เลือกกางเกงในให้เหมาะกับคุณ
เลือกกางเกงในให้เหมาะกับคุณกางเกงในอาจจะเป็นสิ่งที่หนุ่มๆ หลายคนมองข้ามปล่อยให้เก่า ย้วย ยางยืดเป็นขอบชีส หรือบางครั้งซื้อมาใส่ไม่พอดีตัวเนื้อผ้าใส่ไม่สบายก็เลยไม่ใส่มันซะเลย ถึงจะชื่อว่ากางเกงในคิดว่ามันอยู่แต่ข้างใน ใช่ว่าจะไม่มีใครเห็นนะวันนี้ “บางกอก ทูเดย์” จะมาแนะนำกางเกงในที่ออกแบบให้เหมาะกับสรีระของหนุ่มกันหลายๆ คนคงคุ้นหูกับชื่อช่างภาพ ใหญ่ อมาตย์ นิมิตภาคย์ช่างภาพแฟชั่นซี่งหันมาออกแบบกางเกงในชาย ใช้ชื่อแบรนด์ว่า Amat
หนุ่มๆหลายคนที่ได้ลองใส่แล้วก็ยืนยันว่า เนื้อผ้าใส่สบาย แนบเนื้อแต่ไม่รัดดีไซน์เรียบ-สวย ทำให้รู้สึกเซ็กซี่ มั่นใจ หนุ่มๆ เดี๋ยวนี้ก็แต่งตัวเก่งใส่กางเกงเอวต่ำบ้าง กางเกงเดฟบ้าง บางทีกางเกงในมันก็โผล่ออกมาให้เห็นก็ลองหากางเกงในแบรนด์นี้มาใส่ดู มีให้เลือกทุกสไตล์ มีตั้งแต่ บ๊อกเซอร์ จนถึงจีสตริง
หลากหลายคำถามเกี่ยวกับน้องชายคนเล็กหรือใครจะเถียงว่าเป็นพี่ชายคนโตก็ไม่ว่ากันแต่ที่สำคัญเหนือกว่านั้นคือเมื่อน้องชายของบรรดาหนุ่มๆ มีปัญหาเขากลับไม่รู้จะดูแลรักษา ปัดเป่าข้อสงสัยของตัวเองอย่างไร จะถามแฟนก็อายจะถามเพื่อนก็ไม่กล้า เดี๋ยวจะหาว่าไม่เจ๋งจริง แต่หากได้สารพัดวิธีแก้ปัญหามาผิดๆก็อาจขำไม่ออกได้เหมือนกัน ทางออกที่ดีที่สุดจึงแนะนำให้ขอคำปรึกษาจากแพทย์จะดีกว่า
ในงานสัมมนา เรื่อง “อยากจู้ฮุกกรู เลือก บริฟส์ จีสตริงหรือบ็อกเซอร์” เพื่อให้คำตอบเกี่ยวกับสารพัดกางเกงชั้นในของคุณผู้ชายที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ามีมากมายหลายแล้ว พร้อมทั้งให้คำแนะนำว่า
หนุ่มๆควรเลือกใส่ชั้นในแบบไหนถึงจะดีต่อสุขภาพมากที่สุด
อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันคงต้องแนะนำให้รู้จักกางเกงในของคุณผู้ชายกันก่อนว่ามีแบบไหนบ้าง
สำหรับแบบแรกที่มีชื่อว่า“บริฟส์” (เรียก ให้งงไปอย่างนั้น) บริฟส์ ก็คือกางเกงชั้นในชายยอดนิยมตลอดกาลหรือกางเกงในสามัญประจำบ้าน ที่ส่วนใหญ่หนุ่มน้อยไม่น้อยใส่กันเป็นประจำนั่นแหละ อาจจะแตกต่างกันบ้างที่ขอบกางเกงชั้นในซึ่งก็แล้วแต่ใครจะเลือกซื้อหา หรือไม่ทันสมัยหน่อยก็เลือกแบบที่มีสีสันลานตามาใช้
ชั้นในชายแบบที่ 2 “จี สตริง” นับเป็นกางเกงในสุดสยิวหรือที่เรียกว่า กางเกงในสายเดี่ยวซึ่งไม่ได้สงวนไว้สำหรับสาวๆ เท่านั้น ใครจะรู้เดี๋ยวนี้ผู้ชายก็เริ่มหันมาใส่จีสตริงเพิ่มขึ้นเพื่อเรียกคะแนนความเซ็กซี่แหมฟังแล้วอาจขนลุก อย่าเพิ่งปฏิเสธ รู้นะว่าบางอารมณ์ก็อยากลองหยิบกางเกงในแบบนี้มาลองใส่อยู่เหมือนกัน
สำหรับกางเกงชั้นในแบบสุดท้าย “บ็อกเซอร์”แบบคล้ายๆ กางเกงมวย บางแบบคล้ายกางเกงในเต็มตัว แต่ขากางเกงยาวกว่าและมีกระดุมอยู่ข้างหน้า กางเกงในแบบนี้วัยรุ่นผู้นิยมกางเกงเอวต่ำรู้จักดีและกลายเป็นแฟชั่นสุดฮิตไปเสียแล้ว กางเกงยิ่งเอวต่ำยิ่งต้องอวดลวดลายกางเกรงในหลากสีหลายสันส่วนใหญ่มักใส่กับกางเกงยีนส์หรือใส่นอน
เมื่อรู้จักกางเกงในแบบต่างๆเป็นอย่างดีแล้ว คราวนี้ก็ถึงทีคุณหมอ มาช่วยไขปัญหากางเกงในชายเพื่อสุขภาพทางเพศที่ดี โดย น.พ.วุฒิพันธ์ ศุภจัตุรัสแผนกสร้างเสริมสุขภาพ ประกันสังคม โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 บอกว่า กางเกงชั้นในทุกแบบต่างมีข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวของมันเองขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกใส่อย่างไร เหมาะกับลักษณะการดำเนินชีวิตของเราหรือไม่
อย่างถ้าทำงานในห้องแอร์นั่งเก้าอี้ทั้งวัน เป็นหนุ่มออฟฟิศ นอกจากกางเกงชั้นในทั่วๆ ไปแล้วหากวันไหนจะเลือกใส่ “บ็อกเซอร์”หรือ “จีสตริง” ก็ไม่มีข้อห้ามอย่างใดในทางกลับกัน หากงานที่ทำอยู่เป็นงานกลางแจ้ง ต้องเดินไปนู้นมานี่บ่อยๆกางเกงชั้นในแบบจีสตริงคงไม่เหมาะแน่ๆ เพราะ อาจทำให้เกิดการเสียดสีจนเป็นแผลได้ส่วนบ็อกเซอร์ซึ่งค่อนข้างเป็นกางเกงชั้นในที่โปร่งโล่ง การต้องเดินมากๆอาจทำให้ผู้ใส่รู้สึกไม่สะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ เหมือนกัน ที่สำคัญคือควรเลือกกางเกงชั้นในชายที่เหมาะกับอากาศร้อนชื้นของเมืองไทย ระบายง่ายไม่หนาจนเกินไป
แล้วรู้บ้างหรือไม่ว่าชั้นในชายก็ส่งผลต่อการปั้มลูกในสนามรักด้วยเหมือนกันเรื่องนี้ น.พ.วุฒิพันธ์ บอกว่าเราควรเลือกกางเกงในให้เหมาะกับขนาดซึ่งมีหลายไซส์ไม่ว่าจะ M, L, XL โดยไม่ควรฟิตหรือรัดแน่นจนเกินไปและแม้ว่ากางเกงชั้นในจะไม่ถึงขนาดทำให้เป็นหมัน แต่กางเกงในรัดๆก็จะไปทำให้อุณหภูมิในถุงอัณฑะซึ่งผลิตเชื้ออสุจิสูงขึ้น
ทั้งนี้อุณหภูมิที่เหมาะสมในการผลิตอสุจิอยู่ที่ 36องศาเซลเซียส การที่อุณหภูมิสูงเกินไปจึงอาจส่งผลต่อคุณภาพของเชื้ออสุจิ เช่น มีจำนวนอสุจิน้อย หรือไม่แข็งแรงนอกจากนั้นอาจทำให้มีเหงื่อออกมาก ทำให้เป็นเชื้อราในร่มผ้าได้ดังนั้นการใส่กางเกงชั้นในชนิดเบาสบายไม่รัดแน่น แค่ประคองเอาไว้ก็น่าจะพอแล้ว
ส่วนบางกิจกรรมเช่นการออกกำลังกายจะเลือกใส่กางเกงในแบบรัดแน่นก็จะทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้น แต่ก็ไม่ควรใส่นานๆเพราะอาจจะร้อนอับชื้นจนเป็นเชื้อราในร่มผ้าได้เช่นกันที่น่าเป็นห่วงคือขอบยางกางเกงใน ซึ่งไม่ควรรัดแน่นเกินไปเพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
นอกจากเชื้อราในร่มผ้าแล้วอีกโรคที่คนมักเข้าใจผิดกันมากว่าเกิดจากการไม่ใส่ชั้นใน คือ “โรคไส้เลื่อน”
น.พ.วุฒิพันธ์อธิบายว่า ไส้เลื่อนมีสาเหตุมาจากการที่ผนังบุช่องท้องมีความอ่อนแอและความดันภายในช่องท้องดันเอาลำไส้ออกมาตรงตำแหน่งที่ผนังบุช่องท้องที่อ่อนแอนั้น โดยตำแหน่งของไส้เลื่อนที่พบได้บ่อย ได้แก่ บริเวณขาหนีบและบริเวณลูกอัณฑะ บางครั้งเมื่อมีลำไส้เคลื่อนตามออกมาลำไส้ก็อาจเคลื่อนกลับเข้าไปในช่องท้องได้ซึ่งจะไม่มีอาการอะไรถ้าหากลำไส้ที่เคลื่อนออกมาแล้วกลับเข้าไปในช่องท้องไม่ได้ จะทำให้รู้สึกหน่วงๆเวลายืนหรือเดิน ถ้าเกิดเป็นเวลานานๆลำไส้ที่เคลื่อนออกมาขาดเลือดมาเลี้ยงจะทำให้ลำไส้ตายและเน่าได้จะก่อให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงได้
“การเป็นไส้เลื่อนจึงไม่เกี่ยวกับการใส่หรือไม่ใส่กางเกงชั้นในหรือการใส่กางเกงในแบบรัดรูปแน่นๆ ก็ไม่ได้ป้องกันไม่ให้เกิดไส้เลื่อนเพียงแต่ถ้าเป็นไส้เลื่อนอยู่ การใส่กางเกงในอาจช่วยพยุงไม่ให้เป็นไส้เลื่อนหนักขึ้นจนเกิดอันตราย”
ส่วนข้อสงสัยอย่างเวลาใส่กางเกงในแล้วชี้ขึ้นข้างบนหรือชี้ลงข้างล่างนั้นไม่เกี่ยวข้องกับสรรถภาพทางเพศ แล้วแต่ถนัดจะเก็บแบบไหนก็ได้ส่วนการที่ผู้ชายชอบนั่งไขว่ห้าง จะเสี่ยงต่อการเป็นหมันนั่นก็ไม่ต้องกังวลเพราะยังไม่มีผลวิจัยใดยืนยันเช่นนั้น
นอกจากนี้การเลือกชุดชั้นในชายให้เหมาะสมอย่างเดียวคงไม่เพียงพอต่อสุขภาพทางเพศ น.พ.วุฒิพันธ์ จึงจะลงลึกถึงวิธีการทำความสะอาดน้องชายว่าจริงๆ แล้วของลับของหวงของผู้ชายไม่ซ่อนเร้นลึกลับเหมือนกับจุดซ้อนเร้นของผู้หญิงการทำความสะอาดจึงง่ายไม่ยุ่งยาก อาจใช้แค่น้ำธรรมดาก็พอแล้วเพียงแต่ต้องทำความสะอาดบริเวณหนังหุ้มปลายให้หมดจด ซึ่งคราบไคลอาจตกค้างอยู่ภายในเพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมมจนเกิดกลิ่นแต่ถ้าเป็นคนที่มีเหงื่อไคลมากและมีกลิ่นจากส่วนนั้นมากเป็นพิเศษแล้วก็ควรจะใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเหมือนกันเพื่อกลิ่นที่สะอาดและนุ่มนวลกว่านั่นเอง
ที่มา bangkok-today
ได้ความรู้ดีครับขอบคุณ ขอบคุงมากๆ จ้าาา{:5_135:}
หน้า:
[1]