tanya โพสต์ 2011-12-28 12:28:10

ปีชงและวิธีแก้ปีชง ปีมะโรง ปี2555

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย tanya เมื่อ 2011-12-28 12:32

ปีชงและวิธีแก้ปีชงปีมะโรง ปี2555

ตามประเพณีการไหว้องค์ไท้ส่วยหรือไท้ส่วยเอี๊ยเป๋าส่วยกุงเผ่งอัง ในช่วงเริ่มต้นปีใหม่(ตรุษจีน)ของทุกๆปี หรือที่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนรู้จักกันดีในนามของ
“เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา”
เป็นเทพผู้ทรงอิทธิฤทธิ์และมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในแต่ละปี ซึ่งในความเป็นจริงในปัจจุบันนี้คนเข้าใจเกี่ยวกับองค์ไท้ส่วยน้อยมากจนกล่าวได้ว่าแทบไม่มีใครรู้ประวัติความของไท้ส่วยว่าเป็นใครมาจากไหน จนหลายคนรู้สึกหวาดผวาเมื่อได้ยินคำว่า
“ชงไท้ส่วย”
หรือหลายๆ คนเข้าใจเอาเองว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการลงโทษทัณฑ์เป็นปีศาจร้าย หรือเป็นอะไรก็ตามที่จะต้องเอาอกเอาใจกราบไหว้อ้อนวอน

“ไท้ส่วย”
เป็นอีกชื่อหนึ่งของดาวพฤหัสบดีในภาษาจีนโบราณ ซึ่งรวมความถึงเทพเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ทำหน้าที่คุ้มครองให้คุณให้โทษแก่ดวงชะตาทุกดวงในผืนพิภพแห่งนี้ และในศาสตร์เรื่องของฮวงจุ้ย ไท้ส่วยก็มีอิทธิพลอีกไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งในการประกอบกิจการใดๆ ก็ตามไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมบ้าน ตกแต่งบ้าน สร้างบ้านคนจีนมักจะพึงซินแสในการหาฤกษ์ยามอันเหมาะสมและจะต้องหลีกเลี่ยงมิให้กระทบกับทิศทางที่สถิตของไท้ส่วยในปีนั้นๆ หากไม่แล้วก็จะต้องถูกลงโทษทัณฑ์ ต้องปะสบกับเคราะห์หามยามร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างที่กล่าวมาแล้ว
“ไท้ส่วย”
ก็คือดาวพฤหัสบดี ซึ่งในทางโหราศาสตร์ถือว่าเป็นประธานแห่งดาวศุภเคราะห์ทั้งมวลเป็นดาวแห่งคุณธรรมความดี โชคลาภ โภคทรัพย์เป็นดาวแห่งคุรุผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งแสดงความรู้ความสามารถ เป็นดาวแห่งตุลาการ ความยุติธรรม และการแผ่ขยายอันไม่มีที่สิ้นสุด ในทางโหราศาสตร์ไทย ท่านว่าหากมีดาวบาปเคราะห์ใดที่ร้ายๆ เช่น ดาวอังคารดาวราหู หรือร้ายหนักๆอย่างดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวประธานแห่งบาปเคราะห์จะให้โทษแก่ลัคนาแล้ว แต่ในดวงเดิมหรือดวงจรมีดาวพฤหัสบดีโคจรมาทำมุมที่ดีต่อลัคน์แล้วท่านว่า สามารถคุ้มครองและสลายภัยร้ายในดวงชะตาได้ แต่ในทางกลับกันหากในดวงชะตามีดาวพฤหัสบดีจรมาและให้โทษแล้วละก็ดาวศุภเคราะห์ดวงไหนๆจะกี่สิบดาวก็ไม่สามารถคุ้มภัยหรือปกป้องได้เลย

คติความเชื่อของจีนเอง ความหมายของดาวพฤหัสบดีก็ไม่ต่างไปจากข้างต้น ฉะนั้นไท้ส่วยเองก็เช่นเดียวกันในสมัยโบราณระบบโหราศาสตร์ และดาราศาสตร์คือสิ่งที่แยกกันไม่ออก โชคเคราะห์ของบุคคลมีเทพเจ้าประจำดวงดาวเป็นผู้กำหนด ลัทธิเต๋าเป็นลัทธิหนึ่งเดียวที่ผสานความเชื่อทางเทววิทยา เทพและปีศาจ การบันดาลโชคและเคราะห์ ความดีความชั่ว ดำและขาว โหราศาสตร์และดาราศาสตร์เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ไท้ส่วย ทั้ง 60 องค์คือการผสมผสาน และการตกผลึกทางภูมิปัญญาของจีนในสมัยโบราณรวมถึงคติความเชื่อขนบธรรมเนียมประเพณี และค่านิยมกระทั่งปรัชญาการปกครองไว้อย่างยอดเยี่ยม โดยการคำนวณตามหลักของโป๊ยหยี่ซี้เถียวมาจากการคำนวณหาราศีบนเทียงถัง 10 ตัว มาผสมกับราศีล่าง (ตี่กี่) หรือ 12 นักษัตรซึ่งไล่เรียงจับคู่กันได้ 60 คู่ เรียกว่า “หลักจับก๊ะจื้อ” นำมากำหนดเป็นรอบปีหมุนเวียนต่อเนื่องกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่ออธิบายการก่อกำเนิดและเชื่อมโยงของกันและกันของทุกสรรพสิ่งตามทฤษฎีแห่งเต๋า

ปีทั้ง 60 ปีนี้แสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ดีโดยการใช้บุคลาฐิษฐานหรือการใช้บุคคลทั้ง 60 คนมาแทนจำนวนปีทั้ง 60 นั้นเรียกว่า “ไท้ส่วยเอี๊ย” ที่มาที่ไปของแต่ละองค์รวมถึงประวัติความเป็นมา ได้มาจากบุคคลที่มีเกียรติศักดิ์และฐานันดรต่างกันต่างเวลาต่างสถานที่กัน แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือต่างก็ได้เป็นผู้มีคุณูปการอันยิ่งใหญ่ และทำคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงให้แก่แผ่นดินมีความซื่อสัตย์สุจริตกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ได้รับการสดุษฎีกล่าวขวัญในเกียรติคุณความดีมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานนับพันปี อีกทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับอนุชนรุ่นหลัง แม้ภายหลังเมื่อเสียชีวิตไปแล้วก็ยังได้รับการสถาปนาอวยยศให้เป็น “เซียน” หรือเทพเจ้าที่คุ้มครองบ้านเมืองในสมัยนั้น

วีรบุรุษและขุนพลที่มีชื่อเสียงในสมัยโบราณทั้ง 60 ท่านนั้นจะได้รับการสถาปนาเป็นเทพเจ้าแห่งดาวพฤหัสบดีผู้ซึ่งคุ้มครองดวงชะตาหรือ “ไท้ส่วยเอี๊ย” นั้นเมื่อใดไม่ปรากฏชัด แต่อารามในลัทธิเต๋าทุกอารามต่างก็มีรูปปั้นของท่านเหล่านั้นสถิตอยู่เนิ่นนานแล้ว มีการกราบไหว้บูชาขอพรกันสืบเนื่องมาเป็นประเพณีนับพันปี ซึ่งทุกท่านต่างก็ได้รับการสถาปนาเป็น “ไต่เจียงกุง” หรือ “จอมทัพ” ทำหน้าที่คุ้มครองดวงชะตาชาวประชาทั้งมวล

ในรอบ 60 ปีนี้ จะมีเทพเจ้าไท้ส่วยประจำอยู่ในแต่ละปี ซึ่งจะมีชื่อเรียกขานต่างๆกัน ทำหน้าที่รักษาและคุ้มครองดวงปี หรือที่เรียกว่า “เฝ้าปี” อยู่ ซึ่งจะถือว่าแต่ละองค์จะมีอำนาจให้คุณดลบันดาลความสุข โชคเคราะห์ทุกข์ภัยหรือให้โทษแก่ผู้ใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับพระเมตตาของท่าน โดยเฉพาะท่านที่มีเคราะห์หรือดวงชะตาอ่อนทำอะไรก็ติดขัดไม่ราบรื่นสมหวัง ท่านก็จะช่วยปัดเป่าเคราะห์ภัยบังเกิดแต่ความเป็นสิริมงคลมาสู่ตัวท่านและครอบครัว

องค์ไท้ส่วย ปี 2555 “แผ่ไท่ไต่เจียงกุง” สำหรับปีมะโรง พ.ศ.2555นี้ องค์ไท้ส่วยที่ลงมาสถิตเฝ้าปีมีพระนามว่า“แผ่ไท่ไต่เจียงกุง” เป็นชาวเมืองฟ่งเสียง (ปัจจุบันคืออำเภอฟ่งเสียง มณฑลซ่านซี) ในสมัยราชวงศ์หมิง (พศ.1911 – 2187) ท่านเป็นคนรูปงาม มีการศึกษาสูง ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ขยันหมั่นเพียร ประหยัดมัธยัสถ์ และมีความรับผิดชอบในหน้าที่ราชการสูง ในการดำเนินชีวิตของท่านจะนำคติพจน์ที่มีมาแต่โบราณมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและเป็นเยี่ยงอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น ในชีวิตคู่ขุนพลแผ่ไท่ก็ได้รับการยกย่องว่าครองเรือนผาสุกโดยตลอดลอดฝั่งด้วยความรักและเมตตา แม้ว่าท่านจะพบว่าเจ้าสาวของท่านเป็นหญิงอัปลักษณ์ จากการหมั้นหมายแบบคลุมถุงชนในสมัยโบราณ ท่านก็มิได้แสดงอาการรังเกียจเจ้าสาวของท่านแต่อย่างใดและยังยืนยันในการหมั้นหมาย จนได้แต่งงานอยู่กินกันอย่างผาสุก

เหตุที่ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนให้ความเคารพบูชากราบไหว้ เพราะมีความเชื่อว่าเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยจะบันดาลความสุขความทุกข์ให้เกิดแก่ใครนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเมตตาของท่านหากใครมีเกณฑ์ชะตาที่ดีอยู่แล้วจะได้ดียิ่งขึ้น หากใครมีดวงชะตาที่ไม่ดีทำอะไรก็มีปัญหาติดขัด ก็อธิฐานขอพรจากท่านให้ช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยให้ดังนั้นในแต่ละปีจึงมีผู้คนไปกราบไหว้บูชาขอพร ให้อยู่เย็นเป็นสุขมีดวงชะตาที่ดีตลอดทั้งปี ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนจึงมีประเพณีในการไหว้ฝากดวงเพื่อสะเดาะเคราะห์ต่อเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย โดยเฉพาะ “ท่านที่เกิดปีชงกับองค์ไท้ส่วยปีทับไท้ส่วย ปีร่วมชงไท้ส่วย ปีเฮ้งไท้ส่วยปีไห่ไท้ส่วย ปีผั่วไท้ส่วย” ซึ่งจากเกณฑ์ทั้ง6 รูปแบบ ต่างก็มีอิทธิพลร้ายต่อดวงชะตาทั้งนั้น อย่างน้อยที่สุดก็อาจจะร่างกายไม่แข็งแรงเจ็บป่วยง่าย จิตใจไม่เป็นสุข งานการหยุดชะงัก การลงทุนเสียหายทะเลาะเบาะแว้งกับคนรอบข้างถึงกระทั้งอาจมีคดีความ ผิดหวังในความรักหรืออาจจะหนักขึ้นถึงขั้นเลือดตกยางออก กระทั่งถึงแก่ชีวิต และปีเกิดที่ผู้เขียนได้เขียนว่าเข้าเกณฑ์ทั้ง 6 รูปแบบ ผู้เขียนได้เน้นเขียนให้เฉพาะหลักปีเกิด (เนื่องจากเป็นไท้ส่วยของบุคคลส่งผลกับดวงชะตามากที่สุด) ซึ่งหากจะให้ละเอียดจะต้องเอา วัน เดือน ปีเกิด และเวลาตกฟากมาคำนวณดวงชะตาตามแบบโหราศาสตร์จีน (โป๊ยหยี่ซี้เถียว) เพื่อจะได้คำนวณว่าในดวงชะตาของท่านในปีนี้จะเข้าเกณฑ์ในรูปแบบไหนเกี่ยวพันกับเรื่องอะไร เพื่อจะได้ตั้งสติคอยระวังป้องกันตัวมิให้เรื่องร้ายต่างๆ เกิดขึ้นได้กับตัวท่านเองหรืออย่างน้อยที่สุดก็เป็นการผ่อนหนักเป็นเบา (อยากทราบว่าในปีนี้ดวงชะตาของท่านเข้าเกณฑ์ใดบ้างใน 6 รูปแบบสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดการรับบริการเข้ามาได้กับทางร้านทาง E-mail:turtleshop@hotmail.com) โดยเมื่อท่านทราบว่าในปีนี้ดวงชะตาของท่านตกอยู่ในเกณฑ์ใดรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งใน 6 รูปแบบท่านสามารถเดินทางไปไหว้สะเดาะเคราะห์ฝากดวงชะตากับองค์ไท้ส่วยเอี๊ยด้วยตนเองต่อเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยได้ที่ วัดจีนใกล้บ้านคุณที่มี “องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” ประดิษฐานอยู่
ท่านที่มีปีเกิดที่ชงกับปีนี้ และควรไปไหว้ “องค์ไท้ส่วย” คือ ท่านที่เกิดปี ดังต่อไปนี้
1. ปีจอ(สุนัข) ชง(ปะทะ) โดยตรงกับเทพเจ้า “ไท้ส่วยเอี๊ย”และเป็นอริกับปีมะโรงโดยตรง
2. ปีมะโรง(มังกร) ทับไท้ส่วย และยัง “เฮ้ง(เบียดเบียน)”กับปีมะโรงเองด้วย
3. ปีฉลู(วัว) ปีร่วมชงไท้ส่วย และยัง “ผั่ว(แตกแยก)”กับปีมะโรงด้วย
4. ปีมะแม(หนู) ปีร่วมชงไท้ส่วย
5. ปีเถาะ “ไห่(ให้ร้าย)” กับปีมะโรง

และท่านที่ห้ามไปเป็นเจ้าภาพหรือเข้าร่วมพิธีทั้งงานมงคล(แต่งงาน) และอัปมงคล(งานศพ รวมถึงการเยี่ยมไข้คนป่วยด้วย) แต่ถ้าหากไม่สามารถเลี่ยงได้ก็ขอให้ละเว้นการไปดูศพเวลาฝังศพ(เผาศพ) หรือแม้แต่การส่งศพ และควรติดกิ่งทับทิมไปด้วย พร้อมทั้งเตรียมน้ำใส่กิ่งทับทิมไว้ด้วยสำหรับล้างหน้าก่อนที่จะเข้าบ้านเมื่อกลับถึงบ้านหลังจากไปร่วมงานกลับมาแล้ว เพื่อป้องกันสิ่งอัปมงคลต่างๆ จะปะทะให้เจ็บป่วยได้คือท่านที่เกิดในปีนักษัตร ในรอบปีต่อไปนี้
1. ปีจอ ท่านที่เกิด ปี2489(อายุ 66ปี) ปี2513(อายุ 42ปี) ปี2549(อายุ 6ปี)
2. ปีมะโรง ท่านที่เกิด ปี2471(อายุ 84ปี) ปี2531(อายุ 24ปี)
3. ปีมะแม ท่านที่เกิด ปี2462(อายุ 93ปี) ปี2522(อายุ 33ปี)
4. ปีฉลู ท่านที่เกิด ปี2480(อายุ 75ปี) ปี2504(อายุ 51ปี) ปี2540(อายุ 15ปี)
         เพราะทั้ง 10 ปีนี้เป็น “ไท้ส่วยเฮี้ยบจี่จู้” แปลว่า “ไท้ส่วยตรงเจ้าพิธี” นอกจากจะนำพาสิ่งอัปมงคลทั้งหลายมาให้แล้ว ยังถือเป็น การหมิ่นและลบหลู่ต่อองค์ไท้ส่วยอีกด้วย
วิธีบูชาเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย
จุดธูป 9 ดอก ไหว้พระประธานในวัดก่อน(ปักธูปกระถางละ 3 ดอก)จากนั้นจึงไปไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย จุดธูป 3 ดอกวิงวอนขอพรท่านให้ท่านช่วยปกป้องคุ้มครองจากภยันอันตรายต่างๆ ที่ท่านอาจประสบพบเจอในปีนี้จากหนักให้กลายเป็นเบา จากเบาก็ให้มลายสูญสิ้นไป
เครื่องบูชาเทพเจ้าไท้ส่วย มีดังนี้
(ถ้าไปทำพิธีที่วัดจีนใกล้บ้านคุณที่มี “องค์ไท้ส่วยเอี๊ย”ประดิษฐานอยู่ ทางวัดมักมีจัดบริการไว้ให้แล้วเป็นชุด :ให้เข้าไปซื้อในวัดถึงจะเป็นของวัดแท้จริง)
1. ธูป 3 ดอก ต่อ 1 ท่าน2. เทียนแดง 1 คู่
3. หงิ่งเตี๋ย 12 คู่ 4. ตั่วกิม 12 แผ่น (กระดาษทอง)
5. ทุกหลั่งจี๊ 12 แผ่น 6. เป๋าอุ่งจี๊ 12 แผ่น
7. เผ่งอังจี๊ 12 แผ่น 8. กระดาษแดง (อั่งเถียบ) 1 แผ่น
9. ขนมจันอับ (จับกิ้มทึ้ง) 1 จาน
อันประกอบด้วย….
- ถั่วเคลือบน้ำตาลสีขาว
- ถั่วเคลือบน้ำตาลสีชมพู
- ฟักเชื่อม
- ถั่วตัด
- ข้าวพอง
10. ส้ม 4 ผล 1 จาน
         1. นำกระดาษแดงที่เขียนชื่อ-นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด (และเวลาตกฟาก) วางลงบนกระดาษไหว้ ใช้หนังสติ๊กหรือเชือกแดงมัดไว้
         2. จัดส้ม 4 ผล และขนมจันอับใส่จานจัดวางต่อหน้าองค์เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย
         3. จุดเทียนแดงปักไว้ข้างๆกระถาง จากนั้นจุดธูป 3 ดอก อธิษฐาน...
คำอธิษฐานขอพรไหว้เทพเจ้าไท้ส่วย
            วันนี้ตรงกับวันที่...เดือน....พ.ศ....ข้าพเจ้าชื่อ....นามสกุล....วันเดือนปีเกิด....ที่อยู่.... ขออัญเชิญเทพเจ้า “แผ่ไท่ไต่เจียงกุง” โปรดเสด็จมารับเครื่องสักการบูชาทั้งหลายเมื่อรับแล้วโปรดประทานพรให้ข้าพเจ้าและครอบครัวประสบแต่สรรพสิริมงคลมีความสุขความเจริญก้าวหน้าอุดมด้วยโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมาปราศจากทุกข์โศกโรคภัย สิ่งอัปมงคลทั้งหลายอย่าได้แผ้วพานขอให้สมความปรารถนาด้วยมงคลทั้งปวงเทอญ
            4. ถ้าเป็นของตนเองให้หยิบชุดสะเดาะเคราะห์ที่เตรียมไว้ตามข้อ1 ปัดตั้งแต่ศรีษะลงมาจนสุดแขน 12 ครั้ง(หมายเหตุ ถ้าท่านไปไหว้แทนบุคคลอื่น ก็ไม้ต้องทำพิธีปัดตัวแต่ให้กระทำโดยปัดเสื้อของบุคคลนั้นแทน) ขณะปัดตัวให้กล่าวว่า “บังเกิดแต่สิ่งรุ่งเรืองก้าวหน้า สิ่งอัปมงคลให้ปัดเป่าหายไป”
         5. นำชุดสะเดาะเคราห์วางลงในกล่องรับฝากที่ทางวัดจัดไว้ให้ก็เป็นอันเสร็จพิธี ของเซ่นไหว้ต่างๆ ถวายให้วัดไม่ต้องนำกลับบ้าน(ของไหว้ที่รับประทานได้ ไม่ต้องเก็บกลับบ้านให้วางไว้ที่วัดเพื่อความเป็นสิริมงคล)
หมายเหตุ ท่านสามารถไปทำพิธีได้ทุกวันที่ท่านสะดวก (ควรเป็นช่วงเวลาเช้าๆก่อนเที่ยง) และ
         -ผู้หญิงขณะมีประจำเดือนไม่ควรทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้งดเว้นไปก่อน
         -เจ้าชะตาปีมะโรงและเจ้าชะตาปีจอ ขณะนำชุดกระดาษไหว้มาปัดตัวต้องให้ผู้มีอาวุโสกว่าเราปัดให้เท่านั้น
            ช่วงปีใหม่ และตรุษจีนปี2555 ควรหาโอกาสไปไหว้เทพเจ้าต่างๆตามแต่ที่จะเสริมปีนักษัตรตนเอง (ส่วนคำพยากรณ์ดวงประจำปี 2555 ของแต่ละปีเกิดอย่างละเอียด กับทิศมงคล ทิศอัปมงคลประจำปี 2555 และวัตถุมงคลเสริมราศีปีเกิดประจำปี 2555 กำลังอยู่ในช่วงจัดทำเมื่อแล้วเสร็จทางร้านจะนำมาพิมพ์เผยแพร่แล้วทำการแจ้งให้ท่านผู้อ่านทราบต่อไปช่วงปลายปี2554 นะครับ)
         ในช่วงกลางปี 2554นี้ เนื่องจากท่านผู้อ่านที่ติดตามอ่านบทความของทางร้านมาตลอดทุกปีได้ติดต่อเข้ามากับทางร้านให้เขียนบทความเกี่ยวกับปีชงของปี 2555 แต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะได้ทราบว่าตนเองมีเกณฑ์การชงหรือไม่ในปีถัดไปจะได้ตั้งหลักระวังตัวไว้ก่อน (คนที่ดวงดีในปีนี้ 2554 จะได้ไม่ประมาทชะล่าใจเตรียมตัวเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าเพื่อจะได้ป้องกันเหตุอันไม่พึงปรารถนาต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ไม่ให้เกิดขึ้น หรือถ้าเกิดขึ้นก็จะได้ไม่เสียหายมากนัก)
          1.ปีจอ(สุนัข) (ชง : ปะทะ) โดยตรงกับเทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา “ไท้ส่วยเอี๊ย” และเป็นอริกับปีมะโรงโดยตรงเกณฑ์นี้เป็นเกณฑ์ร้ายที่สุดในบรรดา “ฆาตดวงชะตา” ทั้งหลาย เป็นเกณฑ์ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงครั้งใหญ่ในชีวิตทั้งด้านหน้าที่การงาน ธุรกิจ การงาน การลงทุน สุขภาพ ความรัก คู่ครองทั้งหมดต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะหากใครตกเกณฑ์นี้จะมีแนวโน้มที่จะผิดหวัง เสียหาย ถูกทำลาย หรือวิบัติสูญสิ้นในสิ่งที่ตนหวังหรือครอบครองไว้
         ควรไปไหว้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ฝากดวงชะตาต่อ“องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” และถ้าเป็นไปได้หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วให้ไปทำบุญไหว้พระ9 วัด พร้อมทั้งถือปฏิบัติตนในปีชงตลอดทั้งปี
            2.ปีมะโรง(มังกร) ทับไท้ส่วย และยัง “เฮ้ง(เบียดเบียน)”กับปีมะโรงเองด้วย เกณฑ์นี้เป็นเกณฑ์เรื่องคดีความเจ้าชะตามักมีอุปสรรคในการดำเนินชีวิตมากมาย ได้รับการประทุษร้าย เห็นผิดเป็นชอบบางสิ่งที่ทำแล้วคิดว่าดีแต่กลับเป็นผลร้ายในปีนี้ทั้งปีห้ามเป็นนายประกันให้ใคร หรือห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับการค้ำประกันใดๆหมั่นระวังเรื่องเอกสารสัญญาต่างๆ ให้ระเอียดรอบคอบเพราะข้อมูลเอกสารที่สำคัญๆของเจ้าชะตาจะมีการหมกเม็ดปลอมแปลงแก้ไขแต่งเติมโดยที่เจ้าชะตาขาดไม่ถึงนอกจากควรรอบคอบเรื่องกฎหมายคดีความแล้วการเข้าใจผิดระหว่างพี่น้องเพื่อนฝูงก็มีโอกาสกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตต้องระวังให้มากด้วยเช่นกัน
         ควรไปไหว้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ฝากดวงชะตาต่อ“องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” และถ้าเป็นไปได้หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วให้ไปทำบุญไหว้พระ9 วัด พร้อมทั้งถือปฏิบัติตนในปีชงตลอดทั้งปี
            3.ปีฉลู(วัว) ปีร่วมชงไท้ส่วย และยัง “ผั่ว(แตกแยก)”กับปีมะโรงด้วย เกณฑ์นี้ต้องระวังเรื่อง พ่อแม่อาชีพการงานไม่มั่นคงเปลี่ยนแปลงบ่อย ความเหงาเดียวดายหากมีคู่หรือมีความรักในช่วงปีนี้จะไม่ค่อยสดชื่นสมหวัง
         ควรไปไหว้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ฝากดวงชะตาต่อ“องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” และถ้าเป็นไปได้หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วให้ไปทำบุญไหว้พระ9 วัด พร้อมทั้งถือปฏิบัติตนในปีชงตลอดทั้งปี
          4.ปีมะแม(แพะ) ปีร่วมชงไท้ส่วย หากผู้ใดตกเกณฑ์นี้จะทำให้ปีนี้ทั้งปีมีแต่เรื่องปวดหัวแต่ยังมีความสุขหรือมีโชคเข้ามาบ้างสลับกันไปทำให้บางครั้งดูเหมือนว่าโชคดีแต่ลาภผลทั้งหลายจะถูกบั่นทอนลงไปครึ่งหนึ่งหรือไม่ก็ถูกผู้อื่นแย่งชิงไปจากเราหากเจ้าชะตามีการแข่งขันช่วงชิงผลประโยชน์ในปีนี้ก็น่าจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจแต่เนิ่นๆอย่าได้ชะล่าใจ หรือมั่นใจตัวเองมากเกินไปสิ่งที่เราคาดหวังไว้มีโอกาสหลุดมือไปโดยง่าย
         ควรไปไหว้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ฝากดวงชะตาต่อ“องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” และถ้าเป็นไปได้หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วให้ไปทำบุญไหว้พระ9 วัด พร้อมทั้งถือปฏิบัติตนในปีชงตลอดทั้งปี
          5.ปีเถาะ(กระต่าย) “ไห่(ให้ร้าย)” กับปีมะโรงปีนี้ต้องระวังเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งมักจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับหู คอ จมูกหรือโรคเรื้อรังอื่นๆ และความไม่ปรองดองในหมู่ญาติพี่น้อง
         ควรไปไหว้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์ฝากดวงชะตาต่อ“องค์ไท้ส่วยเอี๊ย” และถ้าเป็นไปได้หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วให้ไปทำบุญไหว้พระ9 วัด พร้อมทั้งถือปฏิบัติตนในปีชงตลอดทั้งปี
            ส่วนผู้ที่มีแนวโน้มที่ดวงชะตาชีวิตจะสดใสขึ้นในปี2555 นี้คือผู้ที่เกิด ปีระกา ปีวอก ปีชวดดังนั้นเพื่อเป็นการเสริมส่งให้ดวงชะตาของท่านพุ่งสุดขีดไม่ถูกบั่นทอนลงและท่านมีเกณฑ์ชงทั้ง 5 ปีที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น(หลังจากที่ท่านไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์ฝากดวงที่วัดจีนเรียบร้อยแล้ว)ให้ท่านทำบุญดังนี้ (ถ้าเป็นได้ให้ทำทั้งปี 2554 และปี 2555ตลอดทั้งปี)
         1. ปล่อยนกปล่อยปลาเท่าอายุ
         2. ทำบุญสังฆทานทุก 2เดือน
         3. ถือศีล กินเจ ทุกเดือน(เดือนละกี่วันก็ได้ตามสะดวก)
         4. ทำบุญซื้อโลงศพ
         5. นั่งสมาธิหมั่นทำบุญตักบาตร
         6. ไหว้พระ 9 วัด
         7. ร่วมทำบุญซื้อวัวควาย
ไหว้พระ 9 วัดเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล (ถ้าเป็นไปได้ให้ไปช่วงปีใหม่หรือตรุษจีนหลังจากไปทำพิธีที่วัดจีนเสร็จแล้ว)
             1. ศาลหลักเมือง กรุงเทพมหานคร (เวลาเปิด-ปิด 05.30 – 19.30 น.)ไปสักการะ “เทพารักษ์ทั้ง 5? คือพระเสื้อเมือง, พระทรงเมือง, พระกาฬไชยศรี,เจ้าพ่อเจตคุปต์, เจ้าพ่อหอกลอง เพื่อ “ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี” ไหว้เสาหลักเมืององค์จำลอง ด้วยธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ผ้าแพร 3 สี ดอกบัวและไหว้องค์จริงด้วยพวงมาลัย
สถานที่ตั้ง อยู่บริเวณหัวมุมสวนหลวงข้างพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 47, 53, 64, 80, 82,91,201, 203 รถปรับอากาศ สาย 503,508, 512
            2. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (เวลาเปิด-ปิด 08.30 – 16.00 น.) ไหว้พระแก้วมรกตพระพุทธรูปสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เป็นศูนย์กลางความศรัทธาไทย – ลาว เพื่อความเป็นสิริมงคล “ไหว้พระแก้วมรกตแก้วแหวน เงินทองไหลมาเทมาตลอดปี” ด้วยธูป เทียน ดอกบัวคู่
สถานที่ตั้ง อยู่ในพระบรมมหาราชวังถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 53, 59, 64, 80,82,91,201, 203 รถปรับอากาศ สาย 501, 503, 508, 512
          3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์) (เวลาเปิด-ปิด 08.00 – 16.00 น.) นมัสการพระพุทธไสยาสน์อันศักดิ์สิทธิ์(ที่ฝ่าพระบาททั้งสองข้างประดับมุก ลวดลายภาพมงคล 108 ประการ)เพื่อความเป็นสิริมงคล “ไหว้พระนอนวัดโพธิ์ ร่มเย็นเป็นสุขอยู่ดีกินดีตลอดปี” ด้วยธูป 9 ดอกเทียนแดงคู่ ทองคำเปลว 11 แผ่น
สถานที่ตั้ง หลังพระบรมมหาราชวัง ถนนสนามไชยแขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 1, 3, 6, 9, 12, 25, 43, 44, 47, 53, 60, 82, 91, 123,รถปรับอากาศ สาย 501, 508
            4. ศาลเจ้าพ่อเสือ (เวลาเปิด-ปิด 08.00 – 16.00 น.) ไปสักการะเจ้าพ่อเสือ เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม ฯลฯ เพื่อเสริม “อำนาจบารมี”ด้วยธูป 18 ดอก ปัก 6 กระถางเทียนแดง 1 คู่ พวงมาลัย 1 พวง “ศาลเจ้าเก่าแก่ของลัทธิเต๋า” หนึ่งในสามมหาสถานของพระนครที่ชาวจีนต้องสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล “เสริมอำนาจบารมี”
สถานที่ตั้ง ถนนตะนาวแขวงเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 10, 12, 19, 35, 42, 56, 96
            5. วัดสุทัศน์เทพวราราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 – 16.00 น.) ไหว้พระองค์ประธาน(พระศรีศากยมุณี) ที่เก่าแก่ซึ่งอดีตเคยประดิษฐานอยู่ที่วิหารหลวงวัดมหาธาตุของกรุงสุโขทัย เพื่อความเป็นสิริมงคล“ไหว้พระวัดสุทัศนฯ มีวิสัยทัศน์กว้างไกลมีเสน่ห์แก่บุคคลทั่วไป” ด้วยธูป 3 ดอกเทียน 2 เล่ม ดอกบัวหรือพวงมาลัย
สถานที่ตั้ง บริเวณเสาชิงช้าตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 10, 12
          6. วัดชนะสงคราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 – 16.00 น.) ต้องไปสักการะ “พระประธาน” ในพระอุโบสถ และ “สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (บุญมา)” ผู้นับถือความซื่อสัตย์ด้วย ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1ดอก มีความเชื่อว่า “จะมีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง”“ไหว้พระวัดชนะสงคราม อุปสรรคร้ายพ่ายแพ้”
สถานที่ตั้ง ถนนจักรพงษ์แขวงบางลำพู เขตพระนคร
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 3, 6, 9, 15, 30, 32, 33, 43, 53, 64, 65, 82, 123 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 6, 509
            7. วัดระฆังโฆษิตาราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 – 16.00 น.)สักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และพระประธานที่วัดระฆังอ่านคาถาชินบัญชร เพื่อความเป็นสิริมงคล “ไหว้พระวัดระฆังมีชื่อเสียงโด่งดังตลอดปี” ด้วยธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำเปลว 3 แผ่น หมากพลู
สถานที่ตั้ง ถนนอรุณอัมรินทร์แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 19, 57, 83 ท่าเรือ เรือด่วนเจ้าพระยาลงท่ารถไฟหรือท่าวังหลังก็ได้ หรือลงเรือข้ามฟากจากท่าช้างไปท่าวัดระฆัง
            8. วัดอรุณราชวราราม (เวลาเปิด-ปิด 08.00 – 16.00 น.)ไหว้พระปรางค์วัดอรุณฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล “ไหว้พระวัดอรุณชีวิตโรจน์รุ่ง ทุกวันคืน” ต้องไปสักการะ “พระประธาน” ด้วยธูป 3 ดอกเทียนคู่ และต้องไปเดินทักษิณาวัตรรอบ “พระปรางค์” อีก 3 รอบ เพื่อ “ชีวิตรุ่งโรจน์”
สถานที่ตั้ง ข้างกองทัพเรือถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่
การเดินทาง เดินทางโดยรถประจำทางสาย 19,57, 83 ทางเรือ ลงเรือข้ามฟากที่ท่าเตียนขึ้นที่ท่าวัดอรุณ
          9. วัดกัลยาณมิตร (เวลาเปิด-ปิด 08.00 – 16.00 น.) ไหว้หลวงพ่อซำปอกง(พระพุทธไตรรัตนนายก) พระโตริมน้ำตามตำนาน กรุงศรีอยุธยา ณ วัดกัลยาณมิตรเพื่อความเป็นสิริมงคล “ไหว้หลวงพ่อซำปอกงโชคดีมีชัยปลอดภัยตลอดปี” ด้วยธูป 3 ดอกเทียนแดงคู่
สถานที่ตั้ง แขวงวัดกัลยาณ์เขตธนบุรี
การเดินทาง โดยรถประจำทาง สาย 3,4, 7, 7ก, 9, 21, 37, 56, 82 รถปรับอากาศสาย ปอ. 7, 21, 82 (นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างจากโรงเรียนศึกษานารีเข้ามาที่วัดเพราะรถ ประจำทางเข้าไม่ถึง) ทางเรือ ลงเรือข้ามฟากที่ท่าปากคลองตลาดขึ้นท่าวัดกัลยาณมิตรเพื่อความสะดวกควรเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง หรือบริการขนส่งสาธารณะเนื่องจากสถานที่จอดรถมีจำกัดมาก
            บางคนเคร่งครัดจัดถึงขนาดที่จะต้องไปสักการะให้ครบทั้ง9 แห่งในวันเดียว !!!
            การได้ไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนั้นไม่จำเป็นต้องไปในวันพิเศษทางศาสนาเท่านั้นหากสามารถไปนมัสการได้ทุกเมื่อ ซึ่งการไปนมัสการนี้ไม่เพียงจะก่อให้เกิดความสบายใจเท่านั้นหากยังเป็นกุศโลบายที่สร้างความเชื่อมั่นในการพาชีวิตก้าวเดินต่อไปในอนาคตด้วยสัญญาใจที่ให้ไว้กับตัวเอง และถ้าไม่มุ่งมั่นในการโกย “มงคล” เกินไปเวลานั้นน่าจะเป็นเวลาทองที่ได้ซึมซับความสงบสุขความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ได้อีกด้วย



teelek_smile โพสต์ 2012-1-5 20:50:44


ขอบคุณมากๆครับ{:5_119:}
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ปีชงและวิธีแก้ปีชง ปีมะโรง ปี2555