>>> เมื่อได้เข้าไปเจอความจริงของสังคมไทยอย่างจัง
ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงได้เคยดูวงเวียนชีวิต หรือรายการทำนองนี้กันมากบ้าง (แล้วเป็นอะไรไม่รู้ ต้องมาฉายเวลาผมทานข้าว ทำเอาทานไม่ลง มันจุกอกทุกที) บางท่านดูผ่านไปโดยไม่สนใจ บางท่านอาจจะมีการโอนเงินบ้าง ตามฐานะของตนเอง แต่สำหรับผมบอกตรงๆ รีบเปลี่ยนช่อง เพราะผมจะรู้สึกหดหู่ทุกครั้งที่ได้ดู ใจก็อยากบริจาค แต่แค่ตัวเองก็ยังเอาไม่รอดจนเมื่อผมได้รับคำสั่งจากหัวหน้าให้รับผิดชอบจัดทำหนังสือเกี่ยวกับโครงการ CSR ขององค์กรแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ต่อยอดการวิจัยจากการเข้าไปสำรวจพื้นที่แห่งหนึ่งแล้วพบว่า ในชุมชนชั้น ส่วนมากผู้อาศัยคือคนแก่และผู้พิการ ที่ไม่ได้รับการดูแลจากสังคม บ้างอยู่คนเดียว บ้างอยู่กับหลานที่ลูกส่งมาให้เลี้ยง โดยโครงการนี้จะเข้าไปทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้สูงวัยเหล่านั้นดีขึ้นกว่าเดิม
ครั้งแรกที่ผมได้รับข้อมูลคร่าวๆ ทราบว่า บ้านส่วนใหญ่นั้นทรุดโทรม และไม่เหมาะสมกับการที่คนแก่จะใช้งานในส่วนต่างๆ อย่างเช่น ห้องน้ำอยู๋ด้านล่างของบ้าน ซึ่งทำให้ต้องเดินขึ้นเดินลงจากบนบ้าน หรือแม้แต่บางบ้านไม่มีห้องน้ำ ต้องถ่ายในกระป๋องแล้วนำไปทิ้งลงคลอง บางบ้านไม่มีราวบันได ตายายตกบันได ล้มหัวแตกก็มีบ้านที่ได้รับการคัดเลือกจึงมีการปรับปรุงเพียงเล็กน้อย แต่แทบจะให้ชีวิตใหม่กับคุณตาคุณยายเลยทีเดียว อย่างเช่น สร้างบันได สร้างราวไว้ให้ได้จับ สร้างห้องน้ำบนบ้านทำหลังคาให้ใหม่
ในครั้งแรกที่ลงพื้นที่ ได้ไปดูบ้านที่ปรับปรุงแล้ว กับบ้านที่รอปรับปรุง แล้วก็พบกับสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริง แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่า คนแก่จะอยู๋กันแบบนี้ทั้งห้องน้ำ ที่เป็นส้วมซึม แถมยังสูงมาเหนือเข่า (ขนาดผมยังนั่งลำบาก) บางบ้านไม่มีห้องน้ำ บางบ้านพื้นทรุด
แต่นั่นยังไม่เศร้าใจเท่ากับภาพตายาย เวลาเห็นคนมาหา มาเยี่ยม บางท่านถึงกับน้ำตาไหล (ทำเอาผมน้ำตาไหลไปด้วย) บอกว่าดีใจที่มีคนมาหา อยากให้ลูกหลานมาเยี่ยมบ้าง บางครั้งเป็นปีไม่กลับมาเลย ไม่ได้อยากได้เงินได้ทองหรอก แต่ขอแค่มาเยี่ยมพ่อแม่บ้างก็ยังดี แล้วก็ดีใจที่มาปรับปรุงบ้านทำให้ชีวิตดีกว่าเดิมเยอะ ไม่ต้องอันตรายกับการต้องใช้ชีวิตอีก บางท่านก็เล่าให้ฟังว่า มีเงินจากเบี้ยยังชีพคนชรา 500 บาท ไม่พอกิน ก็ต้องไปตัดโกงกางมาเผาถ่านเลี้ยงชีวิตอีก (คิดในใจก็น้ำตาตก 500 บาท เราใช้วันเดียวก็หมดละ -*- สงสัยต้องปรับตัวเองซะใหม่ )
มีคุณยายอยู่คนหนึ่ง อายุ จะ 90 แล้ว แกจะชอบมานั่งที่ระเบียงบ้าน มองคนเดินไปเดินมา ตอนแรกที่ผมเข้าไปไหว้แก บอกว่าจะมาสำรวจบ้าน แกร้องไห้ บอกว่า บ้านพัง อยู่ไม่ได้ ร้อนเพราะเป็นสังกะสี ต้องมานอนข้างนอก เหงาด้วย อยู่กับหลาน 2 คน พอผมจะกลับ ก็ไหว้ลาแก แกจับมือผมไว้แน่น แล้วก็บอกว่า จะกลับแล้วเหรอ มาหายายบ่อยๆนะ ผมนี่น้ำตาร่วงเป็นทางเลย
นี่คือความจริงของสังคมไทย ที่ยังเป็นปัญหาอยู่ในทุกๆพื้นที่ บางครั้ง ทางภาครัฐก็ดูแลไม่ทั่วถึง (หรือไม่ค่อยลงพื้นที่สำรวจก็ไม่รู้) บางครั้งก็ทำดีเอาหน้า มาแล้วก็ไป ไม่ได้ดูแลอย่างจริงจัง ตัวผมกับทีมงานก็คงทำได้แค่ตั้งใจทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด สิ่งเหล่านี้จะได้ตีแผ่ออกไปในวงกว้างได้มากขึ้น ให้คนได้มองเห็นในมุมลึกเข้าไปอีกว่า ยังมีคนอีกเยอะที่ยังต้องการการช่วยเหลือการดูแล ยังต้องการความรัก อยู่ในสังคมไทยของเราในปัจจุบัน
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า รักและดูแลญาติผู้ใหญ่ของคุณให้มากๆนะครับ บางทีท่านไม่ต้องการอะไรมาก เพียงแค่ได้เห้นหน้าลูกหลาน ก็เป็นสุขใจเกินพอ
ปล.1 ไม่ขอเอ่ยนามถึงองค์กร และสถานที่ที่ลงไปสำรวจ เพราะอาจจะกระทบกระเทือนในหลายๆส่วนได้
ปล.2 ที่จริงอยากลงรูปให้เห็นสภาพ แต่ก็ตาม ปล.1 อะครับ ต้องขอโทษด้วย
From Pantip ิอ่านแลัวน้ำตาจะร่วง
ผมก็เคยเจอ น่าสงสารมาก
หน้า:
[1]