munuk โพสต์ 2011-10-6 15:49:16

การป้องกันและดูแลโรคน้ำกัดเท้า

การป้องกันและดูแลโรคน้ำกัดเท้า
แพทย์แนะควรใส่ใจซอกนิ้วเป็นพิเศษ

   แม้ ว่าจะกันฝนได้ แต่กันไม่ให้เท้าเปียกน้ำไม่ได้ ถ้าฝนตกหนัก ต้องเดินย่ำน้ำสกปรกตามพื้นถนนไปทำงานหรือกลับบ้านติดต่อกันหลายวันในช่วง หน้าฝน นอกจากเท้าจะชื้นหรือเปื่อยแล้ว ยังอาจจะติดเชื้อโรค ซึ่งปะปนอยู่ในน้ำสกปรกได้ ถ้าจำเป็นต้องย่ำน้ำ หลัง จากเข้าบ้านแล้วควรรีบล้างเท้าทำความสะอาด แล้วเช็ดให้แห้งโดยเฉพาะตามซอกนิ้วเท้า หากเท้ามีบาดแผล ควรชะล้างด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ก็จะช่วยป้องกันโรคน้ำกัดเท้าได้

   


โรค น้ำกัดเท้าในระยะแรกนี้ ยังไม่มีเชื้อรา เป็นเพียงอาการระคายเคืองจากความเปียกชื้นและสิ่งสกปรกในน้ำ ทำให้เท้าเปื่อย ลอก แดง คันและแสบ การรักษาในระยะนี้ควรใช้ยาทาสเตียรอยด์อ่อนๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อรา ซึ่งจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและแสบมากขึ้น

ถ้า ผิวเปื่อยเป็นแผล เมื่อ สัมผัสกับสิ่งสกปรกที่เจือปนอยู่ในน้ำ จะเกิดการติดเชื้อได้ง่าย เมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรีย จะทำให้เกิดอาการอักเสบ บวมแดง เป็นหนองและปวด ต้องให้การรักษาโดยการรับประทานยาปฏิชีวนะร่วมกับการชะล้างบริเวณแผลด้วย น้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น น้ำด่างทับทิม แล้วทาด้วยยาฆ่าเชื้อ หรือยาปฏิชีวนะ






โรค น้ำกัดเท้า ในระยะแรกเป็นแค่ผิวแดงลอกจากการระคายเคือง เมื่อผิวลอกเปื่อยและชื้นอยู่นาน จะมีการติดเชื้อรา โรคเชื้อราที่ซอกเท้าอาจเกิดขึ้นหลังจากน้ำกัดเท้าอยู่บ่อยๆ เป็นเวลานาน เชื้อราจะเข้าไปฝังตัวอยู่ในผิวหนัง เมื่อเป็นเชื้อราแล้วจะหายยาก ถึงแม้จะใช้ยาทาจนดูเหมือนหายดี แต่มักจะมีเชื้อหลงเหลืออยู่ เมื่อเท้าอับชื้นขึ้นเมื่อใด ก็จะเกิดเชื้อราลุกลามขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดอาการเป็นๆ หายๆ เป็นประจำ ไม่หายขาด



การ ดูแลป้องกันโรคเชื้อราที่เท้าไม่ให้กลับเป็นซ้ำอีก จึง มีความสำคัญ การรักษาความสะอาดให้เท้าแห้งอยู่เสมอ โดยการล้างน้ำฟอกสบู่ และเช็ดเท้าให้แห้ง โดยให้ความสนใจเป็นพิเศษที่บริเวณซอกนิ้วเท้า เมื่อเช็ดให้แห้งแล้ว ให้ทายารักษาโรคเชื้อรา แต่ถ้ามีอาการรุนแรงและเรื้อรัง ทายาไม่ได้ผล อาจต้องพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเองซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงต่อตับไต และควรรักษาอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดใช้ยาเองแม้ว่าจะดีขึ้น การหยุดยาเร็วเกินไปขณะที่เชื้อยังไม่หมด มีโอกาสกลับเป็นซ้ำอีกได้ง่าย


ที่มา : แพทย์หญิงพิมลพรรณ กฤติยรังสรรค์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง

ที่มา www.thaihealth.or.th
.........................................................................................................................................................................
ส่วนสถานการณ์ น้ำท่วมไทย ตอนนี้ ขอให้เป็น น้ำใจที่ท่วมไทย แล้วช่วยกันร่วมช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยนะครับ และขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้พี่น้องชาวไทย ที่ประสบอุทกภัย น้ำท่วมในครั้งนี้ครับ




จุดรับบริจาคสิ่งของช่วยน้ำท่วม

-   เบอร์ศูนย์อุทกฯ ภาคเหนือ : 053-248925, 053-262683
- กองปราบฯเปิดรับบริจาคสิ่งของช่วยผู้ประสบอุทกภัย
บริจาคได้ที่กองปราบปราม ถ.พหลโยธิน สอบถามสายด่วน1195
- กทม.ตั้งศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต
บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนข้าวสาร
ชื่อบัญชีกองทุนกทม.ช่วยผู้ประสบภัย เลขที่บัญชี 027-0-17081-2
- มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก บริจาคสิ่งของอุปโภคบริโภค สภากาชาดไทย ปทุมวัน กรุงเทพฯ
โทร 0-2256-4583-4, 0-2256-4427-9, 0-2251-0385
http://bit.ly/psfe5U
- อาสาดุสิต: ศูนย์รับบริจาค หอสมุดเทศบาลนครพิษณุโลก
http://www.arsadusit.com/6242
- อาสาดุสิต: (10 ก.ย.) เปิดรับบริจาค ที่ ธ.กรุงไทย สนง.ใหญ่ เพื่อช่วยพื้นที่ จ.อยุธยา
http://www.arsadusit.com/6796
- โรงแรมดุสิตธานี สีลม (ทุกวัน-2 ต.ค.)
ข้าวสารถุง 5 กก น้ำตาล น้ำปลา น้ำมันพืช อาหารแห้ง ไปอยุธยาอ่างทองสิงห์บุรี (via @V_Victory1)
- 96.75 เมกะเฮิร์ตซ
เปิดศูนย์รับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น ข้าวสาร อาหารแห้ง ยารักษาโรค ฯลฯ สอบถามที่ 0-5581-7716-7
http://ow.ly/6r1sS

vera โพสต์ 2011-10-8 21:49:24

ขอบคุณมากๆคับ

Blue-Roses โพสต์ 2011-10-10 13:40:09

ขอบคุณมากครับ

ธรรม โพสต์ 2011-11-13 21:33:28

ขอบคุณมากนะครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: การป้องกันและดูแลโรคน้ำกัดเท้า