อาถรรย์เล่งซ่อนหา
อาถรรย์เล่งซ่อนหาเรื่องนี้เกิด ขึ้นเมื่อ 1 เดือนที่เเล้ว(เดือน พ.ย. 48)คือ วันนั้นพ่อได้พาผมไปต่าง จังหวัดไปเยี่ยมญาติที่ สงขลา ผมออกเดินทางประมาณ 07:35 (ประมาณ) เเละถึง สงขลา เวลา 15:30 (ประมาณ) เพราะผมอยู่ ภูเก็ตเลยไปถึงเร็ว เมื่อไปถึงสงขลาก็ไปบ้านญาติเลยไม่ รีรอใคร บ้านของญาติผม อยู่ตรงข้ามกับวัดเเห่งหนึ่งใน จ. สงขลา บ้านเเถวนั้นจะอยู่ติดกันเป็น เเถวครับ วันรุ่งขึ้น เวลาประมาณ 19:22(ประมาณ) นะครับ ผมอยู่นอกบ้าน(หน้าบ้าน)ครับ เเละวันนั้นเป็นวันเสาร์(คนโบราณถือว่าวันเสาร์เป็นวันปล่อยผี) ครับ พี่ริวซึ่งเป็นพี่ใหญ่สุด ในกลุ่มนี้ เเละเป็นพี่ไม่เเท้ของผมด้วยได้เสนอขึ้นว่า "เรามาเล่นซ่อนหากันดีกว่า" เเละเราก็เล่น ซ่อนหากัน ที่เราเล่นเพราะเราไม่มีอะไรจะเล่นเเล้วก็ยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าซ่อนหา ห้ามเล่น หลัง 18:00 ขึ้นไปเเละวันนั้นเป็นวันเสาร์ด้วย......เวลาเราเล่นเราจะนับ 1-50 เเละตอนนั้นทุก คนหาที่ซ่อนกันได้หมดเเล้วเหลือเเต่ พี่ริว....35...36 ตอนนี้ก็จวนจนจะถึง 50 เเล้วเเละ พี่ริวก็ได้วิ่งไปซ่อนหลังโลงศพ 40...41 พี่ริวกังวลว่าคนที่กำลังปิดตาอยู่เนี่ยจะหาเจอเลย เข้าไปแอบในโลงศพ 48...49...50 ตอนนี้ก็ถึง 50 เเล้ว คนที่เป็นก็ตามหาคนที่ซ่อนอยู่ ผ่านไปประมาณ 2 นาที คนที่ปิดตาหาทุกคนเจอหมดเเล้วยกเว้น.....พี่ริว "พี่ริว.....พี่ริว" ผมตะโกน พี่ริวก็ไม่ออกมาเเละพวกเราก็เดินตามหา เเละผมนึกขึ้นได้ว่าพี่ริวไปแอบที่หลังโลง ศพผมก็ได้ไปบอกเพื่อนๆเเละเราได้ไปหาพี่ริวกัน เราเดินไปใกล้จะถึงโลงศพพวกเราก็กล้าๆ กลัวๆ อยู่เหมือนกัน ก๊อก.....ก๊อก.....ก๊อก เราได้ยินเสียงเหมือนใครเคาะโลง เราสะดุ้งกันหมด ตอนเเรกเราก็นึกว่าพี่ริวคงเเกล้งเรามั้ง......"ช่วยด้วย ช่วยด้วย" คราวนี้คงไม่ใช่การกลั่นเเกล้ง แน่นอน เราทุกคนก็ใช้มือจับที่ฝาโลงทุกคน "ช่วยด้วยพี่อยู่ในนี้" ตอนเเรกเราก็นึกว่าพี่ริ วเเกล้ง เเต่ไม่น่าใช่ เราก็เลยเอามือไปจับฝาโลง เเละนับ 1...2...3.... เเละเราก็เปิดโลง ภาพเเรกที่เราเห็นคือ เหมือนกับว่า พี่ริวนอนทับร่าง หญิงชราคนนึงซึ่งนิ้วมือนิ้วเท้าหงิกงอ เเละมีน้ำเหลืองไหลออกมาเยอะมากเเละมีหนอนไต่ตามตัวยัวะเยียะ พวกเราก็วิ่งร้องให้ กันไป ส่วนพี่ริวก็ลุกขึ้นมา เเละมองลงไปที่โลงศพ พี่ริวก็เห็นสภาพเดียวกับที่เราเห็นพี่ ริวก็วิ่งเเละร้องไปเช่นเดียวกัน เมื่อถึงบ้านยายของ พี่ริวจึงถามพี่ริวว่า "ริว ริว เป็นไรลูก" พี่ริวพูดเเต่พูดเเบบไม่เป็นภาษา เเละผมของพี่ริวก็ร่วงด้วย วันรุ่งขึ้น ผมของพี่ริวก็ ยังร่วงไม่หาย ยายของพี่ริวได้พาไปหาหมอ เเละหมอก็ได้ให้ยามากินเเต่ก็ไม่หาย ยายก็พาไปหา อีกที เเต่หมอบอกว่าถ้ากินยาเเล้วรักษาไม่หายคือ โรคนี้ไม่สามารถรักษาหายได้ เเละในที่สุด
หน้า:
[1]