kindaieiji โพสต์ 2012-2-2 11:43:26

ทัชมาฮาล...

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kindaieiji เมื่อ 2012-2-2 11:43







    http://school.obec.go.th/nkwy/tiplearn/images/tajmahal2.jpeg
         ถ้าถามว่า “ความรักคืออะไร“…. อย่าคิดหาคำตอบให้เสียเวลา…เพราะว่าเราจะไม่ได้ความหมายที่แท้จริงเลยคำๆ นี่ไม่มีแม้กระทั่งคำจำกัดความของตัวมันเองเรารู้แต่เพียงว่า ความรัก นั้น สามารถบันดาลให้เกิดขึ้นได้ทุกสิ่งทัชมาฮัล คือตัวอย่างของตำนานแห่ง ความรักที่ปราศจากนิยามคำนี้ผู้ที่สร้างตำนานความรักอันยิ่งใหญ่คือ กษัตริย์ชาห์ญะฮานกษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์โมเลกุลที่ทรงโปรดให้สร้าง ตาซมะฮัล หรือ ทัชมาฮัลขึ้นเป็นอนุสรณ์แทนความรักที่พระองค์มีต่อมเหสีคือพระนางมุมตาซ มะฮัล จนสถานที่แห่งนี้กลายเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่งดงามที่สุดในโลกกษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ทรงเป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ญะฮางงีร์ ทรงประสูติเมื่อปี ค.ศ. 1592เป็นที่ร่ำลือตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้าชายที่ทรงเคร่งขรึมในพระทัยเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมความเป็นคนอมทุกข์ของพระราชโอรสสร้างความหนักพระทัยให้กับพระราชบิดาเป็นอย่างมากกษัตริย์ญะฮางีร์ ทรงแนะนำให้พระราชโอรสดื่มน้ำจัณฑ์และหาความสำราญพระทัยด้านต่างๆ มาสู่พระราชโอรสแต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ชาห์ ญะฮาน ยังทรงเคร่งขรึมไม่เบิกบานพระทัยเช่นเดิม      จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าชายได้เสด็จประพาสตลาดและได้พบกับสาวน้อยวัย 14 ปี นามว่า อรชุนด์ บาโน เบคุมเป็นบุตรสาวของ อะซีฟ ข่าน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1592 และมีเชื้อสายเปอร์เซียเพียงได้เห็นดวงหน้าของนางครั้งแรกเจ้าชายก็เกิดรักแรกพบขึ้นที่ตลาดนั่นเอง3 ปีให้หลัง พิธิอภิเษกสมรสของเจ้าชายก็ถูกจัดขึ้นในปี ค.ศ. 1612หลังจากพิธีอภิเษก อรชุนด์ บาโน เบคุม ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า มุมตาซ มะฮัล ซึ่งแปลว่า อัญมณีแห่งปราสาทหลังจากนั้นเป็นต้นมาเจ้าชายก็ทรงเปลี่ยนไป เพราะเบิกบานพระทัยยิ่งนักอีกทั้งสองพระองค์ก็เป็นคู่รักที่ไม่เคยแยกจากกันเลยในปี ค.ศ. 1628 เจ้าชายเสด็จขึ้นครองราชบังลังก์ ทรงพระนามว่า กษัตริย์ชาห์ ญะฮานโดยมีพระนางมุมตาซ มะฮัล เป็นพระมเหสีคู่พระทัยพระนางทรงเป็นทั้งคู่คิดและที่ปรึกษา และ มีส่วนในการช่วยเหลือพระสวามีในการปกครองบ้านเมืองอีกทั้งยังทรงเป็นที่รักใคร่ของพสกนิกรทั่วหล้า      พระนางมุมตาซ มะฮัล ทรงให้กำเนิดพระราชโอรสและพระราชธิดารวม 14 พระองค์หลังจากทรงให้กำเนิดพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในช่วงปี ค.ศ. 1631พระนางได้เสด็จร่วมกรีธาทัพกับพระสวามี ณ เมืองเดคข่านแต่ระหว่างเสด็จกลับพระนครพระนางก็ทรงพระประชวรและสิ้นพระชนม์ในที่สุดขบวนเคลื่อนพระศพสู่พระนครนั้น ถูกจัดอย่างเอิกเกริกมโหฬาร ตลอดเส้นทางที่เคลื่อนขบวนมีการโปรยทานแก่คนยากจน
เมื่อขบวนเคลื่อนเข้าใกล้กรุงอาครา ผู้ที่อาลัยรักพระนางต่างมาสมทบมากขึ้นจนเป็นขบวนแห่พระศพที่ยิ่งใหญ่มาก      กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โปรดให้นำอาหารมาเลี้ยงแก่ประชาชนทั้งหลายอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการทำบุญอุทิศแก่พระมเหสีอันเป็นที่รักยิ่งการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของพระมเหสีสุดที่รักสร้างความโทมนัสตรอมพระทัยให้กับกษัตริย์ชาห์ ญะฮานเป็นอย่างมากพระองค์ไม่ทรงเสวยและไม่ทรงพระบรรทมทรงแต่ฉลองพระองค์ด้วยเครื่องนุ่มห่มสีขาวเป็นการไว้ทุกข์ และทรงเสด็จเยี่ยมหลุมฝังศพของพระนางทุกวันศุกร์ด้วยความอาลัยรักอย่างยิ่งจึงโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์แห่งความรักขึ้นมาอย่างวิจิตรอลังการและให้ชื่อเรียกว่า ตาซ มะฮัล สร้างอยู่บนพื้นที่ 42 เอเคอร์ ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา
ในการก่อสร้างนั้นกษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โปรดให้ระดมช่าง ศิลปิน และสถาปนิกที่ได้ชื่อว่าฝีมือดีเยี่ยมที่สุดจากหลายๆ ที่ ประมาณ 20,000 คนใช้เวลาการในก่อสร้าง 22 ปีสิ้นค้าใช้จ่ายในการก่อสร้างไปประมาณ 45 ล้านรูปีพระอนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างด้วยศิลาขาวทั้งหมดมีโดมทรงกลมเด่นอยู่ตรงกลาง สูงถึง 72 เมตร บริเวณโดยรอบมีผนังศิลาแลงล้อมรอบ
ประตูทางเข้าวางอยู่บนฐานศิลาแลงบริเวณทางเข้ามีสระน้ำหินอ่อนสีขาวรอบทางเดินเป็นสวนดอกไม้นานาพันธุ์
      ตำแหน่งที่เป็นที่วางพระศพของพระนางมุมตาซ ทำเป็นแท่นรูปบัวตูมส่วนหีบพระศพเป็นหินอ่อนสีขาวแกะสลักอย่างงดงามหลังจากที่เป็นที่สร้างทัชมาฮาลเสร็จแล้วกษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ได้เสด็จมายังสถานที่แห่งนี้เสมอๆจนกระทั่งในค.ศ. 1658 ก็ทรงล้มป่วยพระราชโอรสองค์ที่ 3 คือ ออรังเซป ก็ตั้งตนขึ้นครองราชบัลลังก์แทนและจับกษัตริย์ชาห์ ญะฮาน พระราชบิดา กักขังไว้จนสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1666
      ก่อนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ระหว่างที่ถูกกักขังอยู่กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน เฝ้าแต่นั่งจ้องมองดูกระจกชิ้นเล็กๆ ที่ส่องสะท้อนออกไปเห็นทัชมาฮัลพระองค์สวรรคตพร้อมด้วยกระจกที่กำแน่นอยู่ในพระหัตถ์และ พระบรมศพของพระองค์ก็ได้ถูกนำไปฝังในทัชมาฮัล เคียงข้างกับพระมเหสีสุดที่รักตามพระประสงค์ที่ทรงต้องการจะอยู่เคียงคู่กันตราบชั่วนิจนิรันดร์ตำนานอันเลื่องลือของความรักที่ปรากฏไปทั่วโลกเรื่องนี้      ยังมีเรื่องเล่าในอีกแง่มุมหนึ่งเกิดขึ้นมาที่ว่ากันว่ากษัตริย์ชาห์ ญะฮานสร้างทัชมาฮัลขึ้นมาด้วยความเห็นแก่ตัวโดยไม่คิดถึงหลักมนุษยธรรม และทัชมาฮัลก็กลายเป็นที่เกลียดชังของทุกคนเพราะในการสร้างทัชมาฮัล กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ระดมช่างฝีมือดีมาเป็นจำนวนมากและมีกฎว่าต้องสร้างให้เสร็จตามกำหนดเวลา ถ้าสร้างไม่เสร็จก็จะถูกลงโทษและยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เมื่อสร้างทัชมาฮัลเสร็จแล้วช่างทุกคนก็ถูกฆ่าตาย จนหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ไปสร้างสถานที่ที่งดงามเช่นนี้เลียนแบบไว้ที่ไหนอีก      บ้างก็ว่า กษัตริย์ชาห์ ญะฮานอาจะไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างทัชมาฮัลให้ยิ่งใหญ่เพื่อความรักแต่มีแผนการที่จะสร้างปราสาทที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เพื่อสนองความต้องการ - ของตัวเองและในการสร้างทัชมาฮัลนี้ ทำให้ประเทศอินเดียต้องสูญเสียเงินที่จะมาสร้างความเจริญให้กับประเทศ ไปถึง 250 ปี อย่างไรก็ตาม โลกก็ได้ให้รางวัลสำหรับ - ความยิ่งใหญ่ครั้งนี้ด้วยการจัดให้ทัชมาฮัล เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกตราบมาจนถึงปัจจุบันนี้





yellow2550 โพสต์ 2012-2-3 12:58:34

ขอบคุณครับได้ความรู้จริงๆ
กระทู้ก็ตั้งใจทำมีการเน้นสีด้วย;P

thefriday โพสต์ 2012-3-19 16:25:51

เคยไปมาแย้ว ทัชมาฮาล
ภายนอกสวยยยยย มากๆนะ
แต่พอเข้าไปข้างใน เหม็นนกลิ่น(ตัว)แขก มากๆ ฮ่าาาา

น่าประทับใจครับ : )

annopwichai โพสต์ 2012-5-3 20:57:38

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

kindaieiji โพสต์ 2012-5-6 12:56:35

ต้นฉบับโพสต์โดย annopwichai เมื่อ 2012-5-3 20:57 static/image/common/back.gif
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

ขอบคุณมากเช่นกันนะครับผม...

asoda123 โพสต์ 2012-5-6 13:26:32

ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ที่หามาให้

ebaagu โพสต์ 2013-10-8 02:06:37

ขอบคุณมากครับ

ebaagu โพสต์ 2013-10-8 02:07:21

ขอบคุณมากครับ

ebaagu โพสต์ 2013-10-8 02:07:43

ขอบคุณมากครับ

ebaagu โพสต์ 2013-10-8 02:08:27

ขอบคุณมากครับ

ebaagu โพสต์ 2013-10-8 02:08:50

ขอบคุณมากครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ทัชมาฮาล...