กล่องดำ...
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kindaieiji เมื่อ 2012-2-2 11:59http://school.obec.go.th/nkwy/tiplearn/images/bb1.jpeg
ผังตำแหน่งส่วนประกอบของระบบบันทึกข้อมูลการบิน
เมื่อใดก็ตามที่เกิดอากาศยานอุบัติเหตุ สองสิ่งแรกที่หน่วยกู้ภัยต้องรีบค้นหาคือผู้รอดชีวิตและอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบิน หรือที่เรียกกันว่ากล่องดำ (Black Box)เครื่องบินโดยทั่วไปจะต้องปฏิบัติตามกฎด้านการบินในการติดตั้ง กล่องดำสองชนิดสำหรับบันทึกข้อมูลการบินเพื่อช่วยจำลองเหตุการณ์ก่อนหน้าที่จะเกิดอุบัติเหตุโดยกล่องดำ 2 ชนิดนั้นมี ดังนี้
http://school.obec.go.th/nkwy/tiplearn/images/bb2.jpeg http://school.obec.go.th/nkwy/tiplearn/images/bb3.jpeg
เครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (The Cockpit Voice Recorder - CVR)
1. กล่องที่ชื่อว่า Cockpit Voice Recorder (CVR)โดย เครื่อง CVR จะบันทึกเสียงพูดของนักบิน รวมทั้งเสียงอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในห้องนักบินโดยรับเสียงจากไมโครโฟนของนักบินและไมโครโฟนที่ติดตั้งไว้ในแผงอุปกรณ์ด้านบนระหว่างนักบินทั้งสองเสียงที่เกิดขึ้นในห้องนักบินทั้งหมดเช่น เสียงเครื่องยนต์ สัญญาณเตือนเสียงการเคลื่อนไหวของฐานล้อ เสียงการกดหรือว่าปลดสวิตช์ต่างๆเสียงการโต้ตอบการจราจรทางอากาศ การแจ้งข่าวอากาศและการสนทนาระหว่างนักบินกับพนักงานภาคพื้น-หรือลูกเรือจะถูกบันทึกไว้เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโดยจะนำไปพิจารณาประกอบกับค่าอื่นๆ เช่นรอบเครื่องยนต์ ระบบที่ผิดปกติ ความเร็ว และเวลา ณ เหตุการณ์ -นั้นๆเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินแบบแถบแม่เหล็กจะบันทึกเสียงได้ในช่วงเวลาประมาณ 30 นาทีจากนั้นจะขึ้นรอบการบันทึกใหม่ในขณะที่เครื่องบันทึกแบบหน่วย ความจำสามารถบันทึกได้รอบละประมาณสองชั่วโมง
http://school.obec.go.th/nkwy/tiplearn/images/bb4.jpeg
เครื่องบันทึกข้อมูลการบิน (The Flight Data Recorder - FDR)2. กล่องที่ชื่อว่า Flight Data Recorder - FDRโดย เครื่อง FDR จะบันทึกสภาวะต่างๆ ในระหว่างปฏิบัติการบินตามกฎระเบียบสำหรับอากาศยานรุ่นใหม่ๆจะต้องมีการตรวจบันทึกข้อมูลที่สำคัญอย่างน้อย 11 ถึง 29 ประเภทตามขนาดเครื่องบิน เช่น เวลา ระยะสูง ความเร็ว ทิศทาง และท่าทางของเครื่องบินนอกจากนี้ FDR บางเครื่องสามารถบันทึกสถานะต่างๆ ได้อีกมากกว่า 700 ลักษณะซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับการสอบสวนรายการที่ถูกตรวจบันทึกพื้นฐานได้แก่ เวลา ระยะสูง ความเร็ว อัตราเร่งตามแนวดิ่งทิศทาง ตำแหน่งคันบังคับและอุปกรณ์บังคับการบินอื่นๆตำแหน่งของแพนหางระดับ อัตราการไหลของเชื้อเพลิง ด้วยข้อมูลที่อ่านได้จาก FDRจะทำให้คณะผู้สอบสวนอุบัติเหตุสามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวของการบินได้เจ้าหน้าที่สอบสวนสามารถมองเห็นภาพท่าทางเครื่องบิน ค่าที่อ่านได้จากเครื่องวัดการใช้เครื่องยนต์ และ ลักษณะอาการต่างๆ ของการบินภาพเคลื่อนไหวนี้ทำให้คณะผู้สอบสวน ทราบเหตุการณ์สุดท้ายของการบินก่อนเกิดอุบัติเหตุ แม้อุปกรณ์ทั้งสองจะถูกเรียกว่า "กล่องดำ"แต่ตัวกล่องจริงจะมีสีแสดสะดุดตาและมีแถบสะท้อนแสงติดอยู่ เพื่อช่วยให้สังเกตง่าย เหตุที่เรียกว่า"กล่องดำ"อาจจะเป็นเพราะ อุปกรณ์นี้มีสีดำในรุ่นแรกๆ หรือเรียกตามสภาพที่ดำเกรียม หลังจากถูกเผาไหม้ เมื่อเกิดอากาศยานอุบัติเหตุ อุปกรณ์ที่จะต้องคงสภาพมากที่สุดคือส่วน Crash-Serviable Memory Unit (CSMU)ของ CVR และ FDR แม้ตัวกล่องและส่วนประกอบอื่นๆ จะเสียหายดังนั้นอุปกรณ์นี้จะต้องได้รับการออกแบบให้ทนความร้อน, แรงกระแทก และแรงกด โดยผ่านการทดสอบต่อไปนี้
- ยิงอุปกรณ์นี้ให้กระทบเป้าอลูมิเนียมเพื่อให้เกิดแรงกระแทก 3,400 G (แรงโน้มถ่วงของโลก = 1 G)- ทดสอบความทนต่อการเจาะ โดยปล่อยก้อนน้ำหนักขนาด 500 ปอนด์ (227 กิโลกรัม) ที่มีเข็มเหล็กขนาด 0.25 นิ้ว อยู่ด้านล่าง ให้กระทบลงบนCSMU จากความสูง 10 ฟุต (3 เมตร)- ทดสอบด้วยแรงกด 5,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เป็นเวลา 5 นาที บนทุกด้านของ CSMU- เผาด้วยความร้อน 2,000 oF (1,100 oC) นาน 1 ชั่วโมง- แช่ในน้ำเค็มนาน 24 ชั่วโมง- แช่น้ำนาน 30 วัน- ทดสอบความทนทานต่อของเหลวอื่นๆ เช่น เชื้อเพลิงเครื่องบิน, นำมันหล่อลื่น และสารเคมีดับเพลิง
http://school.obec.go.th/nkwy/tiplearn/images/bb5.jpeg http://school.obec.go.th/nkwy/tiplearn/images/bb6.jpeg
สภาพกล่องดำหลังเกิดอุบัติเหตุ
เครื่องบันทึกแต่ละเครื่องจะต้องประกอบด้วยเครื่องแจ้งตำแหน่งใต้น้ำ(Underwater Locator Beacon - ULB) หรือเรียกว่า "pinger"เพื่อที่ช่วยการค้นหาในกรณีอุบัติเหตุเหนือน้ำ
pinger
จะทำงานเมื่อจมน้ำโดยจะส่งคลื่นเสียงความถี่ 37.5 kHz
อุปกรณ์นี้สามารถส่งสัญญาณได้จากความลึกถึง 14,000 ฟุต
หน่วยกู้ภัยจะใช้ อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า Pinger Locator System (PLS)
ลากไปในน้ำเพื่อรับสัญญาณจาก "pinger" เพื่อค้นหาตำแหน่งของ "กล่องดำ"
เมื่อพบกล่องดำแล้ว เจ้าหน้าที่จะขนส่งอย่างระมัดระวัง
เพื่อนำไปเข้ากระบวนการตรวจสอบ โดยคงสภาวะเดิมให้มากที่สุด หากค้นพบในน้ำเครื่องบันทึก
จะถูกส่งไปในถังบรรจุพร้อมกับน้ำ
เพราะหากเครื่องบันทึกแห้งลง ข้อมูลอาจสูญเสียไปได้ ด้วยอุปกรณ์และคอมพิวเตอร์ที่สลับซับซ้อนข้อมูลที่บันทึกไว้จะได้รับการแปลงรูปแบบให้สามารถเข้าใจง่ายเพื่อนำไปประกอบกับหลักฐานอื่นๆ ในการพิจารณาสาเหตุที่แท้จริงต่อไปหากเครื่องบันทึกไม่เสียหายมากนักผู้สอบสวนเพียงต่อเครื่องบันทึกเข้ากับเครื่องอ่านก็จะทราบข้อมูลได้ภายในสองสามนาทีแต่บ่อยครั้งพบว่าเครื่องบันทึกที่ค้นหาได้จากซากเครื่องบินจะบุบสลายและถูกเผาไหม้ในกรณีเช่นนี้ แผงหน่วยความจำจะถูกถอดออกมาทำความสะอาดและเชื่อมโยงเข้ากับเครื่องบันทึกอีกเครื่องหนึ่งที่มีSoftware พิเศษที่สามารถถ่ายเทข้อมูลได้ โดยไม่มีการเขียนทับหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูล
ขอบคุณครับ
ได้ความรู้อีกแระ;P
หน้า:
[1]