เคล็ดลับการกินเพื่อความงามทั้งภายในและภายนอก
เคล็ดลับการกินเพื่อความงามทั้งภายในและภายนอก การสร้างสมดุลและการปรับเปลี่ยนการทำงานภายในร่างกาย สิ่งสำคัญคือ ควรเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นการบังคับหรือทำร้ายตัวเอง เพราะจะเป็นการทำให้ร้างกายอ่อนเพลีย ควรทำอย่างพอประมาณเท่าที่ตัวเราจะรับได้
[*]กินอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการ และครบมื้อในแต่ละวัน อาหารควรประกอบไปด้วย ผัก ผลไม้ โปรตีน ส่วนของว่างระหว่างมื้อ ควรเลือกเป็นอาหารจำพวกผลไม้ ถั่ว หรือเมล็ดธัญญาพืชต่างๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยเสริมวิตามินและคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อร่างกาย ตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ทั้งนี้ควรเลือกอาหารจำพวกออแกนนิก หรือปลอดสารพิษ และกินอาหารให้ตรงเวลา ในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวัน
[*]ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 ลิตร เพื่อรักษาความสมดุลของน้ำภายในร่างกาย เพราะการดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน นอกจากจะช่วยให้คุณมีผิวพรรณที่ดีแล้ว ยังสามารถสร้างความสดชื่นให้กับคุณได้อีกด้วย นอกจากนี้น้ำยังช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคเจ็บภัยไข้ต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์
[*]เมื่อทำการลดน้ำหนัก คนเรามักจะเกิดความเครียด กังวลกับตัวเองมากขึ้น และแน่นอนว่า หากเรามีน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน สิ่งแรกที่เรามักทำกันคือ การลดอาหารจำพวกน้ำตาลและไขมันลง แต่สิ่งที่พึงกระทำ
[*]ควรเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินต่างๆ ให้ถูกต้องมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นประเภทของอาหารที่กินอยู่เป็นประจำ หรือปริมาณที่กินนั้นถูกต้องตามหลักโภชนาการหรือไม่ ซึ่งนักโภชนาการกล่าวว่า คนที่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอนั้น จะดูได้จากผิวพรรณที่ดูแห้งกร้าน ผิวหน้ามัน ผมร่วง หรือเล็บเป็นจุดขาว ดูหม่นหมองไม่สดใส
[*]การไดเอ็ท หรือการควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักนั้น อาจเป็นการทำให้คุณกลับอ้วนขึ้นมาอีกก็เป็นไปได้ ทั้งนี้เนื่องจากร่างกายยังคงต้องการอาหารตามปกติ แต่คุณเองจะรู้สึกครุ่นคิดถึงอาหารมื้อต่อไปว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ จะกินอะไรดี เพราะฉะนั้น เมื่อคุณได้กินอาหารสักมื้อล่ะก็ แทนที่คุณจะได้กินอาหารเพื่อให้พลังงานกับร่างกายตามที่ต้องการในแต่ละวัน แต่กลับเป็นว่าคุณกินอาหารเพื่อตอบสนองความต้องการและความอยากของตัวเองมากกว่า ซึ่งถ้าคนเราอดอาหารเข้ามากๆ ร่างกายจะเริ่มโหย และเกิดความอยากกินยิ่งขึ้น ผลที่ตามมาก็คือ แทนที่คนเราจะกินน้อยลงกลับกินมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก (สำหรับผู้หญิง ไขมันจะถูกสะสมอยู่ตามบริเวณสะโพก ท้อง หน้าท้อง และหน้าอก ส่วนผู้ชายนั้น จะเป็นที่ท้องเสียส่วนใหญ่) ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุด คือ
[*]กินอาหารตามปกติ เพียงแต่ค่อยๆ ลดปริมาณอาหารลงไปเรื่อยๆ ในที่สุดจะทำให้ร่างกายของคุณปรับตัวได้ดีกว่าการอดอาหารในทันที
[*]การกินน้ำตาล หรืออาหารที่มีความหวานเป็นจำนวนมากนั้น อาหารที่มีส่วนผสมเป็นน้ำตาลทรายขาวนั้น จะมีปฏิกริยาเคมีต่อร่างกาย เนื่องจากน้ำตาลนั้นเดิมทีไม่ใช่สีขาว ส่วนมากจะผ่านการฟอกขาวในการผลิตน้ำตาลทรายขาว หากกินเป็นระยะเวลาที่นาน ซึ่งจะมีผลเสียต่อร่างกายเป็นอย่างมาก นอกจากนี้โซดามีส่วนประกอบของน้ำตาลที่ปริมาณ 12 ช้อนชาต่อกระป๋อง น้ำตาลจะกระตุ้นเมทาโบลิซึมในด้านร่างกายให้ทำงานหนักยิ่งขึ้น นั่นหมายความว่า
[*]น้ำตาลจะทำให้คุณแก่ลงเร็วการกินช็อคโกแล็ต ลูกอม หรือ ขนมหวานจะเป็นการเพิ่มน้ำตาลในเลือด ซึ่งจะทำให้อินซุลินถูกปลดปล่อยออกมา ซึ่งหากมีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงจนเกินไปจะทำให้คุณเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานและที่สำคัญทำให้คุณอ้วนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
[*]กินผักและผลไม้สดที่ยังไม่ได้ผ่านการปรุงให้มากขึ้น ในปริมาณ 50 ถึง 75 % จะเป็นการช่วยให้คุณลดน้ำหนักลงได้เป็นอย่างดี และเป็นการลดน้ำหนักที่ปลอดภัย การรับประทานอาหารที่ถูกปรุงมาแล้วเป็นปริมาณมากจะเป็นการทำให้ร่างกายเคยชินกับการรับประทานอาหารแบบนี้ ซึ่งถือเป็นความเคยชินที่ไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่นัก การอยู่กับธรรมชาติ กินแบบธรรมชาตินั้นจะเป็นการทำให้ร่างกายของเรานั้นอยู่ได้อย่างธรรมชาติ และปรับตัวกับการอยู่กับธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น
[*]กินอาหารจำพวกพืชผักให้มากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช และ ธัญอาหาร มีหลายประเทศที่ผู้คนส่วนใหญ่บริโภคแต่พืชผักผลไม้เป็นพื้นฐาน แต่ก็มีบ้างที่มีเนื้อสัตว์แต่ก็เป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็ก ทั้งนี้ผักและผลไม้จะให้พลังงานที่ต่ำ ซึ่งการกินอาหารจำพวกนี้จะช่วยทำให้ร่างกายของคุณนั้นห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เนื่องจากโรคภัยต่างๆ มักเกิดจากการก่อตัวของไขมันในเส้นเลือด นอกจากนี้อาหารประเภทผักและผลไม้นั้นยังช่วยให้ร่างกายของคุณมีวิตามินมากขึ้นและประกอบไปด้วยแร่ธาตุ ซึ่งจะสามารถช่วยให้คุณทำการควบคุมอาหารด้วยตนเองได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
[*]กินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต แต่ควรเป็นคาร์โบไฮเดรตจำพวกโฮลเกรน (whole grain) เช่น เส้นพาสต้าโฮลเกรน มันฝรั่ง ขนมปังโฮลวีท และธัญพืช เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งอาหารจำพวกนี้มักถูกบรรจุไว้ในตำราอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมหรือลดน้ำหนัก นอกจากนี้พืชผักบางชนิดก็ยังเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดไขมันได้เช่นกัน อาทิ มะพร้าว อโวกาโด ถั่วบางชนิด และมะกอก ซึ่งควรหลีกเลี่ยง ส่วนอาหารจำพวกเนื้อสัตว์จัดได้ว่าเป็นอาหารมีไขมันมากที่สุด
[*]การทำให้ภายในร่างกายสะอาดเป็นครั้งคราว
การทำให้ร่างกายสะอาดทุกวัน (A daily cleans) ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการทำความสะอาดชำระล้างร่างกายแบบอาบน้ำ แต่เป็นการทำความสะอาดภายในร่างกาย คล้ายๆ กับเป็นการดีท็อกซ์ โดยคุณสามารถทำได้โดยกินอาหารมื้อสุดท้ายของวัน คือ มื้อเย็นก่อนเวลา 1 ทุ่ม สำหรับอาหารเช้าควรเป็นน้ำผักผลไม้, ชาสมุนไพร หรือน้ำสะอาด มื้ออาหารแรกของวัน คือ มื้อเที่ยงซึ่งควรเป็นกลางวัน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้ร่างกายของคุณไม่ทำงานหนักและได้พักจากการกินของหนักๆ เป็นเวลา 17 ชม. ต่อวันการทำให้ร่างกายสะอาดสัปดาห์ละครั้ง (A weekly cleanse) ลองเลือกทำสัก 1 วันของสัปดาห์ โดยเลือกวันที่คุณไม่มีความจำเป็นต้องออกไปสังสรรค์หรืองานปาร์ตี้นอกบ้าน โดยในวันนั้นคุณลองเลือกกินแต่ซุปผัก ชาสมุนไพร หรือน้ำสะอาด เชื่อหรือไม่ว่าเมื่อคุณลองทำเช่นนี้ใน 1 ปี ร่างกายคุณจะรู้สึกสะอาดไร้พิษเป็นจำนวน 52 วันเชียวล่ะการทำให้ร่างกายสะอาดเดือนละครั้ง (A monthly cleanse) อาจเลือกวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยหยุดกินอาหารมื้อปกติในคืนวันศุกร์ หลังจากนั้นวันถัดไปควรกินซุปผัก น้ำผักผลไม้ ชาสมุนไพร และน้ำสะอาด ควรงดอาหารหนักๆ จนกระทั่งถึงเช้าวันจันทร์หรือช่วงบ่าย ทำเช่นนี้แล้วร่างกายคุณจะรู้สึกเหมือนได้ชำระความสะอาดเป็นเวลา 24 วันเลือกทำเป็นครั้งคราวเป็นฤดูกาล (A seasonal cleanse) คุณสามารถเลือกทำในช่วงที่มีการเปลี่ยนฤดูกาลก็ได้ เช่น จากหน้าร้อนไปหน้าฝน ลองพยายามเลือกที่จะทำควาสะอาดร่างกายภายในของเราเป็นเวลา 7 วัน ประมาณ 2-4 ครั้งต่อปี เลือกกินแต่ซุปผัก ชาสมุนไพร หรือน้ำสะอาด เช่นกัน ทำเช่นนี้แล้วร่างกายคุณจะรู้สึกได้ว่าข้างในสะอาดเป็นเวลา 14-28 วันเชียวเมื่อภายในร่างกายถูกทำให้สะอาดเช่นนี้แล้ว ร่างกายของคุณจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า กลับมาชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง อวัยวะภายในร่างกายมีการทำงานที่สมดุล ทำงานได้อย่างเป็นปกติ และสามารถซึมซับสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ได้เร็ว และขับของเสียออกได้โดยง่ายเทคนิคง่ายๆ เหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของ ถือเป็นการท้าทายตัวเอง และสร้างประโยชน์ให้ตัวเราเอง อย่างน้อยควรคิดว่า ชีวิตคือการท้าทาย! ที่มาข้อมูล : วี สลิม บิวตี้ สปา
หน้า:
[1]