เดอะ แท็กซี่ 1
ตอนที่ 2 มีอยู่วันนึงผมขับแถววิภาวดี รับเด็กหนุ่มคู่หนึ่งอายุก็คงจะพอๆ กับผม ขึ้นมาก็นั่งเบาะหลังทั้งคู่ บอกจุดหมายปลายทางเสร็จผมก็ออกรถ ตั้งแต่ต้นทางท้งสองคนแทบจะไม่คุยกันเลย ผมก็นึกว่าทะเลาะกันมาหรือเปล่านะ ก็เลยเปิดเพลงให้ฟัง เพื่ออาจจะทำให้อารมณ์ดีขึ้น แต่สักพัก ผมก็ได้ยินเสียงซี๊ดๆ อ่าๆ อะไรอย่างนั้น ผมก็ชะเง้อดูผ่านกระจกมองหลัง ก็ไม่เห็นอะไรมาก เห็นแต่คนนึงทำหน้าหลับตาพริ้ม ซูดปากเบาๆ ส่วนอีกคนหันมามองผม ทุกอย่างก็ดูปกติดี แต่เห็นไหล่เขากระตุกๆ เหมือนทำอะไรบางอย่าง ทำให้ผมสงสัยแต่จะหันไปมองก็กลัวจะเสียมารยาท และต้องขับรถ ก็ได้แต่มองผ่านกระจกครับ จนรถมาหยุดตรงไฟแดง แหงนมองกระจกอีกที ก็เห็นแต่หน้าคนที่นั่งหลับตาเคลิ้มอยู่ แล้วอีกคนไปไหนว่ะ ผมเลยจำต้องเหลียวหลังไปมอง โอ้! เอาเข้าแล้ว ผมก็ได้แต่อ้าปากค้าง ภาพที่เห็นคือชายคนนึง กำลังโม๊คให้อีกคนอย่างสำเริงสำราญไม่แคร์ผมสักนิด พอเห็นผมหันไปมองคนที่กำลังดูดอยู่ก็รีบผละตัวออก ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ผมนี่อึ้งไปเลย ไม่กล้าหันกลับไปมองอีก กลัวโดนมีส่วนร่วม 5555 ถึงจุดหมายก็จ่ายเงินแล้วรีบลงไปกันเลยหลังจากขับรถช่วงเช้า ตกเย็นก็เอารถไปจอดที่อู่แล้วผมก็ต่อรถเมล์กลับบ้าน บ้านที่ผมเรียกก็เป็นแค่ห้องเช่าไม้ธรรมดา เก่าๆ ที่รอจะโดนรื้อถอนสักวัน เพราะบริเวณใกล้เคียงกันกลายเป็นตึกแถวกันหมดแล้ว แต่มันก็เป็นที่พักกายที่เดียวในเมืองหลวงที่ทำให้ผมนอนหลับได้อย่างสบายใจหลังจากทำงานหาเงินเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ค่ำวันนั้นผมกะว่าจะได้พักผ่อนสบายๆ ก่อนจะอาบน้ำกำลังจะทอดกายลงนอนจะเปิดหนังเร้าอารมณ์สักหน่อย แต่ยังไม่ทันเปิดพลันก็มีเสียงดังก๊อกๆ ที่หน้าประตู แล้วเสียงร้องเรียก “เฮ้ย....ไอ้เดช (ชื่อสมมิตครับ) อยู่มั๊ยว้ะ” ผมก็สงสัยว่าเสียงใครก็ค่อยๆ ย่องไปเปิดประตูออกดู “เอ้า ไอ้แมน ”ผมอุทานไปด้วยความแปลกใจ ไอ้แมนบ้านมันมีตังค์มันเป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียน เคยไปประจำอยู่กองร้อยด้วยกัน ท่าทางมันโจ๋ๆ แต่หายหน้าหายตาไปตั้งแต่ปลดประจำการออกมา ไอ้นี่หัวโจกประจำกอง แล้วมันก็ทักทายมาว่า “เฮ้ย เป็นไง มึงสบายดีเหรอว้ะ มาอยู่กรุงเทพหล่อขึ้นเป็นกองนะมึง” ผมตอบไปว่า “เออ สบายดีว่ะ แม่งหาเงินตลอดไม่มีเวลาจะไปเอาใครเลยว่ะ ” ไอ้แมนหัวเราะพร้อมตบไหล่ผมเบาๆ “มา วันนี้สนุกกันหน่อยเว้ย” “มึงมาได้ยังไงว้ะ” ผมถามออกไป มันก็พยักพเยิกหันมองไปทางด้านซ้ายของมัน มีคนเดินออกมาจากร้านขายของชำแถวบ้าน พร้อมหิ้วถุงพะรุงพะรัง “อ้อ ไอ้แว่น” ความจริงมันชื่อวัตร แต่ชอบเรียกมันว่าไอ้แว่น เพราะมันใส่แว่นตาหนาเตอะเหมือนเด็กเรียน แต่จริงๆ แล้วไอ้นี่เรียนแย่ที่สุดในกลุ่มเพื่อนๆ ผม แต่เป็นเพื่อนตจว. คนเดียวที่ย้ายมาพร้อมๆ กับผม แต่มันทำที่โรงงาน ที่พักมันอยู่ไกลออกไป เพราะใกล้ที่ทำงานมัน มันชูถุงที่ใส่เบียร์สี่ขวดกับของกินกระจุกกระจิกโชว์ให้ผมดู “เฮ้ย ก๊งกันหน่อยเฟ้ย” พวกผมโม้ไปกินไปกันเสียพักใหญ่ก็พอจะรู้เรื่องว่าไอ้แมนมันมีเมียแล้ว เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ไม่นานพร้อมกับเมียมัน เพราะมันได้งานออฟฟิส แต่คุยกันยังไม่หายอยาก “อ้าว ฉิบ.... เบียร์หมดแล้วเว้ย” ไอ้แว่นโหวกเหวกขึ้นมา พวกมันก็เออ..ออ..กันว่าชวนผมไปกินกันต่อข้างนอกเปลี่ยนบรรยากาศ
ไอ้แมนเป็นสารถีขับตรงไปยังผับแห่งหนึ่ง เพราะมันขับรถมา เกือบเที่ยงคืนผมกับไอ้แว่นเริ่มมึนๆ ได้ที่ก็ชวนกันกลับ “เฮ้ย กูว่าพวกมึงไปนอนที่บ้านกูก่อนดีกว่า ไม่ไกลจากนี้เท่าไหร่ ดูท่าพวกมึงจะไม่ไหวว่ะ ”เออ มึงก็ไม่ไหวเหมือนกันป่าวว่ะ กูให้มึงไปส่งก็กลัวจะไม่ถึงบ้านว่ะ แล้วบ้านมึงอยู่กับใครบ้างว้ะ” ผมถามไอ้แมนตอบว่า “มีกู เมียกู กับน้องเมียกู” ผมก็อยากเห็นบ้าน เห็นหน้าน้องเมีย เอ้ย..หน้าเมียมันอยู่เหมือนกัน “เออ ก็ได้ว้ะ ไปก็ไป นั่งรถมาไม่กี่อึดใจก็มาจอดอยู่ตรงหน้าบ้านสองชั้นที่ไม่ใหญ่นักแต่ยังดูใหม่เอี่ยม พอเข้าไปในบ้านก็ได้รู้จักและทักทายเมียที่กิริยามารยาทแสนจะเรียบร้อยของไอ้แมน ผมก็แกล้งถามกระซิบไอ้แมนเบาๆ “แล้วไหนน้องเมียมึง” ไอ้แมนเรียกใครคนหนี่งแนะนำให้รู้จักพวกผม “เออ..เดี๋ยวกูแนะนำให้รู้จัก...เฮ้ย ชิด นี่เพื่อนๆ ของพี่” ผมก็เหลือบมองไปไม่ไกลจากเมียไอ้แมนก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มดูท่าทางเหมือนยังเป็นนักเรียน “สวัสดีค้าบ” น้องมันยกมือไหว้พวกผมพร้อมน้ำเสียงนุ่มๆ (ผิดคาดคิดว่าน้องเมียไอ้แมนจะเป็นสาวน่ารักๆ เฮ้อ! ….ไอ้แว่นก็แอบหัวเราะคิกๆ) ไอ้แมนกับเมียเดินขึ้นชั้นสองไปแล้วตะโกนมา “ตามสบายเว้ยพวก นอนตรงไหนได้นอนเลย” ไอ้แว่น มันเลยไปนอนห้องดูทีวีข้างๆ ผมก็ขอเข้าห้องน้ำ ชิดจะมาช่วยประคองพาผมไป กลัวผมจะหกล้มมั้ง ผมก็แกล้งโอบไหล่น้องแบบหยอกเล่นตามประสาน่ะครับ น้องมันบอกว่าตัวพี่หอมจัง (หอมอะไรหว่า ยังไม่ได้อาบน้ำเลย)
เสร็จธุระแล้วก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาเห็นชิดเดินป้วนเปื้ยนอยู่ แล้วมันก็ชะงักแล้วบอกว่า “พี่ลืมเก็บครับ” พร้อมทั้งชี้มาที่เป้าผม “อ้าว..เฮ้ย” ผมก้มลงดูเห็นออกมาเป็นงวงเลยรีบเก็บ ตอนนั้นก็ไม่มีเวลาอายละ เพราะรู้สึกง่วงเต็มที เห็นโซฟาตัวยาวที่ห้องโถงเป็นที่เหมาะ ไม่ต้องกลัวยุงกัดเพราะบ้านไอ้แมนติดแอร์อย่างดี ดูเวลาก็ใกล้ตีหนึ่งแล้วด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้ผมเผลอหลับไปทั้งอย่างงั้นเลย มารู้สึกตัวแบบเบลอๆ ก็ตอนเหมือนมีอะไรมาขยุกขยิกอยู่ที่เป้าผม แต่ความรู้สึกที่ได้นี่สิ มันทั้งเสียว ทั้งลื่น ทั้งนุ่ม ผมค่อยๆตั้งสติหรี่ตาขึ้นดูตามแสงไฟสลัวๆ ที่สาดมาจากหน้าต่างกระจก เห็นหัวใครคนหนึ่งผงกหัวขึ้นผงกหัวลงอยู่ตรงเป้าผม เหตุผลอะไรผมไม่ได้ใส่ใจแล้ว รู้แต่ว่ามันทำให้ผมเคลิ้บเคลิ้ม เสียวซ่านจนบอกไม่ถูกจนผมครางออกมาเบาๆ โดยเฉพาะเวลาใช้ปากเม้มตอดรัดตรงหัวแล้วรูดขึ้นรูดลง ซึ่งแน่นอนผมไม่ปฏิเสธความตั้งใจอันดีในสิ่งที่เขาทำให้เพราะมันทำให้ผมมีความสุข แล้วน้ำแห่งความสำเร็จก็โพยพุ่ง ทำให้ผมอ่อนแรงหลับจวบจนเช้า ผมตื่นขึ้นมาอย่างสลึมสลือ เห็นมีผ้าห่มคลุมตัวผมไว้ เสื้อผ้ากางเกงก็เรียบร้อยดีจะมีแปลกๆ ก็ตรงที่มีคราบอะไรสักอย่างแห้งกรังติดที่ชายเสื้อ
“ตื่นแล้วเหรอค๊ะ หลับสบายมั๊ยค๊ะ” เสียงเมียของไอ้แมนทักทายผม “พอดีเห็นแอร์มันเย็นน่ะค่ะ กลัวจะหนาวเลยให้ชิดเขาเอาผ้าห่มมาให้” “ขอบคุณครับ” ผมตอบเมียไอ้แมน คำพูดของเมียไอ้แมนทำให้ผมเข้าใจอะไรดีขึ้นถึงเรื่องเมื่อคืน หลังจากล้างหน้าล้างตาก็ร่วมโต๊ะกินข้าวต้มตอนเช้า โดยที่ไม่มีนายชิดมาร่วมวงด้วย หลังจากนั้นผมกับไอ้แว่นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ก่อนออกประตูบ้านเหลียวไปมองเห็นชิดมันยืนมองผมอยู่ข้างบ้าน ทำตาหลุกหลิกๆ แต่ก็ยกมือไหว้ผม ผมก็ได้แต่ยิ้มๆ แต่นึกในใจว่าเสียท่าเด็กซะแล้ว...แต่ก็ขอบใจนะ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ตามอ่านด้วยความมันส์ อิอิเสียท่ารึเสียวท่าครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากนะครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากครับ น้องเมียเพื่อนรับผลบุญ อิอิ ขอบคุณครับ{:5_119:}{:5_119:}{:5_119:} ขอบคุณมากๆ ขอบคุณมากคับ ขอบคุณครับ 555+เด็กเด็ดๆ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ