คนโง่ที่รักเธอ ( 14 )
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกทีเป็นอีกแล้ว
ขอบคุณครับผม ขอบคุณมากครับ ขอบคุนคราบ พอมันนอนนิ่ง ๆปุ๊บ เพื่อน ๆเชื่อไหมครับว่ากลิ่นสบู่อ่อน ๆ ที่ติดอยู่ตามตัวมันนี่ทำเอาผมแทบคลั่งกระโดดปล้ำมันให้รู้แล้วรู้รอด แต่แหะๆๆๆ ได้แต่คิดอะครับ กำลังจะเคลิ้ม ไอ้กั๊กมันก็นอนตะแคงหันหน้ามาทางผมและก็เบียดเข้ามาในผ้าห่ม ทำให้เข่าของผมที่งออยู่ก็ตรงกับตำแหน่งตรงนั้นของมันแบบพอดิบพอดี
ตอนแรกก็ไม่มีอะไรหรอกครับ แต่หลัง ๆ ผมชักรู้สึกได้ว่า มันเอาไอ้กั๊กน้อยของมันเบียดเข้ากับหัวเข่าของผมที่งงอยู่ ไอ้เชี่ยนี่เมิงกะจะเอากะเข่ากรูช่ายไหมเนี่ย
“กั๊กไม่เอา”มันก็หยุดครับ ผมกลัวเป็นเรื่องอีกครับ
สักพักหนึ่ง มันก็ยื่นปากมันมาขบที่ไหล่ผมเบาๆๆและก็จับตัวผมนอนตะแคงไปอีกด้านหนึ่ง โดยหันหลังให้มัน และมันก็.......................เอามือมากอดผมนอนหลับไปด้วยกันครับ แหะๆๆๆๆ ตอนนั้นเสียดายชิบ
ตอนเช้าผมตื่นมาคนแรกครับ ผมกับไอ้กั๊กก็ยังอยู่ในท่าเดิมครับ แหมตอนนี้สภาพแต่ละคน เคารพธงชาติกันเป็นแถวน่าจับถ่ายรูปไว้นัก
ผมก็เดินไปหาซื้ออะไรกินเรื่อยเปื่อย รวมทั้งซื้อมาฝากพวกเพื่อน ๆ ที่ยังไม่ตื่นด้วย พอกลับมาถึงห้องพัก พวกนังเหมียว นี และโอ๋ ก็ตื่นกันเรียบร้อยแล้ว ก็เลยเรียกพวกมันมากินน้ำเต้าหู้พร้อมปาท่องโก๋ที่ซื้อมาฝาก ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยอะครับ เรื่องนู้นเรื่องนี้
สักพักใหญ่ ไอ้กั๊กก็เดินตามออก มีนังเชตเกาะแขนออกมาด้วยดูท่าทางยังไม่ได้ล้างหน้า หัวหู ยุ่งออกมาเลย แต่ก็ดูเซ็กซี่ไม่เบาครับ แหม ผิวหนังภายใต้เสื้อกล้ามของมันนี่ มันน่าฟัดนักส่วนนังเชตก็ทาแป้งซะหน้าเขียวเลยครับ 5555
“หลีกหน่อย ผัวเมียเขาจะนั่งด้วยกัน”นังเขตตะโกนบอกเพื่อน ๆพวกผมก็ขำสิครับ รู้ ๆ กันครับว่านังเชตมันพูดเล่น ไม่มีใครจริงจังกับคำพูดมันหรอกครับ
“ถ้ากรูจะเอา กรูเอาไอ้แบงก์ดีกว่า ขาวกว่ากันตั้งเยอะ”พรวดน้ำเต้าหู้ครับ ที่พุ่งออกจากปากผม แหมไอ้กั๊ก พูดมาได้นะเมิงไอ้พวกนั้นก็เฮ้ กันใหญ่เลยครับ ท่าทางมันยังไม่รู้อะไรซะแล้ว
พอกินกันเสร็จเราก็เอากล้องมาถ่ายรูปเล่นกัน ไอ้กั๊กมันชอบถ่ายภาพมากครับ แต่เป็นคนถ่ายนะมันบอกว่า ความรู้สึกของคนเราจะหมุนไปเรื่อย ๆ ทุกวินาทีดังนั้นการถ่ายภาพนี่แหละที่จะเป็นการเก็บความทรงจำและความประทับใจได้ดีที่สุดมันบอกว่า เป็นภาพขณะปิ๊งครับ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าภาพขณะปิ๊งของมันเป็นยังไง จนเมื่อเวลาผ่านไป พอหยิบภาพขึ้นมาดูทีไหร่ ในหัวของเราก็จะมีเรื่องราวและเหตุการณ์ต่าง ๆ กลับมาเลยครับ เรียกว่า ปิ๊งขึ้นมา
หลังเราก็เตรียมตัวที่จะกลับบ้าน ระหว่างที่นั่งรถกลับกันไปนั้น ผมก็นั่งคุยกับไอ้กั๊กไปเรื่อยเปื่อยถึงเรื่องเรียน เรื่องนู้นเรื่องนี้ ก็เลยทำให้ได้รู้ว่า มันเคยมีแฟนมาแล้วคนหนึ่ง เป็นผู้หญิง คบกันมาตั้ง 3 ปีแนะ แต่ก็ต้องเลิกกัน เพราะผู้หญิงไปมีแฟนใหม่ ไอ้กั๊กนี่มันก็เซ่อ ๆหูเบา ใครบอกอะไร ใครหลอกอะไรก็เชื่อ มันก็เลยเป็นควายให้ผู้หญิงหลอกได้ตั้งนาน ถ้ามันไม่ไปเห็นด้วยตาว่าทั้งคู่ไปนั่งกินข้าวกันที่ริมคลองด้วยกัน ก็คงยังโดนหลอกอยู่ พอไอ้กั๊กขอให้เลิกกับทางนู้นก็บอกว่าเลิกกันแล้ว แต่อีนังผู้หญิงก็ไปบอกฝ่ายนู้นเหมือนกันว่าเลิกกับไอ้กั๊กแล้วเหมือนกัน พอจับได้รอบสอบ ไอ้กั๊กก็เลยชิงบอกเลิกนี่แหละมั้งสาเหตุที่ทำให้มันกลัวความรักเด็กจริง ๆ นะเมิง
“อกหักดีกว่ารักไม่เป็นนะเว้ย”555 ผมบอกมันครับ
“แต่กรูไม่อยากอกหักวะ”มันตอบครับ
“เออ ก็ดี แล้วเมิงก็จำเอาไว้ด้วยนะเว้ย ว่ารู้ว่าอกหักแล้วมันเสียใจ ก็อย่าไปทำใครเขาอกหักละกาน”ผมเตือนมันฮะ
"และแกพร้อมที่จะมีแฟนใหม่หรือยังวะ"ผมลองหยั่งเชิงมัน 5555
"คิดว่าตอนนี้ กั๊กพร้อมแล้ววะ"
"งั้นแสดงว่าตอนนี้เมิงเปิดใจแล้วช่ายปะ"
"อืม" มันตอบสั้น ๆ ครับ แต่ได้ใจความ ถึงเวลาเอาจริงแล้วสินะ แบงก์ผมบอกตัวเองครับ 555
"เป็นกำลังใจให้นะ สู้ ๆๆ"ผมบอกมัน มันก็ยิ้มตาหยีกลับมาเลยครับส่วนไอ้คำหลังเนี่ยผมบอกตัวเองครับ
ระหว่างทางที่นั่งคุยกับมันบนรถ ผมก็รู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของมันครับมันมักจะเต็มใจเทคแคร์คนที่อ่อนแอกว่า ไม่ใช่ว่าเฉพาะผู้หญิง แม้แต่ผม รวมถึงไอ้เชตด้วย
ระหว่างทางเราก็แวะไหว้พระกัน วัดอะไรไม่ได้แล้ว แต่อยู่แถวอัมพวาอะ สิ่งที่ผมขอก็คือ เรื่องเรียน ครอบครัว ทั่ว ๆ ไปอะฮะ แต่ปิดท้ายด้วยว่า "ขอให้ความรู้สึกอย่างนี้ อยู่กับผมนานที่สุด"ผมไม่กล้าขอให้มันอยู่ตลอดไปหรอกนะคับเพราะผมรู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ เอาเป็นว่า ให้นานที่สุดก็แล้วกัน และช่วงนี้ ผมจะตักตวงเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
พอเราไหว้เสร็จก็ออกมาปิดทอง คือผมได้รับการบอกมาว่า อยากเรียนเก่ง ๆ ต้องเอาทองปิดที่เศียรพระอยากจมูกโด่ง ๆ ต้องเอาทองปิดที่จมูกพระอยากตาโต ต้องเอาทองปิดตาพระ(555555555555 ใครคิดวะ)ตอนนั้นผมติดอยู่ที่ 2 ที่ครับ คือ หน้าอกด้านซ้าย กับเศียรพระ คืออยากเรียนเก่ง ๆ นะครับ แต่เนื่องจากว่าผมเตี้ยไงก็เลยติดไม่ถึง เลยวานไอ้กั๊กติดให้
"กั๊ก ติดที่หัวให้หน่อยดิ"คือตอนนั้นเรียกไม่ถูกอะครับ ก็เลยบอกให้มันติดที่เศียรพระให้ แต่บอกว่าติดที่หัว
"อืม"มันก็คว้าไป และก็คลี่ออก แต่มันไม่ได้เอาไปติดที่เศียรพระนะครับแต่ดันเอามาแปะไว้ตรงหน้าผากผม
"ไอ้บ้า เมิงทำไรวะ"ผมด่ามันไอ้ห่า กรูไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์นะเว้ย
"อ้าว ก็แบงก์บอกให้ติดที่หัว ก็ติดที่หัวไง"เออ...............................เมิงนะเมิง
"กรูบอกให้ติดที่หัวพระ" ผมก็เถียงมันขาดใจ
"เอ้า ก็แบงก์ไม่ได้บอกนิหว่า"มันโง่จริง ๆ หรือแกล้งโง่วะเนี่ย
แล้วมันก็ติดให้ผมใหม่ ผมก็กำลังเช็ดทองที่หัวออก แต่มันคงเห็นว่าเช็ดไม่ออกมั้งครับ มันก็เลยอาสาเช็ดให้ โดยมันถกชายเสื้อยึดมันขึ้นมา เช็ด ๆ ที่หน้าผากผมตอนนั้นหัวใจจะวาย มันอาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่ผมคิดไปถึงไหนแว้ววววววววววว แหม ก็พอมันถกเสื้อขึ้น ผมก็เห็นไปถึงไหน ๆ แล้วสิครับ พี่น้อง
"ไม่ต้องแหละ ปล่อยไว้อย่างนี้แหละดี"
"เดียวก็ขูดขอหัวซะหรอก5555555555"มันแซว แล้วก็หัวเราะครับดู๊ๆๆๆ ดูมันทำ
และที่ขาดไม่ได้เลยก็เลยเสี่ยงเซียมซีครับโดยของผมนั้นผมจำไม่ได้แล้วว่ามันเขียนว่าอย่างไร แต่ความหมายโดยรวมประมาณว่า คิดอะไรจะสมหวังแต่ไม่ดังปรารถนา อะไรประมาณเนี่ยอะครับ งงเหมือนกัน ส่วนของไอ้กั๊กมันผมไม่รู้ครับ เพราะมันบอกว่ามันทิ้งไว้ที่วัดท่าทางจะไม่ดีแหมๆๆ แถมมันยังเขย่าเซียมซีขอหวยมาอีก
พอรถจอดหน้าโรงเรียนซึ่งเป็นที่นัดหมายแล้ว ก็ต่างแยกย้ายกันบ้านใครบ้านมันครับ และก็คงจะไม่ได้เจอกันอีกจนกว่าจะเปิดเทอมครับ
เข้าใจผิด
หลังจากเปิดเทอมขึ้น ม. 5 ได้สักพักหนึ่ง ผมกับไอ้กั๊กก็เหมือนเดิม คืออย่างที่เพื่อน ๆ ได้อ่านนั่นและครับ ค้าง ๆ คา ๆ ผมก็ไม่กล้าถาม(กลัวคำตอบ)ไอ้กั๊กมันก็ยังทะเล้น ขี้แกล้งเหมือนเดิม และด้วยความทะเล้นของมัน บวกกับหน้าตาที่สวรรค์ช่างปั้น ทำให้มีหญิงติดมันเยอะ เดินตามหางกันต้อย ๆ เลยครับ ต่างโรงเรียน ก็มีครับ
วิชาพละในเทอมนี้เป็นวอลเล่ย์บอลครับ วิชาโปรดของไอ้กั๊กมันเลย ส่วนกระผมก็ดีใจเหมือนกันที่ได้เรียนวิชานี้ เพราะเดาเกรดได้เลยว่า 4 ลอยมาแน่ๆๆ เพราะอาจารย์ที่สอนนี่ซี้กัน ต่อให้เล่นไม่ได้เรื่องก็เหอะ คาบแรกอาจารย์ก็ยังไม่สอนอะไรมากครับ ก็ให้แบ่งทีมลองเล่นไปดูก่อน เพื่ออาจารย์จะได้ดูทักษะของแต่ละคน ก็เหมือนกับแข่งกันอะครับ ทีมใครแพ้ก็ให้ทำความสะอาดโรงยิมและทีมของผมก็คือสมาชิกในกลุ่มผมนี่แหละครับ แต่ซวยไง ต้องไปแข่งกับทีมไอ้กั๊กซึ่งก็เป็นเพื่อน ๆ ในกลุ่มมันซึ่งแม่งตัวโรงเรียนเกือบครึ่งแต่ก็มีผู้หญิงที่ไม่เก่งปะปนไปด้วย เพราะอาจารย์เขาคงรู้ ก็เลยจับคละ ๆ กันในกลุ่มมันอะครับ
ระหว่างเล่น ทีมของผมก็ตามมันขาดลอย ไอ้ผมก็เล่นไม่เก่ง เสริฟข้ามบ้างไม่ข้ามบ้าง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าการเสริฟลูกวอลเล่ย์บอลนั้นเขาสามารถบังคับทิศทางกันได้ด้วย แต่ผมไม่สามารถทำยังงั้นได้ แค่ข้ามตาข่ายไปก็บุญหัวแล้วครับ 555
ระหว่างที่แข่งกันอยู่ แม่งทีมมันก็ไม่ออมแรงกันเลย กะจะคัดตัวทีมชาติหรือไงก็ไม่รู้ ไอ้กั๊กก็เหมือนกัน กระโดดตบที แทนที่พวกผมจะวิ่งเข้าไปรับกลับวิ่งหนีซะงั้น แม่ง ตบแรงซะขนาดนั้น ใครวิ่งเข้าไปก็บ้าแล้ว 555กระโดดหนีกันเป็นแถว ตอนนั้นเหนื่อยก็เหนื่อย รำคาญเสียงนังเชตก็รำคาญ กรี๊ดอยู่ได้ ไม่รู้จะกรี๊ดทำด๋อยอะไร
พอฝ่ายผมทำแต้มได้บ้างแล้วก็ต้องเปลี่ยนเสิร์ฟซึ่งเป็นตาที่ผมจะเสิร์ฟ ผมก็เสิร์ฟตามปกติ แต่มันดันไปโดนยัยขิมสาวน้อยแสนหวานของกลุ่มมัน ซึ่งเล่นไม่ค่อยเป็น ผมก็เลยได้แต้มและก็ได้เสริฟต่อ ผมก็เสิร์ฟตามปกติ ไอ้ลูกเจ้ากรรม ดันไปโดนยังขิมอีก ดูฝ่ายมันก็หงุดหงิดเหมือนกันที่ผมเสิร์ฟแต่ตรงขิมพอครั้งที่สามนี่โดนเต็ม ๆ หน้าเลยครับ เลือดกำเดาทะลักผมก็ยืนช็อก อาจารย์ก็หายไปไหนก็ไม่รู้
เพราะเพื่อน ๆ มันเห็นขิมเลือดกำเดาไหลเท่านั้นแหละวิ่งฮือมาที่ผม ไอ้เอกก็คงตกใจไม่ขยับ
“ไอ้แบงก์ เมิงทำเชี่ยไรเนี่ย”เสียงไอ้อ๊าทครับ ลอยมาก่อนเลย
“กรูไม่ได้ตั้งใจ” ผมรีบตอบปากคอสั้นกลัวมาก ๆ
“ไม่ได้ตั้งใจเชี่ยไร กรูเห็นเมิงเสิร์ฟไปแต่ตรงไอ้ขิม มันทำอะไรให้เมิงฮะ”
“ป่าว กรูไม่ได้ตั้งใจ”พูดได้แค่นั้นครับ
“เฮ้ย พวกเมิงทำไรวะไอ้แบงก์มันไม่ได้ตั้งใจนะเว้ย” เย้ๆๆๆๆ ไอ้เอกเข้ามาช่วยกรูแล้ว
“ไม่ตั้งใจอะไร เสิร์ฟ 3 ลูก ไปทางไอ้ขิมทั้ง 3 ลูกเลยเนี่ยนะ
“กรูไม่รู้ ไม่ได้ตั้งใจนิหว่า เมิงจะเอายังไงวะ”ผมเริ่มหมดความอดทนแล้วครับ ก็คนไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ และกรูก็จะรู้ไหมหละว่าลูกที่กรูเสิร์ฟไปจะไปทางไหน
“แบงก์ เมิงไปขอโทษไอ้ขิมมันเลยนะเมิง”เสียงไอ้กั๊กแทรกขึ้นมาครับ ผมก็หันขวับไปมองหน้ามัน ดูมันก็โกรธเหมือนกัน คงนึกว่าผมแกล้งไอ้ขิม
“เออ กรูขอโทษมันแน่ แต่กรูบอกพวกเมิงนะว่ากรูไม่ได้ตั้งใจและพวกเมิงเป็นใครจะมารู้ดีกว่ากรู พวกเมิงเป็นหมอดูหรือไงวะ สัด”ผมก็ด่าพวกมันไป โมโหมาก ๆครับ โกรธ ไอ้กั๊กด้วย
“กวนตีนนักนะเมิง” พลั๊ก ตามด้วยเสียงกรีดร้องของเพื่อน ๆ ผู้หญิง ใช่แล้วครับ ไอ้อ๊าทมันต่อยผมลงไปกองกับพื้นแล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดนต่อย เจ็บมาก หน้าชาไปหมด
ไอ้เอกเห็นยังงั้นก็เลยต่อยไอ้อ๊าทกลับไปทีหนึ่ง เอาคืนแทนผมแล้วมันก็นัวเนียกันพักหนึ่ง ตอนนั้นไอ้กั๊กไอ้ยุทธไอ้โต้ง กลุ่มมันวิ่งเข้ามาช่วยไอ้อ๊าทแล้วเพราะอย่างที่บอกว่าไอ้เอกนี่มันหัวโจก เรื่องต่อยตีมันไม่เป็นรองใครอยู่แล้วผมเห็นดังนั้น ด้วยความตกใจ ก็เลยเข้าไปแยกมันสองฝ่ายออกแต่ด้วยลูกหลง หรือความตั้งใจก็ไม่ทราบ ไอ้กั๊กครับ ผมจำได้แม่น มือสาก ๆของมัน เหวี่ยงผมออกมาซะปลิว ปลิวไปที่ไหน
ขอบคุณมากๆครับ
หน้า:
[1]