"น้ำตาล" ประโยชน์และโทษในผลึกเดียวกัน
อย่างที่ได้เกริ่นไว้ในชื่อกระทู้นะคะว่าน้ำตาลมีทั้งประโยชน์และโทษในผลึกเดียวกัน วันนี้จึงมีคำเตือนและความหวังดีมาฝากเพื่อนๆชาวเด็กดีค่ะ!!
ภาพขยายของผลึกน้ำตาล
"น้ำตาล"สารให้ความหวานตามธรรมชาติชนิดหนึ่ง เรียกกันได้หลายแบบโดนขึ้นอยู่กับรูปร่างลักษณะของน้ำตาล เช่นน้ำตาทราย น้ำตาลกรวด น้ำตาลก้อน น้ำตาลปีบ เป็นต้น แต่ถ้าในทางเคมี หมายถึง"ซูโครส"(อย่างที่เคยได้ยินเรียนชื่อน้ำตาลซูโครสนั่นแหละค่ะ)มีลักษณะเป็นผลึกของแข็งสีขาว
"น้ำตาล"เป็นสารประกอบ คารฮโบไฮเดรต มีรสหวาน โดยมากน้ำตาลจะได้จากมะพร้าว อ้อย ต้นบีท อินทผลัม ข้าวฟ่าง สมัยโบราณเราทำ"น้ำตาล" จากน้ำต้นตาลจึงเรียกสารให้ความหวานนั้นว่า"น้ำตาล" แม้ว่ารูปแบบของสารให้ความหวานจะเปลี่ยนไป ทั้งรูปลักษณ์และวัตถุดิบโดยทำมาจากน้ำอ้อย แต่ชื่อ"น้ำตาล" ก็ยังคงถูกใช้อยู่จวบจนปัจจุบัน
ขนมน่าทานพวกนี้มีสีสันน่าทานมาจากน้ำตาล
"น้ำตาล" จัดเป็นอาหารให้พลังงานแต่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ น้ำตาล 1ก กรัม ให้พลังงาน 4 แคลอรี่ ปกติใน 1วัน เรารับประทานอาหารเข้าไปหลากหลายประเภท ทังแป้ง โปรตีน ไขมัน ซึ่งแล้วแต่เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงทั้งสิ้น เมื่อเราเพิ่มการบริโภค"น้ำตาล"เข้าไปอีกถือว่าเกินพอดี อาจทำให้เกิดโรคต่างๆได้เพราะระดับวิตามินบี1 ลดน้อยลง เช่นเหน็บชา ภูมิแพ้ อารมณ์แปรปรวน กระสับกระส่าย ซึมเศร้า นอนไม่หลับ และโรคอ้วน นอก
จากนี้เมื่อ"น้ำตาล"อยู่ในเลือดจะมีผลให้เลือดเหนียวข้นขึ้น เลือกจะไหลช้าลงและนำสารต่างๆไปเลี้ยงร่างกายได้ช้า ประสิทธิภาพในการซ่อมแซมร่างกายลดลงทำให้เส้นเลือกฝอยตีบตันได้ง่าย และเกิดความเสื่อมกับอวัยวะต่างๆได้เร็วขึ้น
สัญญาณเตือนถัย!!
ว่าร่างกายได้รับอันตรายจากความหวานก็คือ น้ำหนักลดยาก อยากกินหวาน หากไม่ได้กินจะรู้สึกหงุดหงิด มีผมหรือขนขึ้นในที่ที่ไม่ควรขึ้น ผมร่วง สิวขึ้น ในรายการที่มีอายุ30ปีขึ้นไป จะเกิดซัสต์ที่รังไข่ และมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกันความดันสูง นิ่ง ไต เบาหวาน เส้นเลือดหัวใจตีบตัน และไขมันแทรกในตับ ทั้งนี้ผู้ที่ชอบกินหวานผิวหนังจะมีสภาพเป็นกรดที่พร้อมจะให้เชื้อราเจริญเติบโตได้ง่ายอีกด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ใช่ว่าคุณๆจำไม่ทานแป้งและน้ำตาลกันเลยเพราะอย่างไร"น้ำตาล" ก็เป็นสารอาหารที่ให้พลังงาน และทำให้รู้สึกสดชื่อ เมื่อกลัวโรคอ้วนก็ควรลดปริมาณน้ำตาลทานของหวานลดน้อยลง โดยไม่ต้องหลีกเลี่ยงไปเลย เพราะจะทำให้รู้สึกหิวและอยากมากขึ้นอีก!! จนทำให้กินหนักและน้ำหนักเพิ่มกว่าเดิม~
และเมื่อน้ำตาลมีโทษก็ต้องมีประโยชน์บ้าง คือสามารถรักษาโรคท้องร่วงได้ โดยแพทย์ จะนำ"น้ำตาล" ผสมกับเกลือใหรับประทานชื่อฟื้นฟูร่างกายให้ตื่นตัวขึ้น นอกจากนี้ยังนำไปใช้กับแผลใหญ่ที่ติดเชื้อได้ผลมากจะช่วยระงับการลุกลามของเชื้อและทำให้แผลหายไวขึ้น (ทั้งนี้ก็ต้องอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ด้วยน๊าเพื่อนๆ)
เมื่อน้ำตาล มีทั้งคุณและโทษ ดังนั้นก่อนรับประทานควรจะระมัดระวังให้ดีด้วยความหวังดี เหะๆ
หน้า:
[1]