"จิ่นซี" เสน่ห์เมืองคูคลองโบราณอายุพันปี
มืองโบราณจิ่นซี ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของนครคุนซาน มณฑลเจียงซู ห่างจากนครซูโจวไปทางตะวันออก 35 กิโลเมตร จิ่นซีเป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แบบเมืองคูคลองในถิ่น เจียงหนาน ซึ่งก็คือบริเวณลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงตอนใต้ ที่ยังคงรักษาสิ่งก่อสร้างสมัยราชวงศ์หมิงและชิงไว้ได้http://images.thaiza.com/38/38_20100914153427..jpg
จวบจนปัจจุบัน เมืองโบราณแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยว สำคัญที่ยอดเยี่ยม 8 แห่งด้วยกัน เช่น หอเหวินชางเก๋อ อารามเหลียนฉือนิกายเซ็น พิพิธภัณฑ์อิฐและกระเบื้อง โบราณ สวนสาธารณะจินหลง ทั้งยังมีสะพานโบราณ และตรอกซอยเล็กๆ อันเงียบสงัดน่ารื่นรมย์ เพิ่มมนต์ เสน่ห์ให้แก่เมืองโบราณแห่งนี้
เมืองแห่งนี้ได้ชื่อว่าจิ่นซีเพราะมีลำธารน้อยใหญ่มากมาย จนแทบเรียกได้ว่าเป็นเมืองที่โอบล้อมไปด้วย ลำธาร ไม่ว่าจะเดินทางระยะใกล้แค่ไหนก็ยังต้องพาย เรือไป ทิวทัศน์ทางธรรมชาติตลอดจนสถาปัตยกรรม ต่างๆ ทั้งลำคลอง ท่าเทียบเรือ สะพานโค้ง ลานบ้าน ระเบียงและซุ้มประตูอันเก่าแก่ ฯลฯ ต่างสะท้อนให้เห็นถึง กลิ่นอายแห่งเมืองคูคลองที่สั่งสมมาตลอดสองพันปีประดุจม้วนภาพวาดพู่กันอันวิจิตรตระการตา
http://images.thaiza.com/38/38_20100914153848..jpg
http://images.thaiza.com/38/38_201009141538481..jpg
เมืองจิ่นซีเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของดินแดนเจียงหนานอัน อุดมสมบูรณ์ เมืองโบราณที่เคยเป็นแหล่งศึกษาหาความ รู้ของนักศึกษาจากต่างชาติจำนวนมากมายแห่งนี้ ยังคง รักษาความสง่างามอย่างบัณฑิตผู้ทรงภูมิไว้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้สืบทอดศิลปะการทำอิฐและกระเบื้องที่มี ประวัติอันยาวนาน
เสน่ห์ของเมืองโบราณแห่งนี้ไม่ได้อยู่ที่สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันสดชื่นเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่ทัศนีย- ภาพทางวัฒนธรรมที่ช่วยขับเน้นเสริมกับธรรมชาติ ต้นสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก หม่าหยวน (ชาตะก่อน ค.ศ.14 ปี-มรณะค.ศ.49) ขุนพลผู้โด่งดังซึ่งเคยช่วย จักรพรรดิกวงอู่ตี้หลิวซั่วทำศึกสงครามจนชนะหวาง หม่างนั้น เคยตั้งค่ายฝึกทหารอยู่ที่นี่ ศพของจางเจา (คือ เตียวเจียวชาตะค.ศ.156-มรณะค.ศ.236) เสนาบดีผู้มี ชื่อแห่งแคว้นอู๋ตะวันออก (คือง่อก๊ก)
http://images.thaiza.com/38/38_201009141538482..jpg
http://images.thaiza.com/38/38_20100914153855..jpg
ในสมัยสามก๊กก็ ฝังอยู่ในเมืองแห่งนี้ จิตรกรเอกสมัยตงจิ้นนามกู้ข่ายจือ (ชาตะประมาณค.ศ.345 ปี-มรณะค.ศ.409) ก็ได้ย้าย มาใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบ ณ เมืองนี้เช่นกัน สะพาน สือเหยี่ยน วัดกู่เหลียนริมทะเลสาบอู่เป่า และพระอาราม หลวงทงเสินทางตะวันตกของเมือง ซึ่งเคยได้รับพระราช ทานแผ่นป้ายทองคำจากจักรพรรดิเสี้ยวจงตี้ (ครองราชย์ ค.ศ.1163-1190) ล้วนแต่เป็นโบราณสถานที่มีประวัติ ยาวนานมาตั้งแต่สมัยต้นราชวงศ์ซ่งใต้ทั้งสิ้น
เมืองจิ่นซีมีลำน้ำใส มีสะพานมากมาย มีถนนน่าชม มีตรอกซอยเงียบสงัด มีสวนเงียบสงบ หากไม่ได้มา สัมผัสด้วยตัวเอง คงยากจะหาถ้อยคำมาอธิบายได้ พิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นเมืองที่เพิ่มขึ้นมาหมาดๆ อีกหกแห่ง ยังมีวัตถุล้ำค่าและตำนานเล่าขานให้ชื่นชมอีกนับไม่ถ้วน ระเบียงและกระโจมริมน้ำคลาคล่ำไปด้วยผู้คน กลิ่น อาหารเย็นหอมกรุ่นลอยมาแตะจมูก
ภายในโรงตีเหล็ก แผ่นสังกะสี นายช่างผู้สูงวัยที่สวมแว่นสายตากำลังทุบ ถังน้ำสังกะสีใบสุดท้ายของวัน ใต้แสงไฟสลัว กล้องถ่าย รูปจับภาพเลือนรางตรงหน้า มองเห็นเป็นโครงร่างเหมือน ภาพวาดแนวอิมแพรสชั่นนิสม์......นี่แหละ เมืองโบราณ จิ่นซี
หน้า:
[1]