ิbababorbor โพสต์ 2011-10-24 23:10:58

วิญญาณมนุษย์เมื่อต้องหลุดออกจากร่างกะทันหันและไม่มีที่ไปนั้น



       



                                        ข้าพเจ้าเป็นคนกลัวผี ถึงกลัวผีมากที่สุด แต่หากจะถามว่า เชื่อเรื่องผีหรือไม่ ต้องขอบอกว่า พยายามจะหลอกลวงตนเองอยู่ว่า ไม่เชื่อ การที่ข้าพเจ้าไม่คิดเชื่อนั่นเพราะว่ากลัว ประกอบกับการที่ข้าพเจ้าเองมิเคยเจอเข้าจังๆแก่สายตามาก่อนนั่นเอง



                                    ข้าพเจ้ามีเพื่อนเสียหลายๆคนในคราเดียว ไม่ใช่ มีคนเดียวในหลายๆครา อย่างที่ คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจ แลประกอบกับว่าเป็นคนนิยมความเพ้อเจ้อเป็นนิสัย จึงเป็นนิสัยอันดีที่จะเอาหูไปไพล่ฟังเรื่องราวอะไรต่อมิอะไรมาเสียเรื่อยเปื่อย หลายคนติดใจ บางทีก็ถึงแก่โทรศัพท์มาหาเพื่อนเล่าให้ฟังทีละคราหนึ่งหลายๆเรื่องทีเดียว

                                     ยกตัวอย่างก็เรื่องผีสางอะไรนี่ล่ะเมื่อหลายวันก่อน เพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่งที่บวชเรียนมาหลายต่อหลายพรรษาปี ก็ติดต่อมาหาข้าพเจ้าโดยทางโทรศัพท์ ภายหลังเกริ่นนำด้วยสารทุกข์สุขดิบกันพอควร ก็มีโอกาสมาเข้าเรื่องว่า ข้าพเจ้านั้นเชื่อเรื่องผีหรือไม่ ข้าพเจ้าบอกว่า ไม่เชื่อ เหตุที่ไม่เชื่อคือ หวาดกลัว พร้อมด้วยความไม่อยากเจอ จึงไม่เชื่อว่ามันมีอยู่ ของที่ไม่มีอยู่ ข้าพเจ้าก็จะไม่มีวันไปเจอเข้าเป็นแน่ๆ ดังนั้นแล้วเพื่อนรุ่นพี่ท่านนี้ ที่ ข้าพเจ้าแลใครๆต่อใครๆ เรียกว่าพี่มหา ก็ พูดทำนอง เรียบๆ ตามน้ำเสียงออกจะเฉยๆของแกว่า ตัวของเขานั้นได้ประสบพบเข้ากับปีศาจผีสางมาเสียล่ะมั้ง   ว่าถึงอย่างนี้ คนปอดแหกปอดลอย ตามแต่จะเป็นเรื่องปอดๆอย่างข้าพเจ้าก็ รู้สึกใจหาย เพราะว่าความทรงจำเกี่ยวแก่การพูดเพ้อเจ้อโกหกของรุ่นพี่ท่านนี้นั้นแทบจะไม่มีเลยดังนั้นแล้ว เรื่องผีที่ข้าพเจ้าโกหกตนเองว่าไม่มีนั้นท่าทางจะมีขึ้นมาเสียจริงๆจังๆ



                                 จากการเล่ามา พี่มหาได้มีธุระ ต้องเดินทางกลับภูมิลำนำ ที่จังหวัดนครพนม ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเรือนนอนเมื่อวัยเด็กของข้าพเจ้าด้วย ดังนั้นแล้วการเท้าความก็มิได้มีอะไรมาก เพียงแต่บอกกล่าวว่าเมื่อได้เดินทางผ่านไปบริเวณแถว อำเภอกุสุมาลย์ พี่มหาก็ได้ พบเข้ากับ สิ่งที่น่าแปลกประหลาด นั่นคือ เมื่อได้เดินทางไปตามทางหลวงที่ค่อนข้างเงียบสงัดนั้น ได้บังเกิดว่า มีคนมาแลดูอยู่ด้านข้าง เพียงแต่ว่าพี่มหานั้นเป็นคนที่ประสาทค่อนข้างจะเข้มแข็งกว่าคนเล่าจึงได้เพียงแต่เหลียวไปมองเท่านั้น ในนอกหน้าต่างนั้น พี่มหาได้แลเห็นควันสีขาว คล้ายผ้าโปร่งบาง ลอยละล่องตามรถมา ด้วยความสงสัยจึงได้จอดรถแล้วลงไปดู ให้เห็นแก่สายตาว่าเป็นอย่างไรกันแน่ สิ่งนั้นหยุดนิ่ง ก่อนจะลอยวุบหายเข้าไปในราวป่า พี่มหาบอกกับข้าพเจ้าว่า หยุดคิดเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะได้กลิ่นไม่สู้ดีลอยโชยมา ด้วยความเอะใจจึงเดินไปดูตามทางก่อนจะเจอเข้ากับ ขาข้างหนึ่ง มีเพียงขาเท่านั้น ตั้งแต่หัวเข่าลงมา ขาดอยู่และเป็นสีม่วงคล้ำ มีแมลงวันตอม เห็นจะหลายวัน ดังนั้น เมื่อพบจึงเอาเศษผ้ามาทำเครื่องหมายก่อนจะเดินทางต่อเพื่อไปแจ้งแก่ อำเภอแถวนั้นให้มาตรวจสอบดุ ก็อย่างที่คิด บริเวณนี้เพิ่งจะมีอุบัติเหตุ รถบรรทุกบวกมอเตอร์ไซน์มาเมื่อสามวันก่อน มีคนเสียชีวิตหนึ่งคนเป็นคนของอำเภอ และดูเหมือนว่าจะรีบร้อนเก็บ ก็เก็บไม่หมด ขึงเหลือเพียงขาที่ยังอยู่ที่นั้น



            และเรื่องที่เล่ามาน่าจะเป็นการบอกได้ว่า วิญญาณมนุษย์เมื่อต้องหลุดออกจากร่างกะทันหันและไม่มีที่ไปนั้น ก็ยังคงอยู่ ณ บริเวณที่ประสบอุบัติเหตุ ไม่ไกลจากนั้นเท่าไหร่ ตามรูปพลังงานที่มีอยู่ดังที่ว่าเห็นจะสรุปเท่านี้นั้น ไม่มีอย่างอื่นอีก แต่มันก็ยิ่งทำให้ข้าพเจ้านั้น ที่เป็นโรคปอด ยิ่งอาการหนักขึ้นไปกันใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงมิได้อย่างที่ว่า

เครดิต เด็กดีดอทคอม

vera โพสต์ 2011-11-28 08:31:29

ขอบคุณมากๆคับ

vera โพสต์ 2011-11-28 08:33:19

ขอบคุณมากๆคับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: วิญญาณมนุษย์เมื่อต้องหลุดออกจากร่างกะทันหันและไม่มีที่ไปนั้น