เพื่อนรัก...รักเพื่อนเเล้วก็เเอบรักต่อไป
สำหรับเรื่องที่คุณกำลังจะอ่านต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่ไม่อิงนิยาย ไม่ใช่ละครโทรทัศน์แต่มันคือ “ละครชีวิต”ผมเชื่อว่าในโลกนี้ คงไม่ไม่น้อยที่จะพบเหตุการณ์เหมือนผมซึ่งในแต่ละบุคคลก็จะมีเรื่องราวที่ แตกต่างกันไปเเละทุกคนก็ย่อมมีนิทานความรักในรูปเเบบต่างๆของเเต่ละคนแต่ สำหรับผมมันก็คือเรื่องราวอีกเรื่องหนึ่งที่มันเป็นสิ่งที่ผมจะไม่มีวันลืม ได้เลย เพราะมันยังคงติดอยู่ในใจผมมาตลอดเเละมันอาจจะเป็นความจำที่จะติดตัวผมไปจน วันตายเลย ก็อาจจะเป็นไปได้นะครับ ผมอยากให้ทุกๆคนได้ลองอ่านดูเเล้วคุณจะรู้ซึ้งถึงความรักของผม มันือความรักที่เเปลก เเตกเเยก เเตกต่าง เเต่จริง เเละความรักในรูปเเบบของผม ผมมั่นใจเลยว่าในทุกๆมุมของโลกเรา หรือในมหานครที่เจริญรุ่งเรืองอย่าง กรุงเทพมหานคร ก็มีเยอะมากมายเช่นกัน คุณลองอ่านกันดูนะครับเเล้วคุณจะเข้าใจ
*ต้องขอทำความเข้า ใจนะครับ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงของตัวผมเองเป็นประสบการณ์ที่เกิดจากผมเองเเละมี บุคคลอื่นๆที่ผมรัก เเละมีหลายคนที่ผมเคารพ สถานที่ต่างๆ ดังนั้นผมจะต้องใช้ชื่อที่เป็นนามสมมุตินะครับ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องเสียหาย
ขอบพระคุณเป็น อย่างสูงครับ
ดีครับผมชื่อไอในขณะที่คุณกำลังอ่านเรื่องราวตอน นี้ผมอาจจะไม่ใช่เด็ก ปวช. อายุแค่16 กว่าๆ
คน หนึ่งอีกต่อไปผมไม่รู้ว่าคุณจะได้อ่านกันเมื่อใด แต่ตอนที่ผมกำลังเล่าเรื่องราวอยู่นี้ผมเป็นเด็ก อายุแค่ 16 กว่าๆ
ย้อน ไปเมื่อประมานปี 2549 มันเป็นช่วงเด็กประถมคนหนึ่งต้องก้าวขาเข้ามาเรียนยังโรงเรียนมัธยมศึกษา มันเป็นความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก การที่จะได้มาพบเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ๆ โลกใหม่ๆ หลังจากที่ก้าวข้ามผ่านประตูโรงเรียนมาผมเหลียวหลังไปมองบริเวณหน้าโรงเรียน ผมยังรู้สึกเหมือนเด็กประถมคนนึงกำลังยืนอยู่นั่นคือตัวผมเองแต่เมื่อผมมอง ไปเบื้องหน้า มองจุดที่ผมยืนอยู่นั่นแหละคือตัวตนที่แท้จริงของผมในอีก 3 ปีกับชีวิตเด็กมัธยมต้น ผมได้เรียนอยู่ที่ห้อง 6 ถือว่าเป็นห้องกลางๆไม่ถึงกับฉลาดมากหรือโง่จนเกินไปเพราะในปีนนี้ทั้งสาย ชั้น มีจำนวนทั้งหมด 12 ห้อง ในคาบแรกอาจารย์ประจำชั้นก็จะมาแนะนำตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการ Home Roomซึ่งผมก็ต้องแนะนำตัวให้ทุกคนได้รู้จักตอนแรกก็หวั่นใจแฮะ คนอื่นเขาส่วนใหญ่มาจากที่เดียวกันเราดันเป็นเด็กโดดเดี่ยว ผู้เดียวดาย “พออาจารย์ชี้มาทางผมว่า อ้าวเธอลุกขึ้นแนะนำตัวให้เพื่อนรู้จักสิค่ะ”
ผม ก็บอกเขาไปว่ามาจากที่ไหน ชื่ออะไร ตอนแรกในวันนี้ผมแทบจะไม่ค่อยรู้จักใครเลยเพราะผมจะไม่เกาะอยู่กับใครมันดู เหมือนเราไปเป็นส่วนเกินของเขาเพราะพวกเขาก็จะมาจากที่เดียวกันเกือบจะทั้ง ห้อง แต่ถ้าไม่ก็จะมากัน 2 คนมั้ง 3 มั้งแล้วแต่ ผมก็เลยไปนั่งอยู่หลังห้องคนเดียว ก็มีคนมาคุยกะผมแรกๆเลยมีเพื่อนอยู่แค่ไม่กี่คนเอง พอนานๆไปก็เริ่มมีเพื่อนมากขึ้นเพราะผมเริ่มที่จะไปแสดงความรู้จักกับเขา ก่อนก็เรียนมาได้นานอยู่พอควร วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังตั้งใจอยู่กับการทำงานวิชาคณิตซึ่งมันเป็นวิชาที่ผม เกียจและขยะแขยงมากที่สุดเลยเท่าที่เรียนเท่า ผมไม่ชอบมันเลย และไม่เคยคิดที่จะพิศสวาทมัน เคยนะพยายามที่จะทำใจชอบแต่เพราะเรามีอคติมั้งเลยทำไม่ได้ผมก็เลยต้องสนใจ มันนิดนึงต้องรีบลอกงานเพื่อที่จะมีทันส่ง ก็มีเสียงเรียกนึงผ่านเข้ามาในรูหูผม “นี่ๆนายๆเขาให้ทำรัยหรอ” ผมก็ไม่ได้หันไปมองว่าใครเรียกก็ ในใจก็คิดว่า
“ทำไมต้องมายุ่งกะกูตอน นี้ว่ะ” ก็เลยตอบไปด้วยความรีบและ“เซ็งว่า ไม่รู้ก็ไปดูเองดิ”ก็มีคำพูดสวนกลับมาว่า
“เออ...ถามแค่นี้ทำไมต้องกวนตีนว่ะ” ผมก็ไม่ตอบมันก็เลยเดินไป ผมไม่ค่อยที่จะชอบหรอกพวกที่เวลาเขาสอนแล้วไม่ฟัง แต่พอเวลามีงานที่ต้องทำส่งแล้วมาถาม ในห้องผมจะสนิทกับผู้ชายอยู่แค่ไม่กี่คนเอง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกที่เรียนๆหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับเรียนจนเวอร์ ผมจะไม่ชอบคุยกะพวกผู้ชายที่ชอบ โดดเรียน สูบบุหรี่ เที่ยว ไม่ทำงาน ไร้สาระ ก็เลยไม่ค่อยสนิทกับพวกมันซักเท่าไหร่เอาง่ายๆผมเคยเห็นหน้ามันนะเรียนมา ทั้งปีเห็นหน้าพวกมันนับครั้งได้เลยอ่ะ คือเข้าเรียนกันน้อยมาก โดดกันเป็นส่วนใหญ่ พอเวลาจะตกก็ให้พ่อแม่มานั่งอ้อนวอน คุกเข่าร้องไห้พ่อ-แม่เขาจะไม่รู้ไงว่าลูกชายเขาน่ะมันไม่ดีมันชั่วขนาดไหน น่าสงสารพวกคุณพ่อ-คุณแม่มากเลยอ่ะ เวลามันกลับบ้านกันไปก็ทำตัวปกติตอนเช้าแต่งตัวมาจากบ้านขอเงินแบกกระเป๋า ใส่หนังสือมาแต่ไม่เข้าเรียน ผมเลยไม่ค่อยสนิทกับพวกนี้สักเท่าไหร่ก็พวกมันไม่เรียน
เราจะไปคบพวก มันให้เราตกต่ำทำไม โดยส่วนใหญ่ผมจะใช้เวลาช่วงหลังพักทานข้าวไปห้องสมุดไปค้นหาหนังสืออ่านซึ่ง คุณเชื่อมั้ยห้องสมุดตอนนั้นกับตอนนี้มันต่างกันราวฟ้ากับดินตอนที่พวกผม เข้าไปแรกๆห้องสมุดไม่ได้ทาสี แคบๆมีกลิ่นอับ หนังสือก็ปลวกกิน ไม่มีอะไรดีเลย แต่พอพวกผมเริ่มเข้าไปสนใจมันมีครูมาประจำที่นั่นทุกๆอย่างเริ่มเปลี่ยนไป มีที่รูดบัตร มีคอมพิวเตอร์ มีแอร์ มีหนังสือเพิ่มมากขึ้น มีการทาสีใหม่ แล้วในปีนั้นโรงเรียนเรากำลังส่งเข้าไปประกวดโรงเรียนในฝันทั้งโรงเรียนต้อง ยกเครื่องใหม่หมดทำทุกๆอย่างหมดจนในที่สุดก็ได้เป็นโรงเรียนในฝันสมใจ
และ ในช่วงปีนี้ก็ผ่านไปด้วยดีจนกระทั่งเข้าปีที่2550 ปีนี้ผมเป็นเด็กม.2 แล้วในเทอมแรกมีเด็กเข้ามาใหม่ในห้องผม2คน
ชื่อทอฝัน เธอคนนี้ไม่ค่อยได้สนใจแต่อีกคนสิ นี่แหละเป้าหมายของใครหลายๆคนเธอเป็นหญิงสาวที่ถือว่าน่าตาก็น่ารักเอาการ เลยล่ะคับ เธอชื่อบี ผมกะเพื่อนๆมีผู้หญิงอีก2-3คนเลยรับเธอเข้ามาอยู่ในกลุ่มด้วย แรกๆผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยนะแต่พอเพื่อนผมคนนึงมันบอกว่าชอบเธอด้วย ความที่ผมเป็นผู้ปกครองกลุ่มมันก็มาขอร้องให้ผมช่วยเป็นพ่อสื่อให้มันผมก็ เลยไปบอกเธอว่ามีคนชอบเธอก็ถามว่าใครผมก็บอกกับเธอไปว่าคนในห้องนี่แหละ
เรา ก็คุยกันทุกวันเลยนะ แล้วมันก็เริ่มรู้สึกแปลกๆตอนที่ไปเที่ยวด้วยกันสิคับเวลาไปเที่ยวกับเพื่อน หลายๆคนเพื่อนมันจะสังเกตว่าผมจะดูเป็นห่วงบีเป็นพิเศษ เวลาเธอเดินไปไหนแล้วหาไม่เจอก็จะเป็นคนเดินตามหา
ก็เลยเผลอใจไปชอบซะ แล้วเราก็จีบจนได้เป็นแฟนกัน มีครั้งนึงไปงานเปิดตัวหนังเรื่อง ม.8 ที่The mall ผมก็ไปกะบี2คน
จะเห็นได้ว่าเราสนิทกันมากแล้ววันนั้นมีเพื่อนคนนึง มันตามพวกเราไปพวกผม2คนวิ่งหนีกันแทบตายคิดแล้วก็สนุกดี
ไปไหนเราก็แทบ จะไปด้วยกันตลอด ตอนนั้นคิดว่าแค่เธอจับมือฉันแล้วเราไปด้วยกันฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนไปแน่นอน
และในช่วงนี้เองผมก็เริ่มสนิทกับเพื่อนผู้ชายมากขึ้นเพราะพวกที่ไม่ ค่อยจะดีในตอนแรกที่ผมกล่าวไว้มันก็เริ่มปรับตัวทำตัวดีขึ้นกันไปตามอันดับ แต่ก็ยังมีเกเรมั่งตามประสาวัยรุ่น ผมก็สนิทกับเพื่อนคนนึง มันชื่อ เอ ผมนี่รู้ประวัติมันแทบทุกๆอย่างเลยก็ว่าได้ทั้ง ชื่อ โรงเรียนเก่า บ้านเลขที่ ชื่อพ่อ-แม่ พี่น้องมัน อารัยต่างๆนานาเพราะผมเป็นคนที่ชอบศึกษาดูว่าทุกๆคนที่ผมจะรู้จักเขาเป็น อย่างไร แต่คนอื่นมักมองว่าผมเสือกเสมอ
อืมแรกๆผมก็ไม่ค่อยจะ ถูกชะตากะมันซะเท่าไหร่นักเจอหน้ามันชอบมาขอตังส์แต่เราเสือกเต็มใจให้
จน เราสนิทกันมากขึ้นทุกวันทุกวันจนบางครั้งคนอื่นมองว่ามากเกินไป แล้วมันยิ่งทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าเราไม่ใช่เพื่อนกัน
มันชอบมาทำให้ เราคิดน่ะ วันที่เรียนนาฏศิลป์อาจารย์ก็ไม่ค่อยจะสอนเท่าไหร่มันก็มานั่งทับ แล้วก็เล่นกันจบปากและจมูกมันมาโดนแก้ม ผมก็พยายามที่จะไม่คิดอารัยแต่บางทีก็ชอบนะเขินจนหน้าแดงเลยอ่ะ
เวลาคน อื่นถามว่าเป็นรัยกัน ก็จะตอบประมาน “เป็นแฟนกัน เป็นผัวเมียกัน”
อะไร แบบนี้มีครั้งนึงอาจารย์สอนอยู่เรียนวิทยาศาสตร์มั้งเท่าที่จำได้ก็นั่งกับ มัน 2 คน
อาจารย์ก็ถาม “นี่เธอ 2 คนเป็นอะไรกันหรอ ตัวติดกันเชียว”
แล้ว ก็มีคนบอกว่าเป็นแฟนกัน เล่นเอาผมเขินจนหน้าแดงเลยล่ะ นับจากนั้นทั้งห้องเลยเรียกเรา ให้สมญานามใหม่ว่า เป็นคู่เกย์ คิดแล้วก็ขำนะ ยิ่งนับวันมันยิ่งสนิทเท่าทวีคูณวันเสาร์-อาทิตย์
เอมัน จะเรียนพิเศษมันก็จะโทรมาหาเราให้ไปหามันไปเที่ยวห้างมั่ง ไปหาอารัยกินกัน2 คนมั่งวันนั้นจำได้เลยเคยไปกินอะไรกันมามั่ง ก็มี น้ำแข็งใส เคเอฟซี เยอะแยะมากมายไม่อยากจะบรรยายเสร็จแล้วก็ไปนั่งเล่นบ้านมันจนสนิทกับพ่อ-แม่ มันผมนับถือทั้ง2ว่าเป็นพ่อ-แม่ผมอีกคนหนึ่งเลยพวกท่านเป็นคนที่สอนลูกได้ดี มากแต่ลูกไม่ออกมาดีเลย(หรอ) ก็แบบเขารักลูกมากยอมให้ทุกอย่างแต่ต้องมีเหตุมีผลไม่ตามใจมากเกินไปเวลามี ปัญหาก็ปรึกษากัน พ่อแม่เขาก็เอาใจใส่เพื่อนของลูกทุกคนนะเช่นเวลาผมไปแบบนี้ก็จะถาม กินน้ำมั้ยลูก ส้มเอามั้ย นมล่ะ วันนี้อยู่กินข้าวด้วยกันมั้ย จนเรารักท่านมากๆเลยล่ะ
แม่มันชอบคะยั้นคะยอให้ผมไปเรียนพิเศษแต่ผมก็ ไม่ค่อยจะไปเลยเพราะผมกลัวเสียดายเงิน ผมกะเพื่อนคนนี้ก็สนิทกันแบบนี้เสมอมาจนบางทีผมรักมันมากกว่าเพื่อนคนอื่น รักมากกว่าแฟนตัวเองซะอีก(แต่ผมก็ยังดูแลแฟนอยู่นะเรายังไม่เลิกกัน)
เวลา ที่ผมไม่มีอะไรจะทำแล้วรู้สึกคิดถึงใครผมก็จะโทรไปหามัน โทรไปแค่ถามว่า “ทำอะไรอยู่ กินข้าวยัง”
แค่นี้แล้วผมก็วางมันมีความสุขนะ จนผมรู้สึกว่าผมชอบมันมากชอบจนบางทีกลายเป็นคำว่าแอบรักเลยก็ว่าได้แต่ต้อง เก็บซ่อนไว้เดี๋ยวคนที่ผมรักเขาจะรู้แต่ผมก็ยังไม่ได้คิดอะไรมากมายนะ แล้วเมื่อประมาณม.3ช่วงนี้แหละผมจะมีเรื่องกับบัวบ่อยมากๆจนมันทำให้ผมมา สนิทกับเอแทนเลย ก็คือมีเด็กห้องอื่นมันมาชอบบีมันชื่อตี๋ เป็นเด็กห้อง3/8 มันก็มาชอบแล้วแฟนผมเขาดันเล่นด้วยซะสิ เราเลยต้องเลิกกันไปเพราะผมก็อยากให้คนที่ผมรักมีความสุขกับสิ่งที่เธอต้อง การ
ผมไม่อยากที่จะฉุดรั้งเธอไว้ ถ้าใจเธอไม่มีผมอีกต่อไปแล้ว เพราะถ้าผมยังยื้อมันต่อไปมันคงไม่มีประโยชน์เพราะตัวเธออยู่กับผมก็จริงแต่ ใจเธออยู่ที่เขาหมดแล้ว ผมก็เชื่อนะว่าไอ้นั่นคงไม่ทำให้เธอเสียใจหรอก
แต่ อีกใจนึงเราก็ระแวงว่ามันคิดอะไรอยู่หรือเปล่าแต่ผมก็ต้องปล่อยไป แล้วก็มานั่งเจ็บใจอยู่คนเดียว
“ให้เธอได้กับเขาและจงโชคดี อย่ามีอะไรให้เสียใจ
ส่วนตัวฉันจะลืมว่าเคยร้องไห้ ลืมว่าเคยต้องเป็นใครที่เธอ.....ไม่เอา”
แต่คุณรู้อะไรมั้ยคับ หลังจากที่บีไปคบกะไอ้ตี๋ได้ไม่นานบัวก็ต้องร้องไห้เสียใจเพราะไอ้~ตัวเงินตัวทอง~นั่น มันไปมีแฟนใหม่ มันทิ้งบี
ไปทั้งที่บี รักมันจนสุดหัวใจ และมันเองก็เคยบอกว่ารักบีสารพัดสุดจะทน ผมก็สงสารแต่ก็ได้แต่คอยมองดู และเป็นห่วงอยู่ไกลๆเพราะในตอนนี้เราเป็นได้แค่เพียงแฟนเก่า ของเขาเท่านั้นเอง
แต่ก่อนที่ผมจะเลิกกับบีก็มีคนมาบอกผม หลายทีแล้วนะว่าบีมันมีใครมายุ่งมาจีบแต่ผมไม่เคยเชื่อเลยแม้สักนิด
และ หนึ่งในคนที่คอยเตือนผมอยู่เสมอก็คือไอ้เอ ไอ้เพื่อนตัวดีคนนี้แหละ วันนั้นมันโทรมาหาผม
ผมก็แปลกใจมากๆที่อยู่ดีๆร้อยวันพันปีนานๆทีมันถึง จะโทรมาเพระถ้าไม่โทรมันก็จะยิงมาแล้วให้เราโทรกลับ ผมก็รับแล้วก็พูดปกติ มันก็บอกกับผมว่า “ไอมึงเลิกกับบีเหอะ กูเห็นมันมีคนอื่น กูรักมึงนะ (เป็นเพื่อน)”
ผมก็บอกอืมๆก็รู้สึกดีนะที่มีมันคอยเตือนแต่ผมก็ไม่เชื่อ จนผมได้เห็นกับตา
ผมก็เลยสนิทกับมันมากๆๆจะบอกว่ามากที่สุดเลยแหละผมเลย เอามาจริงจังกับการแอบรักมัน ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันจะรู้หรือเปล่าแต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่เสมอ ตอนนี้เป็นปีสุดท้ายแล้ว มันก็พาผมไปสมัครเรียนพิเศษ
เราก็เรียนกัน 2 คนพอเลิกก็จะมานั่งเล่นบ้านมัน ก็เวลาที่พ่อ-แม่มันไม่อยู่ก็นั่งดูทีวีกัน 2 คน ปั่นจักรยานไปหาซื้อของกินมากินกัน ไปนั่งอ่านหนังสือบ้านมัน ไปทำการบ้านมั่ง จนผมก็ได้เลื่อนฐานะจากเพื่อนของมันไปเป็นเพื่อนสนิท
มี ครั้งนึงกระเป๋าตังส์ผมหายมันก็เอาตังส์มันมาให้ผมยืม ใจดีที่สุดเลยล่ะ และในช่วงปลายๆใกล้จะสอบแล้วเราต้องหาที่เรียนใหม่ ผมกับมันก็ไปสมัครที่เทคนิคเเห่งหนึ่งด้วยกันแบบใช้โควตา
ปรากฏว่าผมติด แต่มันไม่ติดผมเลยไม่เอาเพราะผมไม่ได้ตังใจจะเอามันตั้งแต่แรก
ที่ผม ตัดสินใจเอามันเพราะว่าเอมันลงว่าจะเรียนอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งผมไม่ค่อยชอบ วิชานี้สักเท่าไหร่แต่ต้องจำใจลงเพราะผมอยากที่จะไปกับมันทุกๆที่ทุกๆเวลา
เพราะ ผมถือว่ามันคือส่วนสำคัญของชีวิตผมไปแล้วก็ว่าได้ จนเรา 2 คนไปสมัครที่โรงเรียนช่างเเห่งหนึ่ง แล้วก็ไปสอบปรากฏว่ามันติด แต่ผมไม่ติดครานี้เลยต้องจำใจจากกัน ตอนนั้นรู้สึกเศร้าใจไปพักๆเลยล่ะ วันที่มันต้องเข้าค่ายแบบรับน้องผมก็ไปส่งมันที่โรงเรียน โห...เห็นแล้วจะร้องไห้ ทำไมเราต้องแยกจากกันด้วยว่ะ มันบอกให้ผมไปสอบใหม่แต่ถึงสอบใหม่ผมก็ต้องไปเป็นรุ่นน้องมันแล้วก็จบคนล่ะ ปีกันผมไม่เอาหรอก แต่ถึงแม้ว่าผมกับมันจะต้องเรียนคนล่ะที่นะ แต่มันก็ไม่เคยลืมเพื่อนเลยมันก็จะโทรมาบ้างบางทีหรือไม่แม่ก็จะโทรมาถามสาร ทุกข์สุขดิบของผม ก็เลยทำให้เรายังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่ ก็ยังมีไปเที่ยวกันบ้าง เป็นคราๆ เพราะมันต้องเรียนหนักมากเลยล่ะบางทีกลับบ้าน 2 ทุ่มก็น่าสงสาร เสาร์-อาทิตย์มันก็จะต้องไปเรียนพิเศษอีก เวลาผมแวะไปหาที่บ้านเลยไม่ค่อยเจอ แต่บางทีผมก็จะโทรไปหามัน เพราะทนแรงคิดถึงไม่ไหวจริงๆผมรักมันมาก รักที่สุด รักมากกว่าใครที่ผมเคยรักมาอีก(แต่มันก็แค่นั้น)
วันนั้นผมไปกิน เลี้ยงวันเกิดมันมามันเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผมก็ว่าได้ในบรรดาคนที่เรา สนิทเเต่ผมยังไม่รู้เลยว่าใจมันอ่ะคิดยังไงกลัวถ้าสมมุติผมบอกมันไปว่ารัก มันจะรักเราได้แค่เพื่อนเท่านั้นแหละ แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าสักวันนึงผมทนไม่ไหวก็คงต้องบอกไป แต่ผมก็พอใจแค่นี้อยู่แล้วแหละคับ เพราะการที่เรารักใครสักคนไม่มีความจำเป็นเลยที่เราจะต้องครอบครองตัวหรือ หัวใจเขาเเค่เราเห็นเขามีความสุขเห็นเขาสนุกสนานเราก็ต้องดีใจเเล้ว
จริงๆ นะถ้ามีโอกาสสักครั้งผมอยากจะดูแลมันไปตลอด อยากที่จะทำให้มันมีความสุขแม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตามแต่ผมก็รู้ว่ามันไม่มี ทางเป็นไปได้ มันก็แค่ความหวัง หวังลมๆแล้งๆที่มันไม่มีทางเลยที่จะเป็นไปได้จริง ในตอนนี้นะสำหรับผมไม่ขออะไรมากมาย ขอแค่ได้รัก ได้ใกล้ชิด แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้วสำหรับคนอย่างผม
สำหรับมึงนะ....
วันเเรก เมื่อหลายปีที่เเล้วกูได้รู้จักกับมึงกูชอบ
เมื่อเวลาผ่านไปกูผูกพัน พอนานวันกูก็รักมึง
ถ้าไม่ได้เจอมึงวันนั้น.ถ้าไม่ได้รักมึง.ชีวิตกูจะ เป็นไงคงไม่รู้
รู้เเค่ว่ากูมีวันนี้ได้เพราะมึง...ขอบคุณที่ชวนกุเรียน พิเศษ
ขอบคุณที่เจ้ากี้เจ้าการให้กูอ่านหนังสือเตรียมสอบ ทำงานส่ง
ขอบ คุณที่คอยช่วยเหลือเเละเป็นเพื่อนเคียงข้างกูตลอดเวลา
ขอบคุณที่ให้อภัย กูทุกครั้งไม่ว่ากูจะทำผิดกับมึงขนาดไหน
ขอบคุณที่ไว้ใจเเละยกย่องให้กู เป็นเพื่อนสนิทของมึง
ขอบคุณที่ไม่เคยรังเกียจเลยไม่ว่ากูจะเป็นอะไร
ขอบ คุณสำหรับรอยยิ้มหวานๆกวนตีนที่ให้กู
ขอบคุณที่ร้องเพลงดีดกีต้าร์ให้กู ฟัง
ขอบคุณที่ไปกินน้ำแข็งใสเป็นเพื่อนกู
ขอบคุณที่ให้กูยืมเงินใน วันที่กูไม่มีเลยเเม้เเต่บาทเดียว
ขอบคุณที่นั่งกินข้าวเป็นเพื่อนกู
ขอบ คุณที่โทรหากูเเม้เพียงนานๆครั้งเเต่กูก็สุขใจที่มึงยังนึกถึงกัน
ขอบคุณ ที่ท้องเสียเป็นเพื่อนกูในวันนั้น
ขอบใจที่ยังคิดถึงกูอยู่เสมอ
ขอบ คุณที่ให้กูทำHi5ให้มึง(เเม้มานจะห่วยเเตกก็ตาม)
ขอบใจที่ยังอยู่ข้างกัน เสมอในวันที่กูไม่เหลือใคร
ขอบคุณที่เชื่อมั่นเข้าใจรู้ใจตัวกู
เเละ ขอบคุณที่ยังเปิดโอกาสให้กูได้....เเอบรักมึง.....
คำบอกรักอะไรคงไม่ สำคัญเเล้วตอนนี้มึงเองคงฟังจนเบื่อจะเเย่
เเต่วันนี้กูขออักครั้งนะ
มึง เป็นสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตของคนบ้าๆบอๆอย่างกู
กูเคยสัญญาจะอยู่กับมึง เสมอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เพื่อตอบเเทนความเป็นเพื่อนที่มึงมีให้กับกู เสมอมา
เเละตอบเเทนที่มึงไม่เคยมองข้ามเพื่อนธรรมดาอย่างกู ที่มันรักมึงจนสุดหัวใจ
คำๆนี้ที่มึงฟังจนเบื่อเเล้วเเต่วันนี้มึงต้อง ฟังอีกครั้งเเล้วล่ะ
กู....รัก....มึง....นะ
กูจะยังจดจำทุกๆ สิ่งทุกๆอย่างที่เราทำร่วมกันมาในหลายอย่าง
ตั๋ว หนัง..ตั๋วรถเมย์..ขวดน้ำ..ใบเสร็จร้านอาหาร หรืออารัยก็ตามที่เกี่ยวกับมึง
ซองปลาสเตอร์ปิดเเผล สมุดงานวิชา เเฟ้ม สร้อยข้อมือที่มึงให้มา รูปภาพเเห่งวันวานเเม้มันจะผ่านเป็นวัน.เดือน..ปีกูก็จะยังคงจดจำไว้เสมอ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่กูรักมากกว่าสิ่งใดในชีวิตบางทีเอามันมานั่งมอง เเล้วนั่งเพ้อถึงวันเก่าที่เราต่างสนุกสนานฮากันสุดขีดเเต่วันนี้สิ เเม้เราต้องห่างไกลไปคนล่ะทางเเต่กูก็ต้องการให้มึงจำทุกๆอย่างไว้ให้ดีนะจำ ไว้เเค่ว่ากูเป็นเพื่อนรักมึงก็พอเพราะยังไงกูก็คงไม่กล้าบอกรักมึงไปหรอก เพราะกลัวคำว่ารักจะบ่อนทำลายความสัมพันธ์เเละมิตรภาพของเราที่ยาวนานไปซะ หมดไม่เหลือเลยกูสัญญาว่าจากนี้จะมีเพียงเเค่มึงเเละทุกอย่างที่เกี่ยวกับ มึงในหัวสมองของกูเเละกูจะรักเเละจะยังเชื่อมั่นในตัวของมึงเสมอว่ามึงก็ไม่ ลืมกูเช่นกัน(ทุกๆคำล้วนเป็นจริง)
รักมึงเสมอนะ เเละจะรักตลอดไป
ผม ยังมีเรื่องราวเรื่องนึงที่ผมอ่านแล้วประทับใจมากเลยมันทำให้ผมคิดอะไรได้ หลายอย่างผมจึงอยากให้ทุกๆคนลองอ่านดูแล้วคุณจะรู้ว่ามันดียังไง
ฉัน ชอบความรู้สึกของการได้ "แอบรัก" ใครซักคน
หนึ่งชีวิตของคนเราถ้าได้ รู้สึกถึง... "ความรักแบบไม่ครอบครอง" บ้าง
ก็คงจะดีไม่น้อย โลกคงไม่วุ่นวายไม่ยื้อแย่งไม่ครอบครอง
และความรักก็คงจะไม่ "เห็นแก่ตัว" อย่างที่ดำเนินอยู่
ขึ้นชื่อว่า "แอบรัก" แล้วล่ะก็...
ฉัน เชื่อว่ามันไม่ใช่อาการที่ต้องการจะเปิดเผยตัวไม่อยากให้ใครได้รู้ได้เห็น
ความ สุขเกิดขึ้นได้ในมุมเงียบๆและปราศจากการครอบครอง
ความรักแบบเงียบกริบ สอนให้คนปล่อยวาง และหัวใจอ่อนโยน
ไม่ปรารถนาอะไรมากไปกว่าการได้รัก
และ มากที่สุดก็คงจะเป็นแค่ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่า
..."รัก"…
เท่านั้น เองที่ความรักต้องการ...
คงเหมือนกับไม่ขีดไฟแอบหลงรักดอกทานตะวัน
สุด ท้ายมันก็ต้องการแค่เพียงแค่ให้ดอกทานตะวันหันมองแสงอันน้อยนิดของมัน...
แม้ จะเป็นแสงสุดท้ายที่ถูกจุดขึ้นเพื่อดับลงตลอดกาลก็ตาม
เชื่อ ไหม???...
ฉันเคยรู้จักคนๆนึงที่แอบรักใครอีกคนได้นานเป็น ปีๆ โดยไม่เคยแสดงตัวต่อความรักของเขา
หญิงสาวใช้โทรศัพท์เป็นสื่อแสดง ความรู้สึกตลอดมา ทุกคืน...เธอจะยกหูโทรหาเขา แม้บางครั้งด้วยคำพูดสั้นๆแค่ว่า "นอนหลับฝันดี" เท่านั้นก็ตาม ชายหนุ่มไม่เคยเห็นหน้าเธอ ทั้งที่ความเป็นจริงนั้นเธออยู่รอบตัวเค้าตลอดเวลา ...เธอเคยเดินผ่านเขาใกล้กันแค่เอื้อมมือคว้า แต่เขาไม่รู้จักเธอ...
...เธอ เคยสบตาเขาแต่เขาไม่เห็นแววตาเธอ...
...เธอเคยยืนตรงหน้าเขาแล้ว(แอบ )ฟังเขาพูดคุยกับเพื่อนของเขา
แต่เค้าไม่ได้พูดกับเธอ... ทั้งหมดเป็นความสุขของหญิงสาว... "สุขที่ได้เห็นเขาโดยที่เขาไม่จำเป็นจะต้องเห็นเธอ"
การติดต่อของเค้า และเธอสิ้นสุดลง ในวันที่ชายหนุ่มมีคนรักที่แสดงตัวอย่างชัดเจน
เค้า เลือกที่จะรักคนอื่นเพราะในความคิดของเค้า ...หญิงสาวไม่มีตัวตน...
หญิง สาวห่างออกมาไม่อนุญาตให้ตัวเองเข้าใกล้เค้าอีก
เธอคำนึงถึงความถูกต้อง และ...ทุกอย่างย่อมมีเจ้าของเมื่อถึงเวลา
...ความรักของเธอบริสุทธิ์ เกินกว่าจะทำร้ายใคร...
ในเมื่อชายหนุ่มเลือกที่ปักดอกไม้อื่นลงบนแจกัน ของเค้า
ต่อให้เธอสวยงามกว่าดอกไม้ดอกนั้นเพียงใดเธอก็ไม่อาจแสดงตัว ได้...
แต่เธออนุญาตหัวใจให้รักเค้าได้เท่าเดิมและคงจะไม่มากไม่น้อยไป กว่านี้
เพราะ "รักแท้" สอนให้เธอมีความสุขได้
แม้ "ไม่ได้เป็นเจ้าของ" หรือ "ถูกครอบครอง"
และ "รักแท้" นี่เองที่จะทำให้ดอกไม้อย่างเธอไม่มีวันแห้งเหี่ยว
"แม้ว่าเธอจะเป็น ดอกไม้ไร้ชื่อ...
ที่ไร้แจกันตลอดไป...ก็ตาม"
ป.ล.อยากจะถามทุก คนว่าเคยเป็นกันมั้ยเเอบรักใครสักคนโดยที่เขาไม่คิดอารัย(หรือคิด)เเต่เรา ไม่กล้าบอกเขาเเล้วคุณเคยมีคติคำนี้เข้ามาในหัวบ้างหรือเปล่า
ว่า "การที่เรารักใครสักคนมันไม่จำเป็นเลยที่เราต้องได้ครอบครองในตัวเเละหัวใจ ของเขา"
ถึงยังไงผมก็ขอให้ทุกๆคนมีความสุขนะคับ ขอให้ทุกๆคนสมหวัง แต่ถ้าใครกำลังเป็นแบบผมก็ขอให้คุณจงมีความสุขให้เหมือนกับผมนะ สุขที่ได้รัก สุขที่ได้ทำให้เขามีรอยยิ้ม สุขที่ให้เขามีความสุข แค่นั้นแหละคับ
คือความรักที่แท้จริง รักที่บริสุทธิ์ รักที่ไม่จำเป็นต้องครอบครอง รักที่หายากจริงๆในโลกยุคปัจจุบัน แต่ถ้าใครตัดสินใจที่จะบอกเขาไปว่าคุณชอบเขาไม่ว่าผล จะเป็นยังไงคุณก็ต้องยอมรับมัน บางทีถ้าเรามัวแต่อยู่ในโลกของการลวงหลอกตัวเองอาจทำให้คุณรู้สึกไม่ดีแต่ ถ้าคุณอยากให้เขารู้ก็บอกไปเถอะคับเพราะความรักไม่มีความผิด มันเป็นสิทธิ์ของหัวใจไม่มีใครบังคับใครได้ ขอแค่คุณมั่นใจและคุณพึงพอใจมีความสุขก็พอใจแล้ว ผมจะคอยเป็นกำลังใจให้คุณเสมอนะ หากคุณคิดว่าไม่มีใครจงจำไว้ยังมีผมอยู่ทั้งคน ขอบคุณกะเรื่องราซึ้งๆจ้า ขอบคุณค่าาา ดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขอบคุณคับ thx zzzzzzzzzzzzzzzzzzzz ชอบจังเลยคับ ขอบคุน ขอบคุณคับผม:lol ขอบคุณนะคับ ขอบคุงคับบบบบบบบบบบบบล http://www.g4guys.com/board/forum.php?mod=viewthread&tid=770&extra=page%3D1 ขอบคุณมากครับผม;P;P:D ขอบใจน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา น่าดูอีกแว๊วๆๆๆๆๆๆๆ อยากอ่านแล้วอะ ขอบ คุณ คร๊าบ แล้วเมื่อไหร่จะรู้ล่ะนี่