ความจริงในนิทานอมตะที่ดังไปทั่วโลก
นิทานที่ได้ยินกันมาส่วนใหญ่ถูกนำมาสร้างโดย Walt Disney ให้เด็กสนุกสนาน และจบอย่าง Happy ever after แต่ทว่า... คุณรู้หรือเปล่าว่าเบื้องหลังนิทานเหล่านั้น มันมีต้นกำเนิด..มันเป็นนิทานพื้นบ้านของยุโรป ซึ่งมีหลายเวอร์ชั่น ซึ่งเนื้อหานี้เหลื่อเชื่อมากว่าเป็นนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กและโครงเรื่อง แสนลึกล้ำยากจะจินตนาการดูว่ากันว่า พี่น้องตระกูลกริมม์เคยคิดเอาโครงเรื่องนิทานพวกนี้มาแต่งให้คงเอกลักษณ์รส ชาติเดิมไว้ ผลเหรอ... ทางสำนักพิมพ์ก็บอกว่าเอาไปแต่งใหม่ดีกว่าเพราะเนื้อหาของมันไม่เหมาะต่อ เยาวชนเด็กและสตรีเพราะ มีแต่ความรุนแรง โหดร้าย ทารุณ เซ็กซ์ ก่อนที่จะถูกแปลงให้สะอาดและทอนเนื้อหาที่รุนแรง โหดร้ายลง
1 Goldilock
นิทานเด็กอย่างGoldilock หรือหมีสามตัวกับเด็กหญิงจอมแก่น ซึ่งเข้าไปกินซุป นั่งเก้าอี้ นอนเตียง จนถูกจับได้แล้วหนีออกมาใครจะรู้ว่าของต้นฉบับนั้น เด็กน้อยGoldilockถูกหมีขย้ำกินเป็นอาหารเย็น หรือบางอันก็บอกว่า ตกใจมากจึงโดดลงมาจากหน้าต่างแล้วคอหักคาที่
2 The Little Mermaid
ความ เศร้าของเงือกน้อยที่ผิดหวังในความรักทำให้หล่อนกลายเป็นฟองสบู่ไปในที่สุด ยังดีที่Disneyเอามาเขียนให้Happy endingได้โดยการได้ครองรักกับเจ้าชายแล้วเรื่องจริงๆล่ะ...
นางเงือกน่ะเศร้าจริง แต่ว่า ครั้งเมื่อเห็นเจ้าชายแต่งงานกับหญิงอื่นเจ้แกฟืนไฟหอบมาจากไหนไม่รู้(หมดความเป็นกุลสตรีทันที) หยิบมีดจากไหนไม่รู้(คาดว่ามาจากในงาน)จ้วงเจ้าชายตายคาที่พอตนเองรู้สึกตัวก็เสียใจและกระโดดลงทะเลไป ละก็กลายเป็นฟองสบู่เหมือนในเรื่องน่ะแหละ สรุปก็คือ โดนตัดออกแค่เจ้าชายตาย
3 Little Red Riding Hood
หนูน้อยหมวกแดง ที่ไปเยี่ยมคุณยายในป่าใหญ่ แล้วหมาป่าก็กินคุณยายไปแล้ว ปลอมตัวและประโยคยอดฮิตก็คือ"ทำไมฟันคุณยายใหญ่จังเลยคะ"
เรื่องจบลงที่หนูน้อยหมวกแดงรอดชีวิตเพราะนายพรานยิงแล้วผ่าท้องเอาเด็กน้อยออกมา(อันนี้สยองกว่านะ)
แล้วเรื่องจริงๆล่ะ...
ไม่มีนายพรานตั้งแต่ต้นแล้วคงเดาออกว่าเนื้อเรื่องจะจบยังไง ก็คือ ถูกกินแค่นั้นเอง
แต่ว่าเนื้อเรื่องก็ถูกนำมาดัดแปลงไปอีกเยอะ มี2อันที่เก่าแก่พอๆกัน
อันแรก - หนูน้อยหมวกแดงรู้ตัวทัน ก็แกล้งทำเป็นแอ๊บแบ๊วไม่รู้เรื่อง บอกว่าขอถอดผ้าคลุมเสื้อก่อน หมาป่าก็ตกลง(เพราะว่าจะได้เห็นของดีก่อนกิน) พอหมาป่าเผลอ หนูเจ้าก็วิ่งหนีไปทันที(ฉลาดนะหนู)
อันที่สอง - หมาป่าไม่ได้กินคุณยาย แต่ชำแหละค้างไว้ เอาเสื้อคุณยายมาใส่ พอหนูน้อยมาก็สวมบทคุณยาย ละก็ชวนทานอาหารเย็นด้วย(ซึ่งไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าเนื้อคุณยาย) และตอนจบ หนูน้อยหมวกแดงก็ตกเป็นอาหารอยู่ดี
นอกจากนี้ยังมีเนื้อเรื่องของชาร์ลส แปร์โรลต์ เนื้อเรื่องของฉบับนี้จะค่อนข้างรุนแรง เพราะมีการร่วมเพศระหว่างคนกับสัตว์ โดยหนูน้อยหมวกแดงจะระบำเปลื้องผ้าให้หมาป่าที่ปลอมตัวเป็นคุณยายดู..... ก่อนที่หนูน้อยและคุณยายถูกหมาป่าจับกิน และตายไป..
4 Sleeping beauty
เจ้าหญิงนิทรา โดนเข็มตำแล้วหลับไป แล้วผ่านไป100ปี เจ้าชายก็โผล่มา แล้วก็จูบ แล้วเจ้าหญิงก็ฟื้นขึ้น
แล้วเรื่องจริงๆล่ะ...
ไม่มีคำสาปอะไรทั้งนั้น แต่เป็นคำทำนายว่าเจ้าหญิงพออายุ15ปี จะโดนเข็มตำและจะหลับไปซึ่งก็เป็นตามคำทำนาย และ ไม่มีใครกล้าปลุกองค์หญิงพอเวลาผ่านไป บ้างก็ว่าเจ้าชาย บ้างก็ว่าเป็นกษัตริย์ แต่จะเป็นใครก็ช่างเถอะพอมาถึง เห็นหญิงงามอยู่ตรงหน้าหลับปุ๋ย น่ารักดีก็ปฏิบัติภารกิจโดยทันที (คงรู้นะ) ไม่มีแจ้งว่ากี่วันนะ ถึงจะท้องแล้วพอคลอดออกมาเป็นลูกแฝด ลูกหิวนมมาก จึงไปดูดนิ้วแม่ของตนทำให้เจ้าหญิงตื่นขึ้นมาพร้อมกับสับสนว่า เกิดไรขึ้น แล้วนี่เด็กใครหว่าอย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลว่า ฝ่ายชายผู้กระทำหายไปไหน(อาจเป็นต้นกำเนิดของ ฟันแล้วทิ้ง)
นอกจากนี้ยังมีบางเรื่องเล่าบอกว่า เธอถูกทำให้หลับโดยพระราชาที่มีมเหสีแล้ว โดยใช้เศษไม้ทิ่มที่ใต้เล็บ และเธอก็หลับไม่ตื่นอีกเลยทำให้พระราชาร่วมประเวณีกับเธอหลายครั้งมานานกว่า ร้อยปี(พ่อกับลูก!!) แล้วตรงที่ลูกแฝดดูดนิ้วนั้น ทำให้เศษไม้หลุด เลยตื่น จนเราต้องตั้งคำถามว่ายานอนหลับนี้ยี่ห้ออะไรนี้ถึงหลับนานกว่า 100 ปี โดยไม่ตื่น
5 Snow White
อย่างแรก - สโนว์ไวท์ เอาแต่ใจมาก ไม่สวย (แต่ว่าสวยกว่าแม่มดแน่นอน)
อย่างที่2 - คนแคระที่พูดถึง จริงๆแล้วคือคนป่า พฤติกรรมป่าเถื่อน แต่กระนั้น ก็พ่ายแพ้ต่อความสยองและเอาแต่ใจของสโนว์ไวท์
อย่างที่3 - ถ้าพอจำเนื้อเรื่องได้ แม่มดให้นายพรานเอาหัวใจมาให้เป็นเครื่องพิสูจน์ จริงๆแล้ว นางพูดทำนองว่า"เอา หัวใจ ตับ ปอด ไส้อวัยวะภายใน และรวมเลือด 1 ขวด กับนิ้วเท้าของเธอมาด้วยนะ ชั้นจะกินเป็นอาหารเย็น"
อย่างที่4 - เจ้าชายไม่ได้จูบเพื่อให้สโนว์ไวท์ฟื้น จริงๆคือ เจ้าชายเห็นปุ๊บชอบปั๊บ ก็เลยแบกขึ้นมาหวังจะไป......เอ่อ.....คงรู้น่ะนะ แต่ว่า แรงกระทบบนไหล่และขี้ม้าทำให้แอปเปิ้ลที่ติดอยู่หลุดออกมา ทำให้ เจ๊แกฟื้น(แต่ต่อจากนี้ไม่มีใครบอกว่าแล้วเสร็จเจ้าชายหรือเปล่า)
สุดท้าย ในการ์ตูนของWalt Disney แม่มดใจร้ายตกหน้าผาตาย แต่ในเนื้อเรื่องจริงๆ คือ โดนจับได้ เลยถูกลงโทษ นำไปใส่ รองเท้าที่ทำให้ร้อนด้วยไฟ แล้วสวม ก็จะเหมือนกับเต้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะขาดใจตายน่าประทับใจ ที่ไม่เอาเรื่องนี้มาใส่ไว้ในการ์ตูนนะ
และ ที่น่าสนใจคือสโนไวท์ในฉบับดั้งเดิมนั้นอายุ 7 ขวบเท่านั้น(โอ้แม่เจ้า) แต่เธอต้องแต่งงานกับเจ้าชายที่แก่กว่าตนหลายเท่า ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของยุโรป ..
6 Cinderella
นิทานตลอดกาล ไม่มีใครไม่รู้จักรองเท้าแก้วทำตก สุดท้ายเจ้าชายตามหาจนเจอ และก็แต่งงานกัน
แล้วเรื่องจริงๆล่ะ
อย่างแรก เลย เธอชื่อว่า Rhodopis หรือบางที่จะชื่อ Ella ไม่ใช่ซินเดอเรลล่า ก็เอาเถอะ เปลี่ยนชื่อเมื่อไหร่ ไม่มีใครทราบ
ผู้มาช่วยเด็กสาวไม่ใช่นางฟ้าแม่ทูนหัว แต่เป็นผลจากคำอธิษฐานต่อต้นไม้วิเศษซึ่งงอกงามขึ้นบนหลุมฝังศพของแม่ของเธอ (ปลาบู่ทองเรอะ
มีตำนานแบบนี้ในเมืองจีนชื่อYeh-Hsien แต่แทนที่เป็นนางฟ้ามาโปรด กลับเป็นปลาแทนด้วย
ที่ซินเดอเรลล่าทิ้งรองเท้าเอาไว้ที่บันได ไม่ได้บังเอิญทำตก แต่เจ้าชายทายางมะตอยเอาไว้ล่วงหน้า รองเท้าจึงติดหลุดออกมา
Climaxที่การใส่รองเท้าแก้วพิสูจน์ ซึ่งพี่น้องสองคนนั้นใส่ไม่ได้แน่นอน เรื่องควรจะเป็นแบบนี้ แต่ว่า ใช่ซะที่ไหนล่ะ
คนนึงไม่ยอมเลยเนียนตัดเนื้อเท้าตัวเองให้พอดีกับรองเท้าแก้ว ตอนแรกเจ้าชายเกือบเชื่อนะ แต่ว่า นกที่ไหนก็ไม่รู้ ได้กลิ่นเลือดเนื้อ เลยเข้าไปรุมจิกเท้ายัยคนนั้นจนล้มหัวฟาดพื้นและรุมจิกลูกตาของพี่สองคนนั้น จนบอดไป
ตอนจบก็คือ ซินเดอเรลลาได้แต่งงานกะเจ้าชาย ส่วนพี่สองคนนั้นก็ต้องไปเป็นอาชีพขอทานตาบอดข้างถนนไป
นอกจากนี้ยังมีนักวิชาการบางคนวิเคราะห์ว่ารองเท้าของซินเดอเรลล่าอาจจะไม่ใช่รองเท้าแก้ว(verre) แต่เป็นรองเท้าขนสัตว์ (vair)ต่างหาก
แล้วยังมีฉบับของBasile ที่เล่าว่า ซินเดอเรลล่าที่เป็นตัวเอกของเรื่องกับแม่เลี้ยง (ซึ่งตอนแรกสุดเธอเป็นครูสอนเย็บผ้า) สมรู้ร่วมคิดกันฆ่าแม่เลี้ยงคนแรกซึ่งไม่ถูกกับซินเดอเรลล่า แล้วให้พ่อที่เป็นอาร์คดูคแต่งงานใหม่กับเธอ ยกให้ครูสอนเย็บผ้าเป็นแม่เลี้ยง แต่หลังจากนั้นแม่เลี้ยงคนนี้กลับรับลูกสาวแท้ๆ ของนาง 6 คนเข้ามา หักหลังซินเดอเรลล่า และปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชา
7 Rumpelstiltskin
เรื่องนี้คนไทยอาจไม่รู้จักเท่าไหร่ แต่ถ้าอ่านก็อาจคุ้นๆ คือกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เจ้าของโรงสีมีลูกสาวสวยที่สามารถม้วนฟางให้เป็นทอง จนเรื่องนี้เข้าหูพระราชาโลภมากเข้า เลยจับขังหอคอยและบอกให้เธอปั่นทองให้ได้เท่านี้ถ้าทำไม่ได้เอ็งตายอย่าง เขียด แต่ใครเอยจะบ้าทำได้
ในขณะที่หญิงสาวกำลังกลุ่มอยู่นั้นคนแคระก็มาหา มันเสนอแลกเปลี่ยนกับการแลกบุตรที่เธอคลอดคนแรกให้กับมัน และจะช่วยให้เด็กสาวสมปรารถนา จนกระทั่งเด็กสาวทำสำเร็จ ได้แต่งงานพระราชาโลภมาก(ดีไหมนั่น) มีบุตรคนแรก และคนแคระก็มารับเด็กตามข้อตกลงแต่เด็กสาวกลับคำ คนแคระเลยเพิ่มข้อแลกเปลี่ยนเพิ่มโดยทายชื่อเขาให้ถูก โดยมีเวลา 3 วัน (บางเล่มบอกว่าให้ทายแค่ 3 ชื่อในเวลา 3 วัน) เจ้าหญิงเดาชื่อคนแคระไปเรื่อยๆ ทั้ง 2 วันก็ไม่ถูกสักที จนกระทั่งมีคนผ่านไปแอบได้ยินมนุษย์แคระที่ร้องเพลงบอกชื่อของตนว่าเขาชื่อ “รัมเปลสติลล์สกิน”คนผ่านมาเลยไปบอกเจ้าหญิง และสุดท้ายคนแคระเลยอดได้เด็ก
เวอร์ชั่นเดิม : ที่มาของเรื่องนี้นั้น เป็นเรื่องที่เล่าปากต่อปากจนกระทั้งพี่น้องตระกูลกริมม์นำมาแต่งใหม่ ซึ่งเวอรชั่นเดิมนั้นหญิงสาวไม่สามารถหาชื่อจริงของคนแคระคนนี้ได้เลย จนสุดท้ายเธอแก้ปัญหานี้โดยต้องเอาลูกคนอื่นสวมรอย พอคนแคระจับได้มันเลยวิ่งจับลูกคนแรกของเด็กสาว(รวมถึงเด็กสาวด้วย)กระทืบ เท้าจนขาคนแคระจมพื้นดิน จากนั้นคนแคระกระชากขาและแขนเธอและลูกจนฉีกขาด ซึ่งทหารผู้พิทักษ์ทั้งหมดต้องมาเอาคนแคระออก แต่สายไปเสียแล้วเพราะสิ่งที่เหลือจากนั้นคือซากของเด็กสาวและลูกที่ตายคาที่เหมือนก้อนเนื้อ จนมีคำถามตามมาว่าคนแคระนั้นคือซอมบี้สัตว์ประหลาดปลอมตัวหรือเปล่า
8 PETER AND WENDY
การ์ตูนเรื่องแรกๆของ Walt Disney ที่โด่งดังเป็นพลุแตก จนมีการทำเป็นหนังหลากหลายเวอร์ชั่น เป็นนิทานเกี่ยวกับปีเตอร์แพนผู้เป็นเด็กชายผู้หนึ่งที่สามารถบินได้ และมีมนต์พิเศษในการปฏิเสธการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่กลับเป็นเด็กตลอดกาล เขาใช้ชีวิตวัยเด็กตลอดกาลของเขาท่องเที่ยวผจญภัยอยู่ในเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งในดินแดนเนเวอร์แลนด์ เป็นหัวหน้าของแก๊งเด็กหลง อยู่กับหมู่นางฟ้า และต่อสู้กับโจรสลัด ปีเตอร์ แพนจะมาพบปะกับเด็กธรรมดาๆ ในโลกภายนอกบ้างเป็นครั้งคราว
แต่เคยมีใครสงสัยไหมว่า ทำไมพรรคพวกของปีเตอร์แพน ถึงมีแต่เด็ก แล้วในเมื่อเนเวอร์แลนด์เป็นโลกของเด็ก แล้วเด็กที่โตเป็นผู้ใหญ่ไปอยู่ที่ไหน กลับไปยังโลกเดิมเหมือนที่ Walt Disney ทำเหรอ คิดง่ายไปแล้ว
เรื่องจริงล่ะ...
มีรายการหนึ่งที่หยิบยกหนังสือเรื่องปีเตอร์แพนที่เป็นหนังสือฉบับออริจินอลในปี 1911 พิสูจน์ออกมาว่า
เมื่อพวกเด็กๆ โตขึ้น
นั่นถือเป็นการผิดกฏ
ปีเตอร์แพนจะรีบฆ่าเด็กเหล่านั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ใช่แล้ว ที่เนเวอร์แลนด์ไม่มีเด็ก เพราะปีเตอร์แพนเป็นคนฆ่าก่อนที่เค้าจะโตนั่นเอง ซึ่งวิธีฆ่าคาดการว่าปีเตอร์แพนอาจใช้มีดเล่มเล็กที่พกติดตัวตลอดเวลานั่นแหละฆ่าพวกเขา หรือมาลองคิดๆ ดู กับตันฮุคเคยถูกจระเข้กินมือขวาเข้าไป นั่นอาจเป็นได้ว่าพวกเด็กๆ ที่โตแล้วก็อาจถูกจระเข้กิน หรือไม่ก็ร่วมมือกับทิงเกอเบล ทำให้เด็กๆ ลอยขึ้นฟ้า แล้วปล่อยให้ตกจากฟ้าลงมาตาย
แล้วทำไม พวกเราถึงไม่เคยรู้เรื่องปีเตอร์แพนฆ่าเด็กๆ กันเลยล่ะ นั่นเพราะว่าวรรณกรรมเรื่องนี้มีกว่า 300 หน้า เมื่อเอามาทำเป็นนิทานภาพสำหรับเด็กจำเป็นจะต้องทำให้สั้นลง และเนื้อหาส่วนนี้น่าตกใจ และไม่เหมาะสม จึงต้องทำการตัดออก คนส่วนใหญ่จึงไม่รู้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้
นี่คือตัวอย่างของนิทานที่ถูกเปลี่ยนแปลงเนื้อหาไปตามกาลเวลา ยังมีอีกหลายเรื่องที่เป็นอย่างนี้ บางทีถ้าหากทำตามแบบต้นฉบับ อาจจะขายดีกว่านี้ก็ได้นะ หึหึ (ทำสู้กับ Final Destination ไรเงี้ย)
ขอบคุณมากครับ พึ่งรู้ความจริงก็วันนี้เอง O_o บางเรื่องสยองมากๆ {:5_125:} ขอบคุณครับ ดีแล้วที่ตัด{:5_131:} ถ้ามันจะโหดร้ายขนาดนี้อ่านะ จริงเหรอครับน้องต้น
เสียหมดเลยง่ะ:'( ต้นฉบับโพสต์โดย yellow2550 เมื่อ 2011-8-7 16:10 static/image/common/back.gif
จริงเหรอครับน้องต้น
เสียหมดเลยง่ะ ...
ผมมีหนังอยู่เรื่องนึง
เป็นเรื่องแบบแฮนเซล์กับเกรเทล
เด็ดสองคนพี่น้องที่หลงเข้าในป่าแล้วเจอบ้านขนมปัง
แล้วก็ถูกจับขังไว้ขุนให้อ้วนแล้วจะจับทานนะครับ
...
แต่เรื่องที่มีก็ดำเนินเรื่องคล้ายไกัน
เพียงแต่ว่าเกรเทลเป็นเกย์ครับฮิฮิ นั่นแหล่ะครับ
ผมมีเวอร์ชั่นเกย์นะครับ
เป็นพ่อมดแทนครับ:lol ไม่รู้จะบอกอย่างไรครับ
มันก็หนุกดีนะครับ
ออกแนวโหด โรคจิตนิดๆนะครับ
ผู้กำกับคนนี้ชอบกำกับหนังแนวโรคจิตนะครับ
เคยดูเรื่องken parkป่าวครับ
ต้นฉบับโพสต์โดย yellow2550 เมื่อ 2011-8-7 19:23 static/image/common/back.gif
ไม่รู้จะบอกอย่างไรครับ
มันก็หนุกดีนะครับ
ออกแนวโหด...
เป็นหนังที่แรงมากครับพูดถึงประเด็นของเด็กวัยรุ่น ปัญหายาเสพติด ช่องว่างระหว่างวัยเด็กกับผู้ใหญ่
การสำเร็จความใคร่ แล้วก้เรื่องการมีเพศสัมพันะ์ครับ ขอบคุณครับ จริงหรือครับ ขอบคุนครับ
ถ้าไม่ตัดออกนี่...เอิ่มไม่อยากจะคิด + + -ขอบคุนมากมายอ่ะคับ ต้นฉบับโพสต์โดย เค เมื่อ 2011-8-8 00:39 static/image/common/back.gif
ขอบคุณครับ จริงหรือครับ
น่าจะจับสักเรื่องมาสร้างหนังน่ะครับ คงน่าดูเยอะเลยเน่อ{:5_136:} ไม่น่าเชื่อ!!! {:4_97:}
หน้า:
[1]