tavan โพสต์ 2011-12-25 20:16:33

ฉายาสภาฯประจำปี2554

สำหรับผู้สนใจ ข้อมูลสนุกๆที่นักข่าวตั้งฉายาให้การเมืองไทยครับ
1.) เหตุการณ์แห่งปี : องค์ประชุมรัฐสภาล่มวันแถลงนโยบายของรัฐบาล          เป็นเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นกลางดึกเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2554ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการแถลงนโยบายของรัฐสภาต่อที่ประชุมรัฐสภาสืบเนื่องมาจากการที่ส.ส.ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ได้อภิปรายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์จนนำมาสู่การประท้วงอย่างวุ่นวายส่งผลให้ต้องพักการประชุมนานถึง 40นาที ต่อมา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาสั่งให้นับองค์ประชุมถึง 2 ครั้งก่อนลงมติว่าจะปิดการอภิปรายตามที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เสนอหรือไม่ โดยครั้งสุดท้ายมีองค์ประชุมเพียง 314 ไม่ถึงกึ่งหนึ่งจำนวน 325 เสียง จึงสั่งปิดประชุมในเวลา 23.27น.และนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 25 ส.ค.
          เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกภายใต้รัฐธรรมนูญ 2550 แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องอย่างร้ายแรงของฝ่ายนิติบัญญัติเนื่องจากการแถลงนโยบายต่อรัฐสภามีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะก่อนที่รัฐบาลจะสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้โดยสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญต้องผ่านการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาก่อน อีกทั้งพรรคร่วมรัฐบาลมีเสียงในรัฐสภามากถึง 300 เสียงแต่กลับไม่สามารถควบคุมองค์ประชุมได้
       2.) วาทะแห่งปี : "คำวินิจฉัยประธาน ถือเป็นที่สิ้นสุดจะผิดหรือถูกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง"
          มาจากคำพูดของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2554ระหว่างการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เพื่อชี้แจงต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรกรณีการทำหน้าที่ประธานการประชุมเพื่อวินิจฉัยในประเด็นที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้อภิปรายพาดพิงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ระหว่างนั้นเหตุการณ์เป็นไปอย่างตึงเครียดจนท้ายที่สุดนายสมศักดิ์ใช้อำนาจวินิจฉัยด้วยด้วยคำพูดว่า...
          "ผมฟังอยู่ไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นครับ ท่านครับ ท่านสมาชิกครับ ผมขออนุญาตนิดเดียวครับข้อบังคับที่พวกเราร่างขึ้นมาเป็นกติกาให้อำนาจประธานเป็นผู้วินิจฉัยแล้วถือว่าเป็นเด็ดขาด ส่วนผิดหรือถูกอีกเรื่องหนึ่งครับ ผมถือว่าผมวินิจฉัยแล้วต้องเป็นเด็ดขาดครับ ไม่อย่างนั้นมันจบไม่ได้ครับ" (รายงานการประชุมรัฐสภาสามัญทั่วไปครั้งที่วันที่ 23-24ส.ค.2554หน้า 740)
          ​คำพูดดังกล่าวได้สะท้อนถึงบุคลิกการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์ที่ให้ความสำคัญกับอำนาจของประธานควบคุมการประชุมตามข้อบังคับที่เป็นลายลักษณ์อักษร
          3.) ฉายาสภาผู้แทนราษฎร : กระดองปูแดง
          การเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อเดือน ก.ค.2554ทำให้พรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากในสภาฯรวมทั้งมีแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ คนเสื้อแดง เข้ามาดำรงตำแหน่ง ส.ส.มากกว่า 20 คน แต่การทำงานของสภาฯภายใต้เสียงข้างมากของพรรคเพื่อไทยกลับให้ความสำคัญกับการปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้มีอีกสถานะหนึ่ง คือ น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
          โดยทุกครั้งในการประชุมสภาฯหรือรัฐสภาหากมีการพาดพิงถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ และ ครอบครัวชินวัตร ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ก็จะถูก ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนมากลุกขึ้นตอบโต้อย่างดุเดือดจนการประชุมสภาฯ ต้องหยุดชะงักหลายครั้ง ดังนั้น สภาฯ ชุดที่ 24 ภายใต้เสียงข้างมากของพรรคเพื่อไทยที่มักอ้างเสมอว่ามีมวลชนคนเสื้อแดงกว่า 15 ล้านเสียงสนับสนุน จึงเปรียบเสมือนเป็นกระดองสีแดงปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่มีชื่อเล่นว่า "ปู"
      4.) ฉายาวุฒิสภา: สังคโลก
          บทบาทของวุฒิสภาในช่วงที่ผ่านมาสังคมต่างให้ความเชื่อมั่น พร้อมกับคาดหวังไว้สูงว่าจะปฏิบัติหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเพื่อกำกับและดูแลการทำงานของสภาฯและกลั่นกรองกฎหมาย แต่การทำงานในรอบปีที่ผ่านมาวุฒิสภากลับไม่มีบทบาทเป็นที่ประจักษ์ ทั้งที่ล้วนมาจากบุคคลที่มีความอาวุโส มากประสบการณ์จากหลากหลายสาขาอาชีพ เปรียบเสมือนเครื่องสังคโลก วัตถุโบราณที่มีคุณค่าาในตัวเองทุกล้วนต้องการเสาะแสวงหาเพื่อให้ได้เป็นเจ้าของ แต่กลับไม่สามารถใช้งานได้จริงเพราะมีคุณค่าเพียงแค่เครื่องประดับเท่านั้น
       5.) ฉายาประธานสภาผู้แทนราษฎร (สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์) : ค้อนปลอม ตราดูไบ
          เดิม นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ได้รับฉายาว่า “ขุนค้อน” เมื่อครั้งเป็นรองประธานสภาฯ เมื่อปี 2540 เพราะได้ใช้ค้อนทุบลงบัลลังก์เพื่อแสดงความเด็ดขาดในการควบคุมการประชุม และก่อนได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาฯ นายสมศักดิ์ได้ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต่างประเทศท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าไปเสนอตัวจนได้รับเลือกเป็นประธานสภาฯสมใจ เมื่อได้มาทำหน้าที่ควบคุมการประชุมก็ถูกโจมตีอย่างหนักถึงความไม่เป็นกลางที่เอื้อต่อพรรคเพื่อไทยทั้งในเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจและการอภิปรายทั่วไปเรื่องปัญหาน้ำท่วม กระทั่งถูกกล่าวหาขั้นรุนแรงว่ารับใบสั่งจากนายใหญ่ดูไบ ทำให้ภาพของขุนค้อนผู้หนักแน่น เด็ดขาด เป็นกลางตกต่ำลง จึงเป็นที่มาของฉายา“ค้อนปลอม ตราดูไบ” ในที่สุด
          6.) ฉายาประธานวุฒิสภา(พล.อ.ธีรเดช มีเพียร) : นายพลถนัดชิ่ง
          พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภาแม้ว่าจะเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งหลังจากได้รับการสรรหาเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา แต่นับเป็นบุคคลที่สังคมให้การจับตาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเคยผ่านตำแหน่งสำคัญทั้งในกองทัพและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญมาแล้ว อาทิ ปลัดกระทรวงกลาโหม และ ผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่จากบทบาทที่ผ่านมาพล.อ.ธีรเดช ไม่ได้แสดงบทบาทตามที่เคยแสดงวิสัยทัศน์ในการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา​
          ไม่เพียงเท่านี้ยังยังเลี่ยงตอบคำถามเพื่อแสดงความคิดเห็นในเหตุการณ์ต่างๆ มักอ้างว่า “ผมจำไม่ได้”, “ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ต้องไปถามผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง” เหมือนชิ่งตัวเองออกจากปัญหา ทั้งที่ควรจะแสดงบทบาทให้เข้มแข็งและเด็ดขาดสมกับเป็นอดีตนายพลในกองทัพ
          7.) ดาวเด่น : รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์
          การทำงานของ น.ส.รังสิมา นับตั้งแต่เป็น สส.มีความเสมอต้นเสมอปลายโดยเฉพาะการสวมบทมือปราบ สส.นอกแถว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น การเปิดโปง ส.ส.ที่ชอบเสียบบัตรแสดงตนแทนกัน การขอให้ประธานสภาฯ ควบคุมการประชุมให้มีความเป็นกลาง หรือแม้กระทั่งขอความร่วมมือ ส.ส.ไม่ให้ประชุมคณะกรรมาธิการในช่วงวันพุธหรือวันพฤหัสบดี ซึ่งตรงกับวันประชุมสภาฯ เพราะมีผลให้องค์ประชุมสภาฯ เสี่ยงต่อการล่มหลายครั้ง บทบาทเหล่านี้ น.ส.รังสิมาได้ประพฤติปฏิบัติมาตลอดโดยไม่คำนึงถึงว่าช่วงเวลานั้นพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล
          8.) ดาวดับ : ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
          ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแม้ว่าจะเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร หนึ่งในอำนาจอธิปไตยของประเทศ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องตัดขาดกับงานฝ่ายนิติบัญญัติอย่างสิ้นเชิง ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แสดงท่าทีถึงการไม่ให้ความสำคัญกับรัฐสภาหลายครั้ง ทั้งที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าพร้อมจะให้ความร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติที่มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลเพื่อร่วมนำพาประเทศผ่านพ้นปัญหาต่างๆ สร้างความหวังให้กับสังคมไม่ต่างอะไรกับการเป็นดาวเด่นในทางการเมืองภายหลังประสบความสำเร็จจากการบริหารธุรกิจของครอบครัวชินวัตร
          สำหรับพฤติกรรมที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้แสดงออกจนนำมาซึ่งคำครหาว่า "หนีสภา" หลายต่อหลายครั้ง เช่น การไม่แสดงบทบาทนายกรัฐมนตรีเพื่อเข้ามาไกล่เกลี่ยระหว่าง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ซึ่งต่างกับอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคนก่อนหน้านี้พยายามจะเข้ามาเป็นตัวกลางสร้างความประนีประนอมให้กับทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้งานสภาฯ เดินหน้าไปได้ หรือ การมอบหมายให้รัฐมนตรีหรือรองนายกฯ เป็นผู้ตอบกระทู้ถามสดแทนการตอบด้วยตัวเองหลายครั้งท่ามกลางข้อสงสัยว่าเป็นการมอบหมายให้บุคคลอื่นชี้แจงแทนมากเกินความจำเป็นหรือไม่ ส่งผลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับตำแหน่งดาวดับไปโดยปริยาย
          9.) คู่กัดแห่งปี : อรรถพร พลบุตร vs จตุพร พรหมพันธุ์
          การประชุมสภาฯมีหลายครั้งที่เกิดวิวาทะระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างกรรมต่างวาระและต่างคู่กรณี แต่การฟาดฟันระหว่างนายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ต้องยกให้เป็นมวยคู่เอกทุกครั้งไป เนื่องจากเมื่อใดก็ตามที่ทั้ง 2 คนนี้เชือดเฉือนคำพูดกันได้เป็นชนวนก่อให้เกิดเหตุประท้วงกันแบบบานปลายระหว่าง ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน ซึ่งส่วนใหญ่ประเด็นที่ทั้ง 2 คน มักจะโต้คารมกัน คือ การพาดพิงถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
          10.) คนดีศรีสภา : งดการเสนอชื่อบุคคล
          สำหรับตำแหน่งคนดีศรีสภาสื่อมวลชนประจำรัฐสภามีความเห็นร่วมกันยังไม่มีบุคคลที่เหมาะสมกับการได้รับตำแหน่งดังกล่าว ถึงแม้จะมี ส.ส.และ ส.ว.หลายคนแสดงบทบาทการเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนโดยเฉพาะช่วงเหตุการณ์น้ำท่วม หรือ การแสดงออกผ่านการร่วมประชุมรัฐสภาในวาระต่างๆ แต่ทว่ายังไม่ปรากฏว่ามีสมาชิกรัฐสภาคนใดแสดงผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างเห็นได้ชัด สื่อมวลชนประจำรัฐสภาจึงความเห็นร่วมกันของดการมอบตำแหน่งคนศรีสภาประจำปี 2554ออกไป
          11.) ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) : หล่อดีเลย์
          ด้วยบทบาทการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ หลังจากแพ้การเลือกตั้งกลับมาเป็นนายกฯ อีกสมัยไม่สำเร็จ แม้จะพยายามทำหน้าที่ชี้แนะตรวจสอบรัฐบาลถึงปัญหาน้ำท่วม นโยบายด้านต่างๆ รวมถึงการเสนอทางออกเพื่อความปรองดอง แต่ไม่สามารถวิจารณ์ได้เต็มปาก เนื่องจากถูกย้อนศรจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทยในสมัยนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ไม่ว่าการแก้ปัญหาน้ำท่วมก่อนหน้านี้ หรือ การเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมจนเกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ ข้อเสนอของนายอภิสิทธิ์ในตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านฯที่เป็นประโยชน์หลายเรื่อง จึงถูกวิจารณ์ว่าเหตุใดไม่แก้ปัญหาอย่างที่ได้พูดเอาไว้ตั้งแต่เป็นนายกฯ กลายเป็นที่มาของ 'หล่อดีเลย์'

noom2521 โพสต์ 2011-12-25 22:07:13

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย noom2521 เมื่อ 2011-12-25 22:08

ขอบคุณครับผม

sand โพสต์ 2012-1-1 05:40:22

ขอให้เพื่อนๆ โชคดีรับปีมังกรทองทุกคน สวัสดีปีใหม่ ครับผม

asoda123 โพสต์ 2012-1-1 06:10:01

ขอบคุณมากครับ

tavan โพสต์ 2012-1-1 13:07:11

ต้นฉบับโพสต์โดย sand เมื่อ 2012-1-1 05:40 static/image/common/back.gif
ขอให้เพื่อนๆ โชคดีรับปีมังกรทองทุกคน สวัสดีปีใหม่ ค ...

เช่นเดียวกันนะครับเพื่อน

เค โพสต์ 2012-4-10 13:54:08

ขอบคุณครับ

ธรรม โพสต์ 2012-4-10 13:57:38

ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ฉายาสภาฯประจำปี2554