ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 608|ตอบกลับ: 7

++ กว่าจะรู้ว่ารัก ++ @ 27 - 29 ภาค 3

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


ผมวิ่งหนีจากตรงนั้นแต่ยังไปไม่พ้นทางเดินแคบๆแถวนั้นเลยครับพอหันไปอีกทีก็เห็นพี่ศรัณย์วิ่งตามมาจนเกือบจะทันอยู่แล้ว
“นิวจะวิ่งไปไหน” มือแข็งแรงของผู้ชายคนหนึ่งคว้าข้อศอกผมไว้และถามผมด้วยเสียงห้าวๆผมหันไปมองถึงรู้ว่าเป็นพี่อาร์ท
ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมากทีเดียวเมื่อพี่ศรัณย์มาถึงผมเห็นว่าจวนตัวแล้วก็เลยพูดไปว่า

“คนนี้ชื่อพี่อาร์ทเป็นแฟนผมรู้จักกันไว้ซะสิ”
พีศรัณย์ยืนอึ้งไปเล็กน้อย แต่พอเห็นพี่อาร์ทที่สวมบทบาทได้อย่างรวดเร็วทำท่าจะชกโครมเข้าให้เท่านั้นแหล่ะพี่ศรัณย์ก็โกยแทบไม่ทัน

ตอนที่ 27 ความในใจ
พี่ศรัณย์ทำหน้างงนิดหน่อยที่จู่ๆผมก็มีแฟนโผล่ขึ้นมาเป้นตัวเป็นตน แต่นั่นก็ทำให้เค้ายอมเดินจากไปโดยไม่ต้องพูดอะไรกันอีก เมื่อหันกลับมาเห็นหน้าพี่อาร์ทยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก ผมก็เลยบอกว่าช่วยพาผมไปจากที่นี่ก่อนหาที่นั่งคุยกันแล้วจะเล่าให้ฟัง
“นิวขอโทษนะที่เอาพี่ไปอ้างแบบนั้น แต่ก็อยากที่นิวเล่ามาทั้งหมดแหล่ะ นิวก็เพิ่งเจอเกย์หื่นๆแบบนี้ไม่รู้จะหาทางออกไหน”
ผมอธิบายยืดยาวจนมาสรุปที่คำขอโทษซึ่งผมไม่รู้ว่าพี่อาร์ทจะคิดยังไงที่จู่ๆก็ถูกผมเอาไปแอบอ้างว่าเป็นแฟนทั้งที่เค้าไม่ใช่เกย์
“เออ ดีแล้วล่ะถ้าคิดอะไรไม่ออกจะบอกไปแบบนั้นก็ได้ เฮ้อ โชคดีนะเว่ยที่มาเจอพี่ไม่งั้นจะทำไงเนี่ยเจ้าอ้วน” พี่อาร์ทลูบหัว
“กลัวพี่จะเสียหายอ่ะดิ อยู่ดีไม่ว่าดีดันเดินเข้ามาเป็นคู่เกย์ของนิวไปได้”
ผมยังเกรงใจอยู่ดีที่ทำให้เค้าต้องมารับสมอ้างไปด้วย
“พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่หว่า ดีซะอีกลองเป็นเกย์ดูซักวันก็ไม่เสียหายอะไรใช่ป่ะ”
พี่อาร์ทพูดทีเล่นทีจริงแต่ก็ทำให้ผมอึ้งเล็กน้อย
“อย่าพูดกำกวมได้ป่ะ”
ผมเหล่ตาแสดงท่าจับพิรุธอย่างเห็นได้ชัด “เฮ้ย อย่าขี้สงสัยเด่ะ เออ พี่ไปเอาน้ำมาให้นะมาตั้งนานละ”
พี่อาร์ทไม่ตอบคำถามของผม แต่ลุกขึ้นเดินไปรินน้ำใส่แก้วมาให้ตามหน้าที่เจ้าของบ้านที่ดี ใช่ครับตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านพี่อาร์ท
หลังจากที่ผมขอให้พี่อาร์ทพาออกจากห้างฯแห่งนั้น พี่อาร์ทก็ตั้งใจว่าจะไปส่งผมที่บ้านน่ะแหล่ะแต่เค้าต้องแวะเอาของที่บ้านแม่
พอมาถึงที่บ้านแม่พี่อาร์ทคนข้างบ้านบอกว่าแม่พี่อาร์ทออกไปข้างนอกผมก็เลยเล่ารายละเอียดต่างๆในระหว่างที่นั่งรอด้วยกัน เมื่อเล่าเรื่องที่คับข้องใจให้พี่อาร์ทฟังจนหมดแล้วก็ถามเค้าว่าช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างเพราะพี่อาร์ทก็ดูเครียดๆไม่เหมือนที่ผ่านมา
“พี่อย่างเซ็งมากว่ะนิว ตอนนี้พ่อก็ด่าพี่ว่าจะเรียนอะไรนักหนา แม่ก็มาทวงเงินเบี้ยเลี้ยงที่พี่ต้องได้จากงานวิจัยเอามาจ่ายหนี้
บัตรเครดิตแล้วไอ้บัตรเนี่ยพี่ก็บอกแม่แล้วว่าอย่าไปทำเลยก็ไม่เชื่อ ตั้งแต่ทำมาเนี่ยแม่พี่รูดเงินไปให้พี่ชายพี่ใช้ตลอดเลยนะเว่ยนิว คิดดูดิแต่พอไม่มีเงินจ่ายเค้าแม่ก็มาทวงกะพี่ พี่ถามว่าทำไมไม่ให้พี่ชายพี่มันใช้เงินคืน แม่ก็บอกว่ามันลำบากแล้วพี่ไม่ลำบากรึไง อาจารย์เก้าเป็นที่ปรึกษางานวิจัยพี่อ่ะนะ ก็ทวงงานอยู่ได้แล้วงานเก่าที่พี่ทำเสร็จแล้วส่งไปนะ เค้าเอาไปเสนอว่าเป็นชื่อเค้าทำเอง
ตอนนี้เงินเดือนก็ได้เพิ่มขึ้นแล้วถ้าได้งานวิจัยอีก2ชิ้นก็มีสิทธิ์ลุ้นศาสตราจารย์ แต่ไอ้ตำแหน่งกับเงินของเค้ามาจากสมองของพี่ พี่ไม่เข้าใจว่ะ ทำไมคนรอบข้างพี่จ้องจะเอาประโยชน์จากพี่ พอหาให้ไม่ได้หาให้ไม่ทันก็ด่าพากันด่าพี่หาว่าเรื่องแค่นี้ก็ทำไมได้แม่งเอ้ย ถ้าทำง่ายๆก็ทำกันเองดิวะ ตอนนี้พี่รู้สึกว่าไม่มีใครรักพี่ซักคน มีแต่จะกดดันให้พี่เป็นอย่างใจเค้า พี่โคตรเหนื่อยว่ะ”
โถ...พ่อคุณ พอให้โอกาสเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง พี่แกระบายซะผมเป็นกระโถนท้องพระโรงเลยเชียว แต่ก็น่าเห็นใจนะครับ
ผมเข้าใจความรู้สึกพี่อาร์ทในเวลานี้มากๆเลยครับ เพราะผมก็ผ่านการแบกรับภาระแทนคนรอบข้างมาแล้ว รู้ดีว่าเหนื่อยแค่ไหน เมื่อเทียบกันแล้วผมยังโชคดีซะกว่าที่คนรอบข้างของผมยังเป็นกำลังใจช่วยให้ผมไม่ทรุดลงไปกลางทาง แต่พี่อาร์ทไม่มีใครเลย
“เอาน่า ถึงไงพี่ก็มีนิวอยู่นะ มีอะไรก็เล่าได้ปรึกษาได้ ถึงช่วยอะไรไม่ได้แต่ช่วยรับฟังก็น่าจะช่วยได้มั้ง” ผมปลอบใจ
“แต่พี่อยากมีใครที่รักพี่จริงๆว่ะตอนนี้พี่ว้าเหว่อ่ะ เฮ้ย อย่ายิ้มอย่างนั้นดิพี่ไมได้ปัญญาอ่อนนะแต่เหมือนหมดแรงชีวิตว่ะ”
“เออๆก็รู้แหล่ะ แต่ไม่เคยเจอโหมดอ่อนไหวนี่หว่าเจอแต่เถื่อนๆ นิวว่าพี่ไปกอดแม่ดิเวลานิวกอดแม่จะรู้สึกมีพลังชีวิตขึ้นอ่ะ”
ผมก็แนะนำตามที่ผมทำอยู่เสมอ ผมเชื่อว่าการกอดกันเหมือนการชาร์ตแบต ทำให้ความอ่อนล้ากลับมีพลังขึ้นมาอย่างประหลาด
“แต่แม่พี่ไม่ชอบแสดงความรัก ก็ประสาคนจีนอ่ะนิวเอะอะโวยวาย พี่เคยไปกอดแม่แต่โดนด่ากลับซะอีกมาหาว่าเป็นลูกแหง่”
“อ้าวกรรมแล้วล่ะ นิวก็ไม่รู้จะช่วยยังไงแต่นิวเชื่อว่าอ้อมกอดของแม่ถ่ายทอดอบอุ่นและเติมเต็มทุกอย่างให้เราได้มากที่สุด”
“งั้นพี่ขอกอดนิวได้ป่ะ”
พี่อาร์ทพูดขึ้นลอยผมไมเคยเห็นเค้าย่ำแย่เท่านี้มาก่อน ผมก็เลยขยับเข้าไปกอดเค้าไว้เพื่อให้กำลังใจ
“ขอบคุณนะนิวพี่รู้สึกดีขึ้นมาก นิวโชคดีว่ะที่มีแต่คนรัก ถ้ามีใครรักพี่กอดพี่ไว้แบบนี้นานๆก็ดีเนอะ แต่แม่งไม่มีใครเลย”
พี่อาร์ทกอดผมไว้แน่นซบหน้าลงที่บ่าผมแล้วก็รำพันไปพร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลพราก จนผมเองก็พลอยสงสารและเศร้าไปด้วย
“ตอนนี้พี่อบอุ่นป่ะล่ะ”
ผมถามพี่อาร์ทและยังไม่คลายอ้อมกอดพี่อาร์ทพยักหน้าแทนคำตอบ
“งั้นนิวก็รักพี่นะ”
ผมปลอบใจด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆเพราะผมมีเพื่อนขี้เหงา เพื่อนขี้งอน จึงไม่เห็นว่าจะแปลกถ้าเราจะบอกว่ารักเพื่อน
“พี่ก็รักนิวว่ะ รักมากด้วย ไม่รู้ทำไมว่ะมีปัญหาทีไรพี่คิดถึงนิวทุกทีเลย นิวรักพี่จริงดิ”
พี่อาร์ทซบหน้าลงร้องไห้เหมือนเด็กๆ นี่แหล่ะน๊า...ครอบครัวแยกกันก็เป็นปัญหา แต่อยู่ด้วยกันแล้วไม่เข้าใจกันก็ใช่ว่าจะดี
“ก็จริงดิพี่ เราสองคนสนิทกันจะตาย พี่เป็นพี่นิวเป็นน้อง ถ้าพี่น้องไม่รักกันจะรักแมวที่ไหนวะ”
ผมพูดขำๆเพื่อกลบความเศร้า ผมเป็นโรคประหลาดเห็นคนอื่นร้องไห้ทีไรจะบ่อน้ำตาแตกไปด้วยซะให้ได้
“แล้วนิวรู้มั้ยคนรักกันเค้าทำกันยังไงพี่จะบอกให้”
เฮ้ย! อีกแล้วเหรอ ผมตกใจสุดๆเพราะนอกจากที่เค้าพูดแล้วว่าตรงหว่างขาของพี่อาร์ทมีบางอย่างแข็งตัวขึ้นเป็นลำดันหน้าขาของผม
ตอนที่ 28 สถานการณ์น่าอึดอัด
ผมรีบผละจากอ้อมกอดของพี่อาร์ททันที อดนึกไม่ได้ว่าเป็นหารหนีเสือปะจระเข้รึเปล่า แต่ผมเชื่อว่าเค้าคงไม่ทำอะไรรุนแรง
ยังไงซะแม่เค้าก็เป็นเพื่อนกับนายแม่ของผมเค้าคงไม่ใช้อารมณ์ชั่ววูบทำเรื่องไม่ดีในบ้านของเค้าเองแน่ๆ แต่ผมก็ต้องถอยก่อน ผมดันตัวพี่อาร์ทให้ออกห่างจากผมนิดหนึ่ง ไม่มากจนเหมือนกับว่าผมรังเกียจเค้าแต่ก็ห่างพอจะรู้ว่าท่อนลำของเค้าไม่ถูไถอยู่ที่
บริเวณหน้าขาของผมแล้วก็โล่งใจได้ ผมเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งทำไมผมจะไม่รู้ว่าเวลามีอารมณ์ร่างกายจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง
“เอ่อ พี่อาร์ทในบ้านมันร้อนอ่ะ ไปเดินตากแอร์ในห้างกันดีกว่านะ เขียนโน้ตบอกแม่พี่ไว้สิว่าถ้ามาถึงบ้านแล้วให้โทร.หาพี่”
เออ ผมล่ะขำตัวเองจริงๆตอนแรกก็หนีพี่ศรัณย์จากห้างมาบ้านพี่อาร์ทตอนนี้ก็จะชิ่งจากบ้านพี่อาร์ทกลับไปเดินห้างอีกแล้ว
“นิวไม่รักพี่แล้วเหรอ ไหนว่าจะอยู่กับพี่ไง พี่บอกแล้วว่าพี่ไม่มีใครเลย นิวก็รักพี่สักคนสิ ได้เปล่า”
พี่อาร์ททำเสียงอ้อนผิดปกติอย่างแรง ผมยังนึกว่าเถื่อนๆอย่างเค้าจะลากไปตบจูบซะอีก ฮ่าๆ
“แต่นิวไม่ได้รักพี่แบบแฟน นิวรักพี่แบบพี่ชายต่างหากล่ะ แล้วพี่เองก็เหอะ แน่ใจแล้วเหรอว่ารักนิวแบบไหน”
ผมแสดงจุดยืนของตัวเองและพยายามให้พี่อาร์ททบทวนความรู้สึกของเค้าให้ดีว่านี่คือความรักหรือความผูกพันกันแน่?
“แล้วถ้าพี่ยืนยันว่าพี่รักแบบแฟน พี่จะมีโอกาสนั้นมั้ย”
พี่อาร์ทก็ไม่ละความพยายามเหมือนกัน
“แต่นิวไม่ใช่เกย์”
ผมปฏิเสธเสียงแข็ง ถึงผมจะยอมรับตัวเองแล้วก็เหอะแต่ผมก็จะยอมรับตัวตนของผมกับเทคเท่านั้น
“พี่ก็ไม่ใช่ พี่ยังมีอารมณ์กับผู้หญิง แต่พี่ก็รักนิวด้วย แล้วถ้านิวรับรักพี่พี่ก็ยินดีเลิกรักผู้หญิงทุกคน มองก็ไม่มองด้วยเอ้า”
เอากับเค้าสิ ผมเริ่มงงแล้วว่าพี่อาร์ทเป็นประเภทไหนกันแน่ หรือแค่จะตามน้ำเพื่อให้ผมยอมรับเค้าให้ได้ซักทาง
“ฟังให้ดีนะพี่ เราจะเป็นพี่น้องกันแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว และถ้านิวจะรักผู้ชายขึ้นมาจริงๆนิวก็มีคนที่นิวจะรักอยู่แล้วครับ”
ผมรู้ว่าคำพูดนี้มันเยื่อไยมาก แต่เมื่อเทียบกับที่ผมเคยทำร้ายจิตใจเทคแล้วนี่ยังน้อยไปแล้วทำไมผมจะต้องเลี้ยงไข้ด้วยล่ะ
“พี่เข้าใจแล้ว จริงๆนิวไม่ต้องโกหกพี่ก็ได้ว่านิวไม่ได้เป็นเกย์ นิวบอกพี่ได้ป่ะว่านิวรักใครอยู่”
พี่อาร์ทยอมจำนนอย่างง่ายดาย ซึ่งผมก็พอใจที่เราจะไม่มีความบาดหมางต่อกัน แต่คำถามพี่อาร์ทนี่สิ ถ้าผมตอบจะเร็วไปมั้ย
“นิวขอเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัวได้ป่ะ อีกอย่างนิวก็ยังไม่แน่ใจอะไรอีกหลายอย่างเลยนะพี่ ถ้านิวตัดสินใจได้นิวจะบอกพี่ครับ”
ผมหาทางออกแบบนี้ แต่ก็จริงนี่ครับ ถึงแม้ว่าถ้าผมจะรักผู้ชายซักคน คนแรกที่ผมจะรักก็คือเทค แต่ขอให้ทุกอย่างลงตัวอีกนิด
“ถึงนิวไม่บอกพี่ก็เดาได้ว่าคนที่นิวรักจะเป็นใคร แต่จำไว้นะว่าพี่จะรักนิวไปแบบนี้แหล่ะ ที่ตรงนี้มีพี่รออยู่เสมอ”
พี่อาร์ทพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ก็มีรอยยิ้มบางๆทำให้ผมสบายใจขึ้น แต่ให้ตายเหอะผมไม่ชอบให้ใครรอเลยจริงๆ
“แปลว่าเรายังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันได้ใช่มั้ยครับ”
ผมถามย้ำเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งผมและพี่อาร์ทคิดตรงกันว่าเราจะคบกันต่อไปในฐานะพี่น้อง
“ใช่สิ ยังไงนิวก็จะเป็นน้องชายของพี่ตลอดไป เออ ก็ดีเหมือนกันเผื่อต่อไปพี่จีบสาวๆจะได้ให้นิวช่วยดู”
เอ้า เปลี่ยนรสนิยมอีกแล้วเหรอวะ ตอนแรกก็บอกว่ามีอารมณ์กับผม ตอนนี้ก็จะกลับไปจีบสาวอีกแล้ว สักทางเหอะพี่
“สรุปจะกลับไปคบผู้หญิงแน่แล้วใช่มั้ยเนี่ย”
ผมอดหัวเราะไม่ได้ เพราะนึกอยู่แล้วว่าท่าทางพี่อาร์ทคงไม่ใช่เกย์หรอกมั้ง
“อ้าว ก็ถ้าพี่จะมีแฟนเป็นผู้ชายพี่ก็จะมีนิวคนเดียวไง แต่ถ้ามีแฟนเป็นผู้หญิงพี่ก็มีไปเรื่อยแลห่ะ กำไรชีวิตโว้ยไอ้อ้วน”
เออ แต่ถ้าคิดแบบนี้นอกจากจะเถื่อนแล้วยังใจดำอีกด้วย แต่ผมว่าคงพูดเล่นน่ะเพราะเท่าที่รู้จักกันพี่อาร์ทไม่ใช่คนมักมาก
“แต่นิวคงดูไม่ได้หรอกนะว่าคนไหนนิสัยเป็นยังไง เดี๋ยวนิวจะช่วยดูก็แล้วกันว่าคนไหนสวยๆ จะช่วยเลือกพี่สะใภ้ด้วย”
ผมยิ้มให้พี่อาร์ทอย่างเปิดเผย ตอนนี้สถานการณ์ที่เคยอึดอัดกลับคลี่คลายลงมากแล้วล่ะครับ
“งั้นนิวขอถือว่าพี่ไม่เคยบอกรักนิวก็แล้วกันนะ”
ผมสรุปตามความคิดของผมเอง
“ไม่เอาโว้ย พี่บอกแล้วไงต่อให้พี่เจอคนสวยแค่ไหน พี่ก็จะเก็บพื้นที่ในใจไว้รอนิวเสมอ สมองเสื่อมรึไงวะเพิ่งพูดไปหยกๆ”
ตอนที่ 29 หวังพบพานกับรักประโลมจิตใจ รักกลายเป็นเจ็บนานช่างรวดร้าว
เทคจะกลับมาเมืองไทยช่วงปีใหม่ครับ เค้าส่งเมล์มาบอกผมตั้งแต่ก่อนสิ้นเดือนธันวา ผมเองก็ส่งเมล์กลับไปบอกเตค้าเรื่องงาน ซึ่งนับจากวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2554 ผมจะเริ่มงานดีเจแบบจริงจังโดยบรรจุเป็นพนักงานคนหนึ่งของสถานีวิทยุที่

ผึกงานอยู่ ประมาณวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เทค โทรศัพท์มาหาผม พอดีกับช่วงที่ผมกำลังหาข่าวจากอินเตอร์เนตเพื่อจะไปอ่านในช่วงคั่นรายการของพี่ดีเจที่กำลังจัดรายการอยู่ ผมรับสายแล้วทั้งตื่นเต้นและดีใจเมื่อเทคบอกว่ากลับมาถึงเมืองไทยตั้งแต่เมื่อวานเทค บอกว่าจะมาหาผมที่โคราชในวันสิ้นเดือนเพื่อจะอยู่ฉลองปีใหม่กับผมด้วย ผมดีใจมากๆเพราะคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะบอกให้เทคได้รุ้ความรู้สึกในใจของผมสักที การได้ผ่านปัญหา โดยเฉพาะคนที่มาบอกว่าเค้ารักผมล้วนทำให้ผมยิ่งคิดถึงเทคมากขึ้นครับ
นึกถึงครั้งแรกที่เทคบอกรักและจูบผม ตอนนั้นผมกลัว ตกใจและโกรธ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจขยะแขยงเหมือนที่รู้สึกกับพี่ศรัณย์
หรือกับพี่อาร์ทที่บอกรักผมเพียงครั้งเดียวแต่ผมรู้สึกอึดอัดมากกว่าที่เคยได้ยินคำว่ารักจากเทคทั้งที่เทคพูดซ้ำๆแต่ผมก็ฟังไม่เบื่อ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ผมจะยอมรับตัวเองและบอกความรู้สึกของผมให้เทคได้รู้ซะทีก่อนที่จะช้าไปมากกว่านี้ จริงมั้ยครับเพื่อนๆ
“นิว รอเรานานมั้ย ขอโทษทีนะเราลงรถทัวร์แล้วเดินไปอีกทางนึงอ่ะ เคยแต่เอารถมาเลยงงๆ”
เทคเดินมาทักผมจากด้านหลัง แทบจะไม่ต้องหันกลับไปมองผมก็จดจำเสียงของผู้ชายคนนี้ได้ขึ้นใจทีเดียว
แต่แทนคำตอบทุกอย่าง ผมน้ำตาคลอด้วยความเต็มตื้นเมื่อคนที่ผมรอมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว ผมจะโผเข้าสวมกอดเทคไว้สุดตัว
“นิวเป็นไรอ่ะ เฮ้ย เจอกันทั้งทีอย่าร้องไห้สินิวเราใจเสียหมด”
เทคกอดตอบผมไว้แน่นพอกันแต่ก็คงสงสัยจนต้องถามผม อาจเพราะไม่คิดว่าผมจะเป็นฝ่ายกอดเค้าก่อน
“เราดีใจนี่นา รู้มั้ยเราคิดถึงเทคแค่ไหนเราเหนื่อยจะตายเลยเทค ตอนนี้เราแทบยืนไม่อยู่ขอเรากอดเทคนานๆหน่อยนะ”
ผมยังคงสวมกอดเอวของเทคไว้แน่นเหมือนกลัวว่าถ้าคลายอ้อมแขนเพียงนิดจะทำให้ผู้ชายตัวสูงใหญ่คนนี้หลุดลอยไปจากผม
“โอ๋ๆ อย่าร้องไห้เลยนะคนดี เรากลับมาก็เพราะเราคิดถึงนิวเหมือนกันแหล่ะ ถ้าเหนื่อยมากนักก็ซบที่อกเราสินิว”
เทค เลื่อนมือข้างหนึ่งจากที่โอบกอดผมนั้นเปลี่ยนเป็นลูบศรีษะและหลังของผมเหมือนจะปลอบโยนเด็กขี้แงที่ร้องไห้ไม่หยุด
ผมคิดอะไรไว้หลายอย่าง มีเรื่องราวมากมายที่อยากไถ่ถามทุกข์สุขของเทค รวมทั้งสิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องบอกเทคให้รู้ให้ได้เลย แต่พอเจอกันจริงๆ สิ่งที่ผมไม่ได้คิดไว้และไม่เคยคิดว่าจะกล้าทำก็คือการโผเข้ากอดเทคกลางสถานีขนส่งแบบนี้ ไม่อายแล้วครับ ยิ่งได้กอดเทคนานขึ้นเท่าไหร่ร่างกายและจิตใจของผมก็อบอุ่นขึ้นอย่างประหลาด น้ำตาที่ไหลรินอยู่นั้นเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง แผงอกของเทคกว้างใหญ่ให้ผมได้พักพิงเสมอ รูปร่างสูงหนาของเทคเหมือนเกราะป้องกันภัยทุกอย่างที่จะมาถึงผมไม่ว่าทิศใดๆ อ้อมแขนของเทคกอดรัดผมไว้แน่นขึ้นกว่าเดิม แต่ผมไม่รู้สึกอึดอัดสักนิดกลับอยากให้เค้ากอดไว้แน่นๆแบบนี้ตลอดไปด้วยซ้ำ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่ติดกายเทคอยู่นี้ยังคงเป็นน้ำหอมกลิ่นเดิมที่ผมคุ้นเคยมานาน เหมือนกับเจ้าของน้ำหอมที่ผมไม่เคยลืมได้เลย
“เช็ดน้ำตาซักหน่อยนะ เดี๋ยวคนเค้าจะคิดว่าเรารังแกนิว”
เทค ช่วยซับน้ำตาให้ผมอย่างเบามือเหมือนที่เคยทำ ทุกสัมผัสยังนุ่มนวลเสมอ
“ขอบใจนะ สงสัยเราจะดีใจมากไปหน่อยเราคิดว่าเราจะไม่ได้เจอเทคอีกแล้วซะอีก”
ผมพูดด้วยความรู้สึกที่คละปนกันหลากหลาย ทั้งความรู้สึกผิดและหวั่นใจว่าเค้าจะไม่กลับมาอีก
“ทำไมนิวคิดงั้นล่ะ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ จำไว้นะต่อให้เราตายเราก็จะกลับมาหานิวให้ได้เลย”
เทค พูดเพื่อเอาใจผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ผมไม่สบายใจเลยที่เค้าพูดเรื่องความตายทั้งที่ยังหนุ่มแน่นแบบนี้
“เรากลัวว่าจดหมายฉบับนั้น จะทำให้เทคเข้าใจเราผิด จะทำให้เทคไม่อยากเจอเราอีกน่ะสิ”
ผมหมายถึงจดหมายจากคนใจร้ายฉบับนั้น ตอนนั้นผมก็รักเทคแล้วแต่ผมก็จำเป็นต้องเขียนไปแบบนั้น
“ไม่หรอกนิว ต่อให้นิวปฏืเสธเราอีกกี่ครั้ง เราก็ไม่โกรธนิว และเราอยากให้นิวสบายใจว่าเราเข้าใจนิวดีนะ”
เทค ยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วเก็บผ้าเช็ดหน้าที่ซับน้ำตาให้ผมลงในกระเป๋าเสื้อของเค้า
“เทคเข้าใจเราจริงๆนะ หมายถึงว่าเทครู้ใช่มั้ยว่าเราคิดยังไง เทตอ่านจดหมายแล้วเข้าใจสิ่งที่เราอยากบอกจริงๆนะ”
ผมถามย้ำและยิ้มบางๆหวังว่าสิ่งที่ผมต้องการบอกเค้าก็คือผมรักเค้าแต่ผมทำตามใจตัวเองไม่ได้นั้นเค้าจะรู้ใจผมจริงๆ
“แน่นอนอยู่แล้ว เราจะไม่บังคับนิวอีกแล้วและเราก็ตัดใจได้แล้วนะ เราสัญญาต่อไปเราจะไม่พูดเพ้อเจ้ออีกแล้วนะเพื่อน”
เราต่างก็ผละออกจากกันทั้งที่ใจผมอย่างอ้อยอิ่งอยู่ในอ้อมกอดเค้านานๆ แต่ผมก็เริ่มปลาบแปลบใจกับคำตอบของเทค
“เพื่อนเหรอ”

ผมครางออกมาเบาๆเริ่มแน่ใจว่าเทคไม่ได้เข้าใจความหมายลึกๆในจดหมายของผมเลยแม้แต่น้อย
“เฮ้....เทค มาอยู่นี่เองเหรอ ไอหาทอยเลทซะรอบกว่าจะเจอ ร้อนก็ร้อน คนก็เยอะ”
เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา ผมและเทคหันไปเห็นชายหนุ่มแต่งตัวโก้หรูเดินตรงมาทางนี้สักพักเทคจึงแนะนำให้รู้จัก'แฟนเค้า'



รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
143
Zenny
984
ออนไลน์
25 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-21 20:52:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
655
Zenny
4096
ออนไลน์
93 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-21 22:52:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-17 19:44:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนค่าบ

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
75
Zenny
185
ออนไลน์
19 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-5 18:34:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุน คราฟผม

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
679
Zenny
156
ออนไลน์
324 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-10 00:54:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคับผม {:7_211:}

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-12 21:19:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
43459
Zenny
28190
ออนไลน์
2119 ชั่วโมง
โพสต์ 2024-1-27 06:32:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 02:24 , Processed in 0.086324 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้