผมเอามือกอดเขาแล้วกระซิบบอก "เดี๋ยวพี่จะทำให้มาร์คเสียวแทบบ้าเลยล่ะ" ผมพลิกตัวดันตัวเขาให้นอนราบกับเตียง มือทั้งสองดึงกางเกงนอนเขาลง น้องชายเขาชูเด่นท้าทายสายตาผม ส่วนปลายเลื่อมแวววาวไปด้วยน้ำอยาก
"ตอนกลางวันผมกินสับปะรดมาด้วยนะ ลองชิมดูสิ ว่ามันจะหวานเหมือนอย่างที่เขาพูดกันไหม" มาร์คมองหน้าผมอย่างพร้อมให้จัดการเขาเสียที ผมค่อยใช้มือวนเล่นส่วนหัวของเขา ตัวเขากระตุกเล็กน้อย ใช้มือรูดลงช้าๆ แล้วใช่ลิ้นค่อๆ ป้ายเล็มชิมน้ำหล่อลื่นของเขา
"ก็ปกติดีนี่" ผมบอกเขาไป เขาครางในลำคอเสียงต่ำอย่างเสียดายที่มันไม่ได้ทำให้หวานอย่างที่เขาคิด "แต่พี่ว่าอร่อยนะ" ผมมองหน้าเขา เขายิ้มอย่างคนเขินแล้วเอามือทั้งสองยกขึ้นปิดหน้าแก้เขิน ผมไม่รอช้าใช้ปากรูดอมอย่างตั้งใจ เสียงมาร์คครางออกมาไม่หยุดตามจังหวะที่ผมมอบให้เขา หลายครั้งเขาร้องออกมาเสียงดังแล้วเอื้อมมือมาจับแก้มผมให้หมดพร้อมหยุดพักหายใจ
"หวังว่าพี่จะไม่ลืมว่าผมแตกไว ผมยังไม่อยากหยุดแค่นี้ อย่าทำผมเสียวเกินสิพี่" เขามองผมอย่างหมั่นเขี้ยว ผมหัวเราออกมานิดหน่อย โน้มตัวไปทับเขาแล้วจูบอย่างคนหิว มาร์คจูบตอบด้วยอารมณ์ที่อยากไม่แพ้กัน เขาเอื้อมมือทั้งสองไปบีบเคล้นเล่นที่ตูดทั้งสองข้างของผม ใช้นิ้วยาวจากมือซ้ายและขวาช่วยกันแหวกแล้วจิ้มสำรวจราวกับกำลังจะค้นหาสมบัติ
"อยากเอาพี่แล้ว" เขากระซิบบอกผม ผมพยักหน้าให้เขาเป็นการตอบรับ เราสองคนช่วยกันขยับและปรับท่าทางให้เข้าที่ มาร์คเอาเจลหล่อลื่นที่ซื้อเตรียมไว้ขึ้นมาเทใส่มือ ค่อยๆ ป้ายมาที่ช่องทางด้านหลังของผม ผมสะดุ้งเล็กน้อยจากความเย็นทำเอาขนลุกขึ้นมาทั้งตัว มาร์คเห็นเขาก็ยิ้มแล้วโน้มตัวมาจูบผมเบา แล้วค่อยๆ ใส่นิ้วชี้เข้าไป
"หืม รัดแน่นเหมือนกันนะเนี่ย" เขาพูดออกมา "แล้วพี่รู้สึกไงบ้าง"
"ตึงๆ เจ็บแบบทนไหว" ผมตอบแล้วยิ้มให้มาร์ค มาร์คมองหน้าผมแล้วยิ้มตาหยี "ผมจะไม่ปราณีพี่หรอกนะ คืนนี้อ่ะ บอกให้เตรียมใจไว้เลย" เขาพูดท้าทายผม ผมแกล้งยักไหล่และเบะปากให้เขาอย่างคนไม่แคร์ แต่ในใจหวั่นอยู่ไม่น้อยด้วยความที่กลัวเจ็บ
มาร์คใช้เวลากับนิ้วชี้พักใหญ่ก่อนค่อยๆสอดนิ้วที่ 2 และ 3 เข้ามาเมื่อเห็นว่าผมเริ่มหายเกร็ง
"เจ็บมากไหมพี่" เขามองผมที่หลับตานิ่งหลังจากที่สอดนิ้วที่ 3 เข้ามาแล้วเริ่มขบัยเข้าออก ผมลืมตามองหน้าเขาแล้วส่ายหัว "ทำแบบนี้ถือว่าปราณีพี่อยู่ใช่ไหม" เขายิ้มมุมปากให้ผมอย่างคนชอบใจที่โดนกวน
"ได้พี่ได้" เสียงเขาดูอย่างคนสนุกเต็มที่ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรผมรุนแรง คงเพราะกลัวผมจะเจ็บ "พร้อมมีผัวเด็กยังครับ" เขาพูดกับผมพลางถอนนิ้วออกแล้วขยับตัวมานั่งชันเข่าประชิดรูของผม
"ค่อยๆ นะ" ผมบอกเขาอย่างกังวล ใจจริงอยากปากเก่งนะครับ แต่ความกลัวเจ็บมันมีมากกว่า
เขายิ้มแล้วร้องหึๆ ในลำคอ ชักน้องชาย 2-3 ทีแล้วเอาจ่อที่รูผม ก่อนค่อยๆ ดันเข้ามา ผมเกร็งตัวเล็กน้อยอย่างคุมไม่ได้ตอนมาร์คดันเข้า เขาครางฮึ่มในลำคอขณะค่อยๆ ใส่เข้ามา
"แน่นชิบเลยพี่" เขาพูดออกมาเสียงเบา ผมเอื้อมมาไปจับแขนเขาไว้ด้วยกลัวว่าเขาจะซอยเลย "อย่าพึ่งขยับนะ" ผมบอกเขา
"ใส่ไปครึ่งลำแล้ว ทนอีกนิด" เขาบอกผม ผมส่ายหน้าพร้อมบอกเขา "ขอเวลาแปป หน่วงเกิน" มาร์คตัดสินใจดึงน้องชายเขาออกทั้งลำ ผมโล่งไปหมด รู้สึกตัวเบา เขาเทเจลเพิ่ม ป้ายทั้งน้องชายและรูของผม
"อีกรอบนะพี่" ผมพยักหน้า มาร์คค่อยๆ ดันเข้ามา รอบนี้เหมือนง่ายขึ้น มาร์คใช้วิธีซอยช้าๆ เข้าๆ ออกๆ ในขณะที่ดันลึกเข้ามาเรื่อยๆ "สุดลำแล้วพี่" เขาบอกผมแล้วโน้มตัวลงมาจูบ "เก่งมากพี่" เขาบอกผม
"เริ่มเลย" ผมบอกให้มาร์คเริ่มซอย เขาซอยๆ หยุดๆ หร้อมทำหน้าเหยเก "เสียวเกินพี่ กลัวแตก" ผมยิ้มให้มาร์ค "อยากแตกก็แตกเลย พี่ไม่ได้มีปัญหาอะไร" เขาค่อยๆ ซอยๆ แล้วหยุดต่อ "เสียวจริงพี่ ตอดมาก แน่นมาก" เขาเงยหน้าหลับตา
ผมเอื้อมมือไปสะกิดหน้าอกเขา เขาครางแล้วห่อไหล่ เอามือคว้ามือผมไม่ให้ขยับ "อย่าพี่ เดี๋ยวแตก" เขาบอกผมแล้วมองผมหน้าแดง
"จะแตกก็แตกได้ ไม่เห็นเป็นไร" ผมบอกเขา
"แต่พี่ยังไม่เสร็จ ผมอยากให้พี่เสร็จด้วย" เขาบอกผม
"งั้นก็ซอยสิ เดี๋ยวพี่ชักไปด้วย" ผมบอกเขา
"อยากซอยแรงๆ แทบบ้า แต่มันเสียวเกินไงพี่" เขาตัดพ้อผม ผมดึงเขาลงมากอดและจูบ
"ไม่เป็นไรเลยมาร์ค อย่ากังวล" ผมบอกเขา แต่เขาทำหน้าไม่เห็นด้วย เขายันตัวขึ้นดันน้องชายเข้ามาแน่น แล้วเอามือข้างหนึ่งจับน้องชายผมไว้ และใช้ฝ่ามืออีกข้างหมุนวนรอบน้องชายผม ผมสะดุ้งตัวและครางออกมาด้วยความเสียว ครางออกมาอย่างอดไม่อยู่ มาร์คยิ่มอย่างสะใจ คราวก่อนพี่ทำแบบนีกับผมนี่ ผมลืมไปได้ไงกันนะ แล้วเขาก็ถูแรงและเร็วขึ้น ผมเสียน้ำตาแทบจะไหลออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว ผมจับแขนเขาแน่นพยายามพลิกตัว สุดท้ายผมทนไม่ไหว แตกออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เขาหัวเราะชอบใจที่แกล้งผมได้ ผมมองค้อนเขาอย่างแรงแล้วลุกขึ้นนั่งหันหลังให้เขา
"โอ๋พี่ตูน อย่างอนนะพี่" เขากอดผมจากข้างหลังแล้วจูบตามซอกคอผม "มาร์ค" ผมหันไปมองหน้าเขา เขามองหน้าผมเหรอหรา "นอนลงไป" ผมสั่งเขา เขาทำหน้าตกใจและยอมนอนแต่โดยดี ผมขึ้นคร่อมเขาตรงกลางลำตัว จับน้องชายของเขาที่ยังแข็งอยู่จ่อรูแล้วนั่งลงไป มาร์คครางดังเกร็งตัวอย่างคุมไม่ได้ "พี่อยากควบม้า" ผอบอกเขาแล้วค่อยๆ ร่อนถลาอย่างที่เคยเห็นในคลิปโป๊ เขาครางเสียงดัง เอื้อมมือมาจับหน้าอกผม ขยำอย่างแรงจนนิ้วขึ้นข้อขาว ผมเจ็บแต่รู้สึกสะใจ อยับตัวแรงขึ้นจนมาร์คครางไม่ได้ภาษาก่อนจะได้ยินเขาตะโกนออกมา "แตกแล้วพี่ ฮอ้ย แตกแล้ววว" เขาตะโกนเสียงดังพร้อมเด้งสวนเอวขึ้นมา พอเขาเริ่มนิ่ง ผมจึงลุกออกมา ถอดถุงยางเขาออกแล้วเอามือวนเล่นอย่างนึกชอบใจ มาร์คถดตัวหนีพร้อมครางดัง "พี่ ไม่ไหว มันเสียวเกิน" เขามองผมอย่างอ้อนวอน ผมยิ้มขำ ดึงเขาเข้ามาจูบแล้วถาม "เป็นไงบ้าง โอเคไหม"
"สุดๆ ไปเลยพี่ ชอบมาก" เขาบอกผมแล้วกดหน้าจูบไปที่ไหล่ผม
"ป่ะ ล้างตัวแล้วมานอนกัน" ผมบอกเขา เราสองคนเดินมาอยู่ใต้ฝักบัวด้วยกัน ล้างตัวให้กัน คุยกันเล็กน้อย
"เจ็บมากไหมพี่" เขาถามผม
"มันรู้สึกขัดๆ เหมือนตอนนี้มีน้องชายของมาร์คคาอยู่ที่ก้นอ่ะ" ผมพูดแล้วหัวเราะ เขาให้ผมหันตูดให้ดู เขาห้มลงแหวกตูดผม แล้วก้มลงใช้ลิ้นเลียอย่างผมไม่ทันตั้งตัว
"หึ้ยย มาร์ค ใจเย็น" เขามองผมแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์"อีกรอบไหวไหมพี่ ในห้องน้ำนี่แหละ พึ่งจะ 4 ทุ่มเอง ไม่นานหรอก ผมแตกไว"
เขาบอกผมแล้วรูดน้องชายของเขาที่เริ่มแข็งขึ้นมาอีกครั้ง มีเหรอที่ผมจะยอม "มาสิ" คืนนั้นเรามีอะไรกันรอบที่ 2 ในห้องน้ำ
.............
"รอบสองผมทำเวลานานขึ้นเนอะ" เขาคุยกับผมบนเตียงนอนหลังจากที่เราจบเซ็กส์ไป 2 ยก
"ใช่ ร้ายนักนะเรา" ผมบอกเขา "ฝันดีนะมาร์ค" ผมบอกเขา ขากระซิบบอกฝันดีผมแล้วดึงผมเข้าไปกอด
"เย่ ผมมีเมียแล้ว" เขาบอกผมเบาๆ แล้วหัวเราะ ผมอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแล้วมองหน้าเขา ก่อนที่เราทั้งสองจะหลับไป
.............................
จบไปแล้วสำหรับตอน ที่ 3 นะครับ หวังว่าผู้อ่านที่ผ่านเข้ามาจะชอบ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
ขอบคุณมากๆครับ ขอให้รอบนี้ตูนไม่ผิดหวังนะครับ สุดยอดครับ ชอบมากรอติดตามนะครับ สนุกมากครับ มาต่ออีกนะครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ น่ารักมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สนุกมากครับ หื้อน่ารัก โชคดีที่มีคนใหม่เข้ามา เลย move on ได้เร็ว ว่าแต่เจี๊ยวหอมจัง มีมาให้ตื่นเต้นตลอด ข อ บ คุ ณ ค รั บ ขอบคุณมากครับ
หน้า:
[1]
2