tanya โพสต์ 2011-11-12 12:54:17

ย้อนรอยซาวน่าเกย์ (Copy)

ย้อนรอยซาวน่าเกย์(Copy) “ซาวน่าเกย์” เป็นสถานที่พบปะสำหรับชาวเกย์ทุกรูปแบบ
ทุกช่วงอายุ ตั้งแต่วัยรุ่น (อายุ 20 ปีขึ้นไป)
จนถึงผู้ใหญ่วัยผมขาว (ถ้ายังไปไหว)
โดยแต่ละที่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกแตกต่างกันออกไป



พื้นๆที่ต้องมีเหมือนกันหมดเพื่อให้เรียกได้ว่าเป็นซาวน่าคือ
ห้องอาบน้ำ (บางแห่งเป็นแบบอาบน้ำเปิดโล่งรวมกัน) ห้องอบซาวน่า (อบแห้งแบบถ่านไฟ)
อบไอน้ำ (Stream) ห้องออกกำลังกาย
(Fitness) ห้องพักผ่อนที่ซอยเป็นห้องๆหรือที่เรียกกันว่าห้อง
Work นอกนั้นก็แล้วแต่ละสถานที่จะครีเอทเพื่อสร้างจุดเด่นและดึงดูดลูกค้ากันเอาเอง
เช่น ห้องคาราโอเกะ ห้องมืด (เขาวงกต) ห้องดูวิดีโอ ห้องเจาะรู ห้องทะลุถึงกัน
ห้องกรงเหล็กที่ลอดเข้าไปได้เฉพาะคนหุ่นดีเท่านั้น บาร์เหล้า ห้องอาหาร
หรือบางแห่งที่สถานที่กว้างขวางหน่อยก็อาจจะมีบ่อน้ำวนจากุซซี สระว่ายน้ำ
หรือดิสโก้เธคขนาดย่อมอยู่ในนั้นเลยทีเดียว



ย้อนหลังไปสัก 20 กว่าปี
ซาวน่าเกย์ไม่มีมากมายเป็นดอกเห็ดเหมือนตอนนี้
ซาวน่าเกย์เจ้าแรกของกรุงเทพฯและของประเทศไทยคือ จีจีซาวน่า ถนนสุโขทัย เขตดุสิต
ตอนนั้นใช้ชื่อว่า ศูนย์สุขภาพสีเทา นักเที่ยวเป็นคนวัยทำงานซะส่วนใหญ่
เพราะเด็กวัยรุ่นยังไม่รู้จักซาวน่าและไม่เป็นที่นิยมเหมือนสมัยนี้
ถัดมาอีกไม่กี่ปีก็เกิดบาบิลอนซาวน่าขึ้นที่ซอยนันทา สาทรซอย 1 ซึ่งเป็นซาวน่าแห่งแรกที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักเที่ยวระดับไฮโซ
เพราะตั้งอยู่ใกล้กับสีลม สถานที่โอ่โถง สวยงาม กว้างขวางระดับโรงแรม 3 ดาว จึงทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
ค่าเข้าใช้บริการในตอนนั้นประมาณ 200-220 บาท
ซึ่งเป็นค่าเข้าใช้บริการในระดับสูงสำหรับกลุ่มวัยรุ่น
จึงทำให้มีแต่ชาวต่างชาติและคนไทยวัยทำงานเข้าไปเที่ยวกันอย่างมากมาย



ในยุคนั้นเอ่ยชื่อบาบิลอนซาวน่าแล้วไม่มีใครไม่รู้จัก
ผมจำได้ว่าตอนที่ผมอายุ 20 รู้จักกับพี่ๆหลายคนที่เขาสนิทกับเจ้าของบาบิลอนซาวน่า
และจะเข้าไปกินข้าวด้วยกันบ่อยๆเพราะที่ห้องอาหารของบาบิลอนซาวน่าจะขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่อร่อยมาก
มีเมนูแปลกๆเทียบเท่าโรงแรมชื่อดัง พี่ๆพวกนั้นจึงชวนผมเข้าไปดู
บอกว่าจะแนะนำให้รู้จักซาวน่า เข้าซาวน่าครั้งแรกรู้สึกตื่นเต้นมาก
เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
พี่คนหนึ่งจูงมือผมเดินเข้าไปสำรวจตามซอกมุมต่างๆ แนะนำให้รู้ว่าอะไรคืออะไร
ความรู้สึกครั้งแรกที่ผมได้เข้าไปเห็นก็คือ รู้สึกสังเวชใจอย่างบอกไม่ถูก
(ในตอนนั้น) เพราะจะมีคนยืนอยู่ตามซอกมุมต่างๆเต็มไปหมด
เมื่อได้คู่แล้วก็จะจูงมือกันเข้าห้อง คนข้างนอกที่ไม่มีคู่ก็ยืนรอ (อ่อย)
กันต่อไป ผมรู้สึกกับคนที่ยืนรอนั้นเหมือนยืนรอขอส่วนบุญอะไรก็ไม่รู้
เดินดูทั่วบริเวณสักพักก็ทานข้าวและกลับบ้าน



พอโตเป็นหนุ่มขึ้นมาหน่อย
มีเพื่อนฝูงมากขึ้น บาบิลอนก็กลายเป็นสถานที่นัดพบของผมกับเพื่อนๆบ่อยขึ้น
จากที่เคยมองคนที่ยืนรอกันอยู่แบบน่าสังเวชก็เข้าใจอะไรมากขึ้น
ว่านั่นคือความสุขและการสร้างเสน่ห์ของพวกเขาที่จะแสดงเรือนร่างอวดกันอย่างภาคภูมิใจ
บางคนไปหาคู่ บางคนก็จูงมือเพื่อนไปแอบดูเขาอย่างสนุกสนาน
บาบิลอนซาวน่าจึงเปรียบเสมือนบ้านที่อบอุ่นของชาวเกย์ในโลกตะวันตกกับโลกตะวันออกมาบรรจบกันอย่างลงตัว



ต่อจากนั้นก็เริ่มมีซาวน่าเล็กๆเปิดตัวตามมาอีกหลายแห่ง
เช่น โอโตโกะซาวน่า ย่านสีลม ที่เรียกได้เป็นซาวน่า 100% เพราะลอกแบบซาวน่าจากประเทศญี่ปุ่นมาเป๊ะ
ทุกอย่างตกแต่งเป็นไม้ทั้งหมด Heaven ซาวน่าเล็กๆที่ตั้งอยู่บนชั้น
4 ตึกวอร์เนอร์ ถนนมเหสักข์ มองเห็นวิวสีลมได้รอบด้าน
และที่ยิ่งใหญ่สุดสามารถล้มแชมป์อย่างบาบิลอนซาวน่าได้ก็คือ ดิโอบีลีส (The
Obelisk) ซอยเอกมัย ที่เนรมิตตึก 11 ชั้นให้เป็นพื้นที่ของซาวน่าทั้งหมด
(เรียกกันติดปากว่า 11 ชั้น) มีลิฟท์ให้บริการ
ชั้นดาดฟ้าทำเป็นสระน้ำอุ่นจากุซซี ห้องอบไอน้ำ และที่นั่งชมวิว
ทำให้โอบีลิสกลายเป็นซาวน่ายอดนิยมของชาวเอเชียและคนไทยที่ไม่ชอบฝรั่ง
แต่เปิดอยู่ได้ไม่ถึง 10 ปีโอบีลีสก็ต้องปิดตัวลง
สาเหตุจากข่าววงในว่าถูกโจมตีจากการปล่อยข่าวทางอินเทอร์เน็ตของคู่แข่งหลายแห่ง
หาว่ามีคนเจอผีหลายครั้งในโอบีลีส
เจ้าของซึ่งเป็นนักธุรกิจค้าเพชรพลอยก็เลยไม่อยากทำต่อ ปิดซะเลย
ทุกวันนี้พอพูดเรื่องซาวน่าทีไร หลายคนยังอดกล่าวถึงโอบีลีสไม่ได้



หลายปีที่ผ่านมาซาวน่าเกย์ตกเป็นเป้าหมายของการจัดระเบียบสังคม
โดยเฉพาะในรัฐบาลของท่านปุระชัยซาวน่าถูกตำรวจบุกเข้าไปตรวจค้น จับกุม
และยัดเยียดข้อกล่าวหามีการซื้อขายบริการทางเพศอยู่หลายแห่ง
จนนักเที่ยวหดหายเพราะไม่อยากปรากฏตัวบนภาพข่าวในสภาพเกือบเปลือยกาย
ทั้งที่พวกเราเหล่านั้นไม่ได้ทำอะไรผิด
และการถูกจับกุมหรือถูกตรวจค้นในซาวน่านั้นเป็นเหมือนความอัปยศอดสูของการเปิดเผยตัวตนในที่ที่พวกเขาคิดว่าเป็นบ้านที่ปลอดภัยที่สุด



ถ้าคิดอย่างไม่มีอคติทางเพศ
เป็นธรรมดาของผู้ชายที่ต้องมีการผ่อนคลายในสถานอาบอบนวด
ก็คงไม่มีอะไรแปลกที่พวกเกย์จะผ่อนคลายในซาวน่า แต่เพราะเป็น “ซาวน่าเกย์” คนภายนอกจึงคิดภาพไว้ก่อนว่าสกปรกและเป็นแหล่งมั่วสุมทางเพศ
โดยไม่เคยได้มีโอกาสเข้าไปเห็นสภาพภายในที่แท้จริง
จึงถูกปิดหูปิดตาด้วยอคติทางเพศเหมือนเช่นทุกวันนี้



ที่มา :
นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 6 ฉบับ 303 วันที่ 19-25 มีนาคม
พ.ศ. 2554 หน้า 41 คอลัมน์ Rainbow
Society โดย ชายกลาง

ธรรม โพสต์ 2011-11-12 16:27:12

ขอบคุณมากนะครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ย้อนรอยซาวน่าเกย์ (Copy)