ลิมิต ออฟ เลิฟ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เหล้า เมื่อ 2012-4-2 21:10(เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นไม่ได้มีเนื้อหาพาดพิงผู้ใดโดยเจตนา...ย้ำนะครับว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาไม่เกี่ยวข้องกับความจริงใดๆ)
ตัวเอกของเรื่องราวความรักห่วยแตกนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกจากไอ้บ้าตัณหากลับคนเดิมๆที่ชื่อ ไมค์ คนหนึ่ง เขาขึ้นชื่อว่าเป็นชายที่เย็นชาในเรื่องของความรักแต่โดดเด่นในวงการฉาวกลิ่นคาวของเรื่องเซ็กส์
เขาไม่ได้ถูกองค์การใดมอบตำแหน่ง ยอดนักรัก เพราะเขาไม่ได้สรรหาเรื่องลีลาสักเท่าไหร่นอกเสียจากนิสัยที่หลายๆคนเรียกว่า สำส่อนทางเพศเท่านั้นเอง...
พ่อหนุ่มเนื้อหอมในสายตาเพื่อนๆกลับถูกหลายคนตีจากไปเหมือนผู้อาภัพรักแต่เขาก็ยังร่าเริงกับเพื่อนเสมอราวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่มีตัวตน-
หลายคนพยายามผูกมัดเขาเอาไว้แต่ในที่สุดก็ต้องยอมปล่อยเพราะพ่อเทพบุตรนั้นตอบสนองความรักด้วยหัวใจที่ด้านชาจนเกินไป สหายรักเก่าของไมค์จึงแวะเวียนมาหาไมค์ด้วยความใคร่เป็นเสียส่วนใหญ่และนั่นเป็นสิ่งที่เดียวจะสมหวัง
มาถึงตาไมค์บ้าง...เขามองตัวเองเป็นซากศพที่เดินได้ เมื่อเขารู้สึกอย่างนั้นก็บอกเล่าให้พี่ชายของเขาฟังเผื่อจะได้คำแนะนำดีๆบ้างแต่เขากลับได้รับเสียงหัวเราะแกนๆและตบท้ายด้วยคำว่า"โรคจิตว่ะ"จากพี่ชายที่แสนดี
ตัวไมค์เองเป็นคนรักน้องสาวที่สุด เขานอนกอดน้องสาวตั้งแต่หล่อนตัวแดงๆคลอดใหม่จนกระทั่งโตเป็นสาว แม่สั่งให้เขานอนแยกกับน้องสาวโดยไม่มีเค้ามาก่อน อาจเป็นเพราะคำว่า"โรคจิตว่ะ"ของพี่ชายรบกวนจิตใจทุกคนอยู่ก็เป็นได้
ไมค์เกลียดคำพูดนั้นของพี่ชายแต่ก็ไม่เข้าตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาจะต้องเป็นน้องชายลูกแหง่ที่ชอบปรึกษาพี่ชายของเขานัก แม้ว่าพี่ชายของเขาจะปากสว่างก็ตาม เขาไม่เคยมีความลับกับใครในบ้านและความลับของไมค์ก็จะถูกเขาเปิดเผยทั้งสิ้น เขาบอกแม่ว่า "ไมค์ถอดเสื้อทีไรก็เห็นแต่รอยเล็บผู้หญิงเต็มหลังไปหมด แต่เหลือเชื่อเลยว่าผมจะเห็นไมค์จูบกับเพื่อนผู้ชายในห้องนักกีฬา" คำพูดที่พูดโดยไม่ได้รู้เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรตอนนั้นเองพี่ชายปากมากก็โดนน้องชายตัวดีอัดไปสองสามหมัด จนแม่ต้องตะโกนแล้วลากไมค์ออกไปตบหน้าอบรม
"แม่ก็เป็นซะแบบนี้....ผมเกลียดแม่...."ไมค์พูดแค่นั้นแล้วเขาก็ออกจากบ้านไปกลายเป็นเด็กไฮสคูลผู้เหลวแหลก
ทุกคนในบ้านเล็งความเห็นว่าจะต้องย้ายออกไปจากสภาพแวดล้อมเช่นนี้
แม้ว่าครอบครัวของไมค์จะย้ายสำมะโนครัวข้ามทวีปเพื่อเปลี่ยนแปลงเขาสักเท่าใดเขาก็ยังคงยึดอุดมการณ์เดิมเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่สถานที่สักนิดเดียว!
อยู่ที่ไหนเขาก็เหลวแหลกได้ทั้งนั้น-
โรรงเรียนแทบจะไม่ไว้หน้าผู้ปกครองเมื่อบุตรชายทำงามหน้าเอาไว้...จะเรื่องไหนซะอีกล่ะ?...นอกเสียจากเรื่องอย่างว่าละนะ- ไมค์หัวเราะร่าท้าทายผู้อำนวยการที่อบรมเขาอยู่ด้วยความหวังดีแท้ๆ ในที่สุดก็ต้องไล่ออก ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวเนื่องจากมีชื่อเสียงฟอนเฟะเกินจะรับได้ ความจริงแล้วไมค์ไม่ได้เริ่มความคาวกับเพื่อนสาวตัวเองก่อน....ประเดิมแรกสุดเห็นจะเป็นครูหนุ่มหน้าใสท่าทางทะนงตนต่างหาก.....ไมค์เล่นบทรักกับครูหนุ่มไปได้สักหน่อยก็ปล่อยตัวเป็นพ่อยอดชายของหญิงสาวควบคู่กันไปด้วย เพราะสาเหตุใดไม่ทราบคำขู่ของครูหนุ่มที่ไมค์ไม่ได้สนใจก็ทำฤทธิ์เขี่ยทั้งเขาและเธอออกจากโรงเรียนไป แม้ว่าครูหนุ่มจะทำให้ไมค์กับเพื่อสาวถูกไล่ออกแต่ไมค์ก็ไม่ปริปากอะไรสักคำนอกจากหัวเราะดังๆให้ผู้อำนวยการโรงเรียนสติแตกก็เท่านั้น....เขาสิ้นศรัทธา.....คนที่บอกรักเขาทุกวันกลับทำให้เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียนเพียงเพราะใจไม่กว้างพอ!
ไมค์เข้าเรียนม.4 เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เขาเป็นพี่โข่งที่ตัวโตกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว.....ไม่เสีหายอะไรที่เขาจะทำตัวแก่แดดสมกับตัวเขา...เขาคบหาพี่ประธานนักเรียนเป็นคนแรกของโรงเรียนใหม่แต่ความ"ง่าย"ของเขามันทำให้ถูกเขี่ยทิ้งไปกับเป้าหมายที่นิสัยดีกว่าร้อยเท่า!
ไมค์ไม่ได้เสียใจอะไร.....เขาชินกับการถูกทิ้ง....ก็ในเมื่อเขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเอาใจใคร-ไมค์ผู้มากด้วยกิตติศัพท์ขายได้กับผู้ใหญ่วัยทำงานไปจนถึงรุ่นพ่อ.....เขาไม่ได้ตั้งใจจะขายตัวแต่เงินที่ยื่นให้มันเป็นผลพลอยได้ที่หลอกล่อให้เขาเที่ยวเพื่อผลาญเงินที่ได้วันละมากเกิน
"ฉันทนไม่ได้หรอกนะฉันต้องทำอะไรสักอย่าง"แม่ฟาดหนังสือเล่มบางแต่แข็งใส่หน้าลูกชายคนเล็กต่อหน้าลูกชายคนโตที่กลับมาจากเมืองนอกเพราะมหาวิทยาลัยปิดเทอม
"แกมันบ้า....ไม่รู้ว่าได้ชั่วมาจากใคร?"แม่กำลังจะชี้ว่าต้นตระกูลทั้งทางพ่อและทางแม่นั้นไม่มีใครเลวร้ายเท่าไมค์อีกแล้ว
"จริงหรือเปล่าครับที่ผมไม่ใช่ลูกพ่อเหมือนพี่ชายกับน้องสาว....ผมเป็นลูกกิ๊กจริงๆหรอครับแม่ก็เลยไม่รักผมเท่าคนอื่น"นั่นสาบานได้ว่าเป็นคำถามจากหนุ่มน้อยอายุ 17 ปี ที่มีแต่ความน้อยใจเป็นทุนเดิม
"แกทำตัวของแกเองต่างหากไอ้คนไร้ประโยชน์!"แม่จิ้มนิ้วชี้ลงบนหน้าผากลูกชายแบบเน้นๆด้วยความโกรธ
"ผมถาว่าจริงไหม?ถ้าผมไม่ใช่ฝรั่งเศส ผมเป็นอิตาลี เยอรมัน หรือสเปน?"ไมค์ไล่เชื้อชาติไปตามที่เขารู้จักซึ่งทุกคนล้วนเป็นเพื่อนของพ่อทั้งสิ้น
"ใครบอกแก?ไอ้ความคิดชั่วๆแกไปเอามาจากไหนห๊ะ??"แม่เดือดร้อน
"งั้นผมต้องเป็นรัสเซียแน่ๆ..."ไมค์เอ่ยเชื้อชาติที่ใกล้ชิดที่สุด นั่นคือเพื่อนสนิทของแม่
"บัดซบ!"พี่ชายของไมค์สบถก่อนจะรีบพาร่างสั่นเทิ้มของแม่ออกไปห่างๆไอ้หมาบ้า ไมค์รู้สึกเจ็บปวดกับสายตามาดร้ายของพี่ชาย....ทุกคนตำหนิเขาแบบไร้ความปราณี
ไมค์ออกจากบ้านตรงไปที่โรงเรียนปัจจุบันของเขาซึ่งเขาคิดว่าคงไม่มีใครมาตามหาเขา ไมค์นั่งนิ่งอยู่กลางสนามฟุตบอลจนกระทั่งฟ้ามืดก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแผ่หราแล้วปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาเอง
มือหญิงสูงอายุลูบไปมาบริเวณหน้าผากของไมค์ เขาเคลิ้มหลับไปฝันถึงแม่ที่ใจดีในวัยเด็กของเขา ความสุขในฝันหายไปเมื่อความสว่างของฟ้าทำให้เขาตื่นจากฝัน...ร่มวางคร่อมหัวเขาเอาไว้ซึ่งกันหมอกลงได้ดีและผ้าคลุมไหล่ก็ห่มอกเขาอุ่นทั้งคืน
"ลุกมาสิ...แม่ให้มาตามไปกินข้าว"น้ำเสียงราบเรียบกับสีหน้าไร้อารมณ์ของน้ำลูกชายของครูวิไลนั้นทำให้ไมค์รู้สึกเหมือนว่าตนเองได้หลุดมาในโลสุดหลอนแห่งปี
"..."ไมค์ขยี้ตาก่อนจะมองรอบๆตัวแล้วลุกขึ้นยืน น้ำตัวหดเล็กลงเมื่อไมค์ยืนขึ้น- -ความจริงแล้วไมค์ตัวโตเองต่างหาก
"สภาพดูไม่ได้เลยว่าไหม?"ไมค์เอ่ยมา...น้ำเป็นเพื่อนชั้นเรียนเดียวกันที่ผ่านหูผ่านตาไมค์บ้างและเชื่อว่าไมค์ไม่เคยมีมุมนี้ให้ใครได้มองเห็น
"ก็ดูเหมาะกับเด็กอายุ 17 ปีดีนะทีแรกเราก็ยังนึกๆอยู่ว่านายทำตัวแก่แดดไปหน่อย"ครานี้น้ำดูเป็นคนมีความรู้สึกนึกคิดขึ้นมาบ้าง
"ทำไมหนีออกจากบ้านมานอนร้องไห้ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนล่ะ?"
"รู้ด้วยหรอ?"
"เปล่า...แม่บอก...แม่บอกว่ากลับมาจากห้องพักครูก็เห็นเด็กนักเรียนตัวโข่งนอนร้องไห้จนหลับไปอยู่กลางสนามฟุตบอลพอได้ยินชื่อก็แทบไม่น่าเชื่อแน่ะว่าเป็นนาย...นี่ฉันจะไปเขียนเป็นคอลัมน์เด็ดดีไหมนะ?"
"ก็ดี..."
"ก็ดีหรอ?นายนี่ดูไม่ทุกข์ร้อนเลยนะตั้งใจจะเหลวแหลกไปถึงไหนประชดใครงั้นหรอ?ดูครอบครัวแบบตะวันตกของนายท่าทางจะแฮปปี้ดีออกไม่เหมือนคนไทยที่ไม่ค่อยชอบแสดงออกความรักต่อกันจนดูเป็นความห่างเหินและเย็นชา"
"แล้วบ้านนายเป็นด้วยไหม?"
"ไม่หรอก...เรากับแม่สนิทกันออก...แต่กับพ่อ...เราแค่ความเห็นไม่ค่อยลงรอยกันนิดหน่อย"
"สรุปว่าก็ยังมีปัญหาอยู่"
"จะว่าอย่างนั้นก้ได้...พ่อไม่ค่อยปลื้มกับสิ่งที่เราเป็น..."
จากที่น้ำถามถึงปัญหาของไมค์กลับกลายเป็นว่าเขาบอกเล่าปัญหาของเขาให้ไมค์ฟังเต็มที่...
(นี่พาร์ทแรก.....เริ่มต้นเป็นยังไงฝากคอมเม้นด้วยละกันนะครับ.....แล้วผมจะมาต่อให้จบอย่างแน่นอน)
ลุ้น ๆๆ ชอบครับๆๆๆ (ต่อครับ.....)
น้ำเดินนำไมค์ไปยังบ้านพักครูที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายและดูเป็นบ้านที่อบอุ่นไม่น้อยเลย ไมค์ได้อาบน้ำและกินข้าวโดยมีครูวิไลคอยจัดแจงธุระให้
"ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจก็ปรึกษาครูได้ตลอดเวลาเลยนะลูก"ครูวิไลพูดพลางตักกับข้าวให้ไมค์ ซึ่งไมค์ที่เป็นผู้รับความกรุณานั้นมาเกิดก้อนแข็งในลำคอ กลืนน้ำลายไม่ลง...เขาคิดไปเสียว่าถ้ามีครูวิไลเป็นแม่ได้ก็คงจะดี
"ถ้าว่างๆไม่มีอะไรทำก็มาช่วยเราทำหนังสือพิมพ์โรงเรียนก็ได้นะ แม่บอกว่านายเขียนหนังสือดี เรายังไม่เคยเห็นแม่ชมใครเลย.."
"ถ้าจะเอาสาระก็ผิดแล้วล่ะ...ฉันมันไอ้คนไร้ประโยชน์"
"อย่าถล่มตัวอย่างนั้นซี่...คอลัมน์นักแต่งกลอนยังว่างอยู่เลยอีกหน่อยก็วันภาษาไทยด้วยฝากด้วยหน่อย"น้ำร่าเริงและมีชีวิตชีวามากขึ้น เมื่อเขาพูดถึงเรื่องที่เขารักและมุ่งมั่น เขาชวนไมค์คุยตั้งแต่อยู่ที่บ้านจนกระทั่งออกไปสู่โรงเรียน..เข้าห้องเรียนก็ไม่ยอมหยุดคุยจนครูโหดต้องตำหนิเขาต่อหน้าชั้น
น้ำวางแผนงานหนังสือพิมพ์เฉพาะกิจของชมรมตลอดการเรียนและเมื่อออดชั่วโมงสุดท้ายดังเขาก็ลากไมค์ไปที่ชมรมแล้วชวนกันนั่งทำงาน
ไมค์เอาจริงเอาจังไปด้วยทั้งๆที่ตอนแรกเขาก็เหยาะๆแหยะๆไม่อยากยุ่งวุ่นวายอะไรแต่เพราะมันเป็นสิ่งที่ไมค์รัก....เขาก็เผลอลืมอคติทุกอย่างไปจนหมดแล้วทำงานด้วยใจรักจริงๆ
"จะว่าอะไรไหม...ถ้าฉันยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้"ไมค์เอ่ยปากถามน้ำขึ้นมาเมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับบ้าน
"ไม่นะ..."น้ำนิ่งก่อนตอบ เขาดีใจที่บ้านของเขาทำให้ไมค์อยากอยู่ต่อ
"เราไม่ถามนายหรอกว่าทำไมไม่อยากกลับบ้าน...แม่เราก็ไม่ถาม....พวกเรายินดีต้อนรับทุกเวลา"น้ำยืนยันให้ไมค์สบายใจ
"ขอบใจ..."
ไมค์ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่แต่เขาอยากจะอยู่กับบรรยากาศที่เรียกว่าบ้านนี้ให้นานๆ.....จนต้องทำตัวใจกล้าหน้าด้านรบกวนเจ้าของบ้านกันเลยทีเดียว.......เขารู้สึกผิด.......เขาปากเสียกับแม่เอง.......
น้ำกุลีกุจอจัดที่นอนหมอนมุ้งรับแขกที่ขอมาค้างคืน...อย่างไม่มีกำหนดว่าจะไปเมื่อไหร่...เขาจัดห้องเล็กๆของเขาให้มีพื้นที่สำหรับนอนมากขึ้นเพราะเพื่อนของเขาตัวโตใช่เล่น
น้ำแบ่งเตียงครึ่งของเพื่อนไมค์พื้นที่มากกว่าครึ่งของเขาก่อนแบ่งเขาให้เกียรติแขกเลือกฝั่งก่อนซึ่งไมค์ก็เลือกฝั่งที่ดีที่สุดไปนั่นคือฝั่งที่ไม่ติดกับผนังห้อง เมื่อจัดห้องเสร็จน้ำก็ทำธุระให้เรียบร้อยแล้วโดดมานั่งโต๊ะเขียนหนังสือยิกๆ
"เขียนอะไรน่ะ?"ไมค์ชะโงกมอง
"อ๋อ...ไดอารี่น่ะ"น้ำดึงสมุดแนบอกเพราะกลัวว่าไมค์จะอ่าน
"ความลับหรอ?"ไมค์ระบายยิ้มเพราะเขาสังเกตเห็นว่าน้ำชอบอะไรหลายอย่างที่เหมือนกันกับเขา...แม้ว่าไลฟ์สไตล์จะต่างกันมาก
"เปล่าหรอกแต่มันงี่เง่าก็เลยขอเอาไว้อ่านคนเดียว"
"ฉันไม่คิดอย่างนั้นหรอก แต่ฉันไม่ค่อยเห็นผู้ชายคนไหนสนใจเรื่องเขียนชีวิตประจำวัน....เอ่อ....ความจริง...ฉันก็เขียนนะ...และชอบเอาเรื่องตัวเองไปเขียนปนกับนิยายฉันว่ามันหยุมหยิมและงี่เง่ากว่าของนายอีกนะ"
"จริงหรอ?นายเขีนนิยายด้วยหรอ?"น้ำตาโต
"อือ...ก็เพิ่งเคยเห็นนายทำหน้าตาเหมือนจะบอกว่าฉันมันเจ๋งยังไงยังงั้น...."
"ก็มันเจ๋งนี่...ไม่มีใครชมนายเลยหรอ?"
"ไม่...แม่ฉันเป็นนักเขียนก็ยังไม่เคยพูดคุยกันถึงเรื่องนี้เลย"
"ท่านอาจไม่ค่อยมีเวลา"
"เวลาจับผิดน่ะเยอะเลย..."
"ไมค์...นายมองโลกในแง่ร้ายมาก"
"ฉันคิดว่าฉันมองความจริงที่ปรากฏมากกว่าคิดไปเองแล้วนะ"
"สวยงามเยอะแยะแต่นายกลับไม่มองมุมที่ดี...."
"ก็คงมีแต่นายที่เพ้อฝันเป็นเด็กผู้หญิง"ไมค์ปิดประเด็นที่เริ่มจะเครียดนี้ด้วยการชิงเข้านอนก่อน
"เด็กผู้หญิงงั้นหรอ?"น้ำเริ่มมีความรู้สึกที่แย่ต่อเพื่อนปากร้ายคนนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว
"หรือไม่จริง..."ไมค์สรุปแล้วใช้ผ้าห่มคลุมหัว
"เกินไปหน่อยแล้ว..."น้ำทุบโต๊ะข่มขวัญ
"นายจะปฏิเสธไหมล่ะ?ว่านายไม่ได้เป็นเกย์"ไมค์เปิดผ้าห่มออกมาข่มตอบ
"นายรู้ได้ยังไง..."น้ำกัดริมฝีปากแต่เขาก็ไม่แปลกใจอะไรที่ไมค์จะพูดถูก
"ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญนะ...อย่าลืมสิ..."
"อ้อ...ผู้มีชื่อเสียกระฉ่อนด้านการนอนร่วมเตียงกับเกย์และผู้หญิงมากมาย"น้ำฟาดฟันกับไมค์ด้วยวาจา
"และวันนี้...ก็จะร่วมเตียงกับเกย์เพิ่มอีกหนึ่ง.."ไมค์สวนกลับอย่างร้ายกาจ
"เราจะย้ายลงไปนอนห้องรับแขกเอง"
"ทนรับความจริงไม่ได้ก็ไปเถอะ...คิดว่าฉันจะพิศวาสเรือนกายของผู้ชายนักหรือไง?เรียกร้องความสนใจเกินไปหรือเปล่าสาวน้อย?"
"กวนประสาท!"น้ำสบถก่อนจะออกไป เสียงหัวเราะของไมค์หายไปทันทีที่น้ำพ้นตา เขามองฝ่าความมืดในห้องนอนด้วยแววตาที่แข็งกร้าวก่อนจะพลิกตัวมุดหน้าซบกับหมอน
"ไปเลยนะกลับบ้านของนายไปเลย"น้ำขับไล่ตัวกวนทันทีที่เจอหน้ากัน น้ำไล่ไมค์ตลอดวันแต่ไมค์กลับหน้าเฉยทำงานที่ชมรมของน้ำจนได้ใจของเพื่อนๆในชมรมไม่มีใครออกเสียงขับไล่เหมือนน้ำสักคนทำให้น้ำหัวเสียมาก
"บ้านไม่ต้อนรับใครแล้ว!"น้ำออกปากเอาแต่ใจออกมาแต่ไมค์ยังคงวางเฉย....
"แม่ไม่ว่า..."ไมค์พูดขึ้นมา
"แม่ไหน?ใครแม่?"
"แม่วิไล...แม่นายนั่นแหละตอนนี้ฉันป็นลูกชายอีกคนของแม่นายแล้ว..."
"หน้าไม่อาย!!"น้ำหันหน้าหนีทำให้ไมค์หัวเราะขึ้นมา
"เอาน่า...ฉันมันปากเสีย...จะงอนกันไปถึงชาติหน้ารึไง?"ไมค์ยอมง้อ
"เราไม่ชอบถูกล้อเล่นอย่างนั้น....อย่าพูดร้ายๆแบบนั้นอีกก็แล้วกัน"
"โอเค...ผมจะไม่เสียมารยาทกับคุณผู้หญิงอีกครับสัญญา"
"อีกแล้วนะ!"น้ำหน้าเครียด ไมค์เอาแต่ว่าเขาเป็นผู้หญิงอยู่เรื่อยซึ่งไม่ใช่คำล้อที่อยากจะเล่นด้วยเลย
"ล้อเล่นน่า....ฉันจะระวังก็แล้วกัน..."ไมค์ดึงน้ำมาโอบไหล่ด้วยมิตรภาพแต่น้ำกลับไม่ไว้วางใจเพราะไมค์ไม่มีอะไรที่น่าเชื่อใจได้สักอย่างเลย...แม้ว่าอย่างน้ำอาจจะไม่ดูดีเข้าขั้นสเปคของไมค์และไมค์ไม่ได้พิศวาสเขาเลยเขาก็ยังลบความคิดกลัวเสียเปรียบไมค์ไม่ได้อยู่ดี-
หลังจากเหตุการณ์ที่เกือบแตกหักของมิตรภาพใหม่เอี่ยมอ่องนั้น ไมค์ก็เริ่มทำตัวดีเพื่อประสานรอยร้าวให้สนิทแนบแน่น..ในที่สุดก็เล่นหัวกันได้อย่างพี่น้อง แม้ว่าไมค์จะอายุมากกว่าถึงสองปีแต่น้ำก็ชอบวางท่าเป็นผู้ใหญ่กว่าเสมอซึ่งไมค์ก็ยินยอมและชอบอย่างนั้น
"เออนี่...นายเขียนนิยายประเภทไหนอยู่หรอ?"
"ก็แนวบันทึกชีวิตประจำวันน่ะ...มันใกล้ตัวดี"
"เป็นนิยายรักไหม?"
"เกือบ...แต่ก็คงไม่มั้ง..."
"หมายความว่าไง?"
"เกือบไง....ฉันพยายามเขียนนิยายรักแต่...ไม่ค่อยรู้หรอกว่าความรักมันจะต้องเป็นยังไง"
"ที่ผ่านมาไม่เคยรักใครงั้นหรอ?"
"ลืมไปแล้ว...."ไมค์ยิ้มบางๆ
"โห....."น้ำทำหน้าไม่เชื่อแต่ไมค์ก้เป็นคนมีความลับ(ลมคมใน)เสมอในสายตาของน้ำ
"ลองอ่านดูไหม?"
"ไหนล่ะ?"
"ในดวงตาผมไง....มันมีเรื่องราวความรักอยู่มากมายเชิญเลือกอ่านได้ตามสบายเลยครับมาดาม"
"อีกแล้ว.....เราเหมือนผู้หญิงขนาดนั้นหรือไง?"น้ำหน้ายุ่ง
"ไม่หรอก...นายอ่อนโยน อ่อนหวาน เรียบร้อย แสนงอน ขี้โมโห รักนวลสงวนตัว ขี้อาย เพ้อฝัน รับมากกว่ารุก"
"เอ๊ะ??"
"อ้อ...รับฟังมากกว่ารุกความคิดเห็นผู้อื่น"
"นายไม่ได้หมายความอย่างนี้...ใช่ไหม??"
ครานี้ไมค์หัวเราะร่วน
"ประมาณนั้นแหละ...แล้วรับกี่ครั้งรุกกี่ครั้งแล้วหรอ?สรุปอันไหนมากกว่ากัน"
"ไม่เคยเว้ย!"น้ำปฏิเสธเสียงดุ
"อ้าวแล้วถ้าไม่เคยจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองเป็นเกย์"
"มันอยู่ที่ความรู้สึกเว้ย"
"อ้าวหรอ?...ต้องรู้สึกยังไง?รู้สึกอยากถูกกอดบ้างไหม?"
"ไม่รู้เว้ย!"น้ำทำท่าขึงขังไม่อยากคุยต่อ
"นายจะไม่รู้ความรู้สึกตัวเองได้ยังไงกัน?"ไมค์ยังคงต่อได้อีก
"กวนประสาทแล้ว....นอน!จบ..."น้ำเข้านอนก่อน
"ฉันเป็นคู่ซ้อมได้นะ...เผื่อว่านายอยากจะออกศึกกับชายหนุ่มสักคน..พี่ชายจะซักซ้อมให้อย่างดีไปเจอของจริงจะได้ไม่ตื่นเต้นไง"ไมค์ยังคงนั่งบนโต๊ะเขียนหนังสือ เขากำลังเร่งงานหนังสือพิมพ์ที่ขันอาสาทำตั้งหลายคอมลัมน์
แต่ก็มีเวลากวนคนอื่น........
"กวนตีน!หุบปากไปเลย!คนจะนอน"
"เหวอ...นายน้ำพูดคำหยาบกับพี่ชาย"
"มั่ว!"
"รู้ได้ไงว่าชอบมั่ว"ไมค์ปิดไฟแล้วย้ายมานั่งบนเตียงดึงผ้าห่มที่ไปกองอยู่กับน้ำมาห่มบ้างแบ่งกันไป
"นอนจริงๆแล้วนะ..."น้ำคำราม
"คำถามสุดท้ายอ่ะ...นายคิดยังไงกับร่างกายผู้ชายหรอ?"
"ไม่เห็นจะต้องคิดอะไรก็มีเหมือนๆกัน"น้ำตอบห้วนๆ
"ถ้าฉันถอดเสื้อต่อหน้านายก็ไม่รู้สึกสินะ..."
"ไหนคำถามสุดท้ายแล้วไง...แล้วทำไมยังถามไม่เลิกอีก"น้ำผลักผ้าห่มไปกองที่ไมค์หวังปิดให้มิดไปเลย
"นั่นน่ะ...ประโยคบอกเล่านะ..."ไมค์หัวเราะอย่างผู้ชนะแล้วก็โยนผ้าห่มไปกองที่น้ำ
จากนั้นก็เป็นศึกสู้รบปรบมือกันด้วยกำลังฟัดเหวี่ยงกัน สงครามบนเตียงจะจบลงอย่างเช่นเคยถ้าไมค์ไม่ลุกขึ้นมาตะครุบตัวน้ำอย่างเช่นวันนี้
"นายคิดบ้างไหมว่าร่างกายของนายในสายตาของฉันไม่เหมือนร่างกายของผู้ชายสักนิด"
ทุกอย่างนิ่งเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ร่างของไมค์ในความมืดอยู่เหนือร่างของน้ำ แม้ว่าทุกอย่างจะไม่ชัดเจนในความมืดแต่สายตาของทั้งสองก็ประสานกันในทั้งความจริงและความรู้สึก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เหล้า เมื่อ 2012-4-3 22:40
(พาร์ทที่ 3 )
"นายคิดบ้างไหมว่าร่างกายของนายในสายตาฉันมันไม่เหมือนร่างกายของผู้ชายสักนิด"ไมค์ไม่ได้พูดซ้ำประโยคเดิมแต่คำพูดของเขาอยู่ในลักษณะเอคโค่ในหูของน้ำซ้ำๆ ใบหน้าของน้ำซีดเผือดราวกับไร้สติ เขาอาจกำลังตกใจ แต่ไมค์ก็ไม่ได้ปล่อยให้การนิ่งงันของน้ำกินเวลานานนัก ไมค์โน้มใบหน้าลงจูบน้ำอย่างที่ความรู้สึกต้องการ เป็นจูบที่สัมผัสอย่างบรรจงและนุ่มนวลที่สุดในช่วงเวลาสั้นๆ ไมค์ถอนริมฝีปากออกมาเพื่อสบตากับน้ำ น้ำหลบสายตาซึ่งเป็นคำตอบที่ไม่เลวร้ายสำหรับไมค์ เขาโน้มลงจูบน้ำซ้ำอีก และซ้ำอีกซึ่งจูบแต่ละครั้งเพิ่มสัมผัสที่รุนแรงและจุดไฟปราถนามากขึ้น ไมค์รุกล้ำด้วยจูบและมือสากๆ ไมค์จูบลามไปทุกที่ด้วยความรู้สึกที่รุนแรงกับผิวเนียนของน้ำ มือหนักแต่สัมผัสอย่างนุ่มนวลและนิ้วเรียวยาวนั้นไล้ไปราวกับนักบรรเลงเปียโนชั้นเซียน
"พอเถอะ..."น้ำดึงผมของไมค์เพื่อหยุด ไมค์ชะงักเพราะเจ็บ เขาต่ำกว่านั่นไม่ได้จึงขึ้นมาจูบน้ำใหม่
"แค่นี้พอ!!..."น้ำกระชากหนังหัวของไมค์เต็มแรงจนไมค์ต้องยอมหยุดจริงๆ สีหน้าไมค์อ่อนโยนจนน้ำเองก็รู้สึกละอายใจทั้งๆที่เขาก็รู้สึกดีกับสิ่งที่ไมค์ทำ ไมค์ไม่ต่อว่าอะไรน้ำอย่างที่น้ำคาดเดา....เขาไม่ใช้คำพูดเอาแต่ใจกับน้ำแต่เขาเลือกที่จะร้องขอน้ำอย่างอ่อนโยนที่สุด
"โอเค...ฉันจะหยุด...แต่ได้โปรดเถอะ...ให้ฉันได้ไปต่อเถอะนะจะคลั่งตายอยู่แล้ว"เสียงทุ้มนุ่มหูที่แผ่วเบานั้นแทบจะใช้ปากชิดกับใบหูของน้ำ
ไมค์กระซิบร้องขอก่อนจะใช้มือนำพาตัวเองไปถึงฝั่งฝัน เสียงลมหายใจหอบกระเส่าของไมค์คลอเคลียอยู่ข้างหูน้ำ บางครั้งสันจมูกก็หันไปถูกับแก้มนวล
"วันนี้นายน่ารักมาก...."ไมค์กระซิบก่อนจะจูบอีกครั้ง
...........................
"นายเป็นผู้หญิงกว่าเมื่อวานหรือเปล่าเนี่ย?"ไมค์บ่นในตอนเช้าเมื่อคนที่ตื่นก่อนดึงผ้าห่มเป็นการปลุก
"วันนี้ต้องทำงานให้เสร็จนะเดี๋ยวไม่ทันวันแม่"น้ำปั้นหน้าเข้ม
"จริงๆด้วย....เป็นผู้หญิงทันตาเห็น"
"คนบ้า!คิดเรื่องอื่นเป็นไหม?"
"ทำไมล่ะ?"
"เขินเว้ย!"
"เขิน?ก็ได้ๆ...จะคิดเรื่องอื่น"
"เรื่องอะไร?"
"ก็เรื่องอื่นไง...ถามอยู่ได้"
"เชอะ..."
"นั่นแน่ะ...มีช๊งมีเชอะ...ผู้หญิงชัดๆ"
"ใครกันแน่?เป็นผู้หญิงปากร้าย..."
"งั้นคืนนี้พิสูจน์กัน"
"ไม่!"น้ำตอบในทันที
"ไม่ชอบก็ไม่เห็นต้องบอกกันแบบนี้เลย...เสียความมั่นใจ"
"เสียไปเลย"
"....."ไมค์นิ่งเงียบพร้อมกับทำหน้าเศร้า น้ำก็เลยต้องพูดอะไรออกมาเพื่อปลอบเขาบ้าง...มันคือความห่วงใยที่จะต้องไม่อายที่จะแสดงออกมา
"นายไม่รู้หรอก....ว่าเราอายแค่ไหนที่นายมองเราแล้วนายก็...ก็ทำอะไรบ้าๆนั่นกับตัวเอง...เอ่อ....หมายความว่าช่วยตัวเองน่ะ- -"
"แล้วไง?....นายไม่รู้หรือไงว่าการที่นายหน้าแดงอายฉันมันยิ่งเร้าอารมณ์ฉันไปถึงไหนต่อไหน..แน่จริงก็อย่ามายั่วกันสิ"
"พอเถอะ...ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว"
"ไม่พูดแต่ทำได้ใช่ไหม?"
"พอ"
"ใช่ไหม?"
"พอ..."
"ใช่ไหม?"
".........."น้ำนิ่งเงียบและไมค์ก็ดกดันอยู่
"....อืม.."น้ำแทบจะกลืนคำนั้นลงคอแม้มันจะแผ่วมากแต่ไมค์ก็ได้ยินเพราะเขาจดจ่ออยู่ไม่ให้คลาดสายตา เขาจูบน้ำในทันทีที่คำอนุญาตมันเล็ดลออดออกมาได้เกินครึ่งเสียง จูบนั้นบดขยี้อย่างร้อนแรงและดูเหมือนจะเป็นจูบที่จุดชนวนทุกๆอย่างให้เกิดขึ้นตามลำดับ มันกำลังจะเริ่มขึ้นอีกแต่เสียงจากในครัวทำให้น้ำผลุนผลันออกไป
ความรู้สึกไมค์เหมือนกับเจ้าชายที่กำลังเต้นรำกับเจ้าหญิงแล้วนาฬิกาก็บอกเวลาเที่ยงคืน เจ้าหญิงต้องรีบออกจากงานเลี้ยงไปทิ้งรองเท้าไว้หนึ่งข้าง แต่น้ำไม่ได้ทิ้งอะไรเลย- -
จบยังครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]