Medmayom โพสต์ 2012-5-29 07:54:25

ตามไปดู โครงการพระราชดำริ แหลมผักเบี้ย


ตามรอยโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ตอน โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย

ผักเบี้ยทะเล สัตว์นานาชนิด ป่าชายเลนที่แสนอุดมสมบูรณ์ และ 4 ระบบบำบัดน้ำเสียให้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ ตามพระราชดำริแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

http://sin.stb.s-msn.com/i/3F/F844AEE728664FBF64E72FD52BE9.jpg


ตามรอยโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ตอน โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เพชรบุรี
จ.เพชรบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่จำได้ว่าไปบ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นทะเลปึกเตียน หาดเจ้าสำราญ และหาดชะอำ แต่พอศึกษาจริงๆ และตั้งใจที่จะไปจังหวัดนี้อย่างจริงจัง ทำให้ฉันพบว่าเราพลาดสิ่งดีๆ ไปหลายอย่าง โดยเฉพาะป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์และแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติที่ดีที่สุดของ จ.เพชรบุรี โดยเฉพาะโครงการฯ แหลมผักเบี้ยฯ ที่เราตั้งใจว่า จะไปให้เห็นป่าชายเลนที่แสนอุดมสมบูรณ์ และทำความเข้าใจว่า ป่าชายเลน คือ สถานที่บำบัดน้ำเสียที่ดีที่สุด ก่อนที่น้ำนั้นจะไหลลงสู่ทะเล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ได้มีพระราชดำริขึ้น เพื่อประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง
http://sin.stb.s-msn.com/i/5A/7F2479955E777DF9C842E81652E61E.jpg


4 ระบบบำบัดน้ำเสียให้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ ตามพระราชดำริแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
คุณอัญชลี วรรณพุก วิทยากรในโครงการฯ ได้อธิบายว่า ที่มีโครงการแห่งนี้ เพราะสมัยก่อนที่นี่จะพบกับปัญหาน้ำเสีย ถึงขนาดใช้น้ำไม่ได้เลย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์ทรงมีพระราชดำริจัดตั้งโครงการแห่งนี้ขึ้น เพื่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งมีด้วยกันถึง 4 ระบบ คือ ระบบแรก คือ บ่อบำบัดน้ำเสีย เวลาที่มีน้ำเสียไหลมา แต่ละบ่อก็จะไหลล้นผ่านอาคารระบายน้ำด้านบน และเชื่อมต่อกันทางตอนล่างของบ่อถัดไปเป็นลำดับ ก่อนที่จะนำคืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ระบบที่สอง คือ ระบบพืชและหญ้ากรองน้ำเสีย ซึ่งให้พืชช่วยบำบัดนำเสียโดยการให้น้ำเสียไหลผ่านแปลงหญ้า และหญ้าที่ดีที่สุดก็คือ หญ้าธูปฤาษี ที่ช่วยปล่อยออกซิเจนจากรากลงไปเติมน้ำให้กลายเป็นน้ำดีได้ และเมื่อครบ 90 วันก็จะตัดพืชออก พอตัดแล้วก็นำไปให้กลุ่มแม่บ้านทำเครื่องสาน เพื่อเพิ่มประโยชน์และสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้านได้
ระบบที่สาม คือ ระบบพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม กลไกก็จะคล้ายกับระบบพืชและหญ้ากรอง แต่จะแตกต่างกันด้วยวิธีการ และ ระบบสุดท้าย คือ ระบบแปลงพืชป่าชายเลน โดยการให้ธรรมชาติบำบัดด้วยตัวของมันเอง ตามระยะเวลาการขึ้นลงของน้ำทะเลในแต่ละวัน อาศัยระบบรากของพืชป่าชายเลน ช่วยปล่อยก๊าซออกซิเจนเติมให้กับน้ำเสียและจุลินทรีย์ในดิน และชาวบ้านจะไม่เข้ามายุ่ง เพราะเป็นพื้นที่ของงานวิจัย และเมื่อมีโครงการฯ เข้ามาชาวบ้านก็จะเริ่มอนุรักษ์ โดยการไม่ปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำ หรือว่าถ้าเขาจะปล่อยก็จะใช้ผ่านถังดักไขมัน หากบ้านไหนยังไม่มี ชาวบ้านจะมารับถังดักไขมันที่โครงการฯ ได้ค่ะ
http://sin.stb.s-msn.com/i/C1/76AA157128B57E07C7492D344BE8D.jpg


ผักเบี้ยทะเล สัตว์นานาชนิด และป่าชายเลนที่แสนอุดมสมบูรณ์
ไฮไลท์สำคัญของการมาเยือนที่นี่ นอกจากจะได้รับความรู้เรื่องของการบำบัดน้ำเสียด้วยธรรมชาติแล้ว คุณอัญชลีชี้ให้เราดู ผักเบี้ยทะเลของจริงที่ขึ้นอยู่เต็มรอบๆ ป่าชายเลนรอบนอก คุณอัญชลีบอกว่า สมัยก่อนที่นี่ ผักเบี้ยทะเล ขึ้นเยอะมาก ก็เลยได้ชื่อว่า แหลมผักเบี้ยนั่นเอง จากนั้นคุณอัญชลีนำเราเดินเข้าไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนระยะทางประมาณ 850 เมตร สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นโกงกางและต้นแสมน้อยใหญ่ ปลาตีนตัวเบ่อเริ่ม ปูแสม ปูก้ามด้าม นกนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นนกเด้าดิน นกเด้าลม นกยางเปีย และอื่นๆ อีกมากมาย โดยที่นี่ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 10 แหล่งดูนกที่ดีที่สุดของประเทศ และมีแหลมทรายยาวประมาณ 3 กิโลเมตร กั้นระหว่างหาดโคลนกับหาดทราย ซึ่งคุณอัญชลีบอกว่า ที่นี่คือ ทรายเม็ดแรก ของอ่าวไทยตอนบนเลยก็ว่าได้
เราเดินชมธรรมชาติกันเรื่อยๆ บนสะพานไม้ที่ทอดยาว และขึ้นไปดู หอภูมิทัศนา ที่ทำให้เราเห็นว่า เรือนยอดของต้นโกงกางและต้นแสมได้เจริญเติบโต พร้อมทำหน้าที่ของมันได้แค่ไหนแล้ว สีเขียวของเรือนยอดต้นโกงกาง ตัดกับสีฟ้าอ่อนๆ ของท้องฟ้า ลมเย็นเบาๆ พัดผ่าน อยากให้ป่าชายเลนของบ้านเราในทุกๆ ที่ อุดมสมบูรณ์แบบนี้บ้าง ระหว่างที่เราเดินลองฟังดีๆ จะได้ยินเสียงเหมือนคนดีดนิ้วเป็นระยะๆ คุณอัญชลีบอกว่า นั่นคือ เสียงของกุ้งดีดขัน เวลาที่มันดีดตัวเพื่อเคลื่อนตัวเองอยู่บริเวณโคลนนั่นเอง คุณอัญชลีบอกเพิ่มเติม เมื่อเดินผ่านต้นแสมว่า หากมาในช่วงที่ดอกแสมบาน ที่แห่งนี้จะหอมกลิ่นดอกแสมมาก และแล้วเราก็เดินมาถึงปากทางของป่าชายเลน เจอเวิ้งทะเลโคลน ที่มีชาวบ้านลงไปเก็บหอยแครง ซึ่งจะได้ราคาดี และหอยตลับตัวอ้วน หาปูทะเล เพื่อนำไปขาย สร้างรายได้ให้กับครอบครัว
http://sin.stb.s-msn.com/i/45/F8ECCF9C49D60B494DB8438E27E.jpg


ขากลับสามารถแวะซื้อของที่ระลึกจากโครงการฯ หรืออุดหนุนงานสานจากหญ้าธูปฤาษีของกลุ่มแม่บ้านได้ที่ร้านจำหน่ายของที่ระลึกบริเวณหน้าโครงการฯ ได้ และมีสินค้าอื่นๆ ให้เลือกซื้อ อาทิ เสื้อยืด หมวกสาน ผลไม้อบแห้ง และโปสการ์ด คราวหน้าใครไปเพชรบุรี อย่าลืมแวะไปที่นี่นะคะ ความรู้และความสวยงามของธรรมชาติรอคุณอยู่ค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม : โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อม แหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
โทร. 0 3244 1264-5 www.lerd.org ที่นี่ไม่เสียค่าใช้จ่าย หากต้องการที่จะเข้ามาชมป่าชายเลน สามารถแจ้งยามหน้าโครงการฯ และเข้ามาชมได้เลย หากมาเป็นคณะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า
ขอขอบคุณ
อ.ทัศนีย์ บุญประคอง หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมเผยแพร่ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อม แหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
คุณอัญชลี วรรณพุก เจ้าหน้าที่สถิติ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อม แหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

เรื่อง : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ / ภาพ : กฤตภาส สุทธิกิตติบุตร

dgb โพสต์ 2012-5-29 16:02:58

ขอบคุณมากครับ

nomoney โพสต์ 2012-5-29 16:25:41

ขอบคุณครับว่างๆจะไปเที่ยว

chabar0607 โพสต์ 2012-6-11 06:46:01

ขอบคุณมากมาก
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ตามไปดู โครงการพระราชดำริ แหลมผักเบี้ย