นิทานสอนใจเรื่อง นก วัว และแมว-copy
เช้าวันนั้นอากาศหนาวเย็นสุดๆ เสียงลมพัดอู้ข้ามท้องทุ่งโล่งพัดเอาเปลือกและใบข้าวโพดหมุนเคว้งคว้างไปมา
ในขณะที่ลมกระโชกเสียงหวีดดังและกระแทกประตูโรงนาดัง..กึงกัง..กึงกัง..
นกน้อยตัวหนึ่งต่อสู้อย่างสิ้นหวังที่จะบินข้ามทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์
และตกลงใกล้ๆโรงนานั้นตัวนกน้อยนั้น..เปียกปอนสกปรก
เพื่อจะข้ามทุ่งหญ้าไปยังรังของมันให้ได้
มันได้พยายามบินขึ้นและตกลงมาแล้วหลายครั้ง
นกน้อยเหน็บหนาวและสิ้นเรี่ยวแรง..รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจตาย
วัวตัวหนึ่งอยู่ใกล้ๆ จ้องมองที่นกน้อยและ
เคลื่อนตัวหันก้นของมันมาทางนก ในขณะที่ปากเคี้ยวเอื้อง..หยับ..หยับ..อยู่
ในขณะที่นกกำลังหวาดกลัวสุดขีด กลัวว่าจะถูกวัวเหยียบ
วัวก็ถ่ายมูลก้อนเบ้อเริ่มลงบนตัวนก
ในตอนแรก นกน้อยสุดจะ “เซ็ง” หดหู่และสิ้นหวัง
มันโกรธแค้นวัวเป็นที่สุด..ที่ทำเหมือน..ซ้ำเติมให้ยิ่งทุกข์ยาก
มันพยายามต่อสู้ดิ้นรนที่จะให้หลุดออกมาจากกองขี้วัว
แต่เพียงครู่เดียวก็เริ่มรู้สึกว่า มันไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไปแล้ว
ขี้ที่เพิ่งออกจากตัววัว มีความร้อน
พอจะทำให้ร่างกายของเจ้านกน้อยที่น่าสงสารอบอุ่นขึ้น
นกน้อย ที่คิดว่าตัวเองกำลังจะตายไปแล้วด้วยสภาพอากาศอันเลวร้าย
กำลังจะรอดชีวิต…ด้วยขี้วัวโสโครก
ที่ไม่ทราบเลยว่าตกลงบนตัวของมันด้วยเจตนาของวัวหรือไม่?
เจ้านกรู้สึกเป็นสุขเหลือเกิน เหมือนตายแล้วเกิดใหม่
เมื่อกระแสลมสงบลง มันจึงโผล่หัวออกมาจากกองขี้วัว
และเริ่มต้นร้องเพลงด้วยความลิงโลดใจ
โชคร้ายที่แมวในโรงนานั้นได้ยินเสียงเพลง
จึงคาบเอานกออกมาจากกองขี้วัวและกินเสีย
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ผู้ที่นำ ความยากลำบากมาให้อาจไม่ใช่ เพื่อทำร้ายเรา
ส่วนผู้ที่นำเราออกจาก ความยากลำบากก็อาจไม่ใช่ เพื่อที่จะช่วยเรา.
และเมื่อได้ลิ้มรส ความสุข ก็อย่าด่วนลิงโลดใจจนเกินไป
ผมคิดว่า หลายท่านได้อ่านเรื่องนี้มาบ้างแล้ว บอกหน่อยสิครับว่า..ท่านคิดอย่างไร??
ถ้า กองขี้วัว นั้นคือ หน้าที่ การงานและปัญหา ที่ดูสกปรกและยุ่งยาก น่าลำบากใจ
เรายังจะคุย..เรื่องนี้กันต่อ..ในตอน “นิทานสอนใจ
หน้า:
[1]