ภูตะวัน โพสต์ 2011-1-10 23:41:50

5 โรคของผู้ชายที่ไม่แสดงอาการ

5 โรคของผู้ชายที่ไม่แสดงอาการ ถ้าไม่ตรวจสุขภาพกันเป็นประจำคนที่ภายนอกดูเหมือนสุขภาพแข็งแรงดี
บางครั้งอาจจะมีอาการป่วยบางอย่างแอบซ่อนอยู่ในร่างกายโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้
ถ้าคุณร้างลาการตรวจสุขภาพมานาน
ไม่ให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการบริโภคของตัวเองและขาดการออกกำลังกาย
นายแพทย์บุญเทียม พิทักษ์ดำรง-กุลผู้อำนวยการศูนย์ อาร์เอสยู (RSU) เมดิคอลเซ็นเตอร์เตือนว่า คนกลุ่มนี้มีโอกาสที่จะเป็น 1 ใน5 (หรือมากกว่า) โรคที่ไม่แสดงอาการของผู้ชายทั่วไปซึ่งมีดังต่อไปนี้1. โรคทาลัสซีเมีย :
เป็นโรคโลหิตจางที่เกิดจากเม็ดเลือดแดงผิดปกติแตกง่าย
มีโอกาสเป็นได้ทั้งหญิงและชายโดยที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
โรคนี้เป็นโรค
ที่สามารถพบได้ทั่วโลก
แต่พบได้มากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย
ยากที่จะดูออกเพราะผู้ที่มียีนแฝงทาลัสซีเมียมักจะมีลักษณะและสุขภาพดี
เหมือนคนทั่วๆ ไป โดยในประเทศไทยมีพาหะหรือยีนแฝงมากถึงราว 40เปอร์เซ็นต์ของประชากร ! ก่อนแต่งงานเป็นคู่สามีภรรยา
ทั้งชายและหญิงจึงควรตรวจเลือดตนเองเพื่อคัดกรองว่ามียีนแฝง(พาหะ)
อยู่หรือไม่และถ้าทราบว่ามียีนแฝงหรือพาหะ
ก็ควรที่จะแนะนำให้คนในครอบครัวไปตรวจเลือดเพื่อความมั่นใจครับ2. โรคเบาหวาน :
แสดง
ถึงการเผาผลาญน้ำตาลที่ไม่สมดุล
ทำให้มีระดับน้ำตาลค้างอยู่ในเลือดสูงเกินกว่าปกติหรือห่างจากปริมาณที่
เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ไตทำงานหนัก โดยร่างกายจะมีอาการอ่อนเพลีย
กระหายน้ำบ่อยมาก ปัสสาวะบ่อย และมีน้ำหนักตัวลดลง
สำหรับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคอ้วน
โดยเฉพาะร่วมกับมีความดันโลหิตสูง ชอบกินของหวานมากๆ
หรือมีประวัติโรคเบาหวานในครอบครัวถ้าตรวจพบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่า126 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ (ควรตรวจซ้ำ 2 ครั้ง) ถือว่าเป็นเบาหวาน ถ้าเจาะแบบไม่ได้อดอาหาร (Random) แล้วได้น้ำตาลในเลือดมากกว่า 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ก็ถือว่าเป็นเบาหวาน ต้องได้รับการรักษาเช่นเดียวกัน เพราะผลแทรกซ้อนของเบาหวานอาจทำให้ร่างกายติดเชื้อง่ายภูมิคุ้มกันต่ำ เกิดภาวะหลอดเลือดตีบแข็ง ไตเสื่อม ไตวาย หลอดเลือดเลี้ยงจอประสาทตาตีบตันทำให้จอประสาทตาเสื่อมหลอดเลือดเลี้ยงสมองตีบตัน และทำให้สมรรถภาพทางเพศลดถอยลง
3.โรคหัวใจขาดเลือด : หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจเกิดการตีบส่วนใหญ่แล้วเกิดจากหลอดเลือดแข็งตัวขึ้นเนื่องจากมีไขมันสะสมในผนังด้านในของหลอดเลือด เป็นผลให้เลือดไหลผ่านไปยังกล้ามเนื้อหัวใจได้ไม่ง่ายนอกจากนั้นยังอาจเกิดจากเกล็ดเลือดและลิ่มเลือดอุดตันได้
อาการที่สำคัญของภาวะหัวใจขาดเลือดคืออาการเจ็บแน่นหน้าอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะออกแรง แต่เมื่อได้พักแล้วจะรู้สึกดีขึ้น อึดอัดบริเวณกลางหน้าอกหรือค่อนมาทางซ้ายหายใจไม่สะดวก อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อแตก ใจสั่นหน้ามืด บางรายนอกจากแน่นบริเวณหน้าอกแล้วยังอาจเจ็บร้าวไปที่หัวไหล่ แขน หรือคอ มักเกิดขึ้นกับคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูงเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เจ้าอารมณ์ โมโหง่ายและเครียดเป็นประจำ สำหรับแนวทางการรักษาที่สำคัญนั้นมี 3 แนวทางด้วยกันคือ รักษาด้วยยา รักษาโดยการขยายหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจ และสุดท้ายรักษาโดยการผ่าตัด

4. โรคมะเร็งปอด: คุณ ทราบดีว่าการสูบบุหรี่จัดยิ่งนานวันก็ยิ่งมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้มากแต่ก็ไม่ควรละเลยความจริงที่ว่ามลพิษทางอากาศ จากควันดำ จากเครื่องยนต์ รถยนต์อากาศเสีย (Smog) ในเมืองหลวง ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหมืองแร่หรือผู้ที่สัมผัสสารกัมมันตรังสี ก็มีโอกาสป่วยจากโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นหากมีอาการไอแห้งๆ นานกว่าปกติ เช่น มากกว่า 2 สัปดาห์หรือเป็นเดือนไอมีเสมหะปนเลือด เจ็บหน้าอก เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลียหายใจลำบากเนื่องจากการอักเสบเรื้อรัง ควรได้รับการวินิจฉัยตรวจเสมหะ การ X-rayปอด ทุกๆ 6 เดือนหรือ 1 ปีเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเพื่อการรักษาและป้องกันที่ถูกวิธี
5.โรคตับอักเสบจากไวรัส : สำหรับ ‘ไวรัสตับอักเสบ'เมื่อติดเชื้อนี้ทั้งจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม การมีเพศสัมพันธ์หรือการรับบริจาคเลือดที่ไม่มีการคัดกรอง จะมีอาการของตับอักเสบ อ่อนเพลียเบื่ออาหาร มีไข้ ปวดเมื่อย และต่อมาเริ่มมีอาการปัสสาวะเข้ม ตาเหลืองผิวหนังตามตัวเหลือง ประมาณ 2-3 สัปดาห์ หรือบางครั้งถึง 4สัปดาห์จึงจะหาย แต่บางรายที่พบเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดรุนแรง เช่นชนิดบี (บางชนิด) ชนิดซี (บางชนิด)ก็อาจรุนแรงถึงขั้นตับวายและเสียชีวิตได้
และถ้าพูดถึงสถิติและความอันตรายของโรคควบคู่กันไปแล้ว คุณหมอบอกกับเราว่าโรคนี้ค่อนข้างที่จะมีสถิติที่น่าเป็นห่วงกว่า4 โรคที่ผ่านมา แต่ในเวลานี้ก็ได้มีการผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบทั้งชนิดเอและบีได้แล้ว เพราะฉะนั้นสำหรับวิธีที่จะใช้ในการรักษาและป้องกันในกรณีที่ไม่เคยฉีด วัคซีนและไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณควรจะหาโอกาสพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดดู ว่าร่างกายมีไวรัสตับอักเสบ เป็นพาหะหรือมีภูมิคุ้มกันโรค
ดังกล่าวอยู่ ในร่างกายหรือไม่ นอกจากนี้ผู้ป่วยที่เคยเป็นหรือผู้ที่สงสัยว่าอาจเป็นพาหะของโรคก็ไม่ควรบริจาคเลือด จนกว่าจะมั่นใจจากผลการตรวจจากแพทย์ว่าหายขาด ไม่เป็นพาหะ และสามารถบริจาคเลือดได้จริง

ขอบคุณข้อมูล : GM

jappy โพสต์ 2011-1-12 02:10:23

ขอบคุณครับ

eakyta โพสต์ 2011-1-14 22:32:44

แต่ล่ะอย่างน่ากลังทั้งนั้น

finex โพสต์ 2011-1-15 04:32:38

ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆๆนะคับ

basara โพสต์ 2011-1-15 07:50:54

ขอบคุนมากๆคับ

as2525 โพสต์ 2011-1-16 21:23:05

ขอบคุณมากครับ

kasemsri โพสต์ 2011-1-17 10:14:33

ขอบคุณนะครับจะได้รักษาสุขภาพให้ดี

oiller โพสต์ 2011-1-18 20:58:45

เท่ สุด ๆๆ อ่ะ ชอบ บบ

0800298502 โพสต์ 2011-1-22 12:49:30

นากลัวๆ
ขอบคุณครับ :)

mamamama โพสต์ 2011-1-22 19:46:16

ขอบคุณคัรบ

ishinose โพสต์ 2011-1-30 23:55:58

ขอบคุณครับ .........

yuukiza โพสต์ 2011-1-31 14:13:13

ขอบคุงมากนะค๊าบ

~♥TerMRuK♥~ โพสต์ 2011-2-20 19:31:41

โอ๊ะเป็นธารัสซีเมียชนิดโลหิตจาง

sama โพสต์ 2011-2-21 12:15:58

ตอบกระทู้ pootrawun ตั้งกระทู้

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆๆ:loveliness:

un-noi โพสต์ 2011-2-21 14:47:36

ดีจังครับ เพราะหลายคนมักรอให้อาการออกก่อนจึงจะไปหาหมอกัน
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: 5 โรคของผู้ชายที่ไม่แสดงอาการ