การเลือกซื้ออาหารให้ถูกวิธีครับ
http://board.postjung.com/data/610/610862-img-1.jpgเนื่องจากอาหารเป็นปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งในการดำรงชีวิตมนุษย์ ในวันหนึ่ง ๆ เราจะต้องรับประทานอาหารถึง 3 มื้อ ฉะนั้นการเลือกซื้ออาหารโดยวิธีฉลาด ประหยัดเงิน เวลา จึงจำเป็นและสำคัญยิ่งสำหรับนักเรียน จะได้ศึกษาและเรียนรู้ถึงวิธีการจ่ายตลาดหรือเลือกซื้ออาหาร เพื่อจะได้นำไปปฏิบัติจริง ในชีวิตประจำวันให้เกิดผลอย่างแท้จริง ข้อคิดต่าง ๆ ที่ควรจะยึดถือเป็นหลัก ในการเลือกซื้ออาหารมีดังนี้
1. งบประมาณที่มีอยู่ต่อวันต่อสัปดาห์ และต่อเดือน อาหารที่มีคุณภาพดีไม่ได้วัดด้วยราคาเสมอไป หลักสำคัญควรพิจารณาถึงคุณภาพหรือคุณค่าของอาหารต่อร่างกายเป็นสำคัญ ยกตัวอย่าง กุ้งนางปัจจุบันกิโลกรัมละ 80 บาท ถ้าเปรียบเทียบกับหอยแมลงภู่แกะแล้วกิโลกรัมละ 12 บาท มีคุณค่าทางอาหารพอกัน แต่รสชาติอาจจะแตกต่างกันบ้าง ฉะนั้น ถ้ามีงบประมาณน้อย อาจจะเลือกซื้ออาหารชนิดอื่นเพื่อการประหยัด
2. เลือกซื้ออาหารให้ถูกต้องตามฤดูกาล จะได้ผักผลไม้ถูกกว่าซื้อต่างฤดูกาล ผักผลไม้ เหล่านั้นย่อมมีรสอร่อย สด และมีคุณค่าของอาหารสูงกว่า
3. เลือกซื้อของจำนวนมาก เช่น ซื้อเป็นกิโลกรัมย่อมถูกกว่าการซื้อปลีก เช่น หัวหอม กระเทียม กะปิ น้ำตาล หมู เนื้อ ฯลฯ ควรซื้อเป็นกิโลกรัม ข้อสังเกตที่ปรากฏอยู่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ครอบครัวที่มีรายได้น้อยมักจะซื้ออาหารในราคาที่สูงกว่าคนฐานะปานกลาง เพราะส่วนใหญ่ซื้ออาหารปลีกย่อย เช่น ข้าวสารทีละ 1 ลิตร กะปิครั้งละ 1 บาท เพราะครอบครัวเหล่านั้นไม่มีเงินซื้ออาหารกักตุนไว้ ทำให้ค่าใช้จ่ายสูง
4. ซื้ออาหาร ที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น หรือตลาดใกล้บ้านของท่าน เช่น ผักที่ชาวบ้านปลูกเองและนำมาขายในตลาดตอนเช้าราคาถูกกว่า เพราะไม่ต้องเสียค่าขนส่งทางไกล ของที่เลือกซื้อ เช่น ผักสด ผลไม้ ย่อมสดกว่าผักที่ขนมาจากระยะทางไกล ๆ
5. เพื่อการประหยัดเวลา กำหนดเวลาการจ่ายตลาด ยกตัวอย่างสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรืออย่างมาก 2 ครั้ง จะช่วยลดความเหนื่อยของแม่บ้านและคนในครอบครัวได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในชนบทบางแห่งมีอาหารจำหน่ายจำกัด ควรเลือกซื้ออาหารที่สามารถเก็บไว้กินหลายวัน
6. เลือกซื้ออาหารหลาย ๆ ประเภทให้ครบตามหลักอาหาร 5 หมู่ เพราะ ร่างกายของมนุษย์ต้องการอาหารครบ 5 หมู่ ในแต่ละมื้อ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ แม่บ้านบางท่านหัดให้ลูก ๆรับประทานแต่เนื้อเค็มแห้ง ๆ แต่เพียงอย่างเดียวจนติดเป็นนิสัย รับประทานผัดผัก หรือแกงจืดไม่เป็น 7. เลือกซื้อตามความนิยมของผู้รับประทาน ครอบครัวไทยเป็นครอบครัวเสริมหรือครอบครัวผสม ในยุคปัจจุบันบางครอบครัวมีคนทั้ง 4 ภาคอยู่รวมกัน แม่บ้านควรพิจารณาถึงรสนิยม ความชอบ และไม่ชอบอาหารของกลุ่มคน ตามอายุ วัฒนธรรมและวัยเป็นสำคัญด้วย
8. การเปลี่ยนวัยของบุคคล ย่อมมีส่วนสำคัญที่จะได้รับการพิจารณาด้วยในการเลือกซื้ออาหาร เช่น บางคนอายุมากขึ้นเริ่มชอบรับประทานผัก รับประทานผักที่มีรสขม ๆ ได้ เป็นต้น
9. ไม่ควรซื้ออาหารที่ขายเป็นกอง ๆ ในราคาถูก ควรจะเลือกดูและพิจารณาดูว่า ผัก ผลไม้ หรือปลาที่แม่ค้านำมากองขายคุณภาพดีหรือไม่เพราะแม่ค้ามักกองของเน่าไว้ด้วย ทำให้อาหารเสื่อมคุณภาพ อาหารที่สดสะอาดราคาแพงกว่าเล็กน้อย ได้อาหารที่มีคุณค่าดีกว่า เป็นการเลือกซื้อที่ฉลาดกว่า
10. สภาพแวดล้อมย่อมทำให้ของราคาต่างกัน เช่น ตลาดย่านชุมชนย่อมแพงกว่าของในตลาดแถวชานพระนคร การซื้อของในตลาดพยายามซื้อของจากเจ้าประจำโดยเฉพาะ หมู เนื้อ ไก่ เพราะมีโอกาสที่จะได้ของดีและตรงตามตาชั่งกว่าการซื้อจร
11. พยายามทำสถิติ และศึกษาดูราคาของแต่ละท้องตลาดให้แน่นอน จะได้สิ่งประกอบในการจ่ายอาหาร ในโอกาสที่แม่บ้านไม่ได้เป็นผู้จ่ายเอง ในฐานะแม่บ้านต้องทราบราคาของที่ แน่นอนในท้องตลาดด้วย
12. มีความเข้าใจและมีความรู้ เรื่องลักษณะความแตกต่างของดี และของไม่ดี ตลอดจนคุณค่าต่อร่างกายของของเหล่านั้นด้วย จะช่วยให้แม่บ้านฉลาดรอบรู้เลือกอาหารแต่ละอย่างด้วยวิธีฉลาด
http://board.postjung.com/data/610/610862-img-2.jpg การเลือกซื้อผักที่เป็นใบ
ผักบุ้ง-- เลือกต้นที่มีสีเขียวสด ยังอ่อน ยาวไม่เกิน 1 ฟุต
ผักคะน้าจีน --ใบอวบใหญ่ ออกนวล ดอกยังไม่ออก
ผักกาดเขียวปลี, ผักกาดขาวปลี --ห่อหัวแน่น ยังไม่แตก
ผักกาดเขียวกวางตุ้ง --ใบอวบใหญ่ เจริญเติบโตเต็มที่ ยังไม่ออกดอก
ผักกาดหอม --เลือกต้นที่มีสีเขียวสด ยังไม่ออกดอก และยังอ่อนอยู่ ถ้าแก่จะมีรสขม
ผักกระเฉด --เลือกยอดใหญ่ อวบและนมมีสีขาว
การเลือกซื้อผักที่เป็นหัว
กะหล่ำปลี --หัวแน่นๆ เคาะดูมีเสียงหนักแน่น จะมีน้ำหนักมาก
กะหล่ำดอก --ดอกสีครีมอ่อน อัดแน่น ขยายใหญ่เต็มที่และเรียบ
กะหล่ำปม --หัวมีสีเขียวสด ผิวไม่ตกสะเก็ดและแตก
เผือก มัน --เลือกหัวที่มีน้ำหนักมาก เนื้อแน่นผิวเรียบ ไม่มีตำหนิ
หัวไชท้าว --เลือกหัวที่ไม่งอ ขนาดกลางๆ ยังอ่อน ผิวเรียบ
แครอท --สีผิวสดใส ไม่งอ
หอมใหญ่ --เลือกหัวแน่นๆ
บรอคโคลี --ดอกสีเขียว อัดแน่น และเรียบ ดอกยังไม่บาน
การเลือกซื้อผักที่เป็นฝักถั่วแขก --ไม่มีเมล็ดปูดนูน ฝักไม่แก่ ไม่พอง สีเขียวอ่อน ตะเข็บไม่เหนียว เมล็ดในไม่แก่
ถั่วฝักยาว --ฝักตรงไม่งอ
ถั่วลันเตา, ถั่วพู --ฝักอ่อนๆ สีเขียว ไม่พอง ฝักตรงไม่งอ
ข้าวโพดฝักอ่อน --เลือกฝักที่มีสีเหลืองอ่อนใส ไม่ดำ ความยาวไม่เกิน 9 ซม.การเลือกซื้อผักที่เป็นผล
แตงกวา --เลือกลูกที่มีสีเขียวสด เนื้อจะหนา เมล็ดเล็ก เนื้อแน่นแข็ง กรอบกว่าผิวขาวนวล
แตงร้าน --เลือกลูกที่มีน้ำหนักมาก ลูกยาว สีเขียวอ่อน ไม่มีรอยช้ำ ผิวนวล
มะเขือเทศ --เลือกลูกที่มีสีแดงเรื่อๆ ถึงแดงจัด เนื้อแข็งไม่นิ่ม
มะระ --ผลโตยังไม่แก่ สีเขียว ผิวไม่มัน
มะเขือเปาะ, มะเขือยาว --เลือกขั้วติดแน่น สีสด น้ำหนักมาก ไม่เหี่ยว
มะนาว-- เลือกลูกที่มีเปลือกบาง ผิวเรียบไม่เหี่ยวเลือกลูกที่มีน้ำหนักมาก ผิวเปลือกแข้งขรุขระ เนื้อจะแน่น
http://board.postjung.com/data/610/610862-img-3.jpg
หลักในการเลือกซื้ออาหารแห้ง
-เลือกอาหารที่สะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกปน
-บรรจุภาชนะที่สะอาด
-ที่ขั้วไม่มีจุดด่างดำ เพราะ อาจมีสารที่เรียกว่าอะฟลาท็อกซิน
หลักในการเลือกอาหารกระป๋อง
-ที่ฉลากต้องมีชื่อทางการค้า เลขทะเบียนอาหาร สถานที่ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุ น้ำหนัก บอกวัตถุเจือปนในอาหาร เช่น วัตถุกันเสีย
-ลักษณะกระป๋องต้องไม่บุบหรือนูน กระป๋องเรียบ ไม่มีกลิ่น ไม่รั่ว
{:5_119:}ขอบใจสำหรับสิ่งดีๆๆครับ{:5_119:} ไม่ได้เลือกซื้ออาหารสดเองอ่ะครับแต่อ่านประดับความรู้ครับ ขอบคุณครับ ประโยคนี้คุ้นมั๊กๆ ครับ... ตอนอ่านรายงานหน้าห้องอ่ะ"ผมหวังว่ารายงานชิ้นนี้ อาจมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยครับ"อิ..อิ..แซวเล่นครับ{:5_135:} {:5_146:} เยี่ยมมากครับ ขอบคุณมากมาก
หน้า:
[1]