พี่ติ๋ว copy
อ่านแล้วนึกถึงอดีตครับ ปัจจุบันผมมีครอบครัวแล้ว นานทีก็ยังนึกถึงเรื่องราวตอนยังเด็ก อายุ 11-12 ปี ผมต้องพักอยู่กับน้องของแม่เลี้ยง เป็นชายหนุ่ม 2 คน อายุ 21 กับ 24 ปี คนพี่ชื่อน้านี รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อ คนน้องผิวเข้มหน้าคม รูปร่างเพรียวชนิดผอมชลูดตูดปอดครับ วันหลังจะเล่าพฤติกรรมชายหนุ่มทั้งสองให้ฟัง แซ่บมาก แต่วันนี้อยากเล่าว่าช่วงปิดเทอม แม่เลี้ยงส่งผมไปอยู่บ้านพี่ชายแก ชื่อลุงทินกับป้าเพิ่ม และลูกชายชื่อพี่ติ๋ว พี่ติ๋วเรียนนายสิบ วันศุกร์ถึงจะกลับ วันธรรมดาผมนอนมุ้งคนเดียว อีกมุ้งหนึ่งในห้องเดียวกัน ลุงนอนกับป้าลุงทินกินเหล้าทุกเย็น เมามาก็ทะเลาะกับป้าทุกวัน ผมนอนฟังจนหลับทุกคืน คืนหนึ่งปวดฉี่ พอรู้สึกตัวก็ได้ยินเสียงแปลกที่มุ้งข้างๆ มองผ่านไปทางหน้าต่าง เห็นเงาคนตะคุ่มอยู่ในมุ้งลุงกะป้า มีเสียงพูดงึมงัมฟังไม่ชัด แต่เสียงก็ดังตลอด ผมนึกกลัวไม่กล้าลุก กลั้นใจคอยนานจนเสียงเงียบ จึงค่อยย่องไปห้องน้ำ และกลับมากนอนต่อ คืนต่อมาเหมือนรู้งาน ผมตื่นมาตอนดึกได้ยินเสียงเหมือนเดิม คราวนี้ผมแนบตัวชิดมุ้ง เพ่งมองเห็นชัดว่ามีคนขย่มตัวอยู่บนคน และฟังเสียงได้ชัดมากขึ้น ผมรู้แล้วว่า ไม่ควรนอนหลับยาว มีอะไรตื่นเต้นให้ดู บางคืนก็อดเหมือนกัน
คืนวันศุกร์ พี่ติ่วลูกชายป้ากลับมานอนที่บ้านมุ้งเดียวกะผม ผมหลับสักพัก ได้ยินเสียงคนพูดกัน แว่วว่า ไม่เอา ไปอาบน้ำ อะไรทำนองนี้ ลืมตาดูเห็นไฟห้องน้ำเปิด ป้ากะลุงพูดกันหน้าห้องน้ำ พี่ติ่วนอนหลับหันหน้ามาทางผม
ผมได้ยินเสียงลุงพูดเสียงเคืองๆ ป้าก็เสียงด่าๆ แต่สักพักไฟห้องน้ำปิด มีเสียงลุงกะป้างึมงัมกันหน้าห้องน้ำ ผมผงกหัวขึ้นเพ่งให้ชัด ได้ยินแต่เสียงทีดังถี่ขึ้น แต่พอเอนหัวลงนอน ผมใจหายวาบ พี่ติ่วนอนลืมตาจ้องหน้าผมเขม็ง
ผมใจเต้นแทบอกแตก กลัวบอกไม่ถูก รีบหลับตาปี๋
เข้าตรู่ป้าไปตลาด มุ้งข้างๆ เสียงลุงกรน ลุงนอนผ้าขาวม้าหลุดลุ่ย ซึ่งก็เห็นทุกวัน แต่วันนี้ข้างผมพี่ติ่วซึ่งนุ่งผ้าขาวม้าผืนเก่านอนหลับอยู่ ผมนอนมองพี่ติ๋วอย่างพิจารณา จากหน้าไปถึงเป้า พี่ติ่วพลิกตัวมาทางผม ถ้าผมตาไม่ฝาด ผมว่าผมเห็นผ้าขาวม้ากระดกก่อนพี่เขาพลิก ผมเลื่อนมือเข้าไปใกล้ชายผ้า เขี่ยมันเบาๆ และเกิดอาการอยากรู้อยากเห็นอย่างบอกไม่ถูก มือผมหยิบชายผ้าขาวม้าเลิกขึ้นอย่างไม่คาดหวังอะไร และไอ้ที่ไม่คิดว่าจะเห็นก็ได้เห็น ใจเต้นจนเหมือนใครตีกลองอยู่ข้างใน ผมวางชายผ้าขาวม้าลง เหมือนหายใจไม่ออก แต่จำภาพที่เห็นได้ติดตา ตอนสายป้ากะลุงออกไปข้างนอก พี่ติ่วนั่งซักเสื้อผ้า นุ่งผ้าขาวม้าของลุงทิน ผมถามว่าทำไปต้องซักผ้าขาวม้าด้วยล่ะเพิ่งมาวันเดียว พี่เขาบอกว่ามันเลอะ ผมถามว่าอะไรเลอะ เขาบอกว่าเมื่อคืนพี่ฝันเรื่องเอากัน พี่เลยฝันเปียก ผมบอกว่าผมอยากฝันแบบนั้นมั่ง พี่ติ่วเล่าเรื่องฝันให้ผมฟังหน่อยและผมจะช่วยซักผ้า พี่ติ่วซักผ้าไปเล่าไป และทุกครั้งที่ขยับขา ผมก็มีโอกาสเห็นอะไรตุงอยู่ในผ้าขาวม้า ตอนเทน้ำในกะละมัง มันกระฉอกชายผ้าด้านล่างเปียก ผ้าขาวม้าพี่ทินลู่ลง ด้านหนึ่ง ผมเห็นลำ~ช้างน้อย~ด้านข้างของพี่เขาชัดเจน ผมมองไปหลายทีจนพี่เขารู้สึก เขาถามว่าใหญ่ไหม ผมพยักหน้า เขาบอกว่าถ้าผมเอามือสองข้างถูปั้นไปมามันจะใหญ่น่าดูกว่านี้ ผมเลยเอาของผมออกมาและลองปั่นดู พี่ติ่วบอกว่าไม่ใช่ไม่ถูก
ต้องถอกหนังลงด้วย ผมไม่กล้าเพราะเคยดึงแล้วเจ็บ เลยบอกว่าพี่ทำให้ดูหน่อย พี่ติ่วเอานิ้วมาดันหนังที่โคนไข่ผมให้ตึง แล้วเอาอีกมือวนตรงหัวกระดอผม ผมเสียวๆ พอตัวงอ พี่เขารูดปริ๊ดลงเลย ผมเสียววาบ ผมเริ่มใช้สองมือถูปั่นไปมาจนได้ที่ พี่เขาสอนให้เอาขาข้างหนึ่งเหยียบโอ่ง
บอกว่าจะสนุกกว่านี้อีก แล้วเขาก็มายืนข้างหลังเอื้อมมาจับของผมถอกขึ้นลงเบาๆ ผมเสียวจนร่อนตามมือพี่เขา จนลืมนึกไปว่า ทุกครั้งที่เด้งสวนมือพี่ติ๋ว ตูดผมก็ร่อนเข้าถูก~ช้างน้อย~ตุงผ้าขาวม้าของพี่ติ่ว แกยิ่งรัวมือ ผมก็ยิ่งร่อน พอผมร่อนถี่ ผมเสียว ได้แต่ทำเสียง อะ อะ อะ แกก็หยุดผ่อนช้าลง ผมคลายตัวไม่เกร็งแกก็สาวใหม่ สุดท้ายผมทนไม่ไหวเอาสองมือจับมือแกไว้ แล้วกระเด้ามือพี่ติ่วถี่ ได้ผลครับ น้ำว่าวชุดแรกพุ่งปริ๊ดคาตา มันชนิดบอกไม่ถูก พี่ติ่วลูบหัวผมให้หันหน้ามา และบอกว่า ตาพี่มั่งนะ แกขึ้นไปนั่งยองบนขอบโอ่งทั้งผ้าขาวม้า แล้วถอกสาวยาวๆต่อหน้าผม หัวควบมันปลาบสะท้อนแดด ปากก็พูดเรื่องที่ฝันเมื่อคืน ผมถามว่าแล้วพี่รู้ได้ไงว่าคน~สมสู่~กันเป็นแบบนี้ แกเล่าว่า แกไปขึ้นเก็บมังคุดให้เจ๊สุ ลงมามดแดงกัด เจ๊สุช่วยปัด สุดท้ายก็ได้~สมสู่~กัน แค่หนเดียว แต่ก็เก็บมาฝันเรื่อยๆเลย ตอนนี้เจ๊สุย้ายบ้านไปแล้ว แกนึกทีไรก็~ช้างน้อย~แข็งทุกที
พูดๆ อยู่ แกก็บอกว่า ปม เข้ามาดูใกล้ๆเร็ว มันจะพุ่งแล้วถ้าจะให้พุ่งไกล ปมต้องเอามือเล่นไข่พี่เบาๆ เพราะตอนพี่~สมสู่~เจ๊สุ เจ๊สุแกเอื้อมือมาลูบไข่พี่ด้วย ผมลูบวนอยู่สองสามที แกแอ่นสะโพกร้อง อ๊ะ อ๊ะ เสียงดังลั่นหน้าเบี้ยวน้ำพุ่งกระพูดไกลพ้นขอบโอ่งอีก้าน ระหว่างแกรูด~ช้างน้อย~ก่อนน้ำแตก ผมได้ยิน แกครางออกมาว่า กูจะออกแล้ว มันจัง อร่อย~ช้างน้อย~จัง รัด~ช้างน้อย~แน่นๆ รัด~ช้างน้อย~แน่นๆ ดี ดี อือ ผมนึกออกในเวลาต่อมา ว่าเสียงครางแบบนี้นี่แหละ ที่ผมได้ยินลุงทิน พ่อพี่ติ่วครางตอนกลางคืนบ่อย ผมเดาว่าแกก็ต้องรู้เห็นอย่างที่ผมรู้เหมือนกัน
ตอนนี้ พี่ติ่วกะผมต่างก็มีครอบครัว กันไปหลายสิบปี แต่วัยเด็กที่เรามีประสบการณ์ร่วมกัน ทำให้อารมณ์ผมคึกคักได้เสมอ วันหน้าผมจะมาเล่าลีลาลูกเล่นที่พี่ติ่วฝึกมาจากกรม แบบพื้นๆ และพิศดารให้ฟัง ที่สำคัญ ผมยังไม่ได้เล่าเรื่อง ลุงกะป้า น้านี และน้าดำ ซึ่งผมได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดในช่วงอายุ 15-16 ให้ฟังเลยนะครับ
ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณครับ ไว้จะรออ่าน ขอบคุณนะคับผม ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมาก ๆ ค๊าบ อิอิ ขอบคุณมากนะคัฟ ขอบคุณครับ สุดยอดครับ มาเล่าต่อนะครับ ขอบคุณมากคับ ขออ่านหน่อยครับ Thank you very very much kub pom ขอบคุงคร้าบ ขอบคุณมากคับ ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุนครับ ขอบคุณมากคับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ