Dudee123 โพสต์ 2011-10-13 12:51:09

สุขที่แท้จริง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Dudee123 เมื่อ 2011-10-13 12:50

การเดินทางของจิต
วิจิกิจฉากิเลส

ได้แก่ธรรมชาติที่ตัดสินใจลำบาก คือ สงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตามธรรมดาผู้ที่ยังมีวิจิกิจฉากิเลสอยู่
ไม่ว่าจะนับถือศาสนาพุทธหรือศาสนาอื่นใดก็ตาม ย่อมมีความสงสัยในพระรัตนตรัยอยู่เสมอเช่น

ก. สงสัยในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พระพุทธเจ้ามีจริงหรือ

ถ้าพระพุทธเจ้ามีจริง
พระองค์ตัดกิเลสได้จริงหรือ
พระองค์ทรงคุณพิเศษสามารถแสดงธรรมเพื่อตัดกิเลสนำสัตว์ออกจากวัฎฎสงสารได้จริงหรือ
พระองค์ทรงพ้นจากทุกข์ในวัฏฏสงสาร เสด็จเข้าสู่แดนอมตนิพพานได้จริงหรือ ดังนี้เป็นต้น

ข. สงสัยในพระธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า

พระธรรมที่ทรงแสดงไว้นั้นจริงหรือ
พระธรรมอันเร้นลับมองไม่เห็นต่างๆ
เช่น เรื่องนรก,สวรรค์,-มรรค,-ผล,-นิพพานเป็นต้นนั้นมีอยู่จริงหรือ

ถ้าปฏิบัติตามพระธรรมที่พระองค์ทรงสั่งสอนไว้แล้วจะได้รับผลจริงหรือไม่ ดังนี้เป็นต้น

ค. สงสัยในพระอริยสงฆ์แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า

พระอริยสงฆ์มีจริงหรือ

ถ้ามีจริง พระอริยสงฆ์ท่านสามารถดับกิเลสได้จริงหรือ
พระอริยสงฆ์ท่านได้สามารถบรรลุมรรค,
ผลและเห็นพระนิพพานได้จริงหรือ ดังนี้เป็นต้น



หมดสิ้นสงสัยในพระรัตนตรัย โดยเอาตนเองเข้าเป็นพยานโดยเหตุดังนี้


ผู้เข้าสู่กระแสพระนิพพาน ได้ดื่มอมตรสคือพระนิพพานแล้ว
ความสงสัยในพระรัตนตรัยก็ขาดไปจากจิตสันดานโดยสิ้นเชิง
ทั้งนี้เพราะตนได้ประสบพบเห็นยอดของธรรมะ กล่าวคือพระนิพพานแล้ว

จึงมีความเชื่อมั่นอันจริงใจว่า
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ประเสริฐสุดอย่างแน่แท้
เพราะทรงสามารถนำเอาพระนิพพานอันเป็นอมตธรรมมาตีแผ่ให้ปรากฏแก่ชาวโลกได้

และในบรรดาธรรมทั้งหลายนั้น พระนิพพานได้ชื่อว่ายอดแห่งธรรม
ก็มีพระนิพพานอันเป็นยอดแห่งธรรมมีจริง เพราะตนได้ประสบพบเห็นด้วยตนเองดังนี้แล้ว
เหตุไฉนธรรมทั้งหลายที่พระองค์ตรัสเอาไว้จะไม่มีจริงเล่า

พระอริยสงฆ์สาวกแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็มีอยู่จริงๆ
เพราะการที่จะได้เป็นพระอริยสาวกก็โดยอาศัยการได้ลิ้มรสอมตธรรมคือพระนิพพาน
ตนเองก็ได้ลิ้มรสพระนิพพานแล้วเหมือนกัน

ฉะนั้นความสงสัยในพระอริยสงฆ์ก็เป็นอันหมดสิ้นไปด้วย                              {:5_119:}

หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: สุขที่แท้จริง