Pinkrose โพสต์ 2011-9-14 01:17:40

สะพายเป้ชมงานศิลป์ที่อิตาลี ตอนที่ 4 ปีซ่า เมืองนี้มีดีที่ "หอ" &

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Backpackguy เมื่อ 2011-9-14 01:45

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Backpackguy เมื่อ 2011-9-14 01:21

จุดหมายปลายทางของผมในวันนี้คือ นั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองปีซ่า เพื่อไปชม "หอเอนแห่งเมืองปีซ่า"
(ในรูปเป็นบรรยากาศของสถานีรถไฟ Santa Maria Novellaเมืองฟลอเร็นซ์)
http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc02221.jpg



วิวระหว่างทางที่รถไฟวิ่งผ่าน
http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc01657.jpg


จากเมืองฟลอเร็นซ์มายังเมืองปีซ่า ใช้ระยะเวลาในการเดินทางโดยรถไฟทั้งหมดไม่ถึง 1 ชั่วโมง


สถานีรถไฟเมืองปีซ่า
http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc01609.jpg



ปีซ่า (Pisa) เป็นเมืองขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองฟลอเร็นซ์ ประมาณ 90กิโลเมตร

ภาพบรรยากาศโดยรวมของเมืองปีซ่า
http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc01649.jpg

http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc01645.jpg

http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc01646.jpg

http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc01653.jpg




ตอนแรกผมกะว่าจะเดินจากสถานีรถไฟไปยังหอเอนแห่งเมืองปีซ่า แต่พอเดินไปได้ครึ่งทาง รู้สึกเหนื่อยขึ้นมา ความจริงก็ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรมากนักหรอกครับ เพียงแต่เหงื่อออกเยอะมากๆ กลัวมีกลิ่นตัวครับผม (พูดกลบเกลื่อนเพื่อให้ดูดี)เลยตัดสินใจขึ้นรถเมล์ไปดีกว่าสบายกว่ากันเยอะเลย

ภาพมองจากภายในรถเมล์ออกสู่ข้างนอก
http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc01612.jpg



ไม่นานนักรถเมล์ก็ได้มาจอดที่บริเวณป้ายหน้าทางเข้าหอเอน (ตอนขึ้นรถเมล์มาไม่ต้องกลัวหลงหรอกครับ เพราะถ้าป้ายไหนที่คนลงเยอะๆจนเกือบหมดคันรถนั่นก็แสดงว่าถึงหอเอนแล้วครับ)
http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc01613.jpg





ค่อยๆเดินชมบรรยากาศจากข้างหน้าทางเข้ามาทีละนิดทีละน้อย
http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc01614.jpg

http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc01617.jpg






หอเอนเมืองปิซา (อิตาลี: Torre pendente di Pisa หรือ La Torre di Pisa, อังกฤษ: Leaning Tower of Pisa) ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) น้ำหนักรวม 14,500 ตันโดยประมาณ มีบันได 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร

เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้ยุบตัว ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย Giovanni di Simone สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี

หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนปีซาได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา

กาลิเลโอ กาลิเลอิ เคยใช้หอนี้ทดลองเกี่ยวกับเรื่อง แรงโน้มถ่วง ในตอนที่เขาเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยปิซา โดยใช้ลูกบอล 2 ลูกที่น้ำหนักไม่เท่ากันทิ้งลงมา เพื่อพิสูจน์ว่า ลูกบอล 2 ลูกจะตกถึงพื้นพร้อมกัน ซึ่งก็เป็นไปตามที่กาลิเลโอคาดไว้(ข้อมูลจากวิกีพีเดีย)

http://i2.sqi.sh/s_3/ass/l_dsc01623.jpg

http://i2.sqi.sh/s_3/asw/l_dsc01633.jpg

http://i2.sqi.sh/s_3/asw/l_dsc01635.jpg


พอเดินชมหอเอนและเมืองปีซ่าจนอิ่มอกอิ่มใจแล้วผมก็กลับมาตั้งต้นใหม่ที่สถานีรถไฟเมืองปีซ่าเพื่อที่จะนั่งรถไฟต่อไปยังเมืองมิลาน
(ในรูปเป็นบรรยากาศภายในชานชาลาของสถานีรถไฟเมืองปีซ่า)
http://i2.sqi.sh/s_3/asw/l_dsc01654.jpg




จากเมืองปีซ่ามายังเมืองมิลาน ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณเกือบๆ 5 ชั่วโมง (ทางรถไฟ)

สถานีรถไฟ Milano Centraleซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองมิลาน
http://i2.sqi.sh/s_3/asw/l_dsc02244.jpg




หลังจากเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ผมรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทาง แถมยังหิวอีกต่างหาก จึงรีบออกไปหาอะไรทานข้างนอก จากนั้นจึงกลับเข้ามายังที่พักเพื่ออาบน้ำและเข้านอน


มิลาน(Milan หรือภาษาอิตาเลียนเรียกว่าMilano)เป็นหนึ่งในบรรดาเมืองใหญ่ที่สำคัญของประเทศอิตาลีเมืองมิลานจะอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ

เมืองมิลาน มีชื่อเสียงมากที่สุดในเรื่องของแฟชั่นและความสวยงามต่างๆโดยได้รับฉายาว่าเป็น "เมืองแห่งแฟชั่น" และ "เมืองหลวงแห่งแคทวอล์ค"   ส่วนบรรดาแฟนลูกหนังนั้น เมืองมิลานก็มีทีมฟุตบอลที่โด่งดังระดับโลก นั่นคือทีม "เอซีมิลาน" A.C. Milan

เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมขึ้นรางชมรอบๆเมือง และมาลงตรงที่ข้างหน้าลานจตุรัส Milano Duomo (Duomo of Milan)    ซึ่งศูนย์กลางและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อของเมืองมิลาน
http://i2.sqi.sh/s_3/asw/l_dsc02351.jpg


มหาวิหาร Duomo di Milano ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาสัญลักษณ์ของเมืองมิลาน
http://i2.sqi.sh/s_3/asw/l_dsc02352.jpg

http://i2.sqi.sh/s_3/asw/l_dsc02403.jpg



ศูนย์การค้า Vittorio Emanuele IIซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
http://i2.sqi.sh/s_3/asw/l_dsc02350.jpg


ภายในศูนย์การค้าร้านรวงข้างในนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังต่างๆหรือไม่ก็ห้องเสื้อหรูหรา
http://i2.sqi.sh/s_3/asw/l_dsc02346.jpg




สำหรับขาช็อปทั้งหลาย ขอบอกว่า งานนี้กระเป๋าสตางค์แบนแน่ๆครับ เพราะมีร้านรวงต่างๆเปิดบริการอยู่ทุกซอกทุกมุมถนน
http://i2.sqi.sh/s_3/asw/l_dsc02354.jpg

http://i2.sqi.sh/s_3/asw/l_dsc02410.jpg



หลังจากเดินดูของตามร้านรวงต่างๆเรียบร้อยแล้ว (เดินดูนานๆไม่ได้ครับ มีหวังกระเป๋าสตางค์แบนแน่ๆ ของสวยๆเก๋ๆเท่ห์ๆ เห็นแล้วอดใจไม่ไหวครับ)

ผมรีบเดินมาขึ้นรถรางเพื่อจะไปชม Parco Sempione ซึ่งเป็นป้อมปราการเก่าแก่ของเมือง
http://i2.sqi.sh/s_3/asx/l_dsc02417.jpg

http://i2.sqi.sh/s_3/asx/l_dsc02422.jpg

http://i2.sqi.sh/s_3/asx/l_dsc02425.jpg


เดินไปเดินมาอยู่ไม่นาน จึงเกิดอาการกระวนกระวายใจ ตะบะแตก เนื่องจากยังติดใจไม่หายกับเสื้อตัวสวยๆที่ได้ดูๆเล็งๆเอาไว้ในร้านเมื่อครู่ใหญ่ๆที่ผ่าน ด้วยความอยากจะได้มากถึงมากที่สุดเลยตัดสินใจรีบวิ่งลงไปยังสถานีรถไฟใต้ดินอย่างไม่รอช้า เพื่อกลับไปยังร้านเดิมที่เพิ่งไปดูมา(หาเรื่องเสียเงินจนได้นะเรา)
http://i2.sqi.sh/s_3/asx/l_dsc02428.jpg



พอช็อปจนหนำใจแล้ว ก็เดินไปเสาะแสวงหาอะไรอร่อยๆเพื่อประทังความหิวซักหน่อย
http://i2.sqi.sh/s_3/asx/l_dsc02412.jpg



พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อนตามมาครับ

Mr.CY โพสต์ 2011-9-14 08:28:02

yellow2550 โพสต์ 2011-9-14 11:37:10

ขอบคุณมากนะครับ
เหมือนได้ไปเองเรย
เค้าว่า เซ็นทรัล ไปเทคโอเวอร์ห้างเก่าที่มิลาน
จะเปิดเซ็นทรัล จริงไหมครับ

เค โพสต์ 2011-9-14 14:07:55

ขอบคุณครับพี่ที่นำภาพสวยๆมาฝาก

Pinkrose โพสต์ 2011-9-14 14:08:27

ต้นฉบับโพสต์โดย yellow2550 เมื่อ 2011-9-14 11:37 static/image/common/back.gif
ขอบคุณมากนะครับ
เหมือนได้ไปเองเรย
เค้าว่า เซ็นทรัล ไ ...

ขอบคุณมากนะครับ สำหรับกำลังใจ

เคยได้ยินข่าวมาเหมือนกันนะครับ แต่คงไม่ใช่ห้างที่ว่านี้ อาจจะเป็นห้างอื่นที่อยู่ในมิลานมากกว่าครับ

veer โพสต์ 2011-9-14 16:09:01

อุตสาห์ไปถึงเมืองแฟชั่นไม่ช็อปก็เสียเที่ยวแย่จริงมั้ยครับ

yaifaiz โพสต์ 2011-9-14 20:21:58

เหมือนได้ไปเที่ยวเองรุย
คนไทยในต่างแดน ท่าทางอากาศเย็นสบาย

Pinkrose โพสต์ 2011-9-14 23:33:41

ต้นฉบับโพสต์โดย veer เมื่อ 2011-9-14 16:09 static/image/common/back.gif
อุตสาห์ไปถึงเมืองแฟชั่นไม่ช็อปก็เสียเที่ยวแย่จริงม ...

ถูกต้องครับ...โดยเฉพาะกระเป๋าหนังและรองเท้าหนัง ที่โน่นราคาถูกมาก คุณภาพการตัดเย็บปราณีตสุดๆ แถมสไตล์การออกแบบก็เก๋ไก๋แนวๆไม่ซ้ำใคร

veer โพสต์ 2011-9-14 23:49:24

ต้นฉบับโพสต์โดย Backpackguy เมื่อ 2011-9-14 23:33 static/image/common/back.gif
ถูกต้องครับ...โดยเฉพาะกระเป๋าหนังและรองเท้าหนัง ที ...

สงสัยว่าจะหมดไปหลาย ช็อปแต่ของแล้วหนุ่มๆมิลานได้ช็อปบ้างรึป่าวครับ:lol:lol:lol

Pinkrose โพสต์ 2011-9-15 00:22:54

ต้นฉบับโพสต์โดย veer เมื่อ 2011-9-14 23:49 static/image/common/back.gif
สงสัยว่าจะหมดไปหลาย ช็อปแต่ของแล้วหนุ่มๆมิลานได้ช ...

ไปถึงถิ่นแล้วจะให้กลับมามือเปล่าได้อย่างไรครับ

ส่วนหนุ่มๆนั้น ถ้าอย่างรู้จริงๆคงต้องหลังไมค์ครับ เพราะถ้าบอกกล่าวตรงนี้กลัวว่าจะติดเรทไปหน่อยครับ ;P :$
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: สะพายเป้ชมงานศิลป์ที่อิตาลี ตอนที่ 4 ปีซ่า เมืองนี้มีดีที่ "หอ" & มิลาน เมืองแห่งแฟชั่น