ประสบการณ์ความรักของผมครับ ^^
บทที่1 ทำไมเค้าน่ารักจังผมชื่อคิวคับ ตอนพบรักครั้งแรกก็ตอนเพิ่งเข้าม.1คับ โรงเรียนผมจะมีห้องที่จะเรียนอังกฤษเป็นพิเศษคือห้อง1 ส่วนมากก็มีแต่พวกลูกคนมีตังค์ทั้งนั้น ส่วนผมก็อยู่ห้อง2ซึ่งถือว่าเป็นห้องเด็กเก่งแต่ไม่คอยมีเงิน ตอนเย็นๆหลังเลิกเรียนวิชาหลักก็จะมีชั่งโมงโฮมรูมเป็นช่วงที่ครูที่ปรึกษาจะมาดูแลระเบียบต่างๆพวกการแต่งกาย ทรงผม และพูดคุยเกี่ยวกับงานต่างๆที่ทำร่วมกันในห้อง ซึ่งวันแรกๆก็ไม่มีอะไรมากก็แค่แนะนำอะไรต่างๆทั่วไป และจุดที่ทำให้ผมสะดุดใจคือตอนที่ครูเค้าบอกคะแนนตอนสอบปรับพื้นฐานก่อนจะเข้าเรียนม.1ซึ่งครูเค้าบอกว่าคนที่ได้คะแนนสูงสุดชื่อ พิภูษณ ซึ่งเค้าย้ายไปห้อง1แล้ว ในใจผมตอนนั้นรู้สึกแปลกๆกับชื่อนี้มากแต่ก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจอะไรมากมาย แต่พอผมเดินสวนกับใครบางคนที่โรงอาหาร ในใจผมก็คิดขึ้นว่าคนเนี่ยหรอชื่อพิภูษณ ผมตกใจมากคับอยู่ๆก็รู้ได้ไงทั้งที่ผมกับเค้าไม่เคยเจอหน้าและพูดคุยกัน แต่ผมก็ไม่ได้สนใจสิ่งที่พิเศษนี้เลย แต่ต่อมาผมก็เริ่มสืบข้อมูลของเค้า จนได้รู้ว่าเค้าชื่อเล่นชื่อ กาน หุ่นกานก็ถ้าเทียบกับผู้ชายในห้องเดียวก็เตียที่สุด แต่ออกแนวอวบๆลำ้ๆ ไม่อ้วนกำลังน่ารักพอดี ผิวก็ออกขาวแต่จะคำ้แดดนิดหน่อย รูขุมขนตรงผิวกว้าง(อันนี้มารู้ตอนหลัง^^)ผิวเนียนมาก และผมก็ไม่เคยรู้ตัวเองมาก่อนเลยว่าไปแอบชอบกานตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็แอบมองและแอบแต๊ะอ่างกานเมื่อมีโอกาส อากาศมันเริ่มชัดตั้งแต่ขึ้นม.2 ตอนเข้าแถวก็เรียงเป็นหน้ากระดานชายหญิงอยู่คนละแถวซึ่งผมอยู่ห้อง2ก็เห็นห้อง1อยู่ข้างหน้าชัดเจนทุกคน และแน่นอนผมไม่ลืมให้อาหารตาผมแน่ ผมก็แอบมองกานทุกวันๆตอนเข้าแถวและตอนอื่นๆถ้ามีโอกาส และตอนนั้นโรงเรียนก็จัดค่ายสำหรับม.2ขึ้นมา และตอนเข้าค่ายกลุ่มก็จัดกลุ่ม ผมก็ได้อยู่กับกาน ผมเองก็ตกใจปนดีใจเล็กน้อย ตอนเข้าค่ายผมก็ได้เห็นกานมากขึ้น ผมแอบดูเค้าทั้งลักษณะการกิน การพูด และยิ่งทำให้ผมใจละลายคือตอนเค้ายิ้ม(แค่ทำหน้าปกติก็ใจจะขาดแล๊ะ ยิ่งยิ้มอีกก็คงไม่เหลือหัวใจให้ใครล่ะ) แต่ผมก็ไม่ค่อยได้คุยกับกานนักหรอ ไม่รู้จะเริ่มทำความรู้จักยังไง แต่ตอนสนุกก็คือตอนนอนหลับดิครับ555+ พอความมืดมาเยือนหลังจากที่ทุกคนเสร็จกิจกรรมก็เข้านอน ผมได้นอนห้องเดียวกับผู้ชายห้อง1คับ ก็กะจะแอบมองหุ่นกานตอนอาบนำ้เปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อยแต่เหมือนเดิมไม่กล้าคับ ไม่กล้ามองกลัวเค้าจะรู้และเรื่องจะไปกันใหญ่ก็เลยไม่กล้าเสี่ยง พอตอนหลับปิดไฟในห้องหมด(กะจะลักหลับกานสักหน่อย555) ผมก็รู้สึกว่ามีมือมาจับตรงเคผม ผมก็รู้ทันทีมามือใคร มันชื่อกอล์ฟ แต่ผมชอบเรียกชื่อจริงมันมากกว่าว่า ไตรรงค์ มันนอนข้างผมและตอนเรียนผมก็ชอบลวมลามมันเอาแค่หนุกๆไม่ได้คิดอะไรจริงจัง สงสัยมันจะเอาคืนผมก็ปล่อยมันและอีกอย่างผมก็ไม่ได้ใส่เกงในด้วย มันก็รูดขึ้นรูดลงแต่ผมใส่เกงอยู่ ผมก็กะจะสนุกด้วยจะจับของมันมันก็ไม่ให้จะจับนมมันก็ไม่ให้อีกเลยจับได้แค่พุงมันแต่ก็สนุกดี ผมก็คิดในใจว่าแม่งเล่นแต่กูฝ่ายเดียว กูยอมก็ได้แต่มันต้องมันส์กว่านี้ ผมเลยเอามือมันออกจากเคผม แล้วผมก็ถอดกางเกงแล้วเอามือมันมาจับเคผม พอมันจับปุ๊บมันรีบเอามือออกเหมือนมันตกใจมากแล้วมันรีบสลับตัวไปแทรกนอนกับคนถัดจากไปจากมัน ผมก็เลิกเล่นกับมัน(เดี๋ยวมึงได้สนุกกว่านี้แน่) ผมดูเวลาตี2ล่ะ ยังไม่นอนยังไม่ง่วงจนกว่าจะได้เอาคืน555 ตอนนั้นทุกคนหลับล่ะผมเลยตามไอ้กลอฟ์ไป ผมลองจับเคมัน มันไม่ขยับแสดงว่าทางสะดวก ผมเลยเอามือล่วงไปสัมผัสเคมันแล้วลากออกมาจากเกงในมัน แล้วเล่นอยู่สักพักก็ลงมือลิ้มรสเคมันและเป็นครั้งแรกที่ผมได้อมเคคนอื่น พออมแล้วรู้สึกไม่อยากเอาปากออกเลยอยากนอนหลับทั้งอย่างนี้ทั้งคืน มันให้ความรู้สึกที่ดีมากพร้อมรสเค็มๆคงเป็นนำ้ของมันตอนที่จับเคผมมั่งอมไปอมมารู้สึกว่ามันเริ่มแข็งล่ะ(คงรู้สึกตัวแล้วสิน่ะ)พอมันแข็งยิ่งอร่อยมากยิ่งขึ้น ผมกะทำให้นำ้มันแตกแล้วจะดูดนำ้ของมันแบบเต็มๆแต่มันแม่งก็รีบเก็บเคเข้าฝัก ผมก็เลยคิดว่ามันคงกลัวเราไปมากกว่านี้ก็เลยรีบหยุดทั้งที่มันก็อยากอยู่ ผมก็ตัดสินใจล่มเลิกมันซะแล้วก็หลับตานอน พอตื่นมาก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดข้ึนผมกับมันก็คุยกันปกติ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือใจผมเอาแต่คิดเรื่องเมื่อคืนกับมันเลยไม่ได้คิดเรื่องกาน พอเลิกค่ายผมก็รีบกลับบ้านไปพักผ่อน พอวันไปเรียนปกติผมก็ทำกิจประจำวันคือแอบมองกาน เมื่อก่อนผมไม่ได้มองจุดนี้หรอก แต่พอผมโตขึ้นมาก็ทำให้เข้าใจว่า ความอยากกับความรักมันไม่เหมือนกันแม้แต่นิดดียว ความอยากมักจะอยู่่กับเราไม่นาน แต่ความรักมันฝังใจเราไว้ไม่เคยทำให้ลืมมันเลย ว่าเราเคยรักใคร พอเวลาผ่านไปผมก็ยิ่งรักกานทุกวันจนมันทำให้ผมเก็บไว้เลยไม่อยู่ เลยแกล้งถามเพื่อนผู้หญิงที่ข้างหน้าผมว่า ทำไมคนที่ชื่อกานน่ารักจังพร้อมชี้นิ้วไปที่กาน กะจะให้เพื่อนผู้หญิงตะลึงในความน่ารักของกาน แต่ปรากฏว่ามันเสือกไปบอกกานว่าผมชอบเค้า ตอนนั้นผมอึ้งมากเลยแก้ข่าวไปว่าผมล้อเล่นแต่ก็ไม่ได้ผล ผมก็คิดในใจว่าขอให้เค้าไม่เชื้อ หลังจากนั้นตอนเข้าแถวอีกวันผมก็ได้ยินกานมันบอกกับผมว่า"กูรู้ว่ามึงไม่ใช่"ผมก็พอเดาออกว่าไอ้ที่ไม่ใช่คงหมายถึงพวกตุ๋ดพวกเกย์มั่ง แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรตรงนั้นมากมายแต่เสียใจตรงที่เค้าไม่ได้ชอบผมด้วยน่ะซิ แต่ก็เสียใจไม่ได้มากมายอะไรนัก วันต่อมาผมก็เลยข่มใจไม่ให้มองเค้าอีกและคิดว่าผมทำได้ป่ะล่ะ แน่นอนผมทำไม่ได้ก็ยังคงมองกานต่อไปด้วยใจที่เจ็บๆ พอขึ้นม.3ก็ยังคงมองกานอยู่เหมือนเดิมจนถึงวันสอบกลางภาค ผู้ชายห้องผมสอบกับห้อง1เพราะห้อง1มีแค่20กว่าคนเอง ก็ดีดิคับสอบไปมองกานไปจนสอบไม่รู้เรื่อง555ล้อเล่นคับ ผมก็พอแบ่งเวลาเป็นอยู่ ผมก็แค่ลงมือทำข้อสอบให้สุดฝีมือแล้วก็รอกานเสร็จแล้วเอาข้อสอบไปส่งพร้อมกานจะได้เห็นกานชัดๆเพราะถึงจะสอบห้องเดียวกันแต่ห้องแม่งก็ใหญ่ไม่ไหนก็ไม่รู้ ผมก็เลยนั่งห่างจากกานมาก และช่วงที่จะเข้าห้องห้องสอบไปสอบวิชาต่อไป ผมกำลังรีบวิ่งเข้าห้องสอบผมก็เห็นกานเปิดประตูให้เพราะเวลาสอบเค้าจะปิดประตูเพื่อกันเสียงรบกวนและเราก็วิ่งเข้าห้องสอบด้วยกันตอนนั้นผมดีใจมากๆเหมือนสิ่งที่ผมหวังไว้จะมีโอกาสเป็นจริงแล้ว^^และช่วงรอสอบวิชาสุดท้ายผมก็เห็นไม่มีใครออกไปข้างนอกกันสักคน สงสัยวิชาสุดท้ายล่ะเลยขี้เกลียดวิ่งไปวิ่งมาคนอื่นๆเค้าก็นั่งลงกับพื้นจับกลุ่มคุยกันเรื่องสับเพเหระเพราะวิชาต่อไปไม่ค่อยเครียด ผมก็ไม่ค่อยอยากคุยกับใคร(นอกจากกานน๊ะ^^)ก็เลยนั่งบนที่สอบของผมและเหตุผลอีกอย่างที่ผมไม่อยากลุกก็คือ... กาน กานเข้ามานั่งตรงโต็ะหน้าผมไป2ตัวผมเองก็งงดิคับ และนั่นทำให้ผมเห็นกานแบบเต็มๆและผมก็สังเกตเห็นกานเค้าเหมือนแอบเลือบมามองผมด้วยผมก็ไม่ยอมให้โอกาสนี้หลุดมือผมรีบเอามือถือถ่ายรูปถึงไม่เห็นหน้าเพราะแอบถ่ายจากข้างหลังก็ไม่เป็นไรขอแค่รู้ว่านี่เป็นกานก็ดีใจแล้ว หลังจากนั้นผมกับกานก็ดูเหมือนจะสนิทกันมากขึ้นถึงผมยังไม่ค่อยกล้าคุยกับเค้าอยู่แต่สิ่งที่กานทำกับผมด้วยสายตาแปลกๆมันทำให้ผมรู้สึกได้ว่าเค้าก็รู้สึกดีกับผมเหมือนกันแต่มันก็แค่ความรู้สึกของผม ผมก็อาจคิดไปเองข้างเดียวรึเปล่าก็ได้จริงมั้ย?
บทที่2 ความรู้สึก
หลังจากนั้นผมก็เริ่มมีหวังมากขึ้น เมื่อวันหนึ่งไอ้เพรช(มันอยู่ห้อง3มันกับผมและกานเป็นเพื่อนกัน)มันถามผมว่ากลับบ้านทางไหน ผมก็ตอบไปว่าเดินออกไปสี่แยกอ่ะ แล้วมันก็ชวนผมไปบ้านกานไหม(จะเหลือหรอคับ โอกาสดีๆแบบนี้มีน้อย)มันบอกว่าทางไปบ้านกานทะลุไปถนนใหญ่ได้แต่แวะบ้านกานก่อน แล้วพวกเราก็รอกานเรียนเสร็จเพราะว่าห้อง1จะเรียนพิเศษเสริมอังกฤษเลยทำให้เลิกช้ากว่าห้องอื่น พอกานเรียนเสร็จพวกผมก็รีบไปลากตัวมาและก็ตรงดิ่งไปบ้านกาน ในกลุ่มนั้นทั้งหมดมี6คน(กะจะไปถล่มบ้านเค้าว่างั้น)ระหว่างทางผมก็ไม่ได้มองกานเพราะคนเยอะ ก็เลยมองไปรอบๆในที่ๆไม่คุ้นตาเอาซะเลย พอถึงบ้านกานบ้านก็ไม่ใหญ่มากมาย แต่ถ้าเข้าจะเล็กเป็นพิเศษ บ้าน2ชั้นเป็นปูนกับไม้ ปลุกต้นไม้ไว้เยอะเชียว แต่บรรยากาศดีมากๆ(แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีแค่ผมกับกาน555) พวกเราก็เอากระเป๋าไปไว้ตรงม้านั่งแล้วรีบเข้าบ้านกาน พอเข้ามาก็เห็นพ่อกาน พ่อกานหุ่นโครตน่ากอดอ่ะอวบๆลำ้ๆสูงขาว(เหมือนลูกหมีกับพ่อหมีถ้าให้เลือกคุณคิดว่าผมจะเลือกกอดใครคนแรกอ่ะ หึหึ)และยังมีพุงและหน้าอกอันหนาใหญ่ยิ่งทำให้อารมณ์ผมพุ่งพานไป กะว่าถ้าชีวิตจะตายก็ขอตายภายใต้ออมกอดของคนๆนี้555 ก่อนผมจะคิดไปไกลกว่านี้ก็รีบขึ้นตามพวกเพื่อนผมไปห้องกาน ห้องกานก็เล็กๆน่ะแต่ก็ดูสะอาดเรียบร้อยน่าอยู่ แถวตรงหัวเตียงกานจะมีช่องเก็บของอยู่และก็มีแต่พวกอาวุตต่างๆเช่นสารพัดมีด และปืนอีกกานก็บอกว่าอยากให้พ่อรู้น่ะ(แอบหรอมึงเดี๋ยวเจอกูต่อลองหรอ555) ห้องถัดไปก็เป็นห้องพระมีพระเยอะมากมาย พอเบื่อๆพวกเราก็ไปหาเครื่องมือออกกำลังกายต่างๆที่อยู่หน้าบ้านกาน ก็มีดัมเบว ที่ดึงข้อ ที่ยกนํ้าหนัก และที่ซิดอัพ พอเย็นเละพวกเราก็ย้ายกันกับบ้าน ผมกับเพรชก็เดินต่อไปถนนใหญ่เพื่อไปขึ้นรถเมย์กลับบ้าน และหลังจากนั้นผมก็เริ่มไปแวะบ้านกานเกือบทุกวันแรกๆก็จะมีพวกไอ้เพรชมาด้วยแต่หลังๆพวกมันติดเกมก็เลยทำให้ผมกับกานมีโอกาสกลับบ้านด้วยกันสองต่อสอง ระหว่างทางเดินทุกๆครั้งผมก็ไม่ค่อยได้คุยกับกานหรอแต่ผมก็ยังคงเห็นสายตากานที่เหลือบมองผมตลอดเวลาและทุกครั้งที่ผ่านหน้าบ้านกาน กานก็มักจะถามผมว่าไปนั่งเล่นในบ้านก่อนมั้ย บางทีผมก็เกรงใจเค้าก็เคยปฎิเสธไปบ้างแต่ส่วนมากผมก็ตอบตกลง พอมาถึงกานก็มักจะเอานำ้ขวดเล็กมาต้อนรับ เราก็พูดคุยกันเรื่องทั่วๆไป พอไม่มีอะไรพูดเหมือนหัวมันคิดอะไรไม่ออกนอกจากเวลานี้ขอได้อยู่ใกล้ๆกับคนนี้นานๆช่วงนั้นลมก็พัดมาทำให้เย็นทั้งกายทั้งใจและเหมือนชีวิตนี้มีแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ และมีช่วงหนึ่งผมก็นั่งสบายอารมณ์กันอยู่
ก็มีประโยคคำถามขึ้นมาว่า
"คิวชอบใครอยู่ป่ะ" กานถามพร้อมท่าทางยิ้มๆ
"ไม่รู้ดิ"ผมตอบด้วยความเขิลและไม่กล้าบอก
"ต้องมีแน่ๆแล้วอยู่ห้องไหน"กานตอบเหมือนในใจรู้ว่าเราชอบใครแต่แค่แกล้งไรเดียงสา
"ห้อง1อ่ะมีไรป่ะ"ผมตอบด้วยความกวนตีนตอบไปเพราะก็คิดในใจอยู่ว่าผมชอบกาน
"ไม่ใช้หรอกมั่งน่าจะเป็นห้องสองมากกว่า"กานตอบเหมือนกับว่าแกล้งให้ผมบอกกานไปตรงๆว่าผมชอบกาน
"ไม่รู้ดิ"ผมแกล้งหลอกให้กานสับสนเล่นๆ
"ต้องใช่ห้อง2แน่ๆเลย"ผมก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เค้างงจริงๆหรือแค่แกล้งงง
แต่ตอนนี้ใจผมไม่อยู่กับตัวตั้งแต่กานถามครั้งแรกล่ะและยิ่งต่อประเด็นนั้นอีก มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่ากานก็คงรู้สึกแบบเดียวกับผมทำให้ผมเริ่มมีความหวังเข้าไปอีก
และเมื่อถึงวันไปค่ายลูกเสือ ตอนไปเลือกที่นอน ผมก็ทำเป็นเลือกช้าๆ(กะพอไม่มีที่จะได้ขอกานนอนข้างๆ555) ความจริงผมก็อยากจะนอนกับกานแต่ผมก็ไม่ค่อยกล้าเท่าไร ผมเลยตัดสินใจเลือกที่มั่วๆไป(รำคาญกานด้วยเละไม่ยอมเลือกที่นอนสักทีและก็ไม่ยอมชวนด้วย งอนแล็ว) แต่กานก็ดันไปเลือกที่ฝั่งตรงข้ามผม(เออ อย่างน้อยก็ใกล้ๆกันให้อภัย555) ก็ดีดิคับจะได้แอบดูกานตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะเห็นอะไรดีๆ555แต่พอกานกำลังใส่เสื้อผ้ากานก็นุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่ ผมก็แอบๆมองไม่ให้กานรู้ตัว(ในใจก็ภาวนาให้ผ้าเช็ดตัวหลุด)แต่กานแม่งก็เสือกเห็นอีกกานก็บอกว่า
"มองอะไร ของมันก็เหมือนๆกัน"
ผมตกใจเว๋อเลยอ่ะคับและก็ทำเนียนแกล้งไม่สนใจ+ผมเขิลด้วยอ่ะ
ตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่ค่ายผมก็เอาแต่มองกานทั้งเวลากินข้าว เวลาทำกิจกรรม เวลานอน ผมมีความสุขมากๆก็เลยคิดเล่นๆไปว่าถ้าตอนนี้มีแค่เรา2คนก็คงจะดีน่ะ และตอนไปค่ายลูกเสือก็ทำให้ผมกับกานสนิทกันไปอีกขั้นหนึ่งคับ
พอตอนกลับจากค่ายกานเค้านั่งเบาะหน้าผมริมหน้าต่างผมก็แอบมองเค้าตรงเพดานรถตรงนั้นมันจะมองเห็นได้ และผมก็พยายามเอามือสอดไปข้างหน้าตรงข้างๆเบาะเพื่อจะแอบเต๊ะอ่างกาน สิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็คือกานเค้าก็มาสัมผัสแต่จะมาเป็นระยะๆผมรู้สึกดีมากๆจนอยากจะบอกกับกานว่าผมรักเค้ามากๆ แต่ความสุขก็ต้องเพียงแค่นี้เมื่อ เพ้น ผู้หญิงที่ผมคิดว่าเค้าชอบกานมานั่งข้างๆกานเพราะเพื่อนผู้ชายที่นั่งข้างกานเค้าลุกไปเต้นกันด้วยเพลงที่เปิดกันบนรถ ผมก็คิดว่าเพ้นจะมาจีบกาน ตอนนั้นผมรู้สึกไม่ค่อยดีในใจก็คิดเข้าข้างตัวเองว่ากานเค้าก็ชอบเราน่ะเค้าก็คงแค่พูดคุยกันเฉยๆ แต่ความจริงเมื่อคนต่างเพศอยู่ๆก็มานั่งด้วยกันมันก็มีแค่อยากเดียวคือ "เค้ารักกัน" และมือผมที่เคยถูกกานสัมผัสก็ไม่มีอีกแล้วตั้งแต่เพ้นเค้ามานั่งกับกาน ผมก็ทำตัวไม่ถูกครับก็เลยมองออกไปนอกหน้าต่างเผือจะทำให้ใจสงบได้บ้าง พอจบวันนั้นมันก็เริ่มมีอะไรแปลกๆเข้ามาที่ทำให้ผมเริ่มรู้สึกมากขึ้นว่ากานเค้าไม่ได้รักผม เช่นตอนที่ผมเดินกลับบ้านกลับกานผมเห็นกานเค้าถือกระเป๋าเคียง ผมก็แปลกใจปกติเข้าใช่เป๋าเป้น่ะ
"กานเอาเป๋าใครมาอีกล่ะ"ผมถามด้วยความสงสัย
"เป๋าเพ้นอ่ะ"กานตอบแบบไม่ลังเล
ผมก็รู้ทันทีว่ากานกับเพ้นเค้าแลกกระเป๋ากัน(โรแมนติกเชียวน่ะมึง แลกกระเป๋ากันเอาไปนอนกอดอ่ะดิ) และอีกตอนที่ผมกำลังเดินกลับกับกานผมกับกานก็เห็นบุหรี่อยู่ม้วนหนึ่งยังไม่ได้ใช่เลยครับ กานเข้าก็หยิบขึ้นมา ในใจผมก็บอกว่ากานอย่าน่ะกานอย่าเอามันไปเลย
และกานก็พูดขึ้นว่า"คิดว่าจะสูบหรอ ไม่หรอกตอนนี้กูเลิกเพื่อมัน และมันก็เลิกเพื่อกู"
ผมก็คิดอีกว่า เฮ้ย!กูก็ไม่ได้ดูดบุหรี่น่ะ และทำให้ผมเริ่มรู้ว่ากานเค้าไม่ได้รักผมจริงๆ แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้ผมเลิกรักกาน ถึงจะมีก็แค่นิดหน่อยแล้วก็หายไป อาจเป็นเพราะผมได้กลับบ้านพร้อมกานทุกวันไปแวะนั่งเล่นชมนกชมไม้ ดื่มนำ้ขวดเดียวกันกับกานที่บ้านกาน มันก็เลยทำให้ผมคิดว่าผมยังสำคัญกับกานอยู่และความรู้สึกกับสิ่งที่กานทำกับผมก็ยิ่งทำให้ผมเข้าใจไปอีกว่ากานก็รักผมเหมือนกัน จนวันหนึ่งผมเผลอใจไปกับสิ่งเหล่านี้คือวันนั้น เพื่อนๆในห้องให้เขียนวันเกิดของตัวเองลงไปในใบรายชื่อของห้อง ผมก็เขียนวันเกิดตัวเองและ! ผมก็เผลอเขียนวันเกิดกานไปด้วยและบอกด้วยเป็นวันเกิดแฟน(เคยแอบถามกานอยู่)ผมก็คิดในใจว่าคงไม่มีใครรู้หรอก แต่พอเพื่อนผู้หญิงมันเอาใบรายชื่อไปดูมันก็รู้ทันทีว่ามันคือวันเกิดกาน ผมเว๋อมากๆตอนนั้นผมก็คิดว่าเค้ารู้ได้และอีกอย่างผมเขียนว่าวันเกิดแฟนถ้ากานรู้ผมไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะเป็นอะไรขึ้น พอตอนคาบลูกเสือ(`ตัวเงินตัวทอง`ทำไมต้องเป็นวันที่เรียนลูกเสือด้วย)มันก็จะได้เรียนกับห้อง1ด้วย ผมก็ภาวนาว่าอย่าให้มีใครปากหมาไปบอกกานเลยน่ะ และแล้วเพื่อนสนิทผม2คนที่อยู่ห้องเดียวกับผมมันก็คาบข่าวไปบอกกาน พอผมได้ยินมันบอกผมไม่กล้ามองหน้ากานเลยครับและผมก็ลองไปถามไอเพื่อนสนิทผมที่คาบข่าวไปบอกกานว่ากานเค้าพูดไงบ้าง มันก็บอกว่ากานบอกมาว่ากานไม่เชื่อ แต่ตอนนั้นผมรู้ทันทีเลยว่ากานเค้าเชื่อ100%แน่ๆและหลังจากนัินผมกลัวว่าเรื่องผมกับกานจะแพร่ไปไกลเพื่อปกป้องชื่อเสียงของกานผมเลยเริ่มเป็นคนตีตัวห่างจากกาน ละหลังจากนั้นผมกับกานก็ห่างกันทุกทีๆ ผมก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านพร้อมกานและกานก็ไม่ค่อยทักผมเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ยอมเปลี่ยนคือผมก็ยังคงแอบมองกานอยู่เรื่อยๆเหมือนเดิม ผมก็เคยสืบสถานการณ์ฝั่งกานบ้างว่าเป็นไง ก็ได้ข่าวว่ากานมันไม่ค่อยอยากยุ่งกับผมเพราะมันไม่ค่อยชอบให้ใครมาล้อมัน ผมก็น้อยใจนิดหน่อยที่กานพูดอย่างนั้นกับเพื่อนของกาน จนทำให้ผมก็รู้ว่าตัวเองคิดถูกแล้วล่ะที่เป็นคนห่างจากกานเองอย่างน้อยๆก็ทำให้เรารู้สึกว่ากานไม่ได้เป็นคนจากเราไป หลังจากนั้นพอขึ้นม.4ผมก็ได้ข่าวแล้วว่ากานกับเพ้นได้เป็นแฟนกันแล้ว คือตอนนั้นม.4ก็จะเลือกโครงสร้างการเรียนล่ะที่ผมเลือกเรียนอยู่ห้อง1คือห้องวิทย์/คณิตเพราะผมคิดว่าผมเรียน2วิชานี้ไปได้ลอดที่สุด555และก็มีกานด้วย และกานกับเพ้นก็อยู่ห้อง1เหมือนกัน ก็คงไม่ต้องบอกเหตุผลซิน่ะว่ามำไมเพ้นถึงเลือกห้อง1 ส่วนกานก็เหตุผลเหมือนกันกับผมคือวิชาอื่นไปไม่ลอดนอกจาก2วิชานี้ ตั้งแต่ผมรู้ว่ากานเป็นแฟนกับเพ้นผมก็คิดในใจว่าตัวเองน่าจะไปต่อโรงเรียนอื่นจะได้ไม่ต้องเจออะไรแบบนี้ และตลอดเวลาที่กานกับเพ้นคบกันผมก็เจ็บหน่อยๆและก็ยังภาวนาในใจอีกว่าขอให้เลิกกันไว้ๆน๊ะ^^ แต่ความรู้สึกตอนที่ผมได้ใกล้ชิดกับกานในวันวานผมว่ามันมีค่ามากๆน่ะถึงจะเป็นแค่เวลาที่ไม่ได้นานมากมายแต่อย่างน้อยก็ทำให้คนๆหนึ่งได้รู้ว่าความสุขของความรักมันสุขมากแค่ไหน และทุกข์จากความรักมันเจ็บปวดทรมานใจแค่ไหน ถึงผมจะรู้สึกได้ว่ากานเค้าก็รู้สึกดีกับผมอยู่แต่แค่กานคงยังไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่ผมมอบให้เค้า และผมก็มั่นใจว่าผมก็เคยเป็นตัวเลือกของกานแต่แค่กานตัดทิ้งไปแต่แรก และถึงสุดท้ายผมกับกานจะจากกันแต่ผมว่าเราสองคนก็คงจะไม่ลืมช่วงเวลาที่ข้ามผ่านมันไปอย่างยากเย็น ผมก็อยากขอบคุณฟ้าที่ทำให้ผมได้พบกับกานถึงจะต้องเสียทั้งใจและนำ้ตามาแลกเปลี่ยนแต่ก็ทำให้ผมรักคนเป็น และผมก็จะขอรักเค้าตลอดไป รักกานน่ะ^^
บทที่3 รัก กับ ชอบ
ถึงผมจะรู้ว่ากานเป็นแฟนกับเพ้นอยู่แต่ผมก็ยังคงแอบมองเค้าอยู่เสมอ ผมก็งงๆอยู่สงสัยผมยังรักเค้าอยู่มั่ง^^ และเมื่อวันไปสอบเข้าร.ด. ผมก็ยังกลัวๆว่าจะไม่ผ่าน แต่ผมก็ผ่านวิดพื้นกับซิดอัพได้ แต่พอมาถึงวิ่ง(กี่เมตรไม่รู้ จำไม่ได้แต่เอาผมเกือบตาย) ผมก็วิ่งไปด้วยความเร็วสุดตัว(กะจะนำเป็นจ๋าฝูง555)แต่พอผ่านไปความเร็วผมก็ตกอย่างเห็นได้ชัดจนผมเริ่มหอบ(ผมเป็นคนเหนื่อยง่าย)จนไปไม่ไหวแต่ก็พยายามกัดฟันวิ่งถึงจะรู้หมดเวลาแล้วก็ตาม พอผมรู้ว่าตกล่ะผมก็เดินไปหากานที่กำลังหน้าเศร้าๆที่ตกวิ่งเหมือนผม ผมก็ทำได้แค่ปรอบใจและเราก็ต้องกลับบ้านด้วยความผิดหวัง555 ตอนกลับผมก็นั่งแทกซี่กับกานกับเพื่อนอีก2คน(555อย่างน้อยๆก็ได้นั่งกับกานเนอะ) และเมื่อวันไปสมัครร.ด.รอบสอง(พอดีอาจารย์โรงเรียนผมมีเส้นก็เลยทำให้มีคนไปรอบ2เยอะอยู่) ระห่างนั่งรอเค้าเก็บเงินผมก็เห็นคนๆหนึ่งเป็นเด็กม.4โรงเรียนเดียวกับผมคนหนึ่งและไม่ใช่เด็กเก่าด้วยคับ สไตล์ที่ทำให้หัวใจผมสลายอีกแล้วอ่ะ-0- เค้าก็ขาวๆอวบๆน่าตาก็น่ารักดี(แต่ถ้าเทียบกับกาน กานเซ็กซี่กว่าเยอะ555) ผมเห็นเค้าก็ยังไม่รู้จักหรอก ก็แค่กะจะมองเล่นๆฆ่าเวลาไปเฉยๆ จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เค้าให้ถอดเสื่้อแล้วใส่เสื้อร.ด.และถ่ายรูปไว้ทำบัตรร.ด.ผมก็เห็นอะไรดีๆด้วยระหว่างที่ผมกำลังเค้าไปใส่เสื้อร.ด. ผมก็เห็นคนน่ารักคนนั้นเดินสวนมาตอนถอดเสื้อ ผมก็เห็นหุ่นอันน่ากอด ขาวๆน่าอกน่าบีบไม่ใช่น้อย555(แต่ยังไงความเซ็กซี่ก็ยังคงสู้พ่อกานไม่ได้อยู่ดี555) บอกตรงๆคับวันนั้นถึงจะมีคนน่ารักมาใหม่แล้วทำให้ผมหวั่นไหวแต่มันก็ยังคงไม่ทำให้ผมเลิกคิดถึงกานได้เลย ต่อมาผมก็เริ่มสืบว่าเค้าเป็นใครจนรู้ได้ว่าเค้าชื่อ ไอซ์ อยู่ห้อง3 และไปๆมาๆ รู้ตัวอีกทีผมก็ชอบเค้าไปแล๊ะ แต่พออยู่ในห้องเรียนผมก็ยังคงที่จะมองกานที่มีเพ้นอยู่ข้างๆถึงจะเจ็บแต่ก็ดีน่ะ อย่างน้อยๆเค้าก็ไม่สูบบุหรี่เหมือนแต่ก่อนล่ะ และเมื่อเค้ามีความสุขก็ได้เวลาที่ผมจะออกไปยื่นห่างๆเค้าได้แล้วล่ะ โชคดีน่ะกาน (คำอวยพรว่าโชคดีน่ะเป็นคำที่กานมักจะบอกกับผมก่อนที่ผมจะออกจากบ้านกานเสมอๆ ตอนนี้ผมคงได้ใช้มันบางแล้วล่ะ)
และยิ่งนับวันพอผมตัดใจจากกานได้ผมก็เอาแต่เพ้อถึงไอซ์ ขนาดผมเขียนลงไปในหนังสือเรียนทั้งของผมและของเพื่อนสนิทคนใหม่ มันชื่อว่า เหลียง ผมรู้จักกับมันก็เพราะการ์ดยูกิ เล่นเริ่มเล่นกันก็ตอนม.2 และเราก็สนิทกันมาเรื่อยๆ และพอนานไปไอ้เหลียงคงทนไม่ไหวที่ผมเอาแต่เขียนว่า "รักไอซ์4/3" จนมันมีคำนี้ในหนังสือเกือบทุกเล่ม มันก็เลยมาบอกเพื่อนในห้องผมว่าผมชอบไอซ์ เพื่อนๆมันก็แซวกันใหญ่ว่าคนไหน พอเพื่อนผมมันสืบไปสืบมาก็มารู้ว่าไอซ์4/3นี่มันผู้ชายนิ ผมก็แก้ข่าวไปว่า ผิดห้อง(ไอซ์ในม.4มี2คน ผู้หญิงอยู่4/4กับผู้ชายอยู่4/3) และพวกมันก็เชื่อ(รอดตายไปตู) และข่าวที่ว่าผมชอบไอซ์4/4ก็แพร่กะจายไปอย่างรวดเร็ว(`ตัวเงินตัวทอง`เอ๋ย ถ้าเป็นไอซ์4/3คงดังกว่านี้แน่555) อาจเป็นเพราะไอซ์4/4สวย เซ็กซี่ น่าอกใหญ่ ก็เลยทำให้ดังบวกกับผมเป็นคนติ๋มๆใส่แว่นเหมือนเด็กเรียนและคนคงคิดว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่เด็กเรียนจะมีความรักมั้ง555 ผมก็ไม่รู้สึกกับข่าวสักเท่าไรดีออกเรื่องผมกับไอซ์4/3จะได้ไม่มีใครรู้ และไม่นานผมก็ได้เบอร์ไอซ์4/3มาจากไอ้กอล์ฟ ไอ้กอล์ฟมันเป็นคนเดียวที่ผมจะบอกว่าผมชอบใคร อาจเป็นเพราะมันเข้าใจผมมั่งมันยังเคยบอกกับผมเลยว่า "ผมไม่เหมือนพวกที่ชอบผู้ชายคนอื่น ผมดูเหมือนผู้ชายปกติมากกว่า" (ก็แน่นอนดิผมเป็นผู้ชาย แต่แค่เป็นโรคภูมิแพ้ แพ้คนอวบๆน่ากอดน่ารัก555 ก็มันจริงนิ) พอหลังได้เบอร์ไอซ์ ผมก็ส่งข้อความไปเป็นปรึศนาให้เค้าทายว่าผมชื่ออะไร และพอผ่านไป2วันไอซ์ก็โทรมา ตอนนั้นผมตกใจมากผมก็กลัวๆไม่ค่อยกล้าคุยเลยให้น้องผมรับแทน พอรับสายไอซ์มันก็ถามผมว่าชื่อคิวป่ะ(ผมงงมากมันรู้ได้ไง สงสัยปรึศนาผมจะง่ายไป555) และมันก็บอกว่าเสียงเหมือนทอม(ก็แน่ดิไม่ใช่เสียงกู แต่ว่าเสียงน้องกูเหมือนทอมหรอว่ะ555น้องกูเป็นผู้ชายเว้ย)
ผมก็ให้น้องคุยไป น้องผมก็คุยจริงๆคับอยู่ๆก็เมืองเวทมนตร์ ม้าบิน ไม้กวาดบิน จากไหนก็ไม่รู้(น้องผมมันพาไปนอกเรื่องได้เก่งมาก)จนไอซ์มันบอกว่าไรสาระ แต่ผมฟังจากนำ้เสียงไอซ์ดูมันก็น่าจะมีความสุขอยู่บ้างละ จากนั้นผมกับมันก็ส่งข้อความคุยกัน มันก็เอาแต่ถามผมว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ผมก็ตอบว่าเป็นผู้ชาย ผมไม่อยากโกหกมัน อีกอย่างผมก็เคยบอกมันไปตั้งหลายครั้งว่าผมเป็นผู้ชายแต่มันก็เหมือนไม่ค่อยเชื่อ คงเป็นเพราะเสียงน้องผมมั่งเลยทำให้มันเชื่อว่าผมเป็นทอมมากกว่า
และจนสุดท้ายไอซ์ก็ส่งมาว่า ไอซ์ไม่ได้ชอบผู้ชายแต่ชอบผู้หญิงมากกว่า ผมก็อึ้งนิดหน่อยแต่ก็ทำใจได้ ใช่เวลาไม่มากหรอกแต่ก็คงอาการเดิมที่ยังแอบมองเค้าอยู่ แต่ความรู้สึกมันไม่ได้เสียใจอะไรมากมายเหมือนกาน คงเป็นเพราะผมชอบไอซ์มากกว่าที่จะรักมั่ง เลยทำให้ผมไม่ได้เสียนำ้ตา แต่กับกานแค่คิคถึงเรื่องเก่าที่ผ่านมาตอนก่อนนอน นำ้ตาก็เลอะเต็มหมอนหมดเลย และจุดนี้มันก็ทำให้ผมเข้าใจในความรักอีกก้าวหนึ่งว่า ชอบเร็ว เจ็บน้อย จบง่าย แต่ว่ารักนาน เจ็บมาก จบยาก หลังจากนั้นหัวใจผมก็ยังคงเลือกที่จะแอบมองคนที่เคยมานั่งเล่นในหัวใจผม คงเป็นเพราะหาทางไปต่อไม่เจอ
จนวันหนึ่ง ผมลองมองไปตรงข้างน่าผม และเจอใครบ้างคนที่นั่งตรงว้ามหน้าผม พอผมมองเค้าก็รู้สึกอบอุ่น อยากจะดูแลเค้าซะแล้วซิ
จะว่าไปความสัมพันธ์ของผมกับเค้าจะเป็นคนรู้จักก็ไม่ใช่ ไม่รู้จักก็ไม่เชิง และเค้าทำให้ผมรู้ว่ายังมีคนๆหนึ่งที่ยังมีให้ผมรักอีกคน
บทที่4 เสียงที่คุ่นเคย
พอหลังผมกลับจากเรียนร.ด.พอดีวันนี้เลิกเร็ว ผมก็รีบตรงดิ่งกลับโรงเรียน คนอื่นๆเค้าแวะไปเล่นเกม ไม่ก็ไปแทกสนุ็กก่อนค่อยเข้าโรงเรียน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรีบขนาดนี้ พอไปถึงผมก็เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งเป็นเด็กม.1กำลังเล่นการ์ดยูกิอยู่ ผมก็เข้าไปแจมดิ(บอกตรงคับเด็ดน้องเค้าอ่อนมาก สงสัยเป็นเด็กก็เลยไม่ค่อยจัดเด็ดให้มีเหล์เหลียมเหมือนผม555) พอผมไปถึงก็เห็นเด็กคนหนึ่งที่ผมแอบกด Like ตั้งแต่เห็นครั้งแรกล่ะ ก่อนน่านั้นความรู้สึกชอบคงไปอยู่ที่ไอซ์หมดเลยมั่งเลยไม่ค่อยสนใจเด็กคนนี้เท่าไร น้องเค้าชื่อฟิว(ผมไม่ได้ถามน่ะแต่แอบฟังจากที่เพื่อนน้องเค้าเรียกเค้า) หุ่นก็สไตล์เดิมครับ(ก็หุ่นมันน่ารักอ่ะ) อวบๆ น้องเค้าเป็นคนขาวมากครับผมแอบเห็นจากขาเค้า แต่ส่วนบนคงโดนแดดเลยคลำ้แต่ก็พอมีความสูงอยู่ แต่ใบหูน้องเค้าน่ากัดมาก ใบหูนหนาใหญ่ติ่งหูยาว เป็นคนที่หูน่ารักที่สุดที่เคยเห็นคับ พอผมมองน่าน้องเค้าก็ทำให้รู้ทันทีว่า ผมยังเหลือคนให้รักอีกคนน่ะ ก่อนน่านั้นผมก็แค่เห็นเด็กเล่นการ์ดผมก็เลยอยากแจม พอเห็นน่าน้องเค้าในใจก็บอกว่า เออ เด็กคนนี้ก็น่ารักดี แต่ก็ไม่ค่อยใส่ใจ แต่ทุกครั้งก็มักจะแอบมองน้องเค้าเสมอๆก็ไม่รู้ทำไม และยิ่งพอเล่นการ์ดด้วยกันบ่อยๆก็ยิ่งทำให้ผมรู้จักนิสัยน้องเค้ามากขึ้น ฟิวเค้าเป็นเด็กไร้เดียงสา มีอะไรก็เออออไปตามคนอื่นไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง และน้องเค้าน่ารัก+ผมไม่เหลือใครแล้ว ยิ่งทำให้ผมอยากจะรู้จักกับคนขึ้นมาจริง ทุกๆครั้งที่ผมเล่นการ์ดกับน้องเค้าบอกตรงๆมีความสุขมาก แต่ผมก็มักจะชนะเสมอ พอเล่นกันเป็นทีมผมก็รีบอยู่ทีมเดียวกับน้องเค้าเสมอ555 และยิ่งเวลาผ่านไปนานๆก็เหมือนฟ้าจะจงใจให้ผมกับฟิวพัฒนาความสัมพันธ์ จากคนที่ไม่รู้จักกันกลายมาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน และสุดท้ายก็กลายมาเป็น......คนที่คิดว่าสำคัญต่อกัน
ผมไม่รู้จะเข้าหาฟิวยังไง ก็เลยทำแค่เข้าไปเล่นการ์ดกับเค้าเฉย และอยู่ๆวันหนึ่งผมกำลังเดินไปอย่างเซ็งๆผมก็ได้ยินเสียงใครบางคนที่ผมอยากได้ยินมากที่สุด
"พี่คิวคับ หวัดดีคับ" ปกติฟิวเค้าจะพูดทักผมทุกครั้งแต่ทำไมวันนี้มันดูน่ารักผิดปกติ พอผมได้ยินเสียงผมก็รีบหันไปมอง ฟิวเค้าไม่ได้ยกมือไหว้เหมือนทุกครั้งแต่เค้าหวัดดีแบบทหาร(แบมือ4นิ้ว ไว้ตรงคิ้ว)
"`เอา`เข้น่ารักสัส" ผมคิดในใจที่มันละลายเรียบร้อยไปแล้วเพราะความน่ารักของเด็กคนนี้ พอหลังจากที่ผมได้ยินเสียงนี้มันทำให้ผมเหมือนได้พรจากสวรรค์ ที่ทำให้ผมมีชีวิตใหม่
หลังจากนั้นฟิวก็ทักผมทุกครั้งด้วยท่านี้ทุกครั้ง ผมก็เอาแต่พยักค์หน้าเพื่อตอบรับเพราะผมเขิลจนพูดไม่ออก และยิ่งนานเข้ามันก็ยิ่งทำให้ผมคิดไปไกลว่า ทำไมเค้าถึงทักแต่เราทั้งที่ก็มีรุ่นพี่เล่นการ์ดกับฟิวก็หลายคน และทำไมเค้าไม่หวัดดีเฉยๆแต่หวัดดีแบบน่ารักๆ+กับนำ้เสียงที่บอกว่ามีความสุขมากๆน่ะ ทั้งหมดก็เลยทำให้คิดว่า "เราคงเป็นคนสำคัญของฟิว"
แต่ผมก็ยังเผื่อใจให้ความผิดหวังอยู่บ้างเพื่อจะได้ไม่ต้องเจ็บหนัก วันสุดท้ายก่อนปิดเทอม
ที่ผมเจอฟิวก็ตอนจะไปสอบเคมี ผมก็เห็นฟิวเดินมาพร้อมกับคำทักทายคำเดิมที่ฟังกี่ทีก็รู้สึกดี และก็จากไป ช่วงระหว่างปิดเทอมเป็นช่วงที่ผมอย่างให้มันผ่านไปให้เร็วที่สุดเพราะทุกๆวันเอาแต่คิดถึงฟิว และวันก่อนวันเปิดเทอม1วัน ผมก็ได้ไปว่ายนำ้เพราะไม่ได้ว่ายนานแล๊ะอยากออกกำลังกายบาง ผมว่ายเป็นแต่ก็ไม่ค่อยเก่งแถมท่าว่ายก็ไม่เป็นท่าเพราะผมว่ายด้วยตัวเองมาตลอดไม่มีใครสอน ผมก็ลองจะว่าย50เมตรแบบไม่พักเพราะปกติผมจะว่ายและพักตลอดก็ผมมันเป็นคนเหนื่อยง่ายอ่ะ ผมก็จิตนการว่าข้างหน้ามีฟิวรอเราอยู่น่ะ ผมก็เลยฮึดว่ายไประหว่างนั้นก็คิดไปว่าฟิวรอเราอยู่น่ะ จะให้รอนานไม่ได้ และแล้วผมก็ว่าย50เมตรแบบไม่พักได้และผมก็ทำไปหลายๆรอบจนมาอยู่รอบนึก อยู่ดีๆระหว่างจิตรนาการว่าฟิวรออยู่ข้างน่าอยู่ๆก็มีใครบางคนเข้ามาในจิตรนาการผมอีกคน ฟลุ๊ค เค้าคนนั้นชื่อฟลุ๊คเป็นเด็กม.1เหมือนฟิว ผมก็รู้จักเค้าตอนเล่นการ์ดแต่ตอนนั้นผมยังไม่ค่อยรู้สึกอะไรกับฟลุ๊คมาก ก็แค่ในใจบอกว่าเค้าน่ารักดีเนอะ(หัวใจเอาอีกแล้วหรอ)
หลายๆคนคงงงว่าอยู่ดีๆฟลุ๊คมาจากไหน ผมก็งงเหมือนกันว่าดูดีๆคิดถึงเค้าได้ไง แต่ก็จะรู้เองตอนหน้าน่ะ
ในที่สุดเช้าวันเปิดเทอมในคาบนักเรียนม.5ก็มาถึง เช้าวันนั้นผมก็เอาแต่มองหาฟิวแต่ก็ไม่เจอ ผมก็เลยภาวนาในใจขอให้ฟิวทักผมเหมือนเมื่อก่อน และแล้วผมก็เดินผ่านใครผ่านคนที่คุ้นๆ
อ้าว!นั้นฟิวไม่ใช่หรอ แต่ทำไมเค้าไม่ทักเราอ่ะ ผมก็คิดในใจว่าเค้าคงไม่เห็นมั่งหรือไม่ก็เห็นแต่ไม่กล้ามาทักก็ได้ และทุกๆครั้งที่ผมเดินสวนกับฟิวผมก็ไม่เคยได้ยินเสียงที่ผมอยากได้ยินมาต ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ โฮ้ น่าติดตาม{:5_146:} รักเล็กๆ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับผม เยี่ยม ขอบคุณมากนะครับ{:5_130:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]