นอนกับผี
ดิฉันไม่ใช่คนกลัวผี แต่กลัวซากศพอย่างแรง!ฟังดูแปลกๆ ใช่ไหมคะ เวลาไปบอกกับใครแบบนี้เขาก็ขำกลิ้งกันทุกราย...เขาว่านี่แหละ กลัวผี! แหม...ไม่มีใครเชื่อซะเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าปุ๋ม-เพื่อนรักของดิฉัน และในที่สุด เจ้าปุ๋มนี่ล่ะค่ะที่ทำให้โรคนี้ของดิฉันกำเริบ ถึงขนาดสติแตกไปเป็นเดือนๆ
ก่อนอื่น ให้โอกาสดิฉันอธิบายสักหน่อยนะคะ...เมื่อมีคนรู้จักล้มหายตายจาก ดิฉันจะเศร้าโศกอาลัย อันเป็นความรู้สึกธรรมดา แต่ว่าดิฉันจะอึดอัด กระอักกระอ่วนอย่างยิ่งเมื่อต้องไปงานศพเขา...ดังนั้น จึงต้องหาข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงอยู่เสมอ
ขณะเดียวกันก็นึกโมโหตัวเองเหลือเกิน เพราะตระหนักดีว่าที่จริงเราควรไป...นี่คือการให้เกียรติ และแสดงน้ำใจต่อผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย
ดิฉันเสียมารยาทจริงๆ เนื่องด้วยสาเหตุเดียวคือความกลัวศพ!
โธ่! อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลย กะอีแค่ซากจิ้งจกตายดิฉันก็ไม่กล้าหยิบหรือเขี่ยมันทิ้ง ไม่กล้าเหลือบตามองมันด้วยซ้ำ! ดิฉันเป็นโรคกลัวสัตว์ที่ตายแล้วค่ะ ถ้ามันเป็นจิ้งจกดิ้นกระดุ๊กกระดิ๊ก ดิฉันจับได้ แต่ถ้ามันตายแล้วดิฉันจะหนีเลย...กลัวมากๆ
เพื่อนๆ และญาติๆ ของดิฉันที่เสียชีวิตแล้วนั้น หากไม่เห็นร่างไร้วิญญาณของเขา ดิฉันจะไม่กลัวผีพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ดิฉันสามารถนอนปิดไฟ แล้วนึกถึงพวกเขาได้อย่างสบาย แต่ถ้าจำเป็นต้องไปงานศพล่ะก็ดิฉันจะกลัวไปหมด มันจะกังวล ไม่สบายใจ และหลอนตัวเอง! หลับตาทีไร ภาพร่างกายที่ไม่เหมือนเดิมนั้นจะผุดฉายขึ้นมาเต็มๆ ทุกที!
ถ้าเป็นไปได้ดิฉันจะไม่ดูคนตายเลย จะจดจำเขายามมีชีวิตอยู่เท่านั้น และถ้าดิฉันไม่ไปงานศพใครก็อย่าโกรธกันเลย ดิฉันกลัวจริงๆ...
กลัวจนเป็นทุกข์ กลัวจนอยากไปปรึกษาจิตแพทย์แน่ะค่ะ ทรมานมาก
อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ทุกข์ก็คือ ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกเช่นนี้ของดิฉันเลย
ครั้งหนึ่ง เคยหลีกเลี่ยงเบี่ยงบ่ายไม่ยอมไปงานศพแม่ของปุ๋ม เพื่อนสนิท...หล่อนโกรธและน้อยใจหาว่าดิฉันรังเกียจ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า หล่อนก็ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกต่อไป เรากลับมาสนิทสนมกันเหมือนเดิม ...และปุ๋มก็เริ่มสังเกตว่าดิฉันไม่ไปงานศพใครทั้งนั้นเว้นแต่จำเป็นจริงๆ
เรื่องราวร้ายกาจที่ทำให้ดิฉันกลัวแทบขาดใจ เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อน!
ตอนนั้นดิฉันกับปุ้มจบปริญญาตรีพร้อมกัน คุณพ่อของปุ๋มฝากเราเข้าทำงานในบริษัทเงินทุนแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ เราเป็นคนเมืองปราณฯ แต่งานดีๆ แบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ นะคะ เราจำเป็นต้องเช่าหอพักอยู่ด้วยกันแถวสุทธิสาร เป็นหอพักที่สะอาดสะอ้านน่าอยู่ ราคาไม่แพง เราแชร์กันค่ะ
พ่อแม่สบายใจ เราสองคนก็ชอบเพราะจะได้อยู่เป็นเพื่อนกันในเมืองหลวงที่สำหรับเราแล้ว รู้สึกว่ามีบางมุมที่น่ากลัวและไม่ปลอดภัย เรากลัวถูกหลอก กลัวถูกมิจฉาชีพปล้น จี้ ทำร้าย...กลัวแบบนี้ไม่น่าเกลียดนะคะ ในเมื่อเราเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ขี้ขลาด หวาดระแวงที่เพิ่งมาจากต่างจังหวัด
การที่เราอยู่ดูแลกันและกัน ทำให้พ่อและคุณย่าของปุ๋มคลายกังวล เพราะปุ๋มมีโรคประจำตัว เธอมีลิ้นหัวใจรั่ว แถมเป็นหอบหืดด้วย...
อาการหอบหืดน่ะที่จริงหายไปตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยแน่ะ จนเราคิดว่าหายขาด แต่เมื่อมาอยู่กรุงเทพฯ อากาศไม่ดี ปุ๋มก็เริ่มมีอาการขึ้นมาอีก ไม่มากนักแต่ก็ต้องพกยาพ่น ขยายหลอดลม ติดกระเป๋าไว้เสมอ
ยังดีที่หอพักเราอยู่ใกล้โรงพยาบาล หากฉุกเฉินก็ไปหาหมอได้ทัน!
เราสนุกกับงานที่ทำ แต่ก็มีบางช่วงที่เครียดเอาจริงๆ จังๆ บางวันที่ดิฉันต้องกลับหอพักสามสี่ทุ่มแน่ะค่ะ
วันหนึ่งปุ๋มไม่สบาย หล่อนไอมาหลายวันแล้วล่ะ การไอนี่ทำให้ดิฉันเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าไอมากปุ๋มจะหอบ แต่วันนั้นปุ๋มบอกว่าไม่เป็นไร ขอลาป่วยสักวันเพราะมีไข้ ปวดศีรษะและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ดิฉันทิ้งปุ๋มให้พักผ่อนอยู่คนเดียวทั้งวัน อาการหล่อนไม่ได้หนักหนาสาหัสขนาดต้องเฝ้าไข้นี่คะ
คืนนั้นดิฉันกลับเกือบห้าทุ่ม เหนื่อยมาก...เหนื่อยจนไม่อยากกินอะไร มันง่วงมากเลย ความจริงดิฉันง่วงงุนมาตั้งแต่เช้า!
เอ...หรือจะติดหวัดจากปุ๋มนะ?
พอถึงห้องพักเปิดประตูเข้าไป ไฟปิดมืดเชียว ดิฉันกดสวิตช์เปิดไฟเห็นปุ๋มนอนตะแคงหันหลังให้อยู่บนเตียง ในห้องนอนที่ประตูยังเปิดอ้า เรานอนเตียงเดียวกันค่ะ...ดิฉันเห็นเพื่อนหลับก็ไม่ได้ปลุก เพียงแต่ชะโงกดูนิดหน่อยแล้วก็รีบอาบน้ำ เสร็จแล้วก็ล้มตัวลง นอนหลับสนิทไปเลย ดับไฟมืดสนิท ไฟหัวเตียงก็ไม่ได้เปิดทิ้งไว้
รุ่งเช้า ดิฉันผุดลุกขึ้นเพราะนึกว่าสายแล้ว รีบเข้าห้องน้ำแปรงฟัน พอออกจากห้องก็เห็นปุ๋มนอนท่าเดิม เลยเรียกเบาๆ แล้วจับร่างของหล่อน
คุณพ่อคุณเจ้าช่วย! ร่างปุ๋มเย็นเฉียบ แข็งทื่อ ดวงตาเธอดำปี๋เบิกโพลง มันยุบแฟบไม่เป็นลูกตากลมๆ ของคนเป็นๆ อย่างเรา ทั้งที่ดูมันถลนออกมานอกเบ้า มุมปากที่ดำคล้ำมีฟองขาวปนเลือด
ปุ๋มเสียชีวิตเพราะโรคหอบหืดมาหลายชั่วโมง บางทีอาจก่อนสามทุ่มเมื่อคืนด้วยซ้ำ...นี่ดิฉันนอนกับศพทั้งคืนหรือค่ะ?!
ดิฉันไม่ได้กรี๊ดกร๊าดแบบนางเอกหนัง ยังจัดการธุระเรื่องความตายของปุ๋มจนเรียบร้อย...แต่ทุกวันนี้ดิฉันนอนไม่ หลับ ฝันร้าย เดือนแรกๆ น่ะกลัวแทบขาดใจ ร้องไห้ทุกวัน ตอนนี้ค่อยยังชั่วแต่ก็ยังกลัวไม่หาย
ดิฉันนี่เวรกรรมแท้ๆอยากหายจากอาการนี้จริงๆ ค่ะ!
หน้า:
[1]