เมื่อน้อง...มีกลิ่น
ไม่ว่าคุณจะเรียกส่วนนั้นของคุณว่าอย่างไร จะขออนุญาตเรียกว่า น้องชาย...น้องสาว ก็แล้วกัน เพื่อความเข้าใจถูกต้องตรงกัน แถมเป็นคำที่น่าจะสุภาพที่สุดเมื่อจะหมายถึงส่วนนั้นคงจะทราบกันดีว่า ส่วนนั้นน่ะ...ส่วนไหน!!!
เพราะผู้ชายทั้งหลายมักจะคิดถึงส่วนนั้นเสมอๆ จนเป็น...ของรักของหวง และผู้หญิงก็มักจะคิดถึงน้องสาวส่วนนั้นว่า... ส่วนสงวน
แต่เมื่อของรักของหวงและส่วนสงวน เกิดมีกลิ่นขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็วุ่นวายไปหมด แถมทำให้ความเชื่อมั่นในตัวเองลดลงไปอีก โดยเฉพาะกับน้องสาว...
" ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร หมู่นี้เวลามีสัมพันธ์รักกับแฟนทีใด มีกลิ่นเหมือนปลาเน่าออกมาทุกที ยิ่งเสียดสีรุนแรงมากเท่าใดกลิ่นยิ่งออกมามากขึ้น จนแฟนบอกว่าเกือบหมดอารมณ์แน่ะแต่ถ้าได้ร่วมรักกันในห้องแอร์เย็นๆ หรือมีอะไรกันในอ่างน้ำก็ค่อยยังชั่วหน่อย เพราะไม่มีกลิ่น ไปหาหมอมาหลายคนแล้ว ก็บอกว่าไม่อักเสบ ไม่รู้ว่าจะรักษาอย่างไร"
" วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเจอกับกลิ่นมหากาฬนี้ ทำออรัลเซ็กซ์ให้เธอดีๆ ทุกอย่างก็โอเคหมด เธอค่อยๆ มีอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดสุดยอด ครั้งนั้นเธอคงจะมีความสุขมาก เกร็งไปทั้งตัวรวมทั้งตรงนั้นด้วย เลยมีตกขาวออกมาก้อนเบ้อเริ่ม กลิ่นเหมือนกลิ่นคาวปลา ผมเผลอตัวอ้าปาก เลยเข้าไปทั้งก้อน ผมผะอืดผะอมไปค่อนคืนแน่ะ แต่พอมาวันรุ่งขึ้นไม่ได้ทำอะไรกัน กลิ่นก็หายไป เธอบอกอย่างนั้น เลยไม่กล้าทำออรัลอีกเลย"
" ช่วงเวลาที่ใกล้จะมีประจำเดือนหรือประจำเดือนหมดใหม่ๆ เวลาร่วมรักกับแฟนจะมีกลิ่นมากเลย กลิ่นแบบกลิ่นคาวปลานั่นแหละ ยิ่งวันที่อากาศร้อนมากๆ กลิ่นยิ่งรุนแรงมากขึ้น ล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะที่อย่างไรก็ไม่หายไป แถมเวลาที่ปฏิบัติการกับเขา กลิ่นก็ระเหยออกมาอีก จนตัวเองหมดอารมณ์เลย"
นั่นเป็นเรื่องของกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากสิ่งที่เรียกว่า ANAEROBIC VAGINOSIS เป็นภาวะที่พบได้ในผู้หญิงบางคนในบางช่วงเวลา และเป็นกลิ่นคล้ายๆ คาวปลาเน่าๆ ซึ่งจะส่งกลิ่นรุนแรงออกมาเวลาที่เกิดความร้อนเช่น การเสียดสีกันในขณะร่วมรัก และในเวลาที่มีประจำเดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น้องสาวมีอุณหภูมิสูงขึ้นมากกว่าปกติ
...จนบางคนนึกว่า น้องสาวเน่าไปแล้ว!!!
ไปหาคุณหมอ ถ้าเล่าไม่ละเอียด หรือคุณหมอไม่ได้ตั้งข้อสงสัยจากกรณีนี้ ตรวจภายในไปจะไม่พบอะไรผิดปกติ ไม่พบการอักเสบภายในช่องคลอด และถึงเอาตกขาวไปส่องกล้องจุลทรรศน์ดู ก็จะไม่เห็นเม็ดเลือดขาวที่แสดงว่ามีการอักเสบ ผู้หญิงหลายคนจึงกลุ้มใจ เพราะไปหาหมอแล้วตรวจไม่พบอะไร
นอกจากคุณหมอพยายามหา CLUE CELL ซึ่งเป็นเซลล์ผิวหนังที่หลุดลอกออกมาจากผนังช่องคลอดและมีแบคทีเรียเกาะอยู่เต็มขอบเซลล์จนมองไม่เห็นขอบเขตของเซลล์ชัดเจน... หรือหยด โปตัสเซียม ไฮดรอกไซด์เข้มข้นลงไปบนตกขาว ซึ่งจะทำให้เกิดกลิ่นดังกล่าวระเหยออกมา!!!
ที่จริงกรณีนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคร้ายแรง แต่เป็นผลเนื่องมาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า GARDNERELLA VAGINALIS ซึ่งโดยปกติก็มาอาศัยอยู่กับแบคทีเรีย แลคโตแบซิลไล ที่เป็นทหารยามภายในช่องคลอดของผู้หญิง ทำหน้าที่ป้องกันข้าศึกลุกลาน และเชื้อแบคทีเรียทั้งสองชนิดก็อาศัยอยู่ด้วยกันอย่างสันติสุข จนมาวันหนึ่งเจ้าเชื้อแบคทีเรียที่มาขออาศัยพักพิงอยู่เกิดแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วจนทหารยามควบคุมไม่อยู่
เมื่อเจ้าเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า GARDNERELLA แพร่พันธุ์ออกลูกหลานมาก ย่อมจะถ่ายของเสียออกมาตกค้างภายในน้องสาวมาก จนทหารยามทำความสะอาดไม่ไหว!!
ของเสียที่ถูกถ่ายออกมาดังกล่าว เมื่อสะสมมากๆ ก็จะเกิดกลิ่นคล้ายปลาเน่า ซึ่งจะระเหยออกมาเวลาเกิดความร้อน เช่น ในระหว่างการร่วมรัก และในช่วงเวลาที่มีประจำเดือน...
และถ้าวินิจฉัยได้ว่า เป็นภาวะนี้ หรือมาจากสาเหตุนี้ การรักษาก็ไม่ยาก คุณผู้หญิงทั้งหลายจึงต้องพยายามให้ประวัติคุณหมอให้ดี เพื่อจะวินิจฉัยได้ถูกต้อง!!
จะได้สะอาดสดใส และไม่มีกลิ่นคาว...
เพราะกรณีนี้เป็นเรื่องราวที่ทำให้ผู้หญิงทั้งหลายเกิดความรำคาญเวลาน้องสาวมีกลิ่น และไม่ทราบว่าเป็นอะไร
ส่วนกลิ่นอับชื้นอื่นๆ นั้น... ดูแลง่ายกว่า และดูแลได้ด้วยตัวเอง ไม่อยากจะเขียนให้อ่านกันมาก เพราะจะเขียนให้นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้เลย เคล็ดลับต่อไปนี้จะทำให้น้องสาวสดใส พร้อมจะให้หวานใจเปิดบริสุทธิ์
•แห้ง โล่ง โปร่ง สบาย เป็นหัวใจสำคัญในการรักษาสุขอนามัยของน้องสาว
•ชุดชั้นในที่เหมาะกับสาวเมืองร้อนชื้นแบบประเทศไทย ควรทำจากผ้าฝ้าย และไม่ควรใช้ชุดชั้นในที่รัดแน่น เดี๋ยวนี้กางเกงในแบบบ๊อกเซอร์ผู้หญิง ก็มีจำหน่ายแล้ว ดูเซ็กซี่ไม่เบาทีเดียว...จะบอกให้
•อย่ารับประทานยาปฏิชีวนะนานๆ เพราะจะไปฆ่าเชื้อแลคโตแบซิลไลภายในช่องคลอด ถ้าจำเป็นควรรับประทานโยเกิตร์หรือเครื่องดื่มที่มีแลคโตแบซิลไลเป็นส่วนผสมด้วย
•สิ่งต่อไปนี้ได้รับการศึกษาวิจัยว่า เพิ่มโอกาสการติดเชื้อราภายในช่องคลอด ได้แก่ การนุ่งกางเกงในรัดๆ การนุ่งกางเกงยีนส์รัดแน่น การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดนานๆ การตั้งครรภ์ การรับประทานยาปฏิชีวนะนานๆ การเป็นโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน หรือได้รับสเตียรอยด์นานๆ ฯลฯ
•ทำความสะอาดน้องสาวก่อนและหลังการปฏิบัติกิจกรรมทางเพศทุกครั้ง น้ำสะอาดจะดีที่สุดที่ใช้ทำความสะอาด...
ทีนี้เมื่อน้องชายมีกลิ่นล่ะ....
ผู้ชายที่ขลิบหนังหุ้มปลาย มีโอกาสเกิดกลิ่นน้อยกว่า ผู้ชายที่ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลาย
ผู้ชายที่ทำความสะอาดอวัยวะเพศ โดยการเปิดส่วนปลายออกมาทำความสะอาดทุกครั้งเวลาอาบน้ำ มีโอกาสเกิดกลิ่นน้อยกว่า ผู้ชายที่ไม่ทำความสะอาดน้องชาย และผู้ชายที่เปิดหัวน้องชายออกมาชะล้างทำความสะอาดวันละ 2 ครั้งจะมีกลิ่นน้อยกว่า ผู้ชายที่ทำความสะอาดวันละครั้ง
ผู้ชายที่สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเวลาที่น้องชายปฏิบัติการ มีโอกาสเกิดกลิ่นน้อยกว่าผู้ชายที่ไม่ชอบสวมถุงยางอนามัย แถมมีโอกาสติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์น้อยกว่าด้วย แน่นอนว่า ผู้ชายที่อาบน้ำและชะล้างส่วนปลายทุกครั้งก่อนปฏิบัติกิจกรรมมีโอกาสน้อยกว่าที่จะมีกลิ่น
กลิ่นสะอาดจึงขึ้นอยู่กับการรักษาสุขอนามัยของน้องชายโดยแท้!!!
ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยภายนอกเหมือนน้องสาวของผู้หญิงแต่อย่างใด
และเมื่อน้องชายมีกลิ่นแล้วละก็ การรักษาความสะอาด มีส่วนเป็นอย่างมากในการทำให้กลิ่นหายไป โดยไม่จำเป็นจะต้องพึ่งยารักษาโรคแต่อย่างใด
การทำออรัลเซ็กซ์...กับกลิ่น
คุณว่าระหว่าง อวัยวะส่วนนั้น กับ ปาก ส่วนไหนจะสกปรกกว่า... แน่นอนทุกคนต้องคิดว่า อวัยวะส่วนนั้นสกปรกมากกว่า... ความคิดนี้ผิดถนัด
เพราะปากของคุณสกปรกมากกว่าน้องชายและน้องสาวมากนัก
ในปากมีแบคทีเรียอยู่ และอาจจะมี 2 เชื้อราอยู่บ้าง ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าเอาปากสกปรกไปจูบประทับกับน้องชายน้องสาวก็อาจจะได้รับเชื้อโรคไปจนเกิดการอักเสบและเกิดกลิ่น
ดังนั้น ถ้าริจะทำรักด้วยปากให้สุขสมและปลอดภัยแล้ว ก่อนอื่นต้องแปรงฟันให้สะอาดๆ บ้วนปากกลั้วคอด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างดี จากนั้นก็ไปทำความสะอาด น้องชายและน้องสาว!!!
และถ้าจะให้ได้อารมณ์มากขึ้น ก็อาจจะใช้น้ำยาเฉพาะเพื่อทำความสะอาดภายนอกได้ แต่อย่าสวนล้างเข้าไปภายในเด็ดขาด
จากนั้น กลั้วปากด้วยน้ำอุ่นๆ ...ก่อนปฏิบัติการ
เท่านี้ก็ไม่มีกลิ่นแล้ว... จะมีก็แต่กลิ่นแห่งความรักที่แสนจะรัญจวนใจระเหยออกมา
...ใช่ไหมคุณ!
ข้อมูล คลีนิครักดอทคอม โดย : นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ เหอะๆเป็นผม ผมก็หมดอารมณ์ ขอบคุณคราฟ ขอบคุณครับผม
หน้า:
[1]