โรงงานผีสิง
โรงงานผีสิงหมวย สาวสวยคนหนึ่งได้เล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า เมื่อปี 2546 ที่ผ่านมา หมวยได้ไปทำงานในโรงงานใกล้บ้านที่ชลบุรี โรงงานอยู่ใกล้แม่น้ำบางปะกง โดยคนงานมีหลายร้อยคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และมีการสลับเป็นกะกลางวัน กับกะกลางคืน โดยจะมีห้องให้นอนพักระหว่างสองยามถึงตีหนึ่ง
คนเก่าแก่ที่เคยทำงานที่นี่เล่าให้หมวยฟังว่า เมื่อเปิดโรงงานแล้วก็มีคนตายอีกหลายคน ทั้งอุบัติเหตุและฆ่าตัวตาย คือผูกคอตาย โดดตึกตายและกินยาตาย ประเภทหลังมักมีสาเหตุจากอกหัก ความรักไม่สมหวัง อะไรประมาณนี้แหละค่ะ
แถม! เมื่อปีกลายก็มีผู้หญิงตกลิฟต์ตาย ต่อมาไม่นานก็มีพี่อีกคนชื่ออ๋อยนอนตายในลิฟต์เพราะหัวใจวาย แต่พวกเราก็เชื่อกันว่าผีที่ตกลิฟต์มาหลอกพี่อ๋อย บางคนยืนยันว่าผีตายโหงมาล่าวิญญาณพี่อ๋อยจนช็อกตายในลิฟต์ เอาละซี! คราวนี้ใครใช้ลิฟต์ต้องเกาะกันเป็นแพ ไม่กล้าขึ้นลงคนเดียว
ตอนกลางคืนดึกๆ หมวยเคยได้ยินเสียงใครไม่รู้วิ่งอยู่นอกห้อง แถวๆหน้าสโตร์ที่ปิดสนิท ไม่มีคนทำงาน บางคืนก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้สะอึกสะอื้น จนหมวยแทบจะร้องไห้ตามเพราะกลัวผีน่ะซีคะ
เมื่อเล่าให้เพื่อนร่วมกะที่มีอยู่ราว 6-7 คนฟัง กลับหาว่าหมวยแต่งเรื่องผีหลอกให้เขากลัวกัน..แต่ไม่ช้าพวกเพื่อนๆ ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ สะอึกสะอื้นคร่ำครวญน่าขนหัวลุก คนใจกล้าเพ่งมองผ่านฝนกระจกหนาๆ ออกไปก็ไม่เห็นมีใครอยู่ข้างนอกเลยแล้วเสียงร้องไห้มาจากไหน แต่แสงไฟมันสว่างแต่ในห้องที่เราทำงาน ข้างนอกค่อนข้างมืดจนมองอะไรแทบไม่เห็น ทีนี้ต้องเกาะกลุ่มกัน ขนาดจะเข้าห้องน้ำยังต้องไปกันเป็นแพ ให้เพื่อนช่วยเฝ้าอยู่ข้างนอกด้วยค่ะ
และแล้ว คืนหนึ่งก็เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้นที่ลานหน้าห้องสโตร์จะมีรถลากของเล็กๆ สำหรับขึ้น-ลงลิฟต์ เราใช้แรงอัดแล้วลากไปได้ง่ายๆ พวกเราเรียกกันว่า "ไอ้เข้" ค่ะ มีหลายตัวสำหรับใช้งานตอนกลางวัน พอกลางคืนก็จอดทิ้งไว้หน้าห้องสโตร์ ห่างจากลานกว้างหน้าห้องทำงานของพวกเราราว 20-25 เมตร
คืนนั้น กินอาหารเสร็จเราก็นอนพัก เสียงน่ากลัวพลันดังขึ้น!เสียงเดินลากรองเท้าผ่านหน้าห้องและเสียงวิ่งตุ๊บๆ ผ่านไปมา ตามด้วยเสียงร้องไห้ดังมาจากข้างนอก...แน่ใจว่ามันดังมาจากหน้าลิฟต์ใกล้ๆ กับห้องสโตร์พอดี
เพื่อนที่กำลังนอนรีบรุกขึ้นมานั่งเบิกตาโพลง...จ้องมองไปจุดเดียวกัน เสียงวิ่ง เสียงร้องไห้เงียบหายไปแล้ว...คราวนี้มีเสียงแปลกๆ ที่ไม่เคยได้ยินตอนกลางคืนดังขึ้น...เงี่ยหูฟังซักพักก็อ้าปากค้าง หันมองสบตากัน หน้าขาวซีดทั้งนั้น..นั่นคือเสียงลากไอ้เข้อย่างแน่นอน
พวกเราเบียดกันแจ นัยน์ตาเบิกโพลง...ท่ามกลางเสียงลากไอ้เข้ดังครืนๆใกล้หน้าประตูห้องเราเข้า มาทุกที ความเงียบยิ่งทำให้ได้ยินชัดเจน หมวยใจเต้นตึ๊กๆ มือเท้าเย็นจนชา คนอื่นๆ ก็ยืนตัวแข็งจ้องมองแต่ไม่เห็นอะไร กระทั่งเสียงน่ากลัวค่อยๆ ห่างออกไปทุกทีจนเงียบหายในที่สุด
วันรุ่งขึ้น พวกเราก็เห็นไอ้เข้จอดอยู่ที่เดิม ไม่มีร่องรอยว่ามีใครมาเคลื่อนย้ายสักนิด คนงานผู้ชายก็เพิ่งทยอยเข้ามา อุ๊ยตาย...แล้วใครอุตริมาลากไอ้เข้ตอนดึกๆ ล่ะคะ ถ้าไม่ใช่ผี?
ตอนนี้หมวยไม่ได้ทำงานที่นั่นแล้ว แต่นึกถึงเรื่องนี้หนูขนลุกทุกทีเลยค่ะ น่ากลัว ฮือๆT^T ขอบคุนมากคับ
หน้า:
[1]