แฮมเบิร์ก
ส่วนผสม(ปรับได้ตามชอบค่ะ)
1. เนื้อ.................... 250 กรัม
(เนื้ออะไรก็ได้ตามแต่ชอบค่ะ วัว ปลา ฯลฯ)
2.หัวหอม...............1 หัว
3. ไข่ไก่...................1 ฟอง
4. เกร็ดขนมปัง............. 1 ถุง
(บางสูตรจะให้ขนมปังฉีกลงไป บางที่ก็ใช้แป้งสาลีค่ะ)
5. เกลือ.............. ½ หรือ 1 ช้อนชา
6 นมข้นจืด .................1 ช้อนโต๊ะ
(* จริงๆ เวลาใช้บางเนื้อบ้านฉันจะเสริมสมุนไพรพวก
รากผักชี พริกไท กระเทียมค่ะ
โขลกลงไปตอนคลุก หรือ จะใส่ไปตอนบดเนื้อก็ได้ค่ะ)
วิธีทำ
1. นำเนื้อไปล้างให้สะอาดแล้วก็บดให้ละเอียดพอควร
แบบพอปั้นได้น่ะค่ะ สับก็ได้ รึ
จะใส่เครื่องปั่นกันไปเลยก็ได้ค่ะ
ที่จริงเขาก็มีขายแบบบดมาให้แล้วก็มีนะคะ
เดี๋ยวนี้ช่างสบายดีแท้...
ได้มาแล้วก็ใส่ถ้วยใหญ่ไว้นะคะ
2. ก็มาหั่นหอมหัวใหญ่กันดีกว่า ลูกเต๋าชิ้นเล็กๆ
หรือสับละเอียดไปเลยก็ตามใจค่ะ
บางสูตรเขาจะเอาไปคั่วในเนยพอเหลืองด้วยนะคะ
แล้วแต่ชอบค่ะ แต่ฉันใช้สดๆไปเลยค่ะ
3. ตอกไข่ใส่ลงไปในถ้วยเนื้อนะคะ
หัวหอมที่หั่นแล้ว นมข้นจืด
เกลือ(ที่จริงฉันใส่พริกไทไปด้วยล่ะค่ะ)
แล้วก็ใส่เกร็ดขนมปังลงไปเลยค่ะ!
ฉันไม่รู้ว่าใช้เท่าไร แต่เกร็ดขนมปังใส่จนพอปั้นได้ล่ะค่ะ
ใส่มากจะแตกนะคะ มันจะปั้นไม่ได้นะคะ
4. ก็ปั้นเป็นก้อนค่ะ ไม่ต้องกลมก้ได้
แก้เบื่อดี บางทีฉันก็ปั้นเป็นดอกไม้บ้าง
หน้าแมวบ้างค่ะ ใช้ตัวกดรูปก็ได้นะคะ
ขนาดประมาณฝ่ามือ...อื่อ...
ฝ่ามือไม่เท่ากันแหงๆ...ประมาณ 10 เซน
หรือจะพอดีคำแบบ 4-5 เซนก็ได้ค่ะ
ตอนปั้นเป็นก้อนกลมจะโยนไปมาในมือ
ไล่อากาศก็ได้นะคะ
แล้วก็...เอาอุ้งมือกดเบาๆ
ให้มันแบนลงโดยให้หนาอยู่ที่ 1/1.5 เซนกำลังดีค่ะ
บางสูตรจะหนาเกือบ 2 เซนเขาจะใช้วิธีนึ่งก่อนค่ะ
ไม่งั้นข้างในไม่สุกแน่ๆค่ะ
4.5 ขอเตือนว่าอย่ากดแรงนะคะ
ถ้าคุณกดแรงไปแล้วครั้งนึง ถ้าเอามาปั้นแก้ล่ะก็
เวลาทอดจะแข็งเลยล่ะค่ะ
แต่ถ้าชอบแข็งๆก้ได้เลยค่ะ ตามแต่ชอบค่า
5. ตั้งไฟกะทะค่า ร้อนปานกลางนะคะ
น้ำมันใช้ตามใจค่ะ ฉันใส่ไปประมาณ 1 เซนค่ะ
แต่บางคนจะแค่ทาไม่ให้ติดกะทะล่ะนะคะ
น้ำมัน...แนะนำรำข้าวสำหรับคนงบน้อยแบบฉัน...
ถ้าอยากให้หอมก็ใส่เนยลงไปผสมหน่อยก้ได้ค่ะ
พอน้ำมันเดือดมีฟองปุดๆแล้ว ก็ใส่ลงไป
ปกติมันไม่กระเด็นนะคะ
อย่าโยนล่ะ กระเด็นแน่ๆค่ะ
6. ใส่แฮมเบิร์กลงไปค่ะ แล้วก็รอหน่อย
มองขอบข้างดูค่ะ พอมันเริ่มสุก
ออกเหลืองก็พลิกอีกข้าง
ใครชอบเกรียมก้ให้เกินกว่านี้ได้ค่ะ
ความสุกก้แล้วแต่ความชอบอีกล่ะนะคะ
แรร์ มีเดี้ยม สุกแบบสุกจริงๆเล๊ย! อะไรแบบนี้...
6.5 วิธีของฉันก็แอบใจร้อนโดยการ
เอาส้อมจิ้มให้เป็นรูค่ะ มันจะสุกเร็ว แต่มีรู...แหะๆ
แล้วก็ดูว่าสุกทั้ง 2 ด้านรึยังก็ใช้ส้อมจิ้ม
ถ้าจิ้มแล้วมันยังยวบลวไปแบบทะลุได้แหงๆ
ก้รออีกหน่อย กลับไปกลับมา
แต่ถ้ากดแล้วไม่ลงแล้วก็สุกแล้วล่ะค่ะ
7. อะไรต่อล่ะ...สุกแล้วนะคะ
จัดจานเตรียมกินจบค่า ....
*มาที่
ซอสราด
ด้วยเลยค่า!
ลืมเขียนไปซะได้ ขอโทษค่า!
สวนผสมนะคะ รสตามใจคนกินค่ะ
เลยกะสัดส่วนไม่ได้ ขออภัยนะคะ
1. ซอสมะเขือเทศค่า ใส่เยอะที่สุดเลย
เกือบถ้วยนึงค่ะ ข้นเพราะนี่ล่ะค่า!
2. ซอสถั่วเหลือง รึ โซยุ ก็ได้ค่ะ
(*ไม่ชอบกลิ่นก็ใช้เกลือได้นะคะ)
3. น้ำตาล ถ้าน้ำตาลทรายแดงจะอร่อยดีค่ะ
4. พริกไท
5.กระเทียม (ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ ถ้าไม่ชอบกลิ่นนะคะ)
6. ซอสบาร์บีคิว
ค่ะ เป็นทางลัดมากๆ
(เพราะว่าถ้าไม่มีซอสBBQก็ต้อง
มานั่งเอาหอมหัวใหญ่ซอยใส่กระทะ
+ผัดกับเนยไม่ก็น้ำมันมะกอก หรือว่า
น้ำมันพืชแบบไขมันน้อย
ไปจนเหลวไปพร้อมๆกับตามด้วยกับซอสมะเขือเทศ
(แบบมีเนื้อนิดๆก็ดีค่ะ)
แล้วเติมน้ำตาล+น้ำส้มสายชูให้เบรครสนิดๆค่ะ )
วิธีทำซอส
-ไม่มีอะไรมากค่ะ คนให้เข้ากัน
แล้วอุ่นในกระทะไฟไม่ต้องแรงมาก
คนให้เข้ากันพอร้อนหน่อยก็ปิดไฟ
นำลงมาราดได้เลยค่ะ
*แต่บางคนเขาจะทำซอสแล้ว
เอาแฮมเบิร์กลงไปคลุกในกระทะก็มีค่ะ
แล้วแต่ๆค่ะ
อื่อ..กินกับสลัดผักก็ได้ค่า ขนมปังปิ้งก็ได้ค่า
รึจะเอาผักที่ชอบไปผัดเนยมากินคู่ก้ได้ค่า
จะราดซอสก็ตามแต่ชอบเลยนะคะ
ซอสมะเขือเทศ มายองเนส รึ
แม้แต่...น้ำปลามะนาวพริกก็ยังได้
แหะๆ ซอสสีดำที่ราดก็มีขายนะคะ
แต่ฉันชอบราดด้วยมายองเนสแบบปกคลุม
จนไม่เห็นว่าอะไรอยู่ข้างล่างแล้ว
ราสซอสมะเขือเทศทับตามค่ะ...
ที่บ้านและเพื่อนก็บอกว่า
”ราดแบบนั้นรสดั้งเดิมมันก็ไม่เหลือสิ!”
...ขะ...ความชอบไงคะ
ความชอบคนเราไม่เหมือนกัน... ขอบคุนมากกคับ ขอบคุนครับ
หน้า:
[1]