frankky-frankky โพสต์ 2011-11-29 16:03:59

ห้องสีชมพู (เรื่องนี้น่กลัวที่สุด)

ห้องสีชมพูตำนานอันลือลั่นของเด็กใหม่ปี
1 ทุกคน
โดยเฉพาะนศ.หญิงที่จะต้องพักที่หอ 8
โดยรุ่นพี่ที่เคยอยู่หอนี่จะบอกและย้ำเสมอว่า
เวลาจะเข้าห้องน้ำต้องเอาเพื่อนไปด้วยเสมอ
ห้ามลืมเด็ดขาด!!
นี่คือคำเตือนของรุ่นพี่ประจำหอ ที่เพื่อนผมได้ฟังตอนปีหนึ่ง
แล้วรุ่นพี่อีกคนก็เล่าให้ฟังเกี่ยวกับประวัติของห้องสีชมพูนี้

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วปี
32 ของนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง
ซึ่งประเพณีหรือเรียกว่ากฏของ มช.คือเด็กปีหนึ่งทุกคนต้องอยู่หอใน
เพื่อที่เวลาพี่เรียกมาทำกิจกรรมรับน้องจะได้พร้อมกันอย่างรวดเร็ว
ส่วนคนที่อยู่เชียงใหม่ส่วนมากจะกลับบ้านเย็นวันศุกร์(ถ้าวันเสาร์รุ่นพี่ไม่นัด)กลับเข้าหอก่อนเย็นวันอาทิตย์
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อรุ่นพี่ต่างคณะเกิดมาชอบนศ.หญิงน้องใหม่คนหนึ่ง
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นับวันยิ่งดูรักกันมากขึ้นทุกวันจนมาถึงกลางเทอม
รุ่นพี่คนนี้เลยชวนนศ.หญิงไปอยู่ด้วยกันที่หอหลังมช.
ทุกเย็นวันศุกร์หน้าหอ 8 จะมีรุ่นพี่คนนี้มาจอดรถรอนศ.หญิงคนนี้ทุกครั้ง
และจะมาส่งตอนเย็นวันอาทิตย์ทุกครั้ง
เป็นไปอย่างนี้เกือบจะ 5 เดือนจนเป็นที่อิจฉาของเหล่านศ.หญิงที่หอนั้น
ใครเห็นก็ต่างพูดแซวอยู่ตลอดเวลา ทำให้นศ.หญิงรู้สึกดีใจและรักรุ่นพี่คนนี้
มาก
แต่ต่างกันรุ่นพี่คนนี้เริ่มที่จะตีตัวออกห่าง
เพราะรู้สึกว่านศ.หญิงคนนี้
เริ่มที่จะจริงจังกับตนเองมากเกินไป
แล้ววันที่นศ.สาวคนนี้เสียใจที่สุดและได้สร้างตำนานอันลือลั่นก็มาถึง
เย็นวันศุกร์ที่รุ่นพี่จะต้องมารับเป็นประจำทุกครั้ง..แต่วันนี้รุ่นพี่มาถึงก็ดึกมากแล้ว
นศ.หญิงเลยถามว่าทำไมมาดึกซึ่งหลายคนก็บอกว่าเพราะรุ่นพี่คนนั้นไปติดพันธ์หญิงอีกคนอยู่
นศ.หญิงคนนี้ได้ยินแล้วก็เก็บไว้ในใจตลอดไม่กล้าที่จะถามเพราะกลัวเสียคนรักไป
และเธอก็บอกกับรุ่นพี่คนนี้ว่ามีเรื่องที่จะพูดด้วย
เป็นเรื่องสำคัญมาก
รุ่นพี่คนนี้ก็บอกให้ไปคุยกันที่หอหญิงสาวคนนี้ก็เลยซ้อนรถไปแล้วก็คุยขณะที่ซ้อนรถอยู่
บอกว่าตนเองตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือนแล้วพอได้ยินแค่นั้นรุ่นพี่คนนี้ก็จอดรถทันที
แล้วก็ถามย้ำว่าเมื่อกี้พูดว่าอะไร หญิงสาวเลยย้ำไปว่าตังครรภ์ได้
3 เดือนแล้ว
รุ่นพี่คนนี้ไม่รับผิดชอบหาว่า หญิงสาวนอกใจไปคบชายอื่น
พอท้องแล้วจึงมาอ้างว่าตนเป็นคนทำ
รุ่นพี่คนนี้ขอบอกเลิกเธอในทันที
และปล่อยให้เธอเดินจากหลัง มช.กลับมาที่หอตามลำพัง
ระหว่างทางหญิงสาวก็คิดเรื่องที่เกิดขึ้น
ทั้งความรู้สึกเสียใจปนความเคียดแค้นต่อชายหนุ่มที่ทิ้งเธอไป
บวกกับกลัวทางบ้านจะรู้ความจริงและทำให้พ่อแม่ผิดหวัง
ทำให้เธอตัดสินใจเอาเด็กออก
แต่เธอไม่กล้าพอที่จะไปที่โรงพยาบาลหรือบอกให้ใครทราบ
พอมาถึงห้องเมทไม่อยู่เพราะกลับบ้านกันหมด
เธอเลยเอาเด็กออกด้วยตัวเอง โดยการเอาไม้บรรทัดเหล็กกระทุ้งจนมดลูกฉีกเธอทำไปโดยไม่รู้วิธีการที่ถูก
ต้อง ทำให้เธอเกิดอาการตกเลือดอย่างรุนแรง
ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเธอได้เขียนข้อความไว้บนกำแพงห้องนั้นว่า
'กุ มี มื.ง คนเดียว'
วันรุ่งขึ้นเมทร่วมห้องก็เข้ามาที่หอด้วยท่าทีวิตกกังวล
และได้ไปที่ห้องพักที่เธอได้พักกับหญิงสาวคนนี้
ก็ได้พบกับศพของหญิงสาว รอยเลือดกระจัดกระจายและข้อความบนกำแพงจึงแจ้งให้ป้าผู้คุมหอทราบ
ก็ได้มีการสอบสวนเมทคนนี้ว่ารู้ได้อย่างไรว่าเพื่อนเสียชีวิต
เมทคนนี้ก็บอกว่าเมื่อคืนฝันเห้นเพื่อนมาบอกลา
และให้ไปเอาศพที่ห้องลงมาด้วย
แถมยังฝากบอกป้าคุมหออีกว่า ห้ามใครก็ตามมายุ่งกับห้องของเธอ
หลังจากจัดการเรื่องศพและงานศพเรียบร้อยแล้วน้นก็ได้มีการทำความสะอาด
ห้องนั้นโดยใช้ผ้าชุดน้ำเช็ดรอยเลือดให้สีจางลง
เปลี่ยนที่นอนและผ้าปูที่นอนใหม่จนห้องเกือบจะสะอาดเหมือนเดิม
แต่รุ่งขึ้นสิ่งที่ทำให้ทุกคนขนลุกก็คือ
ทั้งรอยเลือดและข้อความที่หญิงสาวคนนั้นทิ้งไว้ไม่ได้หายไป
แต่รอยเลือดกลับเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
ทางหอเลยพิจารณาเอาสีใหม่มาทาทับไม่ให้เห็นรอยเลือด
แต่แล้วพอวันรุ่งขึ้นรอยต่างๆก็กลับมาอยู่ดังเดิมเหมือนกับไม่ได้มีการนำสีมาทาแต่อย่างใด
ทางหอเลยได้เชิญพระที่วัดฝายหินมาทำพิธีแต่พระท่านบอกว่าทำพิธีไล่ไปคงไม่ได้เพราะวิญญาณนี้เฮี้ยนมาก
เพราะยังมีความอาฆาตและมีลูกในท้องอีกด้วย
เลยได้แต่ทำการสะกดวิญญาณไม่ให้ไปหลอกคนในหอ
หลังจากทำพิธ ีสะกดวิญญาณเรียบร้อยแล้ว
ทางหอก็ได้ทาสีห้องใหม่แต่คราวนี้ใช้สีชมพู
เพราะจะได้มองไม่เห็นคราบเลือดบนกำแพง
จนกลายมาเป็นตำนานห้องสีชมพูจนถึงเดี๋ยวนี้
ปัจจุบันนี้ผมไม่ทราบนะว่าห้องนั้นใช้ทำอะไรแต่ตอนที่เพื่อนผมอยู่ที่หอ
8 นั้นเพื่อนบอกว่าห้องนั้นใช้เป็นห้องเก็บของที่ไม่ใช่แล้ว
เพราะไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปได้แต่โยนๆของเข้าไปเท่านั้น
เพราะเคยมีแม่บ้านเข้าไปแล้วออกมาไม่ได้เพราะประตูถูกล็อค
ทั้งๆที่ลูกบิดและที่ล็อคห้องนั้นมันล็อคจากด้านใน
ส่วนเหตุการณ์ที่เพื่อนผมเจอนะ อยากรู้ไหมถ้ากล้าพอจะอ่านก็อ่านเลย
ห้องสีชมพูนี้จะอยู่ที่ชั้น 2 ของถ้ามองจากด้านหน้าหอ
8 หญิงจะอยู่ฝั่งซ้ายไม่แน่ใจว่าเป็นห้องเลขอะไร
ตอนนั้นทั้งแถบนั้นไม่มีนักศึกษาอยู่ใกล้ห้องนั้นแม้แต่คนเดียว
เพราะกลัวเกี่ยวกับประวัติห้องสีชมพูนั้นมาก

vera โพสต์ 2011-12-7 11:12:38

ขอบคุณมากๆคับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ห้องสีชมพู (เรื่องนี้น่กลัวที่สุด)