Maximam โพสต์ 2025-3-5 22:15:40

นิยายซีรีย์ อสงไขย(รักเราไม่มีวันตาย) EP.2

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Maximam เมื่อ 2025-3-5 22:15

หลังจากข่าวการเสกสมรสของพระอุปราชย์พีมะและราชองครักษ์พีมะได้แพร่
ออกไป ชาวเมืองส่วนมากก็แปลกใจเมื่อคนส่วนใหญ่ต่างรู้ดีว่าพีมะรักอยู่กับ
วามน โดยที่ความจริงมีเพียงท้าวสุริยจักรราชาและพระโหราธิบดีเท่านั้นที่รู้

ส่วนพีมะก็พยายามตามอธิบายให้วามนฟังแต่ก็ไม่ได้ผล วามนค่อนข้างเอา
แต่ใจตน ไม่มีเหตุผล
"วามน ฟังข้าก่อนได้ไหม ในวันแต่งงานข้าจะให้เจ้ากับอารักษ์สลับตัวกัน
เจ้ากับข้าจะได้แต่งงานกันอย่าเปิดเผยและถูกต้อง"
"ไม่ ข้าต้องการเป็นรานีของท่านด้วยเปิดเปิดเผยไม่ใช่การสลับตัวมาเป็น"

ท่านมหาอำมาตย์ที่ได้ยินก็พูดกับลูกว่า....
"แต่พ่อเห็นด้วยกับพระอุปราชย์นะ ในวันแต่งงานเจ้าก็คือตัวจริงที่ได้แต่ง"
"ท่านพ่อ แต่ตอนนี้รักษ์ได้อยู่ใกล้ชิดพีมะมากกว่าเดิม สักวันมันกับพีมะ
ก็ต้องมีอะไรกันแบบที่ข้ากับพีมะมีต่อกัน"
"วามน อารักษ์มันไม่ได้แรดแบบลูก พ่อเห็นมันตั้งแต่เด็กจนโต แววตามัน
ไม่ได้คิดอะไรกับพระอุปราชย์เลยสักน้อย วามนเจ้าอย่าทำพ่อเสียแผน"
พีมะได้ยินดังนั้นจึงพูดถามไปว่า....
"แผนอะไรหรือ ท่านมหาอำมาตย์"
ท่านมหาอำมาตย์พลาดพลั้งพูดออกไป จึงแก้ตัวไปว่า....
"ก็แผนการที่อยากได้ท่านเป็นบุตรเขยไงเล่า พระอุปราชย์พีมะ"
พีมะพอจะจับพิรุธและเรียบเรียงเรื่องราวได้ เขาจึงขอตัวกลับตำหนักนั้นก็เพราะ
วามนไม่ยอมท่าเดียว

ที่ตำหนักทรงงานของท้าวสุริยจักรราชา ที่พระโหราธิบดี พระสนมเอกและ
พระมารดาหลวงอยู่กันพร้อมหน้า พีมะจึงพูโกับพระบิดาว่า....
"พระบิดา เหตุใดท่านรู้เรื่องแล้วจึงไม่ยอมบอกลูก"
ทุกคนต่างสงสัย พีมะจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง
"นี่แหน่ พระอุปราชย์คิดจะเปลี่ยนตัว แม่หายอมไม่"
พระมารดาหลวงตีที่ไหล่ลูกชายของเขา พีมะจึงพูดว่า...
"ท่านแม่ ทุกท่าน ข้ารักอารักษ์เกินพี่น้องไม่ได้จริงๆ หากชาตินี้ลูกจะไม่สมหวัง
ในรักลูกก็จะขอลาบวชตลอดชีพปละตลอดไปจนกว่าจะได้ร่วมเรียงเคียงรักกับ
วามนอย่างเปิดเผย ลูกจะออกประกาศคืนฐานะเดิมให้อารักษ์และออกบวช"

"ไม่ได้นะ อารักษ์จะเสียหายขนาดไหน ท่านโหราอีก ลูกจะทำแบบนี้ไม่ได้"
พระมารดาหลวงพูดขึ้น พระสนมเอกจึงพูดเสริมว่า....
"พระอุปราชย์เพค่ะ การเมืองท่านสละไปบวชได้ก็จริง แต่วามนจะเข้าใจใน
เรื่องราวทั้งหมดไหมว่าพ่อเขาคิดการกบฎอยู่ อารักษ์เป็นชายไม่เสียหายแต่
ราชบัลลังค์หากพระบิดาของพระองค์ อย่างไรมหาอำมาตย์ก็ต้องหาทางทำจนได้"
"พระบิดา ท่านแม่ ลูกคิดดีแล้ว หากแต่งไปอย่างไรอารักษ์ก็คงไม่ได้เป็นทหาร
องครักษ์ของลูก วามนตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วอันตรายจะตกกับอารักษ์ หาก
ลูกบวช วามนก็จะไม่ต้องราวีใครและก็ยังจะยืดเวลาท่านมหาอำมาตย์ต่อไป
อย่างน้อยอารักษ์ก็ยังถวายอารักขาทั้ง 3 พระองค์ได้ ทำตามลูกเถิดนะพระบิดา"

พีมะยอมตัดความสุขทั้งชีวิตเพื่อเมืองสุริยปุระธานินทรและอารักษ์น้องชายที่เขา
รักเหมือนน้องร่วมท้อง แต่ใดใดนั้นเล่าก็เพื่อวามนหากพีมะบวชวามนก็จะตาม
เขาไปอย่างน้อยพระธรรมก็น่าจะขัดเกลาจิตใจได้บ้าง พระอุปราชย์จึงมีประกาศ
ออกมาว่า
....ด้วยพระอุปราชย์พีมะ รัชยาทแห่งสุริยปุระธานินทร ได้สุบินร้ายจึงต้องถือ
เพศพรหมจรรย์ออกบวช และคืนอิสระให้กับอารักษ์ดำรงฐานะราชองครักษ์
ของท้าวสุริยจักราชา พระสนมเอก และพระมารดาหลวง จนกว่าพระอุปราชย์
จะสึกออกมาครองเมือง....

ข่าวนี้ทำเอาท่นมหาอุปราชย์แทบคลั้งเมื่อแผนการที่วางไว้พังลงไม่เป็นท่า วามน
ที่ยังคิดไม่ได้ว่าตนคือต้นเหตุที่เอาแต่ใจและไม่ทำตามแผนจนทำให้พีมะรู้ความจริง
เขาจึงดักรออารักษ์หวังจะทำร้าย
"ตายซะเถอะ"
วามนซุ่มโจมตีอารักษ์ที่อารักษ์ป้องกันตัวกลับจนจับตัวได้
"วามน นี่เจ้าถึงกับจะฆ่าข้าเลยหรือ"
"ใช่ ไหนหละ ไหนบอกว่าวางแผนให้ข้าไปสลับตัวกับเจ้าในวันเสกสมรส แล้วนี่
พีมะออกบวชไปแล้วจะสึกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ นี่เหรอแผนที่พวกเจ้าจะช่วยข้า"

วามนตัดพ้อต่อว่าอารักษ์ อารักษ์จึงพูดว่า...
"วามน ถ้าท่านมีสติ รับฟังแผนการท่านก็คงไม่เสียใจแบบนี้ พระพีมะท่านรักเจ้า
เป็นอย่างมาก การบวชของท่านนี้ก็เพื่อเจ้า"
"เพื่อข้า เพื่อข้าหรือ ผ้าเหลืองห่มกายขนาดนั้น ข้าคงเอากับพีมะได้หรอกนะ"
"นี่ไง ก้เจ้าไม่มีสติแบบนี้ไง มันเลยพัง ความรักของพระพีมะตอนนี้คือรักและ
เมตตาต่อสรรพสัตว์ หาใช่รักแบบกามรมย์ หากเจ้าจะสนองคุณความรักที่
พระมีต่อเจ้า เจ้าก็เข้าวัดทำบุญเสียบ้าง เผื่อพระท่านจะสึกมาครองเรือนอีก
เหตุการณ์นี้ข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า และหวังว่าเจ้าจะไม่ลอบกัดแบบนี้อีก"
อารักษ์พูดจบก็เดินกลับเข้าเมืองไปพร้อมทหารเอกฝีมือดีของพระพีมะ

"พ่อว่าอารักษ์พูดถูกแล้วนะวามน เจ้านี่โง่เขลาปัญญาเบาจริง"
"ท่านพ่อ อย่ามาด่าข้านะ"
วามนพูดขึ้นเมื่อท่านอำมาตย์ดุ ท่านอำมาตย์จึงพูดว่า...
"ทำไมพ่อจะด่าไม่ได้ เจ้านี่มันโง่เกิดจริงๆ รู้ทั้รู้ว่าอารักษ์มันมีฝีมือเป็นถึงราช
องครักษ์แต่เจ้าก็ยังโง่ทำไรไม่คิด ถ้ามันไม้ยั้งมือป่านนี้ไม่เป็นผีนอนฟังพระพีมะ
สวดแล้วหรือไง"

"ท่านพ่อ ก็ข้าแค้นใจ แค้นที่พวกมันหลอกข้า"
"ไม่มีใครหลอกเจ้า มีแต่ความโง่ของเจ้าที่ทำพัง ไม่รู้หรือไงว่าพระพีมะรู้เรื่อง
แผนกบฎเพราะพ่อหลุดดุเจ้า"
"ท่านพ่อ นี่ท่าน..."
วามนตกใจในที่พ่อพูด จากนั้นท่านอำมาตย์จึงพูดว่า....
"ทำอย่างไรก็ได้ให้พระพีมะเชื่อมั่นว่าเจ้าสำนักผิดและไม่รู้เรื่องกับพ่อ หาก
พระสึก เจ้าก็เอาพระไป ส่วนเมืองสุริยปุระธานินทรพ่อเอาเอง55555"

1 สัปดาห์ผ่านไปหลังจากที่พระพีมะออกบวช การเมืองในสุริยปุระธานินทร
ก็ดูเป็นปกติสุข แต่จะดูอยู่ไม่สุขก็มีเพียงครอบครัวท่านมหาอำมาตย์ที่ต้อง
การให้พระพีมะสึกออกมา วามนจึงทำตามแผนการของพ่อตนให้ใช้จริตและ
มารยาแต่ทว่าวามนเล่นเกมส์ผิด เพลนี้วามนเตรียมภัตราหารไปถวายพระ
ที่วัดโดยได้ผสมยากำหนัดลงไปในน้ำกุหลาบที่พระต้องฉัน
"พระพีมะ ข้าขอถวายภัตราหารและน้ำกุหลาบนี้แด่ท่าน ขอท่านเมตตา
รับภัตราหารข้านี้ด้วยเถิด
"สาธุ อาตมารับของจากโยม"
พระพีมะรับภัตราหารมาแล้ว วามนที่โง่เขลาจึงตักอาหารกมายจะป้อนให้
กับพระพีมะเพื่อเอาใจ
"แกงนี้ข้าตั้งใจปรุงท่านชิมสักคำเถอะข้าป้อน"
"หาควรไม่ อาตมาอยู่ในสมณเพศปล่อยวางทางโลกแล้ว โยมอย่าได้กระทำ
การอันใดที่ก่อบาปเลย"
"ไหนท่านบอกว่ารักข้าไงเล่า เหตุไฉนจึงห่างเหินกับข้ายิ่งนัก หรือว่าท่าน
ต้องการมากกว่านี้ ข้าก็จัดให้ท่านได้เสมอ"

วามนปลดผ้าที่ห่มกายออกเหลือเพียงผ้านุ่งเท่านั้นพระพีมะจึงพินิจดูก็รู้ว่า
ในน้ำมียากำหนัดผสมอยู่หาใครกินน้ำนี้เข้าไปอันตรายแน่นอนพระพีมะ
จึงเทเศษอาหารลงน้ำนั้น วามนจึงโกรธจัดและพูดว่า...
"นี่ท่าน หากมิใคร่กินแล้วจะรับของจากข้าทำไม ท่านทำแบบนี้เหมือนว่า
ข้าไม่ได้เป็นหนึ่งในใจของท่านแล้วหรือ"
"โยม โยมทำอะไรโยมย่อมรู้แก่ใจดี"
"นั้นท่านก็สึกออกมาสิ สึกออกมาแล้วแต่งงานกับข้า ข้าสัญญาว่าจะไม่
ยุ่งเกี่ยวกับราชกิจของท่าน พีมะเรายังรักกันมิใช่หรือ"

วามนตอนนี้ที่กามอารมย์เข้าครอบงำจิตเขาสั่งคนของเขาให้คุมรอบกุฏิไว้
ไม่ให้ใครเข้ามา จากนั้นก็เข้ามาสวมกอดจูบหอมพระพีมะเหมือนคราวที่
เป็นฆารวาส วามนซอกไซร้ไปตามใบหน้าลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้อแน่นๆและ
ขบเลียซอกหูของพระพีมะจนพระพีมะมีอารมย์เคลิ้มตาม วามนพยายาม
สอดลิ้นเข้าปากและพระก็กำลังจะเปิดปากให้แต่ว่า พระพีมะเรียกสติตัวเอง
กับมาได้ก่อนจึงรวบรวมสติทั้งหมดที่มีท่องบทสวดมนต์และหลับตาทำสมาธิ
ต่อสู่กับกิเลสกามของวามนจนเครื่องเพศของพระพีมะสงบลง วามนพยายาม
ปลุกทั้งลูบ ทั้งจับ ทั้งคลำ แต่พระก็ไม่ยอมตื่นมาเล่นด้วย
"พีมะ ข้าจะหมดความอดทนกับท่านแล้วนะ ท่านอยากให้ข้าทำมากกว่านี้
ใช่ไหมห๊ะ ได้"


พระพีมะข่มตาหลับเพื่อตั้งสมาธิไม่เห็นในสิ่งตรงหน้าแต่วามนกลับทำตัว
ถลำลึกไปมากว่าเดิมเขาปลดจีวรที่ห่มกายของพระพีมะออกจนเหลือแค่เพียง
สบงผืนเดียว จากนั้นก็ใช้นิ้วเขี่ยเล่นที่บริเวรหัวนม พร้มกับจูบหมอท้ายทอย
ที่เป็นจุดอ่อนของพระพีมะที่โดนทีไรต้องมีแข็งทุกที แต่รอบนี้ไม่เป็นผลพระ
พีมะยังสงบอยู่ วามนจึงใช้ไม้ตายสุดท้ายด้วยหารถอดผ้านุ่งตัวเองออกจน
ร่างกายเปลือยเปล่า เขาเข้าไปกอดจูบพระพีมะแบบเนื้อแนบเนื้อ ท่อนเพศ
ของวามนมีน้ำเมือกใสๆไหลออกมาจากอารมย์กามเขาจึงเอาปลายนิ้วแตะที่
น้ำนั้นแล้วฝนไปที่หัวนมของพระพีมะ แล้วก็นั่งลงบนตักของพระพีมะแล้วก็
หันหน้าเข้าสวมกอด มือของพระที่อยู่ในท่าสมาธิก็สัมผัสกับก้นและเครื่อง
เพศของวามนทุกส่วน
"โยม ความรักทางโลกอาตมาไม่มีแล้ว อาตมาขอเข้าทางธรรมโยมอย่าทำ
ในกรรมนี้เลย"
"ไม่ ข้ารักท่าน ท่านรักข้า เราจะรักกันตลอดไป"


และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อท้าวสุริยจักราชา พระสนมเอก
และพระมารดาหลวงพร้อมข้าราชการผู้ใหญ่รวมถึงท่านมหาอำมาตย์ที่มั่นใจ
ว่าลูกของตนเข้าใจแผนการ จึงทูลเชิญทั้ง 3 พระองค์มาการบทูลให้พระพีมะ
สึกออกมา เมื่อทั้งหมดเข้ามาเห็น....
"บัดสี นี่เจ้าทำอะไรวามน"
พระราชมาดาพูดขึ้นพร้อมเข้าไปดึงตัวออกมาจากพระพีมะทุกคนจึงเห็นร่าง
เปลือยกายของวามน อารักษ์จึงเอาผ้านุ่งมาห่มกายให้วามนแต่วามนก็ผลัก
อารักษ์กระเด็นออกไป
"ไม่ต้องมาสาระแน่กับข้า ทำไมผัวเมียเขาอยู่ด้วยกันมันจะเป็นอะไร"


เพี๊ยะ....
พระมารดาหลวงตบหน้าวามนไป
"เลวทรามที่สุด ข้าหาคิดไม่ ว่าบุตรท่านมหาอำมาตย์จะต่ำทรามขนาดนี้นี่หรือ
ที่ท่านอยากให้ข้า และทุกคนได้เห็นว่าลูกท่านรักพระจริง"
"ขอเดชะ ข้า ข้าหาคิดไม่ว่าวามนจะทำเพียงนี้ วามน มึงทำอะไรลงไป"
"ก็ข้าทำตามที่ท่านพ่อต้องการไงเล่า ข้าผิดอะไร"
"กระบือ กระบืดสิ้นดี ได้อับอายคนทั้งเมืองก็เพราะเจ้า"
มหาอำมาตย์ผู้เป็นพ่อของวามน ได้พูดขึ้นวามนจึงสวนกลับไปว่า...
"ท่านพ่อจะอายทำไม ทุกคนก็เห็นว่าลูกกับพีมะเปลือยกายด้วยกันอย่างไรพระ
ก็ต้องสึก เพราะน้ำกามของข้ากับพระเคลื่อนแล้ว"


แน่นอนครับว่าที่ตัวของวามนมีน้ำกามสีขาวขุ่นเลอะติดหน้าท้อง พระบิดาถึง
กับลมจับเพราะนี่จะเป็นตราบาปที่พีมะจะครองราชไม่ได้และมหาอำมาตย์ก็จะ
เข้ากุมอำนาจได้ทันที อารักษ์จึงพูดขึ้นว่า....
"ขอเดชะฝ่าพระบาท เรื่องนี้มันพิสูจน์ได้ว่าน้ำกามนี้เป็นของใคร พระคุณท่าน
กระผมจะขอตรวจท่าน ท่านจะขัดขืนไหม"
"อาตมายืนยันว่าอาตมาไม่ได้ทำอะไร เชิญพวกท่านพิสูจน์ได้"
"สาธุ ขอเชิญท่านมหาอำมาตย์ ท้าวสุริยจักรราชา และท่านพ่อพระโหรา
ร่วมยืนยัน เชิญวามนมาตรวจด้วย"
"ไม่ ไม่ตรวจ ข้าไมตรวจอะไรทั้งนั้น อารักษ์เจ้าเองก็อยากได้พีมะจนตัวสั่น
แก อีมารความรัก"
"ทหาร จับตัววามนไว้ ตราสุริยปุระธานินทรอยู่กับข้า ใครขัดประหารทันที"
ท้าวสุริยจักรราชารู้ดีว่าจะมีเหตุการณ์ให้ลำบากใจ จึงมอบตราแผ่นดินให้กับ
อารักษ์ในการแก้ไขวิกฤต ซึ่งมันก็เป็นจริงอย่างที่คิด


ทหารล็อคตัววามน อารักษ์จึงเปิดผ้านุ่งวามนออกพบว่าปลายท่อนเพศนั้นมี
น้ำเมือกเยิ้มหัวพร้อมกินคาวของน้ำกาม ส่วนพระพีมะไม่มีน้ำกามใดๆไหลออก
มาจากท่อนเพศ นั้นก็แสดงว่าทุกอย่างวามนเป็นคนทำขึ้นทั้งหมด พระพีมะ
ไม่ได้ร่วมสังวาทด้วย
"ไอ้ลูกชั่ว มึงทำแบบนี้ทำไม ไอ้โง่ โง่จริงๆ ไอ้ลูกบัดซบ"


"มหาอำมาตย์ ข้าผิดหวังยิ่งนักที่เจ้ากับลูกทำสิ่งนี้ออกมา ข้าขอปลดเจ้าออก
จากราชการมียศอำมาตย์แต่ไม่มีสิทธิ์ เจ้ากับลูกห้ามเหียบเข้าวังหลวงให้ข้า
ได้เห็นหน้าอีกตลอดไป อายุ 60 เมื่อไหร่ตัดหัวทันที"
ท้าวสุริยจักรราชพูดขึ้น พระพีมะจึงพูดขึ้นว่า....
"โยมพ่อ อาตมาขอบิณฑบาตชีวิตบุคคลทั้งสอง"
"แต่นี่มันทำกรรมอัชั่วช้าต่อท่านนะ เกียรติของท่านหาเหลือแล้วไม่ บางที
ท่านอาจต้องถูกขับออกจากเมืองเพราะเรื่องนี้"
"อาตมายินดีรับกรรมทุกประการ โยมพ่อไว้ชีวิตบุคคลทั้งสองด้วยเถิด"
"พ่อ พ่อพูดแล้วคืนคำไม่ได้ อารักษ์เท่านั้นที่จะเปลี่ยนเพราะเขามีตราแผ่นดิน"

อำมาตย์รีบเข้าไปก้มกราบขอชีวิตแต่ว่ามนกลับไม่สนใจและยิ่งเคียดแค้นอารักษ์
มากขึ้นที่ได้ทุกอย่างไปแม้แต่พีมะก็ยังต้องเอ่ยขอจากอารักษ์...
"หลานชาย ไว้ชีวิตอาและลูกอาด้วย อาจะไม่ทำชั่วอีกแล้ว"
"โยม อาตมาขอให้โยมทำบุญได้ไหม น้องของพี่"
อารักษ์ได้ยินดังนั้นก็ยกโทษให้เพราะเขาไม่ได้มีจิตอาฆาตใคร
"ข้าขอพระราชทานอภัยโทษ โทษตายของท่านอำมาตย์และบุตร ขอฝ่าบาท
ได้โปรดเปลี่ยนแปลงราชโองการพ่ะย่ะค่ะ"
"ได้สิ ลูกพ่อ นับจากนี้อารักษ์คือลูกบุญธรรมของข้า ดำรงตำแหน่งมหา
อำมาตย์ปกครองทหารและพลเรือน มีอำนาจเทียบเท่าพระอุปราชย์ทุกประการ"



วามนและพ่อของเขารอดตายแบบหวุดหวิดเพราะปีนี้พ่อของวามนก็อายุ 60 ปี
พอดี แต่อย่างไรเสียวามนก็ไม่ลดละความแค้นเขาได้สาปแช่วพระพีมะไปว่า...
"พีมะ ฟ้าดินเป็นพยาน ความรักของข้ากับเจ้าจะไม่มีทางสมหวัง เจ้าต้องบวช
ทุกภพทุกชาติ หากชาติไหนเจ้าเกิดมาแล้วแม่ตาย ชาตินั้นข้าจะครองรักกับเจ้า
อย่างแท้จริง"
"สารเลว เจ้ากล้าแช่งลูกข้าเหรอ อีชั่ว"
"พระนางก็ชั่วพอกับข้านั่นแหละ รู้ทั้งรู้ว่าข้ากับพีมะรักกันท่านก็ยังกีดกั้น ทำไม
อยากได้ไอ้อารักษ์เป็นสุนิสา(ลูกสะใภ้)จนสั่นเลยหรือไง"
"ปากดีนักนะมึง พวกมึงหลบไปกูจักตบปากไอ้วามนเอาเลือกปากมาล้างตีนกู"
"ได้สิ ข้าก็อยากรู้นักว่าปากพระมารดาหลวงจะทนมือได้แค่ไหน"
พระมารดาหลวงและวามนง่างมือพร้อมตบกันเต็มที่ อารมย์แบบเจ้านางอนันทิพย์
กับเจ้าสำเภางามเลยทีเดียว พระพีมะนั่งน้ำตาตกเมื่อคนที่รักจะต่อตีกันเพราะเขา
อารักษ์ที่เห็นน้ำตาพี่ชายจึงพูดขึ้นว่า...
"หยุดเสียเถิด เห็นแก่ผ้าเหลือของหลวงพี่กันบ้าง วามนเจ้าหมิ่นเกียรติองค์อุปราชย์
และพระมารดาหลวงโทษเจ้าคือประหาร 7 ชั่วโคตร"
"ก็ประหาเลยสิ จะรอทำไม อำนาจในมือเจ้าจะฆ่าก็ฆ่า"
"หากข้าเป็นคนเยี่ยงเจ้าข้าคงทำอย่างที่เจ้าว่า แต่เจ้าเห็นไหมน้ำตาของคนที่รักเจ้า
ไหลพลูออกมาทั้งๆที่อยู่ในสมาธิ เจ้ารักพระพีมะจริงหรือวามน"
"รัก ไม่รักข้ากับเขารู้ดี เจ้าจักทำอะไรก็ทำ ยังไงเขาก็ไม่เป็นข้าแล้ว"
"ได้ ข้าของสั่งจำนมเจ้า 3 เดือนคัดลอกพระธรรมเเจกจ่ายชาวบ้านเป็นธรรมทาน
ส่วนพระพีมะ ถึงจะไม่มีเรื่องเสียหายแต่ก็มัวหมองไปแล้ว ขอท่านปลงอาบัติกับพระ
ผู้ใหญ่ตามพระวินัย และจำศีลบำเพ็ญบุญห้ามคนนอกรบกวน 3 เดือน โดยวามน
จะต้องนำภัตรามาถวาย 2 มื้อทุกวัน"
อารักษ์มีตราแผ่นดินก็เปรียบเหมือนหงส์ที่ได้อำนาจจากมังกร ท้าวสุริยจักรราชา
เห็นถึงความเหมาะของอารักษ์ที่จะดูแลบัลลังค์และแผ่นดินได้จึงแต่ตั้งเป็นลูกบุญธรรม
และให้อำนาจปกครองแก่เขา


ถึงแม้พวกอำนาจเก่าจะคอยขัดขวางแต่ก็ไม่เป็นผล สติ ปัญญาของอารักษ์
เฉียบคมและชนะทุกครั้งเมื่อมีการขัดหรือแม้แต่การรบทัพจับศึกอารักษ์ที่ดูแล้ว
บอบบางราวนางฟ้า กลับชนะศึกอย่างง่ายดายและบรรชาการทัพได้อย่างไม่เกรง
กลัวความตาย ชาวเมือง ทหาร ราชวงศ์จึงรักและเทิดทูลอารักษ์ราวกับเป็น
ลูกแท้ๆของท้าวสุริยจักรราชาจริงๆ


เมื่อเสร็จศึกจากทางทักษิณทิศ ทัพของอารักษ์ก็ชนะชัยเมืองแล-วะที่ตั้งต้นเป็น
ใหญ่เทียบเทียมสุริยปุระธานินทร อารักษ์สังหารเจ้าเมืองแล-วะคนเก่าและได้
แต่งตั้งพระบุตรของพระสนมสามัญของท้าวสุริยจักรราชาที่ร่วมทัพมาช่วยรบ
ให้ขึ้นปกครองเมือง
"ขอพระองค์ปกครองเมืองนี้อย่างผาสุข เฉกเช่นที่พระบิดาพระองค์ปกครอง
สุริยปุระธานินทร"
"ขอบพระทัย ท่านพี่ เราจะเป็นบ้านพี่เมืองน้องสืบต่อไป"


อารักษ์ นำทับกลับมายังเมืองสุริยปุระธานินทร เมื่อมาถึงเมืองล่าโว่ เมือง
มิตรสหายที่ดีของสุริยปุระฯมาอย่างยาวนาน
"เอาหละ วันนี้เราจะพักทัพที่เมืองนี้ เจ้าแม่ทัพข้าวตอกนำใบบอกไปยังเจ้าเมือง
ล่าโว่ ว่าทัพของเราจะขอพักเเรกก่อนเดินทางต่อ"
"พ่ะย่ะค่ะ ท่านอุปราชย์"
"เดี๋ยว เรียกข้าอำมาตย์หรือชื่อของข้าก็พอ บารมีข้าหาสูงเทียมหลวงพี่ไม่"
ข้าวตอก สหายขุนศึกคู่ใจที่รักเสมือนพี่เหมือนน้องและเปรียบเหมือนมือขวา
คนสนิทที่อารักษ์ไว้วางใจ


ในระหว่างที่พักพิงทัพอยู่นั้น อารักษ์ได้แต่งกายเป็นชาวบ้านธรรมดาที่มา
ต่างถิ่นโดยมีข้าวตอกเป็นเพื่อนสนิทร่วมเดินทางท่องเที่ยวพร้อมด้วยทหาร
ติดตามอีก 2-3 คน ทั้งหมดเดินมาจนถึงตลาดและอารักษ์ก็ได้พบปะกับ
หนุ่มหล่อคมเข้ม ผิวสีแทน กล้ามเป็นมัดๆ ที่ทั้งคู่ต่างได้สบตากันเมื่อจับ
เข้ากับผ้าไหมผืนงาม....
"ขอโทษ ทานจักซื้อผ้านี้ฤๅ"
อารักษ์เอ่ยถาม ชายหนุ่มจึงตอบไปว่า....
"หาไม่ ผ้าผืนนี้ข้าขาย นี่เป็นร้านขายผ้าของพ่อแม่ข้าเอง หากท่านชอบ
ข้ายินดีให้ท่าน"
เจ้าของร้านผ้าส่งผ้าไหมสีส้มอิฐลายเบาเหมาะกับชายหนุ่มสุดน่ารักอย่าง
อารักษ์ อารักษ์จึงพูดว่า...
"กำไรคุ้มแล้วหรือถึงจะให้ข้าเปล่าๆไม่เอาอัฐเอาเบี้ย"
"ขอแค่ข้าได้รู้จักท่าน ข้าก็ได้กำไรในวันนี้แล้ว ข้าชื่อแทนไท เจ้าชื่อ"
"ข้าชื่ออารักษ์"
แทนไท(พระเอก)ได้ยินชื่อก็ตกหลุมรักทันที ทันใดนั้นก็......

"ท่านลุงท่านป้า ข้าไหว้"
"อ้าวข้าวตอก เอ็งมากับทัพของท่านอำมาตย์ด้วยหรือ"
"ใช้แล้วลุง ท่นทั้งสองสบายดีนะ"
ข้าวตอกเดิมเป็นชาวเมืองล่าโว่ ได้เดินทางไปค้าขายกับพ่อของแทนไทและ
ได้เจอกับท่านราชครูพ่อของอารักษ์ พ่อของแทนไทจึงฝากข้าวตอกให้เป็น
ลูกน้องของท่านราชครูโหราธิบดีจนข้าวตอกได้มาเป็นสหายสนิทของอารักษ์

แทนไทจึงนึกออกและพูดกับข้าวตอกว่า...
"นั้นบุรุษท่านนี้ก็คือ อารักษ์บุตรชายของพระโหราแห่งสุริยปุระฯหนะสิ"
"ใช่แล้วพี่ชาย นี่แหละตัวจริงแม่ทัพหน้าหวานฝีมือโหด"
"ขออภัยใต้เท้าที่ข้าล่วงเกิน"
แทนไทคุกเข่าลงขอโทษต่ออารักษ์จนอารักษ์ขำออกมาและพูดว่า...
"ทำตามสบายเถิดหนา หาต้องมีพิธี พี่ท่าน"
แทนไทเขินหนักเมื่ออารักษ์ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกลียด แถมยังช่วยอุดหนุน
ผ้าในร้านไปแจกเป็นกำเหน็จให้เหล่าทหารไปฝากครอบอีก

"ขอบใจท่าน เอ๊ย ขอบใจอารักษ์ที่ช่วยอุดหนุน ผ้านี้พี่ขอมอบให้เจ้าแทน
คำขอบน้ำใจ ท่านพ่อ ท่านแม่ท่านไม่ว่าอันใด และท่านยินดีหากอารักษ์
จะอยู่รับข้าวเย็นที่เรือนของข้า"
แทนไทเอ่ยชวนแบบเขินๆเหมือนหนุ่มจีบสาว แต่นี่หนุ่มจีบหนุ่มมันก็ยิ่งเขิน
มากขึ้นไปอีก ....

ในยามค่ำคืน อารักษ์และข้าวตอกได้พักพิงที่เรือนของแทนไท นายวานิช
(พ่อค้า)หนุ่มหล่อ
"ยังไม่นอนหรือ อารักษ์"
"ยัง อากาศคืนนี้ช่างดียิ่งนักพี่ท่าน"
"ใช่ อากาศดีเพราะมีคนที่น่ารักนั่งอยู่ร่วมเคียง"
"บ้าหน่าท่านพี่ พูดอันใดหาเข้าใจไม่"
"หือ แม่ทัพหนุ่มหน้าหวานแบบเจ้า จักไม่รู้จักเลยเหรอในสิ่งที่พี่ทำ"
แทนไทพูดพร้อมมานั่งลงข้างๆอารักษ์ อารักษ์จึงพูดว่า...
"วันพรุ่งข้าต้องเดินทางกลับสุริยะปุระธานินทรแล้ว ท่านกับข้าก็คงนานโข
กว่าจักได้เจอ"
"พี่สัญญาว่าจะรักและรอเพียงเจ้าคนเดียว"
"คารมพ่อค้าปากหวาน หากข้าชอกช้ำคงดูอนาถแน่"
"พ่อค้าร้านอื่นอาจมีคารมมากมาย แต่พ่อค้าคนนี้ขอรักและภัคดีต่อบุตร
ของท่าราชครูโหราธิบดีที่ชื่ออารักษ์คนเดียวเท่านั้น ข้าขอกอดท่านไว้จักได้
หรือไม่"
"แล้วท่านพี่เห็นข้าขัดขืนหรือไม่เล่า หากพี่ท่านรักจริงดังสัจวาจาข้าก็จะรอ
วันที่ได้เจอและอยู่ร่วมเรียงเคียงคู่ท่านพี่"
"อารักษ์ของพี่ พี่จักมีเจ้าเพียงคนเดียว"
ในค่ำคืนนี้ทั้งคู่ได้นอนกอดกันท่ามกลางแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ พ่อของ
แทนไทได้ดูดวงชะตาของทั้งคู่ก็พบว่าทั้งคู่คือคู่แท้ที่บุพเพสันนิวาสกำหนดมา
แต่ต้องเผชิญกรรมหนักเป้นบทพิสูจน์ หากผ่านไปได้รักของเขาทั้งคู่จะเป็น
นิรันดร์ไม่มีใครแยกจากกันได้

เอาหละสิครับคนอ่านแบบนี้ต้องติดตามต่อนะครับ ว่าแทนไทและอารักษ์จะ
ลงเอยกันได้อย่างไรแล้ววามนจะทำอะไรกับสองคนนี้จนกลายเป็นคำสาป
ฝากติดตามต่อนะครับ








Nukinho โพสต์ 2025-3-14 17:12:25

รอติดตามต่อเลยครับ อยากรู้ว่า วามน จะก่อเรื่องอะไรอีก

eg1 โพสต์ 2025-3-10 10:29:44

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2025-3-6 23:19:01

สนุกมากครับ

Fortune11 โพสต์ 2025-3-6 13:03:32

ขอบคุณคับ ติดนิยายเรื่องนี้แล้ว ดีมากเลยคับ
ปล.แอบหัวเราะตอนบอกว่า อารักษ์ไม่ได้แรดเหมือนลูก55555
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: นิยายซีรีย์ อสงไขย(รักเราไม่มีวันตาย) EP.2