จ่ายเงินสำหรับกระทู้นี้
อีกสิบนาทีจะได้เวลาเลิกเรียนคิมเหลือบมองคนข้างตัวอย่างกระวนกระวายใจ เด็กหนุ่มถามเฝ้าแต่ตัวเองซ้ำไปซ้ำมา..
เอาไงดีวะ! จะบุกเลยตอนนี้ หรือจะต้องรอจนกว่าจะแข่งเสร็จ ..คงไม่ไหว..ถ้ารอไปอีกสองเดือนก็คงจะขาดใจตายกันพอดี...แต่..ถ้าให้ลงมือตอนนี้เจ้าตัวก็ยังลังเลใจ..เกิดผิดหวังขึ้นมาแล้วจะทนช้ำใจได้สักแค่ไหน จะยังมีแก่ใจซ้อมมวยได้อยู่อีกหรือเปล่า...
คิมสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีให้ตายเถอะ! ชกหน้าคนยังง่ายกว่าชวนใครไปออกเดทซะอีก แล้วคนที่อยากจะชวน ก็ดันเป็นผู้ชายเหมือนๆกันซะด้วย...
เอาวะ! ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้..เคยเจ็บมาเยอะ ช้ำใจแค่นี้มันคงไม่หนักหนาไปกว่าช้ำในซักเท่าไหร่หรอก..
คิมค่อยๆยื่นหน้าเข้าไปหาคนข้างตัว พูดตะกุกตะกัก
"แบ็งค์ ..เอ่อ..คือว่าเย็นนี้..เรา.."
แบ็งค์หันหน้ามามอง...ทันทีที่คิมสบตาคู่นั้น ความคิดในหัวก็กระเจิดกระเจิง ลืมไปหมดว่าจะพูดอะไรต่อ..
"ทำไม..มรึงมีอะไรเหรอ...?"แบ็งค์ถามงงๆเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไปเฉยๆคิมรีบส่ายหัวอยู่ๆก็เกิดอาการลิ้นแข็งขึ้นมากระทันหัน..อาจารย์ประจำวิชามองมาจากหน้าชั้นเรียนด้วยสายตาตำหนิ ทำให้แบ็งค์ต้องกลับไปตั้งใจเรียนเหมือนเดิม..
คิมอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะด้วยความเจ็บใจตัวเองมันไม่เหมือนชกมวยเลยสักนิดไม่มีโค้ชไม่มีพี่เลี้ยง ไม่รู้ว่าจังหวะไหนควรบุก และจังหวะไหนควรจะถอย..ทำได้แค่จดๆจ้องๆอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่มีปัญญาจะทำอะไรได้มากไปกว่านั้น
ทำไมวะ! เด็กหนุ่มร้องตะโกนอยู่ในใจทำไมแค่นี้ก็พูดไม่ออกทำไมไม่กล้าพอจะทำอย่างที่ใจอยาก...
ท้ายที่สุด เสียงออดก็ดังบอกขึ้นเป็นสัญญาณว่าเลิกเรียนคิมฉวยโอกาสนาทีสุดท้าย...คว้าปากกามาเขียนลงไปในสมุดที่กางอยู่ตรงหน้า..
"แบ็งค์ เย็นนี้เราไป..."
ข้อความถูกเขียนค้างไว้อย่างนั้นเมื่อเด็กสาวคนหนึ่งถลามาที่โต๊ะ พลางหัวเราะร่าเริง..
"แบ็งค์ เย็นนี้เราไปกินไอติมกันเถอะ นะ นะ.."
คนถูกชวนทำหน้ากระอักกระอ่วนใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเก้อๆ"จะดีเหรอแจน..เออ ตอนเย็นเราต้องรีบกลับบ้าน..."
"แหม..ไม่เห็นเป็นไรเลย แบ็งค์ช่วยติวเคมีให้เราตั้งหลายครั้ง เราก็อยากตอบแทนแบ็งค์บ้าง ไปเถอะนะ นะ.."
พูดไม่พูดเปล่า เธอยังรั้งแขนแบ็งค์ให้ออกเดินไปด้วยกัน อีกฝ่ายต้องจำยอมเดินไปด้วยเพื่อเป็นการรักษาน้ำใจ..ทิ้งคนตัวโตให้มองตามหลังไปจนสุดตา..
คิมก้มหน้าลงมองกระดาษที่เขียนค้างไว้... สมองว่างเปล่าเหมือนพึ่งโดนน็อคกลางอากาศอยู่ๆเจ้าตัวก็รู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งอกซ้ายจนแทบจะลงไปกองกับพื้น ..ใบหน้าคมเข้มก้มลงไปมองข้อความที่เขียนค้างไว้
คิมค่อยๆวางปากกาในมือลงบนกลางสมุดปากกาที่ไม่อาจใช้งานได้อีก .. เด็กหนุ่มหักมันเป็นสองท่อนด้วยมือข้างเดียวโดยไม่รู้ตัว..
คาบพักเที่ยง โรงอาหารคลาคล่ำไปด้วยผู้คนคิมนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่คนเดียวตามเคยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เกินกว่ารัศมีห้าเมตรรอบตัว ผลจากข่าวลือที่ว่า คิมเคยลุกมาต่อยคนที่นั่งกินข้าวข้างๆเพราะรำคาญที่คุยกันเสียงดัง..หลายคนมองมาทางคิมแล้วหันไปซุบซิบกัน แต่เด็กหนุ่มไม่แยแส แม้ว่าผู้คนจะถอยห่างราวกับเป็นโรคระบาดร้ายแรง...
แบ็งค์เดินมาวางถ้วยก๊วยเตี๋ยวตรงหน้าคิม ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตรงข้าม ตามองไปรอบตัวอย่างอัศจรรย์ใจผ่านไปเกือบเดือนแล้วก็ยังไม่ชินกับปรากฏการณ์นี้ซักที..เด็กหนุ่มมองคนตรงหน้าแล้วพูดขึ้นมาลอยๆ
"ตอนแรกกูนึกว่ามึงตรีนเหม็นซะอีกถึงไม่มีใครกล้ามานั่งใกล้ๆ"
คิมเงยหน้าขึ้นมาจากชามก๋วยเตี๋ยว ไม่ได้ยิ้ม แต่ก็ไม่มีท่าทีขุ่นเคือง เจ้าตัวทำท่าอึกอักอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะพูดด้วยเสียงห้าวต่ำ...
"ถ้าอึดอัด จะไปนั่งกับเพื่อนๆก็ได้นะ..." ทันทีที่พูดจบ ใบหน้าคมเข้มก็ชะงักไปชั่วขณะ ราวกับว่า ตัวเองกำลังทำผิดพลาดอะไรไปบางอย่าง
แบ็งค์ไม่ถือสา พูดกลั้วหัวเราะ"ที่กว้างหยั่งกะสนามฟุตบอลอึดอัดก็บ้าแล้ว.."
คิมก้มหน้ากินก๋วยเตี๋ยวเงียบๆ ด้วยท่าทางผ่อนคลายลงจนแบ็งค์สังเกตได้ หนุ่มน้อยค์ล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงหยิบคุกกี้ถุงเล็กๆขึ้นมาส่งให้คิม
"อ่ะ.. พอดีแม่กูหัดทำคุกกี้ กูเลยเอามาฝาก เผื่อจะท้องเสียด้วยกัน.."
คิมรับมาถือไว้ในมือ พูดด้วยน้ำเสียงขรึมๆในแบบของตัวเอง "ก็รู้ว่าไม่ชอบกินขนมหวาน จะเอามาฝากทำไมทุกวัน.."
แบ้งค์หัวเราะชี้ให้อีกฝ่ายดูหมาหิวโซตัวหนึ่งที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่ข้างโรงอาหาร...รอเศษอาหารจากคนใจดี
"มึงดูหมาตัวนั้นดิถ้ามึงให้ข้าวมันทุกวัน เดี๋ยวมันก็เชื่อง..กูก็เลยลองใช้วิธีนี้กับมึงดูบ้าง.."
"แล้วถ้าเกิดมันเชื่อง มึงจะทำยังไง..?"
"ไม่รู้เหมือนกัน เอากลับไปเลี้ยงที่บ้านมั้ง.." แบ็งค์ตอบไปเรื่อยๆไม่ทันสังเกตว่าคิมทำตะเกียบหลุดจากมือ..
แบ็งค์ถือโอกาสที่คิมทำท่าเก้ๆกังๆไปชั่วขณะ ใช้ตะเกียบคีบลูกชิ้นในถ้วยที่เจ้าตัวตั้งใจจะเก็บไว้กินท้ายสุดไปต่อหน้าต่อตา...
"ถามจริงๆเหอะคิมทำไมมึงถึงชอบมีเรื่องมีราวนักวะ.." แบ๊งค์พูดทั้งที่ยังเคี้ยวลูกชิ้นเต็มปาก
คิมจ้องตาหนุ่มน้อยตรงหน้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ "บางทีก็รำคาญคนกวนตีน.."
"กวนตีนยังไงล่ะ.."
"เช่น..แย่งลูกชิ้นในถ้วยก๋วยเตี๋ยวไปกิน.."คิมตอบหน้าตาเฉยแต่คำตอบเล่นเอาแบ็งค์สำลักจนเกือบตกเก้าอี้... สีหน้าของคิมยังคงเรียบเฉยอยู่อย่างเดิม..แต่ดวงตาคมกริบฉายแววรื่นรมย์ชัดเจน..
แบ็งค์ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม คนหน้าขรึมคีบลูกชิ้นในถ้วยก๋วยเตี๋ยวของตัวเองใส่ลงในถ้วยแบ็งค์จนหมดก่อนจะพูดห้วนๆตามเดิม "ไปก่อนนะวันนี้มีซ้อมตอนเที่ยง..."
แบ็งค์มองตามหลังผึ่งผายของอีกฝ่าย วันนี้เป็นวันแรกที่คิมทำลายสถิติด้วยการขยับปากพูดมากเป็นพิเศษที่สำคัญ คนตัวโตไม่ลืมหยิบถุงคุกกี้ติดมือไปด้วยเหมือนทุกคราว..
หัวใจเต้นแรง หน้าแดงทุกที ใช่เธอรึนี่ ที่คอยตลอดมา...
ควบคุมไม่อยู่ รู้เลยว่าตัวสั่น แค่เจอไม่นาน ถูกใจฉันเหลือเกิน...
เจอกันแล้ว..อย่าผ่านเลย ได้ไหม
ถ้าเสียเธอไปก็คงชอกช้ำ...
คิมถอดหูฟังออกก่อนจะเก็บไอพอดลงไปในเป้ใบเก่ง เด็กหนุ่มเดินเข้าไปในห้องพักนักกีฬาก่อนจะลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว..คิมสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาวเก่าๆกับกางเกงวอร์ม ก่อนจะโยนเป้เข้าไปในล็อคเกอร์...เด็กหนุ่มยืนถอนหายใจอยู่หน้าล็อกเกอร์ชั่วขณะ รู้สึกแห้งแล้งในอกอย่างบอกไม่ถูก..
หนึ่งเดือนเต็มๆแล้วนับจากวันแรกที่เจอแบ็งค์อาการปั่นป่วนในหัวใจไม่มีทีท่าว่าจะจางหาย
มีแต่จะยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน...หลายครั้งที่คิมนึกอยากตบปากตัวเองเวลาที่พูดจาห้วนห้าวแล้งน้ำใจกับแบ็งค์.. ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เจ้าตัวไม่เคยใส่ใจด้วยซ้ำว่าใครจะคิดอย่างไร..
เด็กหนุ่มพยายามขับไล่ความคิดสับสนออกไปจากหัว..เกลียดตัวเองที่ดูเหมือนจะอ่อนแอลงทุกวัน ให้ขึ้นสังเวียนไปตะบันหน้ากับคู่ชก ยังจะง่ายกว่าการอยู่ใกล้ๆแบ็งค์โดยที่ไม่ต้องใจสั่นซะอีก..เสียงหัวเราะของแบ็งค์ ตามหลอกหลอนไปทุกที่ แม้กระทั่งเวลาขึ้นชกกับคู่ซ้อม คิมเคยคิดเล่นๆว่าถ้าวันใดเกิดจะต้องชกมวยกับแบ็งค์ขึ้นมาจะกล้าพอที่จะตอยไปที่แก้มขาวๆนั่นรึเปล่านะ หรือตัวเองจะเป็นฝ่ายถูกแบ็งค์ไล่ถลุงยับเยินกันแน่..
คิมสะบัดหัวแรงๆสองสามที ก่อนจะเริ่มวิ่งเหยาะๆไปรอบสนามเพื่อเป็นการวอร์ม ตารางซ้อมในตอนเที่ยงไม่หนักมากเท่านักเมื่อเทียบกับตอนเช้าและตอนเย็น ส่วนใหญ่โค้ชจะติวแท็คติคในการขึ้นชกรวมไปถึงชี้ข้อบกพร่องเพื่อจะได้นำไปแก้ไข ปัญหาใหญ่ของคิมอยู่ที่การควบคุมอารมณ์หลายครั้งที่คิมชกแบบเลือดร้อนจนลืมทำตามแผนที่โค้ชวางไว้ให้ จนทำให้ชกได้ไม่ดีเท่าที่ควร..
แต่...ปัญหานั้นดูจะเล็กไปถนัดใจ..เมื่อเทียบกับอาการปั่นป่วนที่เกิดขึ้นภายในอกของคิมตอนนี้..
เดือนกว่าแล้วที่คิมไม่มีแก่ใจจะซ้อมความรู้สึกโง่เง่าขณะที่อยู่ใกล้ๆแบ็งค์ ตามติดอยู่ทุกเวลา
หลายครั้งที่คิมอยากโดดซ้อมไปคอยแอบดูว่าแบ็งค์ทำอะไร อยู่ที่ไหนแต่พอได้อยู่ใกล้ๆสมองก็ดูเหมือนจะหยุดทำงานไปชั่วขณะแล้วก็ต้องมานั่งเจ็บใจตัวเองแบบนี้อยู่ร่ำไป...
คิมหยุดวิ่ง พ่ายแพ้ต่อความคิดในหัวโดยสิ้นเชิง...เด็กหนุ่มซ้อมชกลมไปรอโค้ชไปพลางๆ นึกโกรธหัวใจอ่อนหัดของตัวเอง..
"พอได้แล้วคิม...ครูมีเรื่องจะคุยด้วย.."
เสียงโค้ชเรียกทำให้เด็กหนุ่มกลับมาสู่โลกความเป็นจริง... คิมยกมือไหว้โค้ชหนุ่มใหญ่ อีกฝ่ายผงกหัวเป็นเชิงทักทาย ก่อนจะเดินมาตบไล่คิมเบาๆ..
"หมู่นี้เป็นอะไรไปดูไม่ค่อยมีสมาธิเลยนะเรา.."
"เปล่าครับครู..."
แววตาลุ่มลึกที่จ้องมาอย่างรู้ทันทำให้คิมรู้สึกผิดผู้สูงวัยกว่าพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่แฝงรอยตำหนิไว้ชัดเจน
"คิม..ครูจะบอกอะไรไว้อย่าง นักมวยต่อให้เก่งแค่ไหนถ้าไม่มีสมาธิก็เท่ากับว่าเผยจุดอ่อนให้คู่ต่อสู้
ยิ่งถ้าใจไม่นิ่งก็ยิ่งไปกันใหญ่ เราจะชกโดนเป้าได้ไงถ้าใจยังคิดถึงอย่างอื่น.."
นานแล้วที่ไม่ถูกตำหนิแบบนี้คิมหน้าร้อนผ่าว รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันที
"อีกสองเดือนจะแข่งแล้ว ถ้ายังอยากชนะก็ต้องตั้งใจจริงกว่านี้..อย่าว่อกแว่กถ้ายังมีอย่างอื่นอยู่ในหัวก็จบกัน จำครูเอาไว้นะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเรื่องอื่นอย่าพึ่งไปคิด.."
เด็กหนุ่มก้มหน้ามองพื้น ฟังคำพูดยาวเหยียดจากโค้ช ในใจห่อเหี่ยวด้วยความรู้สึกผิด..
มือที่ตบบ่าแรงๆยิ่งทำให้หัวใจคิมหนักอึ้ง โค้ชสำทับด้วยเสียงห้วนห้าว..
"ตั้งใจทำให้เต็มที่อย่าทำให้ครูผิดหวัง..."
สองวันแล้วที่คิมโดดเรียนมาหมกตัวอยู่ในห้องเก็บอุปกรณ์กีฬาเก่าหลังโรงเรียน อากาศในห้องเล็กๆนั้นอึดอัดอบอ้าว
คิมนั่งชันเข่าอยู่บนลังใส่ลูกบาสที่มีฝุ่นจับหนาเตอะเด็กหนุ่มล้วงมือลงไปในเป้ควานหาซองบุหรี่กับไฟแช็คที่ซุกอยู่ในช่องลับที่อยู่ลึกสุดของกระเป๋า
เดือนกว่าแล้วที่คิมไม่โดดเรียนแอบมาสูบบุหรี่อย่างเคย นับตั้งแต่การมาของใครบางคน...
เด็กหนุ่มคาบบุหรี่ไว้ในปาก ก่อนจะจุดไฟแช็คจ่อที่ปลายด้านหนึ่ง เปลวไฟทำให้เกิดควันลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ..
คิมอัดบุหรี่ลงปอด ก่อนจะโยนบุหรี่กับไฟแช็คไว้ข้างตัว ปล่อยความคิดให้ล่องลอยเรื่อยเปื่อยถึงใครบางคน...
เสียงผลักประตูเรียกให้เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ..หัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นว่าใครมายืนอยู่ตรงหน้า...
คิมกลั้นหายใจ อยากวิ่งหนีพอๆกับที่อยากกระโจนเข้าไปกอด...
สีหน้าที่เคยร่าเริงอยู่เสมอของแบ็งค์ดูเย็นชาอย่างไม่น่าเชื่อ..คิมใจหาย ไม่กล้าพอที่จะสบตาคู่นั้น..
"กรูไม่ได้บอกมรึงเหรอ ถ้ามรึงโดดเรียนวิชาชีวะ อาจารย์ประภาศรีจะไม่ให้มรึงมีสิทธิ์สอบ" เป็นครั้งแรกที่แบ็งค์โวยวายใส่คิม หลังจากที่รู้จักกันมาเดือนกว่าสายตาที่มองมานั้นเย็นชาราวกับคิมเป็นคนแปลกหน้า
"กรูติดซ้อม.."คิมตอบห้วนๆ ทำใจแข็งพ่นควันบุหรี่อย่างท้าทายต่อสีหน้าไม่พอใจของคนตรงหน้า
"โค้ชบอกว่ามรึงไม่ไปซ้อมสองวันแล้วมรึงเป็นอะไรของมรึง.."
คิมรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกไล่ต้อนให้จนมุม ก่อนที่จะถูกถลุงให้ลงไปนอนกองที่พื้น..เจ้าตัวข่มอารมณ์หวั่นไหวก่อนจะย้อนกลับไปด้วยสีหน้ากวนๆ
"แล้ว..มรึงเกี่ยวอะไรด้วย.."
"ก็กรูเป็นเพื่อนมรึง.."
คิมกัดริมฝีปากเจ็บแปลบขึ้นมาในอก ย้อนคนตรงหน้าด้วยท่าทีเฉยเมย..
"ใครอยากเป็นเพื่อนมรึงกรูเคยบอกว่าอยากเป็นเพื่อนมรึงตั้งแต่เมื่อไหร่ แค่มานั่งเรียนข้างกรู อย่ามาทำเจ้ากี้เจ้าการกับกรูหน่อยเลย.."
สายตาของแบ็งค์เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและผิดหวังคิมใจหาย อยากจะย้อนเวลาเพื่อเอาคำพูดคืนกลับมาให้หมด
"เออ..กรูขอโทษ ต่อไปนี้กรูจะไม่วุ่นวายกับมรึงอีก.." แบ็งค์เดินเข้ามาคว้าบุหรี่จากมือคิมเมื่ออีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะคาบไว้ในปาก พ่นควันเลียนแบบท่าทางของคิมไม่มีผิด
"อยากรู้เหมือนกันว่าบุหรี่นี่ดียังไง มึงถึงยังโง่สูบอยู่ได้.."คนที่พึ่งจะลองสูบเป็นครั้งแรกทำท่าจะอัดบุหรี่ลงไปในปอดอีกรอบ
อย่างไม่ทันได้คาดคิดคิมกระโจนพรวดเดียวถึงตัวแบ็งค์ ร่างสูงใหญ่โถมเข้าหาจนอีกฝ่ายเซไปปะทะผนังเต็มแรง คิมกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายจนตัวลอย ใบหน้าคมเข้มบึ้งตึงเกรี้ยวกราด เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบอย่างบ้าคลั่ง
"ใครสอนให้มรึงทำแบบนี้!"คิมตะคอกใส่แบ็งค์สุดเสียง..มือใหญ่กร้านบีบปากแบ็งค์จนบุหรี่ร่วงลงมาที่พื้น ไม่สนว่าอีกฝ่ายกำลังตกใจและเจ็บปวด..
ริมฝีปากสีแดงสดที่บวมเจ่อเพราะแรงบีบทำให้สติของเด็กหนุ่มขาดผึง...คิมบดขยี้ริมฝีปากตัวเองกับแบ็งค์รุนแรง ลิ้มรสสัมผัสนุ่มนวลอบอุ่นของคนในอ้อมกอดอย่างพึงพอใจ..
คนในอ้อมกอดสั่นสะท้านจนคิมรู้สึกตัวสีหน้าหวาดหวั่นของแบ็งค์ทำให้อารมณ์ห่ามหื่นรุนแรงของคิมจางหายไปจนหมดสิ้น..คิมปล่อยตัวคนในอ้อมแขน.. ไม่อาจทนเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของแบ็งค์ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว..
พอหลุดจากอ้อมแขนแข็งแกร่งออกมาได้แบ็งค์ก็ยืนหอบด้วยความแค้นเคือง..โกรธจนน้ำตาคลอ..
คนตัวโตหันหลังให้ ทำท่าจะเดินหนี แต่แบ็งค์ปราดเข้าไปขวาง ก่อนจะเงื้อหมัดชกไปที่ใบหน้าคมเข้มสุดแรง..
แทนที่จะเอี้ยวตัวหลบ คิมกลับปล่อยให้กำปั้นของคนตัวเล็กกว่ากระแทกเข้าที่หน้าอย่างจังโดยไม่ตอบโต้..ริมฝีปากหยักสวยเจ่อขึ้นมาเพราะฤทธิ์หมัด คิมใช้หลังมือเช็ดเลือดที่มุมปาก ดวงตาดำเข้มเย็นชาอยู่เหมือนเดิม..
แบ็งค์กำหมัดแน่นจนเจ็บแค้นใจที่อีกฝ่ายไม่ตอบโต้แต่ทำท่าเหมือนกำลังจะเดินหนีไปอีก หนุ่มน้อยตะโกนไล่หลังคนตัวโตเสียงลั่นห้อง..
"แน่จริงมรึงมาต่อยกับกรูสิ มรึงจะหนีไปไหนวะ! ไอ้คิม ไอ้ขี้แพ้"
คิมหมุนตัวกลับทันควัน ดวงตาลุกโชนด้วยแรงโทสะและก่อนที่แบ็งค์จะทันได้ตั้งตัวร่างสูงใหญ่ก็โถมเข้าใส่อย่างรวดเร็วจนล้มกลิ้งไปด้วยกันคิมพลิกตัวขึ้นคร่อมอีกฝ่ายก่อนจะใช้มือกดหัวไหล่บอบบางให้ตรึงแน่นอยู่ที่พื้นใบหน้าคมดุซุกไซ้ซอกคอขาวจนเป็นรอยแดงผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบ็งค์หอบหายใจ พยามดิ้นรนใหห้พ้นจากการพันธนาการแข็งแกร่ง..รู้ตัวอีกที คิมก็ใช้มือใหญ่หนากระชากเสื้อนักเรียนจะกระดุมหลุดไปทั้งแทบ จมูกคมสันไล้ไปตามแผงอกเรียบแน่น คิมฝากรอยจูบไปตามผิวขาวอย่างรุนแรง..อุ้งมือสากบีบเคล้นกล้ามมเนื้อสวยได้รูปของคนในอ้อมกอดอย่างเมามัน...
แบ็งค์รู้สึกได้ว่าหลังเปลือยเปล่าสัมผัสกับพื้นปูนเรียบแข็ง..คิมถอดเสื้อนักเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แผ่นอกหนาล่ำสันกดทาบลงมาบนแผงอกเปลือยเปล่าของแบ็งค์ หน้าท้องเรียบแกร่งสัมผัสกัน แก่นกายแข็งขมึงสองอันบดเบียดกันอย่างรุนแรง..
คิมส่งเสียงคำรามในลำคออย่างพึงพอใจเมื่อได้ยินอีกฝ่ายส่งเสียงครางเบาๆออกมา.. เด็กหนุ่มใช้มือรวบท่อนลำสองอันเข้าด้วยกันก่อนจะขยับข้อมือเป็นจังหวะขึ้นลง...อารมณ์ฮึกเหิมไต่ขึ้นจนถึงขีดสูงสุดเมื่ออีกฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับพละกำลังแข็งแกร่งของตัวเองอย่างสิ้นเชิง...คิมไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น หูได้ยินเพียงเสียงหอบหายใจเป็นจังหวะสอดประสานกัน
เนิ่นนานเกือบสิบนาทีที่ร่างเปลือยเปล่ากอดก่ายกัน สัญชาติญาณดิบเถื่อนสั่งให้คิมค้นหาหนทางที่จะเข้าไปอยู่ในตัวแบ็งค์ให้ได้.. เด็กหนุ่มร่างใหญ่จับคนในอ้อมแขนพลิกตัว..แก้มของแบ็งค์แนบอยู่กับพื้นปูนที่เรียบเย็น วงแขนแข็งแกร่งช้อนเอวคอดเพรียวให้ลอยขึ้นมาจากพื้น คิมใช้มือบีบก้นกลมเนียนจนเป็นรอยแดง..เด็กหนุ่มส่งเสียงครางต่ำๆอย่างพึงพอใจสุดขีด..ก่อนจะพาแก่นกายร้อนระอุรุกล้ำเข้าไปในตัวอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย..
แบ็งค์จุกจนน้ำตาร่วง แต่ไม่เห็นหนทางที่จะดิ้นรนออกไปจากท่อนแขนที่โอบรัดแน่นหนาไปได้ มือหยาบใหญ่ควานไปที่กึ่งกลางลำตัวของแบ็ค์ ก่อนจะขยับข้อมือขึ้นลงเข้ากับจังหวะเคลื่อนเอวหนักหน่วง..ร่างกายเปลือยเปล่าสองร่างเคลื่อนไหวสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว..
ท้ายที่สุด เด็กหนุ่มทั้งคู่ปล่อยเสียงครางออกมาลั่นห้องเล็กๆร่างสูงใหญ่กระตุกรุนแรงกล้ามเนื้อทุกมัดเกร็งสะท้าน คิมรัดเอวแบ็งค์ไว้แน่นก่อนจะกดบั้นเอวแข็งแกร่งหนักหน่วงลงเป็นครั้งสุดท้าย..ใบหน้าคมเข้มซบกับแผ่นหลังขาวเนียน
ปล่อยไอรักท่วมท้นทะลักทลาย..
สองเดือนแล้วที่แบ็งค์ไม่พูดกับคิมแม้จะนั่งเรียนอยู่ข้างกันตลอดเวลา ไม่มีใครรู้เรื่องราวระหว่างคนทั้งคู่ แต่เพื่อนร่วมชั้นทุกคนลงความเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีใครทนคบกับคิมหันต์ได้เกินหนึ่งเดือน บางคนสะใจด้วยซ้ำที่คิมตกอยู่ในสถานะสังคมรังเกียจเหมือนเดิม แม้จะมีเพื่อนหลายคนซักถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับมิตรภาพระหว่างคิมกับแบ็งค์ แต่แบ็งค์กลับตอบไปแต่เพียงว่า คุยกันไม่ค่อยถูกคอเท่านั้นเอง..
คิมกลับไปใช้ชีวิตตามเดิมก่อนหน้าที่จะรู้จักแบ็งค์ เด็กหนุ่มนั่งกินข้าวคนเดียวในช่วงพักกลางวัน เวลาว่างก็ทุ่มเทซ้อมมวยอย่างเอาเป็นเอาตาย..
และแม้ว่าจะต้องทนกับอาการเย็นชาจากคนที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆ แต่คิมกลับไม่เคยโดดเรียนอีกเลยจนอาจารย์หลายคนออกปากทักท้วงด้วยความแปลกใจ..
แล้ววันแข่งกีฬาเยาวชนระดับจังหวัดก็มาถึง.. คิมหยุดเรียนสามวันเพื่อเดินทางไปแข่งขันที่ต่างจังหวัด เพื่อนร่วมห้องไม่มีใครสนใจจะถามไถ่หรือให้กำลังใจเลยแม้แต่น้อย แบ็งค์หดหู่ใจอยู่ลึกๆอดรู้สึกไม่ได้ว่าต่อให้คิมกลับมาพร้อมเหรียญรางวัลก็คงไม่มีใครยินดียินร้ายด้วยซักเท่าไหร่..
เวลาเรียนในแต่ะคาบดูจะเชื่องช้าลงทุกทีเมื่อที่นั่งข้างตัวว่างเปล่า.. แบ้งค์ชำเลืองดูโทรศัพท์อย่างกะวนกระวาย.. ไม่มีข้อความจากคิมเหมือนทุกวันที่เคย...
แม้จะไม่พูดกันกว่าสองเดือนแต่คิมก็ยังไม่ย่อท้อที่จะส่งข้อความถึงแบ็งค์วันละหลายๆรอบข้อความซ้ำๆมีเพียงว่าคิดถึงและขอโทษ แต่แบ็งค์ไม่เคยคิดจะลบทิ้งจนกว่ามันจะเต็มกล่องข้อความไปแล้วหลายรอบ..และถึงไม่เคยคิดที่จะตอบกลับ แต่วันนี้หนุ่มน้อยรู้สึกเหมือนกำลังรอคอยให้สัญญาณข้อความดังขึ้นมาสักครั้งซึ่งเจ้าตัวก็บอกไม่ถูกว่ากำลังรอคอยอะไรกันแน่ ระหว่างผลการแข่งขัน หรือคำว่าคิดถึงเหมือนเดิมทุกวัน..
โทรศัพท์ยังคงเงียบสนิทจนถึงเวลาเลิกเรียน.. แบ็งค์คว้าเป้มาสะพายก่อนจะหิ้วถุงใส่เศษกระดูกที่ขอมาจากร้านเก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำ หนุ่มน้อยเดินลัดเลาะอาคารไปที่หลังโรงอาหาร หมาจรจัดหลายส่งเสียงเห่าทักทายอย่างคุ้นเคยก่อนจะกระดิกหางรี่เข้ามาหาแบ็งค์อย่างดีใจเด็กหนุ่มเทเศษอาหารลงใส่กระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆที่เตรียมมาอย่างดีก่อนจะทรุดตัวลงนั่งดูลูกสมุนตั้งหน้าตั้งตากินอาหารอย่างตั้งอกตั้งใจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนตัวโตมายืนค้ำหัวอยู่ด้านหลัง..
"มรึงเคยบอกว่า..ถ้าให้ข้าวมันทุกวันแล้วมันจะเชื่อง..แล้วตอนนี้มันเชื่องรึยังล่ะ.."
แบ็งค์เงยหน้าก่อนจะหันไปมองคนตัวโตที่มายืนยิ้มเผล่อยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้หนุ่มน้อยใจเต้นแรง รู้สึกว่าสีหน้าของตัวเองทรยศต่อความรู้สึกอย่างสิ้นเชิง..
คิมรู้สึกชื่นใจเมื่อเห็นรอยยิ้มจากคนที่อยู่ตรงหน้า พูดด้วยน้ำเสียงห้าวลึกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว...
"ตอนนี้กรูเชื่องแล้วสนใจจะเอาไปเลี้ยงที่บ้านมั้ยล่ะ?"
แบ็งค์ไม่ตอบ พยายามเต็มที่ที่จะหุบรอยยิ้มบนใบหน้าตัวเอง..
คนตัวโตล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อวอร์มตัวเก่ง ยื่นเหรียญโลหะสีทองที่มีสายคล้องคอมาตรงหน้าแบ็งค์
"กรูเอานี่มาฝากถ้าไม่มีมรึง กรูก็คงทำไม่ได้..."
แบ็งค์ส่ายหัว พยามปั้นเสียงให้ดูห้วนที่สุด "กรูจะเอาไปทำไม กรูไม่ได้ขึ้นไปช่วยมรึงชกซะหน่อย..."
คนตัวโตยิ้มกว้างรู้สึกว่าเป็นครั้งแรกที่พูดมากผิดปรกติ.. "แบ็งค์..กรูรู้ว่าที่ผ่านมากรูงี่เง่า มรึงยกโทษให้กรูซักครั้งได้มั้ย?"
แบ็งค์กระแอมอยู่ในลำคอ รู้สึกว่าตีหน้าขรึมไม่สำเร็จ "เอ่อ..มรึงก็..ไม่ได้ทำอะไรผิดนิ.."
"ก็เรื่องที่กรูปล้ำมรึงไงกรูขอโทษ กรูจะไม่เอาแต่ใจแบบนั้นอีกแล้ว.." แบ็งค์กลั้นหายใจเมื่ออีกฝ่ายโน้มหน้าเข้ามาใกล้ กระซิบเสียงทุ้มนุ่มเว้าวอนอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้
"กรูรักมรึงนะแบ็งค์"
"ปล้ำแล้วพึ่งจะมาบอก..." หนุ่มน้อยบ่นอุบอิบในลำคอ..คิมหันต์หัวเราะชอบใจ..
"งั้นคราวหน้ากรูจะบอกรักก่อนปล้ำแล้วกัน.."
"นี่มรึงยังคิดจะปล้ำกรูอีกเหรอ..?" แบ้งค์โวยวาย นึกห่วงสวัสดิภาพของกระดุมเสื้อขึ้นมาถนัดใจ..
คิมวางมือบนไหล่แบ็งค์อย่างอ่อนโยน"ไม่อยากโดนปล้ำ ก็มาเป็นแฟนกรูสิ.." หนุ่มหน้าเข้มหยุดไปชั่วอึดใจ ก่อนจะพูดยิ้มๆ
"ถึงกรูจะพูดน้อย ต่อยหนักแต่รักจริงนะ.."
แบ็งค์ส่ายหัวกับข้อเสนอ..รู้ตัวอีกที หนุ่มน้อยก็หายเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งแล้ว...
"แบ็งค์.."
"หือ..."
"สนใจจะเป็นแฟนคนหล่อล่ำปล้ำง่าย อย่างกรูหน่อยมั้ย..."
"ถ้ามรึงเชื่องแล้วกรูก็โอเค..."
คิมหันต์ยิ้มกว้าง..หัวใจพองโตคับอก น้ำเสียงห้าวลึกย้ำกับหนุ่มน้อยในอ้อมกอดอย่างหนักแน่น..
"สำหรับมรึงกรูเชื่องตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าแล้ว...."
{:5_124:}ขอหั้ยสนุกกันนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากมายครับผม
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุงมากนะคับ
ขอบคุณนะครับ :D
ขอบคุณมากมาก
ขอบคุณมากคับ:kiss::kiss:
:loveliness::loveliness::loveliness:
ขอบคุนคับ
มี 4 ซื้อ คุณต้องจ่าย 5 Zenny เพื่ออ่านกระทู้นี้