BBคุง2 โพสต์ 2012-2-29 22:00:40

เหงื่อ ความลับสุขภาพดี ที่คุณยังไม่รู้

      http://variety.teenee.com/foodforbrain/img7/125706.jpg


          โดยทั่วไปแล้ว เราเคยสังเกตกันไหมว่า ความร้อน และ เหงื่อ มักจะมาคู่กันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นยามอากาศร้อนอบอ้าว หรือร้อนธรรมดาๆ หรือขณะที่เรากำลังใช้แรงงานกล้ามเนื้ออย่างหนัก หรือแม้แต่อาการตื่นเต้นหวาดกลัวจนเส้นประสาทถูกกระตุ้นมาก ๆ มักจะเห็นเหงื่อผุดพราวขึ้นตามรูขุมขน

          ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว คือทางออกที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาช่วยเพื่อบรรเทาความร้อน และสร้างความเย็นขึ้นมาทดแทนของร่างกายเรานั่นเอง เพื่อเป็นการปรับสมดุลให้ร่างกายของเราเข้าสู่สภาวะปกติ และที่เรารู้สึกถึงความเย็นได้ ก็เพราะในเหงื่อนั้นประกอบด้วยน้ำเป็นหลัก และแร่ธาตุรองลงมาก็คือคอลไรด์และโพแทสเซียม หรือเกลือ เราจึงรู้ว่า เหงื่อ มีรสเค็ม

          ไปทำความรู้จักกับหยาดน้ำเค็ม ๆ ที่พรั่งพรูออกมาจากร่างกายเราว่าคืออะไรและมาจากไหนกันเถอะ

เหงื่อ และกลิ่นของเหงื่อ

          เหงื่อออก เป็นหนึ่งในกลไกตอบโต้ทางธรรมชาติของร่างกายสิ่งมีชีวิตหลายชนิด และกับมนุษย์อย่างเราๆ ที่หลายๆ คนคงอยากให้เกิดน้อยที่สุด เนื่องจากผลที่ตามมาคือ นอกจากจะทำให้เหนียวเหนอะหนะไม่สบายตัวแล้ว กลิ่น ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าอภิรมย์สักเท่าไร แถมเหงื่อของบางคนยังมีกลิ่นแรงเป็นพิเศษเสียด้วย ชนิดที่ทำให้คนรอบตัวที่ไม่คุ้นเคยต้องรีบอุดจมูกแล้วเดินหนี เป็นที่น่ารังเกียจเสียด้วยซ้ำ

          ความจริงแล้วเหงื่อของคนเรานั้นไม่มีกลิ่นเลย แต่ที่เราได้กลิ่นนั้น คือเหงื่อนั้น เมื่อผสมกันเข้ากับแบคทีเรียบนผิวหนังเส้นขน รวมทั้งกรดไขมันจากอาหารที่กินเข้าไปนั่นแหละ ทำให้เกิดกลิ่นขึ้นมาได้

          ทั้งนี้ ต่อมเหงื่อ นั้นมีสองประเภท หากเป็นเหงื่อที่ออกทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก ฝ่ามือ และฝ่าเท้านั้นจะมาจากต่อมที่เรียกว่า Eccrine ซึ่งเริ่มผลิตเหงื่อตั้งแต่เรายังเป็นเด็กแรกเกิดกันเลยทีเดียว จึงมักไม่ค่อยมีกลิ่นรุนแรงเท่าเหงื่อที่มาจากต่อม Apocrine ที่อยู่ตรงบริเวณรักแร้และซอกขาใกล้ทวารหนักและอวัยวะเพศ ซึ่งจะเริ่มทำงานเมื่อย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และหากส่องดูกันอย่างใกล้ชิด จะเห็นได้ว่า มีทั้งกรดไขมันและโปรตีนผสมอยู่ ซึ่งทำให้เหงื่อที่ออกมาเป็นสีเหลืองขุ่นเล็กน้อย และมักเห็นเป็นคราบบนเสื้อผ้าได้ง่าย นี่เองจึงเป็นสาเหตุว่า ทำไมบรรดาผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อและกลิ่นกายต่าง ๆ จึงได้พุ่งเป้าหมายการกำจัดกลิ่นไปที่บริเวณรักแร้กันเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ต่อมเหงื่อ ยังมีแทรกอยู่ตามบริเวณรูขุมขน ทั้งบนหนังศรีษะ และตามร่างกายทั่วไปอีกด้วย (พูดได้ว่า ที่ไหนมีขนมาก ที่นั่นมักมีต่อมเหงื่ออยู่มาก) เนื่องจากเหงื่อเป็นของเหลวและมีโพแทสเซียม หากเกิดการเสียดสีอย่างรุนแรงบ่อยๆ จะเกิดการทำลายของชั้นผิวหนัง ขนจึงเป็นทางออกสุดท้ายในการลดแรงเสียดสีดังกล่าว แต่แฟชั่นส่วนใหญ่ของคุณผู้หญิง หากมีการปล่อยขนบริเวณรักแร้ให้เห็น คงดูไม่ดีแน่ๆ

เหงื่อที่ผิดปกติ

          บางคนมีเหงื่อออกมากเกินไปจนเป็นที่น่ารำคาญทั้งผู้เป็นและผู้ใกล้เคียง และทำให้เจ้าตัวเกิดความอับอายอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะเหงื่อตามฝ่ามือและซอกรักแร้ที่เปียกโชกเป็นวงทั้งวัน สาเหตุนั้นทางการแพทย์เองก็ยังไม่อาจระบุได้อย่างชัดเจนว่ามาจากสาเหตุใด แต่อาจมีที่มาดังต่อไปนี้ และสามารถรักษาได้ด้วยการกินยาหรือการผ่าตัด

                - ความไม่สมดุลของฮอร์โมน เช่น อาการเมโนพอส (Menopause) ในช่วงวัยทอง
                - ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติซึ่งทำให้ร่างกายผลิตความร้อนได้สูง
                - ยาที่ใช้บางประเภท
                - อาหารที่มีกาเฟอีนสูง
                - ระบบประสาททำงานหนักจนเกินไป

         รู้ไหมว่า...

               - คนเรามีต่อมเหงื่อกระจายอยู่ทั่วร่างกายถึงประมาณคนละ 2.6 ล้านต่อม
               - เหงื่อที่ออกตรงฝ่ามือและรักแร้นั้นไม่เหมือนกัน และให้กลิ่นแตกต่างกันด้วย
               - หากสังเกตให้ดี แท้จริงแล้วเรามีเหงื่อออกอยู่ตลอดเวลา แม้ในอากาศเย็น
               - หากอากาศร้อนมาก ๆ คนเราอาจเสียเหงื่อได้มากถึงชั่วโมงละ 1 ลิตร ร่างกายจึงต้องการน้ำและเกลือแร่ชดเชย
               - เหงื่อมีรสเค็มเนื่องจากมีแร่ธาตุสำคัญคือ โซเดียมและโพแทสเซียม
               - หากเหงื่อออกมากแล้วไม่รีบดื่มน้ำเข้าไปทดแทน อาจทำให้เป็นลม เกิดปัญหาในระบบไหลเวียนหรือไตวายได้
               - เครื่องจับเท็จสามารถวัดได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของไฟฟ้าสถิตในผิวหนัง และเหงื่อที่ออกเวลาเรากลัวหรือตื่นเต้น


ที่มา ... www.beautyfullallday.com และ variety.teenee.com/foodforbrain/42587.html
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: เหงื่อ ความลับสุขภาพดี ที่คุณยังไม่รู้