ผีเพื่อน
ผีเพื่อน"ถวัลศักดิ์" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากรถมรณะ
ผมเป็นคนกรุงเทพฯ อยู่แถวชานเมืองที่จำเป็นต้องใช้ถนนวิภาวดีฯ เป็นหลักในการขับรถไปทำงานและกลับบ้าน ถ้าเป็นเวลากลางวันหรือแม้แต่หัวค่ำก็ไม่สู้กระไรนัก เพราะรถราคับคั่ง แต่ถ้ามีงานด่วนหรือติดลมกับเพื่อนฝูง ต้องกลับบ้านดึกหน่อยจะรู้สึกวังเวงใจชอบกล บางครั้งก็ไม่ค่อยสบายใจเหมือนกัน
สาเหตุเพราะเคยโดนผีหลอกจนช็อกคาที่มาแล้วครับ!
เพื่อน รุ่นน้องชื่อไพศาลทำงานที่ธนาคารเดียวกัน ชวนเพื่อนๆ ไปเที่ยวพัทยาวันเสาร์อาทิตย์เพราะเขามีคอนโดฯ อยู่ที่จอมเทียน... ตอนแรกก็มีคนรับปากจะไปด้วย 4-5 คน แต่เอาจริงเข้าก็เหลว... คนนี้อ้างว่าเมียชวนไปทำบุญ คนนั้นอ้างว่าแม่ป่วย คนโน้นบอกว่าลูกอยากให้พาไปดูหนังมากกว่า
สรุปว่าเหลือแต่ผมคนเดียว ...ไพศาลหัวเราะกับผม บอกว่าชินเสียแล้วกับพวกที่รับปากตอนแรกแต่มาเบี้ยวตอนหลัง ตกลงว่าเขากับเมียจะขับรถมารับผมกับครอบครัวที่บ้าน ไม่ต้องขับรถไปอีกคันให้เปลืองน้ำมันเปล่าๆ
เป็นอันว่าตกลงตามนั้น!
ครั้น ถึงตอนเช้าวันนัด ผมกับลูกเมียแต่งตัวรออยู่ที่บ้าน...จากสิบโมงเช้าจนถึงสิบโมงครึ่งก็ยังไม่ ปรากฏวี่แววของไพศาล ทั้งๆ ที่เขาอยู่แถวแยกสุทธิสารใกล้ๆ กันนี่เอง
เวลา ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง อดรนทนไม่ไหวต้องโทรศัพท์ไปหา ถามว่าออกมาจากบ้านหรือยัง? แต่คำตอบทำให้เราหวิดช็อก... ตำรวจที่รับสายจากมือถือของไพศาลบอกข่าวร้ายว่าเพื่อนผมหักรถหลบมอเตอร์ไซค์ ที่แซงตัดหน้า พุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าจนรถพังยับเยิน ไพศาลกับเมียเสียชีวิตคาที่อยู่ในซากรถทั้งสองคน
ความสนุกสนานที่เราคิดว่ารอคอยอยู่ข้างหน้า กลับกลายเป็นความสลดหดหู่อย่างไม่นึกไม่ฝัน...
คืน สวดศพของไพศาลกับภรรยา ผมมองดูรูปถ่ายที่ตั้งเด่นอยู่หน้าโลง ท่ามกลางบรรยากาศเยือกเย็นน่าวังเวงใจ นัยน์ตาของไพศาลจ้องมองเศร้าๆ ซึ่งก็ดูเป็นปกติธรรมดาของรูปถ่ายผู้ตายทั่วๆ ไป แต่แววตาของไพศาลคล้ายจะมีอะไรเร้นลับยิ่งกว่านั้น...
งานศพผ่านพ้นไป แล้ว...เพื่อนๆ พูดกันว่ายังดีที่ไพศาลเพิ่งแต่ง งาน ยังไม่มีลูกเต้าที่ต้องกำพร้าทั้งพ่อและแม่...แต่บางคนก็บอกว่าเคยเห็นไพศาล วูบๆ วาบๆ ที่ธนาคาร บางคนยังบอกว่าเห็นไพศาลขับรถมาทำงานด้วยซ้ำไป
ในที่สุดผมก็ประสบกับตัวเองเข้าอย่างจัง!
ราว ปลายเดือนพฤษภาคม ผู้จัดการแบงก์แต่งงานลูกสาวที่โรงแรมหรูแถวสุขุมวิทบรรยากาศครึกครื้นด้วย เสียงเพลง เสียงหัวเราะเริงร่า วิสกี้, เบียร์และไวน์มีเสิร์ฟอย่างไม่อั้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวเดินคลอคู่กันทักทายและขอบคุณแขกเหรื่อตามธรรมเนียม... ใครคนหนึ่งเอียงหน้าเข้ามาบอกผมเสียงสั่นๆ
"เห็นไพศาลมั้ย? เขามางานด้วย..." เล่นเอาผมหันขวับมองตามสายตานั้นไป แต่ก็ไม่เห็นอะไรน่ากลัว...มองดูคนพูดก็เห็นหน้าซีด ปากสั่น กลืนน้ำลายลงคอ คว้าแก้วเบียร์ด้วยมือสั่นระริกมากรอกปากจนหกเลอะเทอะมาถึงเสื้อนอก
ผมกับภรรยาออกจากงานเกือบสี่ทุ่ม แต่รถรายังคับคั่งกว่าจะ ยูเทิร์นขึ้นทางด่วนที่เพลินจิตได้ก็สี่ทุ่มเศษ...
เรา แทบจะไม่ได้พูดคุยกันเลย จนกระทั่งมองเห็นสี่แยกสุทธิสารอยู่ข้างหน้า...ผมค่อยๆ ชะลอความเร็วลงตามรถคันหน้า ขณะรู้สึกว่ามีลมเย็นๆ พัดวูบเข้ามาทางขวาจนหนาวยะเยือก ทั้งๆ ที่มีกระจกขวางกั้น..เสียงภรรยาอุทานเบาๆ ในเวลาเดียวกับที่ผมหันขวับไปมองโดยไม่ได้ตั้งใจ
และแล้วผมก็ได้เห็นภาพนั้น...ภาพอันน่าสยดสยองที่ไม่มีวันลืมเลือนได้เลยจนกว่าจะสิ้นลมปราณ
รถ ยนต์คันหนึ่งแล่นช้าๆ อยู่ที่นั่น ทำท่าว่าจะแล่นผ่านไป แต่ก็ตีคู่กับรถผม...ผู้หญิงคนหนึ่งหันมายิ้มด้วยใบหน้าแหลกยับ ส่วนไพศาลนั่งอยู่หลังพวงมาลัย เบือนหน้ามายิ้มละไมเหมือนหน้ากากที่ชวนสยองขวัญในคืนฝันร้าย...รอยยิ้มนั้น ฉีกกว้างขึ้น...กว้างขึ้นทุกที!
เสียงกรีดร้องของภรรยาดังก้องอยู่ใน แก้วหู ม่านตาผมลาย พร่าเต็มทีขณะที่เหยียบคันเร่งจนรถพุ่งไปชนคันหน้าโครมสนั่น... ชนต่อกันไปเป็นทอดๆ ขณะที่สติสัมปชัญญะวูบวับดับหายไปในบัดดล
ไพศาล ตายไปแล้วแต่วิญญาณยังอยู่ เขาอาจจะมาเยี่ยมเยียน ทักทาย หรือมาล่ำลาเพื่อนฝูงก็ไม่ทราบแน่ชัด...ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยมีใครเห็น ไพศาลอีกเลยครับ!
หน้า:
[1]