ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 801|ตอบกลับ: 8

เพลงรัก 16 จบ

[คัดลอกลิงก์]

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
912
พลังน้ำใจ
17866
Zenny
2120906
ออนไลน์
197 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับมงกุฎสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับตรีเพชร

เพลงรัก

บทที่ 16

ไม่มีใครถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพียงแค่น้ำต้นพานนท์กลับกรุงเทพฯด้วยสีหน้าอันเบิกบาน อีกทั้งนนท์ยังยืนยันว่าจะขอกลับมาทำงานอัลบั้มอย่างที่ได้ตั้งใจเอาไว้แต่เดิม เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

เมษทำแค่เดินเข้ามาตบไหล่ของน้องชายทั้งสองคนเบาๆ ก่อนจะบอกแค่ว่า “คุยกันเข้าใจก็ดีแล้ว อย่าทำให้เป็นห่วงอีกนะ” เท่านั้น ชายหนุ่มทั้งสองคนก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยกมือไหว้ด้วยความซาบซึ้งใจ


*************************

การบันทึกเสียงครั้งสุดท้ายของน้ำต้นเสร็จเรียบร้อยลงด้วยดีในที่สุด แม้เพลงสุดท้ายจะยากแสนสาหัสสำหรับน้ำต้นก็ตาม เพลงรักเพื่อบอกลา ใช้เวลาตลอดทั้งสัปดาห์เต็มๆในการบันทึกเสียง นนท์เป็นคนเข้ามากำกับการร้องอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา ปัญหาอย่างเดียวของการบันทึกเสียงเพลงนี้ก็คือ ทำอย่างไรน้ำต้นจึงจะไม่ร้องไห้ออกมาระหว่างบันทึกเสียง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเหลือเกิน สุดท้ายก็จบลงด้วยดี เพราะในที่สุดน้ำต้นก็สามารถถ่ายทอดเพลงนี้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์ แลกกับรอยแดงช้ำบนหลังมือไม่กี่รอย

“รอยอะไรเนี่ย” เจ้าของเพลงถามขึ้นเมื่อเห็นหลังมือแดงๆของเด็กหนุ่ม

“รอยเล็บไงพี่ ถ้าไม่คอยจิกมือตัวเองเอาไว้ ร้องไม่รอดแน่นอน” น้ำต้นตอบออกไปซื่อๆเมื่อถูกถามหลังเดินหน้าระรื่นแสดงความโล่งใจออกมาจากสตูดิโอ ก่อนจะถูกนนท์บ่นเอาเสียยกใหญ่

“ใครใช้ให้แต่งเพลงเศร้าไม่บันยะบันยังแบบนั้นเล่า” นนท์ได้แต่ส่ายหน้าเพราะไม่รู้จะเถียงออกไปอย่างไรดี

ความวุ่นวายยังไม่จบลงแต่เพียงเท่านั้น เพราะไหนจะมีเรื่องปกอัลบั้มที่มีกำหนดจะต้องถ่ายภาพกันครั้งใหญ่ เนื่องจากที่ประชุมได้มีการตกลงเอาไว้แล้วว่า ในเมื่ออัลบั้มชุดนี้เป็นอัลบั้มที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี เนื้อหา เสื้อผ้า ท่าเต้น ทุกอย่างที่ประกอบกันเป็นผลงานชุดนี้ ได้ผ่านขั้นตอนอันมากมายในแบบที่ต้องเรียกว่า ทีมงานทุกคนสู้กันถวายหัวเลยทีเดียว ดังนั้นการที่จะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่ายๆ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน

“เบื้องบนเขาชอบมากเลยนะ อัลบั้มนี้น่ะ” มิ่งเอ่ยขึ้นกลางที่ประชุม

“ถ้าไม่ชอบ หนูจะขอลาออกเลยพี่” สไตลิสต์ชายใจหญิงอย่างเชนถึงกับออกปาก “นี่ทุ่มเทให้ชนิดที่ไม่เคยทำที่ไหนมาก่อนเลยนะคะ ขอบอก งานนี้หนูกะให้เป็นมาสเตอร์พีซของหนูเลยล่ะพี่” เธอยังจีบปากจีบคอว่าต่อไป เรียกรอยยิ้มจากทุกคนในห้องได้ชนิดพร้อมเพรียงกัน “แต่ขอบอกนะคะว่า งานนี้ถ้าไม่ได้น้องนนท์ อาจจะไม่ออกมาเพอร์เฟ็กต์ขนาดนี้ก็ได้”

“โอ๊ย อย่าสิครับ นนท์ไม่ได้ทำอะไรเลย” นนท์ร้องออกมา

“หนูขา รสนิยมหนูน่ะพี่ให้ห้าดาวเลยนะคะ หยิบจับอะไรมาดูดีไปหมด ช่วยพี่ได้เยอะเลยเชียว” เธอว่าพลางยกมือสองข้างขึ้นปรบเบาๆอย่างกรีดกราย “ขอบอกเลยนะคะว่า งานของนนท์ เชนยืนยันจะขอทำให้ค่ะ ถ้าพี่ๆไม่ว่าอะไร”

“โอ๊ย พี่จะไปว่าอะไรได้ล่ะครับ แหม สไตลิสต์มือหนึ่งเสนอตัวมากขนาดนี้” นรเศรษฐ์อดไม่ได้จึงขอออกปากแซวเสียหน่อย เชนยกมือขึ้นประนมแล้วก็ค้อมศีรษะลงอย่างมีจริต ก่อนจะตีขลุมเอาเสียเลยว่า “ขอบคุณล่วงหน้า รับปากหนูแล้วนะคะ”

“พูดถึงอัลบั้มของนนท์ก็ดีแล้วค่ะ” เมษว่าขึ้นมาบ้าง “ต่อไปน้ำต้นก็เหลือแค่การโปรโมตอย่างเดียวแล้ว ระหว่างนั้นนนท์ก็เริ่มลุยงานของตัวเองได้เลย เมษก็เลยแพลนกับเพชรเอาไว้แบบนี้ค่ะ” เมษพลิกดูเอกสารที่อยู่ในแฟ้มตรงหน้า ก่อนที่จะปล่อยให้พีอาร์สาวสวยพูดอย่างเป็นการเป็นงานขึ้นมาว่า “ก็ที่จริงก็เอาตามที่พี่มิ่งเคยบอกไกด์เอาไว้นั่นแหละค่ะว่า ไหนๆอัลบั้มนี้ของต้นก็ได้นนท์ช่วยดูให้อยู่แล้ว ทั้งในส่วนของดนตรีและเนื้อร้อง ถ้าซิงเกิ้ลแรกดังอย่างที่วางแผนเอาไว้ เราจะมีการพูดถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังซึ่งก็คือนนท์ไปด้วย พอให้รู้ว่านนท์มีบทบาทในการทำงานเพลงยังไง ถ้าไปได้สวยถึงขนาดมีคนอยากคุยประเด็นการทำงานเบื้องหลัง เมษก็จะเปิดโอกาสให้สัมภาษณ์นนท์ไปด้วยเลย เหมือนเป็นการแนะนำให้รู้จักกันไปก่อน เราจะทำกันอย่างต่อเนื่องนะคะ แต่ก็จะโฟกัสที่ตัวน้ำต้นเป็นหลัก จะไม่ให้มีการขโมยซีนกันเด็ดขาด แล้วพองานของนนท์ออกมา ตอนนั้นก็หวังว่า เราจะทำงานกันได้ง่ายขึ้น” เมษอธิบายยืดยาว “แต่ต้องเตรียมใจนิดนึงว่า อาจจะต้องเหนื่อยต่อเนื่องกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง”

“พี่เมษนั่นแหละเหนื่อย” น้ำต้นว่า

“เขาจ้างฉันมาเหนื่อยนี่เธอ” เมษว่าหน้าตาเฉย เรียกเสียงฮาครืนได้อีกคำรบ “ไม่หรอก พี่ยอมเหนื่อยจริงๆนะงานนี้” เมษยืนยัน “พี่อยากจะเห็นความสำเร็จของพวกเราจริงๆ”

“อยากจะแสดงให้ข้างบนรู้ด้วยว่า เราเลือกคนไม่ผิด” มิ่งว่า “เพราะฉะนั้น สองคนต้องตั้งใจนะรู้ไหม”

น้ำต้นกับนนท์มองหน้ากันก่อนจะยิ้มและพยักหน้าให้กัน

“พวกพี่พูดถึงขนาดนี้ พวกผมสู้ตายครับ” น้ำต้นว่าเป็นการปิดท้ายการประชุมในครั้งนี้ลงอย่างชื่นมื่นเป็นที่สุด

***********************

“พี่นนท์” เด็กหนุ่มยื่นหน้าเข้ามามองหาเขา

“ว่าไงเรา ลงมาถึงนี่เลย ทำไมไม่โทรลงมาล่ะครับ”

“เย็นนี้ไปด้วยกันหน่อย” น้ำต้นว่ายิ้มๆอย่างมีเลศนัย

“ไปไหนล่ะ บอกมาก่อน ไม่งั้นไม่ไปจริงๆด้วย” พักหลังเขาชักจะตามเจ้าน้องชายทัน ไม่เผลอปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ตกกระไดพลอยโจนได้อีก

“ทำตัวเป็นคนขี้ระแวงไปได้” น้ำต้นเดินเข้ามานั่งข้างๆนนท์ “แม่ต้นมาล่ะ” พูดได้เท่านี้เด็กน้ำต้นก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “อยากให้พี่นนท์เจอแม่ ไปด้วยกันนะ”

“พี่อยากเจอแม่น้ำต้นนะ แต่...” เขาเว้นช่วงเพื่อรอดูสีหน้าของน้องชาย ที่แน่นอน... หน้าบูดได้อีก นนท์ถึงกับหัวเราะชอบใจออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ น้ำต้นนี่เวลายุก็ยุขึ้นง่ายจริงๆ “พี่ยังพูดไม่จบ อย่าเพิ่งทำหน้าอย่างนั้นซี่”

“ไหนว่ามา ต้องฟังขึ้นด้วยนะ” น้ำต้นว่าด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง

“ต้นต้องพาแม่ไปบ้านพี่แล้วล่ะเย็นนี้”

“อ้าว ทำไมล่ะ” แม้จะหายงอนเป็นปลิดทิ้ง แต่ความสงสัยไม่เคยปราณีใคร

นนท์อมยิ้ม ก่อนจะกระซิบเบาๆพอให้ได้ยินว่า

“เซอร์ไพรส์ บอกไปก็ไม่สนุกสิ”

“เรื่องดีหรือไม่ดี บอกก่อน” ทีนี้กลายเป็นเด็กน้ำต้นที่ทำหน้าระแวงขึ้นมาบ้าง

“ดีสุดๆ” พูดเท่านั้นนนท์ก็ปิดปากเงียบ ไม่ยอมบอกอะไรอีก

“ก็ได้” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืน “งั้นเดี๋ยวต้นไปทำงานก่อน ตอนเย็นจะมารับนะ”

นนท์พยักหน้ายิ้มๆ นานๆเขาจะมีชัยเหนือน้องชายสักที แต่ก็มีชัยได้ไม่นาน เมื่อน้ำต้นชิงก้มลงหอมแก้มนุ่มๆของพี่ชายที่ไม่ทันได้ตั้งตัวหน้าตาเฉย ก่อนจะวิ่งปรู๊ดออกไป ไม่ทันที่นนท์จะได้โวยวายอะไร ร่างสูงใหญ่ก็หายลับไปเสียแล้ว

“คงแก้ไม่ได้แล้วจริงๆนิสัยนี้” ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อพร้อมกับฮัมเพลงเดิมกับที่ฮัมมาตลอดทั้งเช้าต่อไปอย่างอารมณ์ดียิ่ง

************************

คนขับรถเอาแต่นั่งยิ้มเงียบๆอย่างผิดวิสัยมาเกือบตลอดทาง ทำเอาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลังคู่กับสตรีใบหน้ายิ้มแย้มท่าทางใจดีอยู่นั้นนึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย

“เอาแต่นั่งยิ้มอะไรอยู่คนเดียวโชเฟอร์ ไม่พูดไม่จาสักคำ” เสียงจากผู้โดยสารด้านหลังดังขึ้น เมื่อเห็นว่าโชเฟอร์จำเป็นแอบเหลือบมองเขาจากกระจกมองหลังหลายต่อหลายครั้ง คนถูกทักอมยิ้มออกมาทันทีเมื่อรู้ตัวว่าถูกจับได้เสียแล้ว

“เปล่าครับ ก็เห็นว่าคุยกันสนุกดี ก็เลยไม่อยากขัดจังหวะ”

“ไม่ใช่เพราะกำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่ใช่ไหม” เสียงนั้นยังคาดคั้นไม่ลดละ

“อ้าววว... ไหงระแวงกันแบบนั้นล่ะครับคุณผู้โดยสาร ดูเอาเถอะ ไอ้เรารึอุตส่าห์ยอมให้ไปนั่งคุยกันข้างหลังสบายๆ จนจะเหมือนแท็กซี่เข้าไปอยู่รอมร่อ เห็นความดีเรารึก็ไม่ แล้วยังมองเราไม่ดีอีก มันน่าน้อยใจ” ประโยคสุดท้าย เจ้าตัวจงใจให้ฟังดูน่าเคาะกบาลมากกว่าน่าเห็นใจอย่างไรพิกล
นี่ถ้าไม่เห็นแก่คุณแม่ที่น่ารักเป็นกันเองขนาดนี้ล่ะก็ นนท์คงถลาเข้าไปขย้ำคอเจ้าน้องชายที่ทำหน้าที่เป็นพลขับอยู่แบบไม่รีรอเลยทีเดียว

“ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ” นนท์ทำทีไม่ใส่ใจเสียงนกเสียงกา แต่หันไปคุยกับคุณแม่ของโชเฟอร์แทน

“ทำไมคะลูก” นางเรียกนนท์ว่าลูกทุกคำนับตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบกับชายหนุ่ม อาจจะฟังดูแปลกๆที่คนเป็นแม่จะพูดถึงลูกชายแบบนี้ แต่นางก็ยอมรับล่ะว่า ลูกชายนางตาถึงทีเดียว

“ก็คุณแม่ออกจะน่ารักแสนดีขนาดนี้ คุณพ่อก็ดูเป็นคนน่ารักอบอุ่น แล้วทำไมลูกชายคุณแม่ถึงได้เป็นแบบนี้ก็ไม่รู้” เป็นไงล่ะพี่เรา สนิทกันเร็วขนาดกล้า ‘กัด’ ลูกชาย ต่อหน้าแม่ของเขาอย่างนี้เลยหรือ น้ำต้นกัดฟันอดทนไม่ต่อปากต่อคำเต็มที่ แต่สายตาที่มองผ่านกระจกมองหลังมาทางนนท์นั้น มีแววคาดโทษเอาไว้ว่า เดี๋ยวค่อยไปคิดบัญชีกันนอกรอบตอนแม่ไม่อยู่ก็ได้

ก็เขาจะไปว่าอะไรได้ แม่ตัวเองเล่นเห่อลูกชายคนใหม่ถึงขนาดที่หัวเราะไปกับคำพูดเชือดเฉือนลูกชายตัวเองเสียขนาดนั้น น้ำต้นได้แต่ถอนใจก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป

*********************

“ถึงแล้วครับ” นนท์เอ่ยกับสตรีที่นั่งมาด้วยกันดังพอที่จะให้คนข้างหน้าได้ยินชัดเจน

น้ำต้นในตอนนี้ได้แต่ประหลาดใจกับภาพที่ได้เห็นอยู่ไกลๆ เขาเปิดประตูรถลงไปยืนให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี จนต้องหันไปมองหน้าเจ้าของบ้านเรือนเล็กเพื่อรอคำตอบ แต่นนท์ก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากแค่ยิ้มกว้างให้น้องชายที่เขารักที่สุด

“อะไรเนี่ยพี่นนท์ คนมาจากไหนเยอะแยะไปหมด” น้ำต้นยังงงไม่หาย เมื่อเห็นว่ามีคนยืนอยู่เต็มสนามหญ้าหน้าเรือนเล็กที่เคยเป็นที่จอดรถของน้ำต้น จะว่าเต็มก็ไม่ใช่เสียทีเดียว แต่ก็น่าจะมีร่วมประมาณยี่สิบคน เท่าที่ประเมินจากสายตาคร่าวๆ

“พี่จัดงานเลี้ยงนิดหน่อย ก็พอดีจังหวะที่คุณแม่มาเยี่ยมน้ำต้นพอดีเลย” นนท์ว่ายิ้มๆ

“เลี้ยงเนื่องในโอกาสอะไร” น้ำต้นถามเสียงแข็งขึ้นมา รอยยิ้มค่อยๆจางหาย นนท์เข้าใจดีว่าน้องชายรู้สึกอย่างไร ก็ไม่ใช่เพราะการ ‘เลี้ยง’ ครั้งล่าสุดนั่นหรอกหรือ นนท์ถึงได้ตัดสินใจหนีเขาไป ทำเอาเขาตามหาเสียเกือบตาย แล้วจะไม่ให้น้ำต้นเข็ดกับงานเลี้ยงได้อย่างไร

ชายหนุ่มยิ้มก่อนเดินไปตบไหล่ของน้ำต้นเบาๆ

“งานเลี้ยงจริงๆ พี่อยากจะฉลองให้กับอัลบั้มใหม่ของต้นที่เสร็จลงเสียที เพื่อนๆพี่เขาก็อยากจะเจอต้น คุณแม่พี่ก็มานะ ก็เลยเอาเสียหน่อย นานๆพี่จะเอาใจแบบนี้ซักทีนะ ไม่ชอบเหรอ” หนนี้นนท์ทำเสียงอ้อนขึ้นมาบ้าง น้ำต้นพูดไม่ออก ได้แต่หันไปมองหน้าพี่ที หันไปมองกลุ่มคนที่บางส่วนหันมาทางเขาที ก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้ง เขาจับมือของนนท์บีบกระชับเอาไว้

“ชอบสิพี่ ขอบคุณนะที่ทำเพื่อต้น”

“อย่างน้อยก็ชดเชยที่พี่ทำให้เราต้องเสียอกเสียใจซักหน่อยก็ยังดีนะ” นนท์หมายความตามที่พูดจริงๆ

“แค่พี่อยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว” เด็กหนุ่มว่าสั้นๆ แต่ได้ใจความ

“ไป เข้าไปทักทายทุกคนกัน” ว่าแล้วนนท์ก็หันไปเชื้อเชิญแม่ของเด็กหนุ่มให้เดินตามไปทันที

ป้าชื่นเดินเข้ามาหาชายหนุ่มทั้งสองคน วารีริน คุณแม่ของนนท์เดินตามมาติดๆ นางรับไหวน้ำต้นก่อนจะเข้าไปพุดคุยทำความรู้จักกับคุณแม่ของเด็กน้ำต้นอย่างคนอัธยาศัยดีเยี่ยม

น้ำต้นแปลกใจเมื่อเห็นเมษยืนคุยกับชายคนหนึ่งที่แม้จะยืนหันหลังให้เขาแต่ก็รู้สึกคุ้นเหลือเกิน

“ไงต้น” ทันทีที่เมษทักเขา ชายคนที่ว่าจึงหันมายิ้มให้ทันที

“พี่ หวัดดีครับ” น้ำต้นยกมือไหว้นักดนตรีหนุ่มจากวงร็อคชื่อดังที่เขารู้จัก แต่ไม่เคยพูดคุยกันแบบนี้เลยสักครั้ง นอกจากทางโทรศัพท์ ชายหนุ่มคนเดียวกับที่เขาโทรไปรบกวนเวลาภรรยาของเขาเพื่อถามเรื่องนนท์นั่นเอง

“น้ำต้นใช่ไหมครับ” เด็กหนุ่มแปลกใจที่ชายหนุ่มท่าทางสุภาพอ่อนโยนผู้นี้คือสมาชิกวงร็อคอันแสนโด่งดังที่ขึ้นชื่อเรื่องการแสดงอันร้อนแรงบนเวที น้ำต้นยกมือไหว้ “ในที่สุดก็ได้เจอกัน” เขาว่าต่อด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ตามหาหัวใจเจอเสียทีนะ” เด็กหนุ่มทำตาโตก่อนจะยิ้มเขินออกมาอย่างไม่รู้จะทำอะไรได้มากไปกว่านั้น

“เฮ้ ฮันนี่...” เสียงใสเจื้อยแจ้วของหญิงสาวที่เดินเคียงข้างมากับนนท์ดังขึ้น

“รู้จักกันแล้วเหรอครับ” นนท์ถาม

“พี่น่ะรู้จักคุณบีเขามาก่อนตั้งนานแล้วจ้ะ” เมษว่า “ส่วนรายนี้” เออาร์สาวชี้มือไปที่น้ำต้น “ก็เป็นคนโทรคุยกะเขา แล้วก็ภรรยาเขา เรื่องเรานั่นแหละ” เธอชี้ไปที่บี ต่อด้วยเมล แล้วจึงมาหยุดตรงที่นนท์ตามลำดับ

ทำเอานนท์ถึงกับเกาศีรษะอย่างไปไม่เป็น น้ำต้นโชคดีจริงๆที่ได้คนๆนี้มาทำหน้าที่เออาร์ให้ เขาคิดในใจ ในขณะที่คนอื่นๆได้แต่ยิ้มออกมาอย่างนึกขัน

“ได้เจอตัวจริงแล้ว หล่อกว่าที่เห็นในทีวีตั้งเยอะ” เมลเอ่ย ก่อนที่จะเดินเข้าไปสวมกอดน้ำต้นตามธรรมเนียมที่ลูกครึ่งสาวอย่างเธอคุ้นเคย น้ำต้นเงอะงะไปเล็กน้อย แต่ก็กอดตอบกลับไป ไม่รู้ทำไม เขาจึงรู้สึกชอบในอัธยาศัยใจคอของหญิงสาวผู้นี้เหลือเกิน ทั้งที่เพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรกแท้ๆ

“ขอบคุณพี่เมลมากนะครับที่ช่วยต้น”

“เมลไม่ได้ช่วยแค่ต้นนะคะ” เธอเรียกชื่อแทนตัวเองอย่างไม่ค่อยจะคุ้นเคยนัก “แต่ได้ช่วยเพื่อนด้วย” หญิงสาวจับมือทั้งสองคนเอาไว้ก่อนจะบอกว่า “ผ่านอะไรกันมามากมาย ต่อไปพวกยูต้องดูแลกันและกันดีๆนะ เมลเอาใจช่วย”

น้ำต้นยังได้ทำความรู้จักอย่างเป็นทางการกับเพื่อนสนิทอีกไม่กี่คนของนนท์ ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ตอนอยู่ต่างประเทศ เด็กหนุ่มคิดในใจว่า เพื่อนของนนท์ก็เหมือนตัวนนท์ น่ารัก อบอุ่น ใจดีเหมือนกัน อย่างนี้ใช่ไหมที่เขาบอกว่า คนแบบเดียวกันมักจะมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างให้ได้มาพบ รู้จัก และคบหากัน และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่น้ำต้นได้มีโอกาสพบปะญาติคนอื่นในบ้านนี้ของนนท์ด้วยอีกเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นคุณลุง คุณป้า และลูกพี่ลูกน้องที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันไปเสียหมด ทุกคนให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นราวกับเป็นญาติสนิทก็ไม่ปาน

“เค้าเห็นเป็นนักร้องหรอกนะ ก็เลยเห่อกัน อย่าเพิ่งดีใจไป” นนท์เข้ามากระซิบกับน้ำต้นอย่างนึกหมั่นไส้ เมื่อเห็นเด็กหนุ่มหน้าบานเป็นกระด้ง

“ใครว่า เขาเห็นว่าน้องพี่เป็นคนน่ารักต่างหาก ไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า” เจ้าน้องชายกระซิบตอบกลับไปแบบไม่ยอมแพ้

การพูดคุยยังดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนาน อาหารที่ป้าชื่นจัดเตรียมไว้ถูกนำมาวางเรียงกันบนโต๊ะส่งกลิ่นหอมฉุยยั่วใจ ทุกคนทำตัวตามสบายด้วยการเดินไปตักอาหารและหามุมนั่งพูดคุยกันอย่างไม่มีการถือเนื้อถือตัวแต่อย่างใด ค่าที่ว่ารู้จักคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วจนเวลาล่วงเลยไปถึงสามทุ่ม แขกบางส่วนจึงเริ่มทยอยกลับ บางส่วนขอตัวกลับไปยังเรือนใหญ่ เมื่อร่ำลาเมล บี และเมษซึ่งเป็นแขกกลุ่มสุดท้ายแล้ว บรรดาแม่ๆก็ชวนกันไปพูดคุยต่อในบ้าน เหลือเพียงเจ้าภาพของงานยืนกันอยู่เพียงสองคน

นนท์มองหน้าน้ำต้นแล้วยิ้ม ชายหนุ่มไม่พูดอะไรก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋าและค่อยๆเดินทอดน่องอย่างสบายใจเดินเข้าเรือนหลังเล็กไป น้ำต้นเดินตามนนท์ไปติดๆ

ห้องรับแขกหรือที่จริงก็คือห้องนั่งเล่นของนนท์ดูแปลกตาไปมาก โซฟาถูกจัดวางเสียใหม่ เหลือพื้นที่ที่กว้างขึ้นที่นนท์สั่งให้ปูพรมที่หนานุ่มเป็นพิเศษ เพื่อที่เขาจะเอาไว้นั่งเล่นนอนเล่นเวลาไม่อยากขลุกอยู่แต่ในห้องนอน ไม่ว่าจะยังไงพี่นนท์ก็ยังเป็นคนที่เนี้ยบอยู่เสมอจริงๆ น้ำต้นคิดในใจ เขาเดินลงไปนั่งข้างๆนนท์ที่นั่งพิงโซฟาบนพื้นพรมนุ่มๆนั่น ก่อนจะพิงศีรษะลงบนไหล่ของนนท์โดยที่เจ้าของเองก็ไม่ได้ปัดป้องแต่อย่างใด

“ขอบคุณนะพี่นนท์”

“สนุกไหม”

“ต้องบอกว่ามีความสุขมากกว่า” น้ำต้นเอื้อมมือไปจับมือข้างหนึ่งของนนท์ขึ้นวงไว้บนตักเขา ก่อนที่จะใช้นิ้วนวดคลึงมือข้างนั้นอย่างเพลิดเพลิน

“น้ำต้น”

“หือม์”

“แน่ใจแล้วใช่ไหม”

“เรื่องอะไร”

“เรื่องของเรา”

“แน่ใจมาตั้งนานแล้ว” น้ำต้นหลับตา “ว่าแต่พี่นั่นแหละ แน่ใจไหม”

“ทำไมถามอย่างนั้นล่ะ”

“ก็พี่เป็นฝ่ายวิ่งหนีต้นตลอดเลยนี่”

“พี่ขอโทษ จริงๆนะ พี่ไม่รู้จะทำยังไงดี”

“ก็บอกแล้วว่ามีอะไรให้บอกกันบ้าง อย่าเก็บอะไรเอาไว้คนเดียว พอบอกว่าให้สัญญา ตัวเองก็เป็นคนผิดสัญญาเสียอย่างนั้น มันน่าน้อยใจไหม”

“ต่อไปไม่ทำแล้ว”

“จริงอ่ะ”

“จริงๆ อยู่ห่างกันแบบนั้นแล้ว มันทรมานใจ”

“จริงเหรอ”

นนท์พยักหน้า

“ถึงได้รู้ว่าพี่รักน้ำต้นมากจริงๆ”

น้ำต้นบีบมือของนนท์เอาไว้โดยไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก

“พี่ใจแข็งนะ แต่ก็ไม่แข็งพอ ไม่อย่างนั้นพี่คงหนีไปไกลแล้ว ไม่อยู่แค่ที่หัวหินหรอก” เขาว่า “พยายามจะหักดิบแต่ทำไม่ได้ มันเหมือนจะตายเลย เกิดมาพี่ไม่เคยใช้ชีวิตเลื่อนลอยขนาดนั้นมาก่อนเลยนะรู้ไหม” นนท์หันมามองเสี้ยวหน้าของน้ำต้น “แต่มันไม่มีพลังใจจะทำอะไรเลย”

“ต้นไม่เคยคิดเลยนะ ว่าพี่จะรักต้นขนาดนี้”

“เหรอ”

“ก็ต้นมักจะรู้สึกว่า รักพี่มากกว่าอยู่ฝ่ายเดียวตลอดเลย” น้ำต้นยิ้ม “บางทีก็รู้สึก เอ๊ หรือเรารักเขาข้างเดียวหว่า น้ำตาจะเช็ดหัวเข่าไหมนี่”

“เอ๊า ก็ลูกเขามีพ่อมีแม่ จะให้ตกปากรับคำง่ายๆก็แย่สิ” นนท์พูดหน้าตาเฉย น้ำต้นถึงกับหัวเราะชอบใจออกมา

“ไม่หนีกันไปไหนแล้วแน่นะ”

“ไม่ไปไหนแล้ว”

“ต้นจริงใจกับพี่นะ”

“พี่เห็นแล้ว”

“เราจะรักกันไปนานๆใช่ไหม”

“พี่ก็ไม่รู้ ต้นยังเด็กนะ จะต้องได้พบเจอกับคนอีกตั้งมากมาย วันหนึ่งคนที่อยู่ข้างๆต้นอาจจะไม่ใช่พี่ก็ได้”

“พี่นนท์ ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ” เขาทำหน้านิ่วเมื่อหันไปมองพี่ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ

“โลกนี้มันไม่มีอะไรแน่นอนหรอกน้ำต้น พี่เองก็ไม่ได้อยากเป็นพระเอกหรอกนะถึงได้พูดแบบนี้ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง เราต้องมองโลกตามความเป็นจริงด้วยนะ”

“งั้นก็ยังไม่ต้องไปมองมัน ทำตอนนี้แหละให้ดีที่สุด ต้นจะทำให้พี่เห็นเองว่าต้นจริงใจแค่ไหน”

นนท์ยิ้ม นั่นสินะ จะคิดไปทำไมให้เปล่าประโยชน์ สู้ทำวันนี้ให้ดีที่สุดไม่ดีกว่าหรือ

“พี่นนท์”

“ครับ”

“ขอจูบพี่นนท์หน่อยได้ไหม”

นนท์เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหันไปมองหน้าน้องชายอย่างไม่แน่ใจ

“ดูทำหน้าเข้า ขอจริงๆนะ ไม่ได้พูดเล่น”

“ทุกทีไม่เคยเห็นขอ”

“หนนี้ขอ”

นนท์หัวเราะพรืดออกมา เขามองเข้าไปในดวงตากลมโตของน้องชาย ใบหน้าเลื่อนเข้าใกล้กันชนิดที่เขามองเห็นเงาของตัวเองสะท้อนจากดวงตาคู่นั้น น้ำต้นยกมือขึ้นข้างหนึ่งประคองใบหน้าของนนท์เอาไว้ นิ้วโป้งไล้อยู่เบาๆบนคิ้ว สัมผัสเปลือกตาที่ปิดและเปิดขึ้นเพื่อมองหน้าเขาให้ชัดกว่านี้ เขารู้สึกถึงลมหายใจอันอบอุ่นของอีกฝ่าย ก่อนจะประทับริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากอันอ่อนนุ่มที่รอรับรอยจูบอันดูดดื่มนั้น เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่ามันช่างอ่อนหวานเชิญชวนและเย้ายวนใจอย่างยิ่ง เขาเคยจูบและได้รับรอยจูบจากใครแบบนี้มาก่อนหรือเปล่านะ นนท์คิดในใจ

มือไม้ของน้ำต้นเริ่มอยู่ไม่สุข มือที่สัมผัสใบหน้าเขาเมื่อครู่เลื่อนไปสัมผัสกับเส้นผมบนท้ายทอยของนนท์ ส่วนมืออีกข้างรวบเอวของเขาเอาไว้แน่น ริมฝีปากยังไม่ยอมผละจากกัน ทั้งคู่รู้สึกถึงอุณหภูมิในร่างกายที่ดูเหมือนจะสูงขึ้นเรื่อยๆ

“พอก่อน” นนท์ระล่ำระลักพูดออกมาเมื่อน้ำต้นยอมผละออกจากเขาในที่สุด เขารู้สึกได้ถึงความร้อนบนใบหน้า และลมหายใจที่หอบถี่ผิดจังหวะ

“พอก็ได้” น้ำต้นเองก็เรียนรู้ที่จะรู้จักหยุดเมื่อถึงเวลาเช่นกัน

“ไปหัดจูบแบบนี้มาจากไหนกันนี่” นนท์ถึงกับไม่ยอมสบตาน้ำต้นตรงๆด้วยความเขิน

“ถ้าไม่ใช่กับคนที่รักจริงๆ จูบแบบนี้ไม่ได้หรอกพี่นนท์” น้ำต้นว่าซื่อๆ

“เดี๋ยวน้ำต้นต้องพาคุณแม่กลับแล้วนะ”

“ถึงได้ยอมหยุดนี่ไง” ว่าแล้วก็กระซิบลงข้างๆพี่ชายที่หน้ายังแดงไม่หายเบาๆว่า “ไม่งั้นน่ะ ไม่หยุดแค่นี้หรอก”

นนท์ตีลงบนไหล่ของน้ำต้นอย่างไม่ปราณีปราศัย

“โอ๊ย พี่... ซัดมาซะเต็มที่เลย”

“พูดจาไม่รักชีวิต” นนท์ว่า

“ยอมตาย” เด็กหนุ่มพูดหน้าตาเฉย

“กล้าก็ลองดู”

น้ำต้นเบือนหน้าหนีไปอีกทาง “ถ้าไม่ต้องไปส่งแม่ พ่อจะปล้ำให้” เขารำพึงออกมาเบาพอแค่ให้ตัวเองได้ยิน

“บ่นอะไรพึมพำอยู่คนเดียว”

“เปล่าคร้าบบบ” น้ำต้นแยกเขี้ยวยิ้มอย่างไม่สู้จะจริงใจนัก “งั้นเดี๋ยวกลับแล้วนะพี่นนท์”

“อือม์” นนท์ลุกขึ้นยืนก่อนจะยื่นมือออกไปให้น้ำต้นได้เกาะกุมเพื่อพยุงร่างตัวเองลุกขึ้นยืนบ้าง น้ำต้นไม่ยอมปล่อยมือข้างนั้น เขาออกแรงกระตุกเบาๆก่อนที่จะรวบร่างนั้นเข้ามากอดกระชับเอาไว้ นนท์กอดตอบอย่างเต็มใจ

“ไม่รู้เป็นยังไงต้นชอบกอดพี่นนท์จังเลย”

“ตัวเล็กแต่ก็อบอุ่นใช่ไหมล่ะ” นนท์ว่าพลางหัวเราะอย่างนึกขันคำพูดตัวเอง

“อบอุ่นสิ อบอุ่นที่สุดเลย” น้ำต้นว่า

นนท์กอดตอบกลับไปอีกครั้งก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด

“กลับได้แล้วครับน้ำต้น”

เด็กหนุ่มยอมปล่อยเขาแต่โดยดี แต่ไม่วายอ้อยอิ่งอยู่เป็นนาน

“พี่ไม่หนีหายไปไหนแล้วน่า”

น้ำต้นหัวเราะ

“ไปหาแม่กันเถอะ” นนท์ชวน

“พี่ว่าไหม...” เขายังคงจูงมือพี่ชายเอาไว้ นนท์รอว่าน้ำต้นจะพูดอะไรต่อ

“แม่ๆเราเนี่ย เจ๋งที่สุดเลย”

“จริง”

ชายหนุ่มสองคนจูงมือกันเดินหัวเราะอย่างเบิกบานไปหาแม่ในเรือนหลังใหญ่

ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ยังรอเขาอยู่ เขามีงานอีกตั้งมากมายที่ต้องทำ อาจจะต้องเจอข่าวร้ายๆมากกว่าวันที่ผ่านมา แต่เขาไม่นึกหวั่นกับมันอีกต่อไป เมื่อรู้ดีว่าคนที่เขาเดินจูงมืออยู่นี้ จะยังอยู่เคียงข้างเขาไปตลอด ชีวิตดูจะมีความหมายมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

เสียงเพลงแท้ๆทำให้พวกเขาทั้งคู่ได้มาพบกับ รักกัน และมีกันและกัน แล้วก็เป็นเสียงเพลงอีกเหมือนกันที่จะเป็นสายใยเชื่อมโยงความผูกพันของพวกเขาเอาไว้ มีคนไม่กี่คนหรอกที่จะได้ร้องเพลงที่แต่งโดยคนรักของตัวเองให้คนอื่นได้ฟัง และเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่โชคดีเหล่านั้น เขาเลือกที่จะร้องเพลงเพราะเขารักมัน แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่า เพราะเสียงเพลงนี่อีกเหมือนกันที่นำความรักเข้ามาในชีวิตเขา และนั่นยิ่งทำให้เพลงที่เขาจะร้องต่อไปมีความหมายมากขึ้นไปอีก

ขอบคุณพี่นนท์ที่แต่งเพลงให้ต้น

สักวันเถอะ... ต้นก็จะแต่งเพลงให้กับพี่นนท์บ้างเหมือนกัน


============== END =================

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
4046
Zenny
5040
ออนไลน์
341 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-4-25 02:10:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
28
Zenny
195
ออนไลน์
4 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-9-28 14:45:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สวดดดดดดยอดดดดดด

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
7923
Zenny
1685
ออนไลน์
2067 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-9-28 15:57:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆเลยครับบ

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
486
Zenny
2935
ออนไลน์
88 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-9-28 17:53:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากคับ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
2
พลังน้ำใจ
3195
Zenny
1734
ออนไลน์
988 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-9-29 23:46:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนมากครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
6
พลังน้ำใจ
1159
Zenny
11595
ออนไลน์
85 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-9-30 04:34:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
43221
Zenny
14266
ออนไลน์
1963 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-11-12 22:20:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
82500
Zenny
34257
ออนไลน์
11974 ชั่วโมง
โพสต์ 2020-2-11 23:01:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 01:06 , Processed in 0.084156 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้