แปลกแต่จริง...ลดกินเนื้อวัวช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
วารสารการแพทย์"แลนเซ็ต"ของอังกฤษรายงานผลการศึกษาหนึ่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ระบุว่า การบริโภคเนื้อวัวลดลงจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ เพราะการลดจำนวนวัวจะช่วยลดปริมาณก๊าซมีเธนที่มันปล่อยออกมา ซึ่งก๊าซนี้อยู่ในกลุ่มก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนรายงานชิ้นนี้ซึ่งจัดทำโดยคณะวิจัยนำโดยนายแอนโธนี แมคไมเคิล ศาสตราจารย์ของศูนย์ระบาดวิทยาและสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ระบุว่า หากทั่วโลกลดการรับประทานเนื้อวัวเฉลี่ยวันละ 100 กรัมต่อคนต่อวัน ซึ่งในประเทศร่ำรวยอาจลดมากกว่าถึง 200-250 กรัม และประเทศยากจน ลดลง 20-25 กรัมจะช่วยให้โลกลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 90 กรัมต่อวันภายในปี 2593 และหากประชากรในชาติร่ำรวยจำกัดการรับประทานแฮมเบอร์เกอร์เหลือเพียง 1 ชิ้นต่อวันต่อคนจะช่วยลดการบริโภคเนื้อวัวทั่วโลกได้ถึง 10% ในปี 2593
ผลการศึกษายังพบว่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 22% จากทั้งหมดทั่วโลกมาจากเกษตรกรรม ซึ่งเท่ากับจำนวนก๊าซที่ปล่อยจากอุตสาหกรรม แต่มากกว่าก๊าซที่ปล่อยจากการคมนาคม และการผลิตในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งส่วนใหญ่คือก๊าซมีเธน คิดเป็นเกือบ 80% ของภาคการเกษตรทั้งหมด
เมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งมีรายงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลียที่เชื่อว่าฝูงปศุสัตว์ในออสเตรเลีย เป็นปัจจัยสำคัญที่ปล่อยก๊าซมีเธนขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ตอนที่มันเรอออกมา และผลผลิตเนื้อ 1 กิโลกรัม อาจจะมาพร้อมกับก๊าซมีเธน 1 กิโลกรัมที่วัวปล่อยออกมา
สาเหตุที่ทำให้วัวปล่อยก๊าซมีเธนออกมา เป็นเพราะสภาพอากาศแห้งแล้งทำให้อาหารของวัวไม่มีคุณภาพ อาหารหลายส่วนจึงไม่ถูกย่อยในท้องอย่างที่ควรจะเป็น และแบคทีเรียในลำไล้ก็จะย่อยเศษอาหารเหล่านั้นแทนก่อให้เกิดก๊าซมีเธน ขอบคุณครับผม ขอบคุณมากนะครับ
หน้า:
[1]