เค้ามาเตือน
เค้ามาเตือนแต่ก่อนนู้นผมเคยเชื่อเสมอว่า ผีเนี่ยจะกลัวพระ ไม่ว่าจะเป็นพระหรือเณร ก็ตาม อย่างในหนังผีเวลาหมอผีปราบผีไม่ได้แล้ว ทุกคนก็มักจะวิ่งไปหาหลวงพ่อหลวงพี่ให้ช่วยเป็นทางเลือกสุดท้ายทุกรายไป (ทีตอนผีไม่มาเนี่ยไม่เห็นคุณค่าท่านบ้างเลย อิอิ) แต่หลังจากที่ผมได้ไปบวชเรียนมาช่วงสั้นๆ 2เดือน (เมื่อปีที่แล้วเอง) และการเป็นพระก็ได้ทำให้ผมรู้ว่าชีวิตของคนเราเป็นอยางไร (เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย) เพราะฉะนั้นผู้ที่บวชเป็นพระ หลวงพ่อหลวงพี่ทุกท่าน ก็จะคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ดี ความตาย กฎแห่งกรรม และจิตวิญญาณที่มีอยู่จริง ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดเล่นกันสนุกปาก
พระที่ประกอบไปด้วยสติจะทำความเข้าใจกับสิ่งเหนือธรรมชาติที่เผชิญอยู่ด้วยสติที่มั่
นคงและเหตุผลที่เปี่ยมไปด้วยธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นทำให้พวกท่านไม่กลัว เวลาที่เจอ"ผี" เพราะผีก็คือวิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว แต่ยังมีห่วงอยู่บนโลกใบนี้ด้วยเหตุผลต่างๆนานานั่นเอง
แต่ทีนี้ พระ/หรือ สามเณรที่เพิ่งบวชใหม่ๆ ท่านก็เหมือนกับคนที่เพิ่งหัดเดิน(ในทางธรรม) เพราะฉะนั้นเรื่องมีจิตใจตั้งมั่นกล้าแข็งกับเรื่องแบบนี้นั้นอาจจะยังมีไม่ มาก ในขณะที่ผมบวชอยู่ก็จะพบว่า เพื่อนพระของผม"โดนผีหลอก"
แต่จะเป็นยังไงมา ดูกัน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1.เค้ามาเตือน...
อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า พระที่เพิ่งบวชก็เหมือนคนหัดเดิน ยังไม่เคยชินกับกิจของสงฆ์ต่างๆนานา ที่ไม่มีในชีวิตฆารวาส เช่นในทุกๆวันนั้น เราต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง เพื่อมาทำธุระส่วนตัวแล้วก็เตรียมจะไปทำวัตรเช้า แล้วทีนี้ เมื่อตื่นเช้าซะขนาดนี้ คนขี้เกียจก็ย่อมมี มีเพื่อนพระบางรูปของผมเกิดอาการ"อยากจำวัดต่อ" ไม่อยากไปทำวัตรซะอย่างงั้น ตอนที่ทุกรูปเดินไปทำวัดที่ศาลาเป็นหมู่คณะ พระเพื่อนผมก็ยังจำวัดอยู่ในกลด
ในศาลา พอเราทำวัตรไปได้สักพัก พระเพื่อนรูปดังกล่าวท่านก็วิ่งแจ้นมาเลย
มาทราบภายหลังว่า
ตอนที่คนอื่นไปกันหมดแล้ว ขณะที่ท่านยังจำวัดต่ออยู่นั้น ก็ได้ยินเสียง...เหมือนคนมาร้องไห้ เป็นเสียงผู้หญิงร้องไห้.!!
ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง เพื่อนพระผมรีบแจ้นออกมาจากกลดเลย ผู้หญิงอะไรจะมาอยู่ในเขตสังฆาวาสตั้งแต่ตอนตี 5....
สรุป: หลวงพี่ที่สอนผมท่านเล่าว่า สิ่งที่พระเพื่อนผมเจอนั้นเป็นเทวดาที่คอยดูแล"พระบวชใหม่" ให้ทำตัวอยู่ในวินัยสงฆ์ อารมณ์ประมาณว่าหลวงปู่หลวงตาของวัดท่านฝากเค้าให้คอยดูแลอีกแรงนึง ว่างั้นก้ได้ ซึ่งท่านก็เล่าว่าพระบวชใหม่รูปไหนทำตัวไม่เหมาะสม เค้าก็จะมาเตือน(แบบเบาๆ) และเค้าก็เจอกันมาทุกๆรุ่นแล้ว....
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.ก้อนหินลึกลับ (เค้ามาเตือน2)
เรื่องนี้มาจากพี่ชายผมที่บวชเป็นเณรเมื่อหลายปีก่อนหน้าผม พี่ผมเล่าว่าตอนนั้นเป็นเณร ตอนกลางคืน หลวงพี่พระพี่เลี้ยงท่านก็พาเหล่าสามเณรไปนั่งสมาธิกันในกลด บริเวณที่ท่านพาพี่ผมไปนั้นมีต้นไผ่ปลูกไว้เป็นแถวเป็นแนว ส่วนข้างหลังจะเป็นพงหญ้าสูงๆ (คิดภาพพวกแปลงที่ดินร้างๆ หญ้าสูงๆตามชานเมือง) ทีนี้ สามเณรทุกรูปก็นั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ แต่ทีนี้เรื่องมันมีอยู่ว่าเพื่อนเณรของพี่ผมแทนที่จะนั่งสมาธิ ดันหยิบก้อนหินแถวๆนั้นปาเล่น เข้าไปในพงหญ้า (อารมณ์ขี้เกียจนั่งสมาธิ)
ปาไปเรื่อยๆ
ปาไปเรื่อยๆ...
สักพักนึง มีก้อนหินลอยกลับมา โดนหัวอย่างจัง!!!!!!
ทิศทางของหินก้อนนั้นถูกขว้างมาจากพงหญ้าที่ไม่มีคนนั่น...
เพื่อนเณรเลยวิ่งแจ้นรีบไปหาหลวงพี่พี่เลี้ยงเลย..
และพี่ผมก็เห็นกับตา ว่าหัวของพระเพื่อน"โน"จริงๆ...
แล้วใครปา...
เค้ามาเตือน.....อิอิ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.ลืมตามาก็....(เค้ามาเตือน3)
เรื่องนี้จากพี่ชายผมตอนบวชอีกเช่นกัน เรื่องก็เกิดขึ้นอีก เมื่อมีเพื่อนเณรจอมซ่าคนนึง ท่านเกิดอาการอยาก"ลองของ"ขึ้นมา
หลวงพี่พระพี่เลี้ยงท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เลยสนองตอบว่าคืนนี้ที่จะนั่งสมาธิกัน (เราจะนั่งสมาธิกันทุกคืนคืนละ 2 ชั่วโมง แล้วค่อยจำวัดตอน 4 ทุ่มครับ)
ให้เพื่อนเณรรูปนี้(ที่อยากลองของเนี่ย) ไปนั่งสมาธิคนเดียวในบ่อน้ำที่ยังไม่มีน้ำ (เป็นหลุมที่ขุดไว้ แต่ยังไม่ได้มีน้ำใส่ลงไป -- ปัจจุบันมีน้ำแว้ว) เพื่อนเณรก็ไปนั่งกลางหลุมนั่นรูปเดียว แต่ก่อนจะหลวงพี่จะไป ท่านบอกเพื่อนเณรว่า "อย่าลืมตาเด็ดขาด"
เพื่อนเณรก็นั่งๆสมาธิไป และด้วยคามคิดอยากจะลองดีของท่าน ท่านก็เลยลืมตา...และก็ประจันหน้ากับหน้าคนๆหนึ่ง ตรงหน้าท่านเลย!! ใบหน้านั้นเละ และแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ท่าน!!!!
(ตัดภาพกลับมา ที่ศาลาที่ทุกคนนั่งสมาธิกันอยู่) พี่ชายผมก็เห็นเพื่อนเณรองค์นั้นวิ่งร้องไห้กลับมา...และก็เล่าสิ่งที่ประสบให้ฟัง...
เค้ามาเตือน......อิอิ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบแล้วจ้า เอ..บอร์ดนี้ไปๆมาๆชักสนุกดีนะ ไว้จะมาโพสต์อีกจ่ะ
ผมก็อยากจะมีสตินะ เวลาเจอผีน่ะ เพราะผมก็รู้ว่านั่นก็แค่วิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว ซึ่งเราก็ไม่ได้ต่างอะไร เพียงแต่เรายังมีชีวิตอยู่แค่นั้นเอง
ต่อจากนั้นผมก็จะนั่งลงและแผ่เมตตาและกุศลผลบุญให้พวกเขา เพื่อให้พวกเขาได้สบายขึ้น
แต่กลัวจะทำไม่ได้น่ะสิครับ กลัวเจอผีแล้วร้องกรี๊ด เปิดแน่บก่อน!!!! (แต่ขอไม่เจอจะดีกว่านะ)
มีใครเคยทำได้มั่งมั้ยอ่า....ฮือ อ่านแล้วขนลุกเลยครับ ขอบคุณมากครับผม
หน้า:
[1]