8 วิธีจับผิดคนหลอกลวง
หลายต่อหลายคนไม่รู้ว่าอะไรคือสัญญาณอันตรายที่เกิดขึ้น หรือเราควรเชื่อใจเขาไหมในบางสถานการณ์ที่ทำให้คุณรู้สึกแปลก ๆ ค้างคาใจแต่ไม่กล้าถาม นี่คือ 8 สัญญาณที่ต้องบอกให้คุณระวังโดยการสังเกตง่าย ๆ จากความเปลี่ยนแปลงของเขา1. คุณเริ่มไม่สำคัญ
เมื่อเขาบอกคุณว่าเขาอยากไปผ่อนคลายกับเพื่อนฝูง ทั้ง ๆ ที่ปกติเคยชวนคุณไปด้วยทุกครั้ง หรือบางครั้งเขาเริ่มอยากไปไหนมาไหนคนเดียวโดยไม่มีคุณ ไม่ค่อยมีเวลาดูแลเอาใจใส่คุณเท่าที่ควร เวลาออกจากบ้านก็เริ่มดูแลตัวเองดีขึ้น มันคือสัญญาณแห่งความผิดปกติในชีวิตรักคุณแล้วล่ะ
2. มีชื่อตัวละครลับเปิดเผยบ่อยขึ้น
ปกติแล้วคุณอาจรู้จักชื่อเพื่อนเขาทุกคน ในบางครั้งเขาอาจพูดถึงชื่อผู้หญิงสักคนหนึ่งขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งหมายความว่าเธอคนนั้นอยู่ในสถานการณ์ที่เขาพูดถึงด้วย ให้ลองสังเกตดูว่าเขาเอ่ยถึงผู้หญิงคนนี้บ่อยขึ้นแค่ไหน ถึงแม้บอกว่าเป็นเพื่อนแต่คุณไม่เคยได้เจอหรือรู้จักกับเธอก็อย่าเพิ่งวางใจค่ะ ลองพูดกับเขาดูว่าถ้าเป็นเพื่อนใหม่ของเขาช่วยพาคุณไปรู้จักเธอด้วยนะ แล้วเฝ้าดูปฏิกิริยาของเขาต่อไปว่าเขาบริสุทธิ์ใจที่จะพาคุณไปแนะนำหรือไม่
3. ปกป้องข้อมูลส่วนตัวมากเกิน
เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเริ่มติดหนึบกับบรรดาเทคโนโลยีรอบตัวของเขาเช่น พกโทรศัพท์มือถือติดตัวไปทุก ๆ ที่แม้แต่เวลาเข้าห้องน้ำ หรือเขาไม่เคยลุกออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เลย โดยเฉพาะเวลาคุณเดินไปใกล้แล้วเขาแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบด้วยการปิดมันทันทีทั้งที่คุณไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรด้วยซ้ำ มันคืออาการที่สามารถฟันธงได้ชัดเจนเลยว่าเขามีความลับกับคุณอยู่
4. สายตาโกหก
สายตาของเขาอาจบอกคุณเป็นนัยๆ เมื่อเขาไม่กล้าสบสายตากับคุณนานๆ ในเวลาที่คุณถามเขาเกี่ยวกับบางสิ่งที่ค้างคาใจ นั่นหมายความได้ไม่กี่อย่างคือ เขาอาจมีความผิดปิดบังคุณอยู่หรือไม่ก็เขากลัวคุณจับผิดสิ่งไม่ดีที่เขาได้ทำเอาไว้ ข้อนี้ดูได้ง่ายมากเพราะน้อยคนที่จะฝืนมันได้ยกเว้นจะเนียนจริง ๆ
5. ความลับหรือโกหก
สำหรับคู่ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวแล้ว ถ้าปกติคุณและเขาไม่เคยปิดบังกันเรื่องเอกสารต่างๆ ทางการเงิน แต่อยู่ๆ เขาก็เกิดปกปิดเอกสารของบัตรเครดิตหรือเงินในบัญชีขึ้นมา ให้คุณลองใช้วิธีคุยกับเขาเรื่องรายรับ-รายจ่ายกับเขาเพื่อดูว่าเขามีการใช้จ่ายที่ผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ แต่เมื่อพบว่าเกิดขึ้นจริงก็อย่าเพิ่งโวยวายนะคะ ลองแก้ไขปัญหาด้วยการวางแผนการเงินกันใหม่โดยที่ไม่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด ส่วนเรื่องจับโกหกค่อยหาหลักฐานกันต่อไปค่ะ
6. เซอร์ไพรส์เกินเหตุ
ในบางครั้งการรับของขวัญโดยไม่มีสาเหตุมันก็ทำให้ผู้หญิงเราอดสงสัยไม่ได้จริง ๆ ว่าทำไมเขาถึงเอาใจเราเป็นพิเศษ ถ้ามันผิดปกติจริงของขวัญชิ้นนั้นอาจหมายถึงคำขอโทษทางอ้อมที่มันอยู่ในใจเขา มันเป็นจิตใต้สำนึกของความรู้สึกที่ผิดต่อคุณแต่เขาไม่สามารถบอกคุณได้ หรืออาจเป็นการเซอร์ไพรส์เพื่อกลบเกลื่อนหากเขากลับบ้านผิดเวลา หรือจากการที่เขาไม่มีเวลาให้คุณ มันอาจไม่ใช่ทุกครั้งที่เขาจะคิดเช่นนี้ เขาอาจอยากเซอร์ไพรส์คุณจริง ๆ ก็ได้ ให้คุณลองจับต้นชนปลายดูก่อนจากหลายๆ ข้อที่แนะนำมา อย่าเพิ่งตัดสินว่าเขามีความผิดซ่อนอยู่
7. สังเกตท่าทางเวลาปฏิเสธ
ลองดูพฤติกรรมหรือท่าทางของเขาเมื่อคุณซักถามเขาเกี่ยวกับความคลางแคลงใจของคุณ มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองง่าย ๆ ที่คนโกหกส่วนใหญ่เป็นกันทุกคนเช่น เขาตอบคุณแต่เอามือจับจมูกและไม่สบตา หรือยกแขนของเขาข้ามหัวไปเป็นเพราะปกปิดความประหม่าที่ซ่อนอยู่ คนโกหกดูไม่ยากจริง ๆ ค่ะ
8. ทำงานยุ่งตลอดเวลา
ข้ออ้างสุดฮิตของคุณผู้ชายทั้งหลายที่ชอบโกหกว่าไม่มีเวลาเพราะต้องทำงานให้เสร็จในคืนนี้ ในบางรายอาจถึงขั้นเก็บกระเป๋าเล็ก ๆ ไปด้วยแล้วบอกว่าจะค้างที่ออฟฟิศ ซึ่งข้ออ้างเรื่องงานเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนมักเกรงใจและไม่กล้าก้าวก่ายในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของเขา แต่มันแย่ตรงที่ในบางครั้งมันไม่จริง และเป็นข้อที่สามารถหาความจริงได้ง่ายมากอีกด้วยนะ
ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณบอกเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยเกี่ยวกับพฤติกรรมการเริ่มโกหกของพวกเขา แต่จุดสุดท้ายมันไม่ได้อยู่ที่คุณสามารถจับผิดเขาได้จริง เรื่องสำคัญคือเมื่อคุณแน่ใจว่าเขาโกหก คุณต้องใช้สติและความใจเย็นเข้าช่วยแล้วค่อยๆ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตคู่ของคุณกับเขาทีละนิดครับ ขอบจัยเน้อ... ขอบคุณนะครับ ขอบคุณมากๆนะครับ ขอบคุณครับผม
หน้า:
[1]