ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 654|ตอบกลับ: 10

++ จะขอเก็บไว้ในความทรงจำ ++ $ 4

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

“นั่นสิ มันเป็นอะไรของมัน” ปอหันกลับไปมองตามหลัง ตั้ม ด้วยความสงสัย “แล้วมันบ่นอะไรของมันวะ”ปอหันกลับมามอง ราญ ด้วยความสงสัย
“มันกำลัง บ่น ว่า .......อุบัติเหตุครับครู ผมขัดขาตัวเองล้มครับครู….. นี่แหละคำพูดที่มันกำลังวนไปวนมาอยู่ในหัวมันตอนนี้” ราญ พูดพลางมอง ปอ ด้วยสายตาดุๆ เน้นคำว่า บ่น เป็นพิเศษ “เรารู้เพราะตอนเราทำแผลให้ ตั้ม เราพยายามฟังว่า ตั้ม พูดอะไรอยู่”ราญ เว้นระยะสักครู่ แล้วจึงพูดต่อ “ตั้มมันรักเพื่อนทุกคน ถึงแม้เพื่อนบางคนจะทำมันเจ็บ มันเลือกที่จะเจ็บเองแต่มันจะไม่ยอมทำให้เพื่อนเจ็บเด็ดขาด  อีกอย่างนะ ตั้ม มันเกลียดใครไม่เป็นหรอก”

ราญพูดจบก็เปลี่ยนสายตาไปมอง ตั้ม ด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ไม่ได้บอก ปอ ไปว่า เขามองเห็นเข้าพอดี จังหวะที่ ปอ ขัดขา ตั้ม จนล้ม และเขาก็รู้ว่า ตั้ม ตั้งใจที่จะให้ทุกคนคิดว่าสะดุดขาตัวเอง
ในเมื่อ ตั้ม เลือกที่จะปกป้องเพื่อน เขาก็ไม่ควรทำร้ายเพื่อนของน้องอันเป็นที่รักของเขาเช่นกัน
ผมก้มหน้าเดินช้าๆไปยังห้องพักครู แล้วก็เคาะประตูห้องที่เป็นบานเพียงบังตาเล็กๆกั้นไว้เท่านั้น
“ขออนุญาตเข้าห้องครับ”
แล้วผมก็ผลักบังตาให้เปิดออก แล้วเดินเข้าไปในห้องพักครู
วันรุ่งขึ้น ไม่มีใครเห็นผมที่โรงเรียนเลย ผมไม่ได้ไปเรียนหนังสือทั้งสัปดาห์ จนถึงวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเรียนในสัปดาห์นั้น
๗ นี่หรือคือเหตุผล
เช้าวันจันทร์ของสัปดาห์ต่อมา พี่สาวมาส่งผมที่โรงเรียน พร้อมกับนำใบรับรองแพทย์มาให้กับครูที่ปรึกษาประจำกลุ่ม เพราะผมขาดเรียนไปถึง ๓ วัน (ไม่นับวันเสาร์และวันอาทิตย์) เพราะในเย็นวันที่ผมล้มในห้องเรียน ผมหกล้มที่บ้านอีก เนื่องจากสะดุดธรณีประตูเรือนใหญ่ทำให้ข้อเท้าแพลง แล้วผมยังมีไข้ขึ้นสูงอีกในเช้าวันต่อมา
“ปรกติก็เป็นเด็กค่อนข้างซนอยู่แล้ว หกล้มอยู่บ่อยๆ แต่นี่คงซนมากไปจนได้แผลมาขนาดนี้ ทางบ้านตกใจกันมากค่ะ เกรงว่าจะมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนที่โรงเรียนหรือเปล่า” พี่สาวผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่ครูที่ปรึกษาตรวจใบรับรองแพทย์เรียบร้อย แล้วนำไปเย็บติดกับสมุดบันทึกการเรียนการสอนประจำชั้น และเซนต์กำกับเรียบร้อยแล้ว
“แกยืนยันว่าเป็น อุบัติเหตุน่ะค่ะ ดิฉันคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องชกต่อยกับเพื่อนอย่างที่คุณแม่กังวลหรอกค่ะ ศิลปี แกเป็นเด็กอัธยาศัยดี ค่อนข้างจะเป็นเด็กกิริยามารยาทเรียบร้อยด้วยซ้ำไป กับเพื่อนๆก็สนิทสนมกันดี ทุกคนเอ็นดูแกค่ะ คุณแม่ไม่ต้องกังวลว่าจะมีเรื่องชกต่อยกับใครหรอกค่ะ” คุณครูค๊าบ .....คุณครูเข้าใจอะไรผิดแล้วค๊าบ เพราะว่านี่น่ะ พี่สาวผมค๊าบ มะช่ายคุณแม่ ผมคิดอยู่ในใจ ผมส่งสายตาเตือนคุณครู
“ดิฉันเป็นพี่สาวค่ะ ไม่ใช่คุณแม่” ก็ตอนเจอครูที่ปรึกษา พี่สาวผมแนะนำตัวไปว่า .....สวัสดีค่ะคุณครู ดิฉันเป็นผู้ปกครองเด็กชาย ศิลปี ค่ะ...... เป็นงานเป็นการครับ เพราะพี่สาวผมก็เป็นครูเหมือนกัน
“ตายจริง ขอโทษด้วยค่ะ พี่สาวหรอกเหรอค่ะ ต้องขอโทษอีกครั้งค่ะ คุณพี่” ครูเปลี่ยนสรรพนาม เพราะมองแล้ว น่าจะอยู่ในวัยใกล้ๆกัน แล้วครูก็มองหน้าผมกับพี่สาวสลับกันไปมา “แต่หน้าตามีเค้าคล้ายกันมากๆเลยน่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะอายุห่างกันมากเวลาพาแกไปไหนด้วยกัน คนเค้าก็ทักว่าเป็นแม่ลูกกันทั้งนั้นเลยค่ะ “ พี่สาวผมหัวเราะน้อยๆอย่างคนอารมณ์ดี “ยังไงก็ฝากคุณครูช่วยอบรมแกด้วยนะค่ะ ซนมากๆก็ทำโทษได้เลยค่ะ เพราะที่บ้านก็ขนาบกันด้วยไม้เรียวเป็นปรกติอยู่แล้วค่ะ”
ครูฟังแล้วก็หันมามองผมยิ้มๆ “คงไม่ถึงขนาดใช้ไม้เรียวหรอกค่ะ ศิลปี เค้าเป็นเด็กดี เชื่อฟังครูดีค่ะ”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวกลับนะค่ะ สวัสดีค่ะ” พี่สาวผมลาครูที่ปรึกษาออกมา ผมก็เดินไปส่งพี่สาวถึงประตูโรงเรียน
“หกล้มแค่นี้ ต้องเอาแม่มาขู่เหรอมึง” ทั้ง ๕ คนเดินมาล้อมผมไว้ เมื่อผมเดินออกจากห้องเรียนหลังจากหมดคาบวิชาก่อนพักเที่ยง
“......................................” ผมไม่สนใจ ยังคงจะเดินไปหากลุ่มเพื่อนที่รออยู่ แต่พวกนั้นก็มายืนขวางผมเอาไว้
“ถามไม่ตอบนะมึง คิ้วแตกอีกข้างซะดีมะ”  ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนพูด
“หยุดเรียนไป ๓ วัน ก็ต้องมีใบรับรองแพทย์ หรือมีผู้ปกครองมาชี้แจงกับครูที่ปรึกษาตามระเบียบโรงเรียน ไม่ได้พาแม่มาขู่ใคร เพราะนั่นน่ะ ....พี่สาว” ผมตอบไปทั้งๆที่ยังก้มหน้าอยู่
“เออ ดีแล้วที่รู้จักกลัว จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว” สงสัยคิดว่าที่ผมตอบเพราะกลัวคิ้วแตกอีกข้าง
“ไม่ได้กลัวจะมีเรื่อง แล้วก็ไม่กลัวเจ็บตัวด้วย เพราะไงพวกนายก็ต้องหาเรื่องให้เราเจ็บตัวอยู่ดี” ผมเงยหน้าขึ้นพูดกับพวกมัน ด้วยหน้าตาเศร้าๆ รู้สึกสงสารตัวเองครับตอนนั้น แต่ก็กลั้นใจพูดต่อไป “ที่ตอบเพราะไม่อยากให้เข้าใจผิดกันมากกว่านี้”
เงียบไปอึดใจ แล้วผมก็ตัดสินใจพูดในสิ่งที่คิดมาตลอด ๕ วันที่ผ่านมา
“เราถามพวกนายจริงๆเหอะ”  ผมตัดสินใจแน่แล้วว่าต้องพูด “พวกนายทำไมจ้องหาเรื่องกับเรานัก เราทำอะไรให้พวกนายเดือดร้อนงั้นเหรอ พวกนายถึงคอยหาเรื่องกับเราขนาดนี้ หรือว่าเราทำอะไรผิด”
“มึงทำตัวน่าหมั่นไส้” มีคำตอบทันทีที่ผมถามจบ “เป็นกะเทย เป็นตุ๊ด แล้วเสือกทำตัวเหมือนผู้หญิงจริงๆ” นี่คงเป็นเหตุผล

ที่ ๑
“นั่นดิ อย่างพวกมึงน่ะ เค้ามีแต่ชอบให้ผู้ชายจับ แต่มึงอะ จับนิดจับหน่อยทำสะดีดสะดึ้ง หวงเนื้อหวงตัวซะยิ่งกว่าผู้หญิงจริงๆซะอีก” นี่คงเป็นเหตุผลที่ ๒
“ทั้งดำ ทั้งแห้ง หน้าตาอัปลักษณ์ ยังเสือกอยากเป็นตุ๊ด นึกว่าเป็นแล้วรุ่งเหรอมึง ทำเป็นยั่วผู้ชายเกาะคนโน้นที คนนี้ที กูเห็นแล้วทุเรศลูกตา” นี่คงเป็นเหตุผลที่ ๓
“กับคนอื่นกูเห็นให้เค้ากอดคอ ให้เค้าเดินจูงมือมึงเฉย กับพวกกูแม่งทำหวงเนื้อหวงตัว” เหตุผลนี้คงต้องยกไปรวมกับข้อที่ ๒
“พวกกูอยากเห็นหน้ามึงตอนร้องไห้หว่ะ คงสะใจพิลึก” อันนี้จะคิดเป็นเหตุผลที่ ๔ได้รึเปล่า ผมไม่รู้
“สรุปนะโว๊ย พวกกูไม่มีเหตุผลหว่ะ แค่เห็นหน้ามึงพวกกูก็อยากทำแบบที่พวกกูทำ พอใจมะ”
“อีกอย่าง มึงถามว่ามึงทำอะไรผิดเหรอ กูจะบอกให้........” คนหนึ่งยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม แล้วพูดต่อ
“ มึงน่ะ.....ผิดมาตั้งแต่เกิดแล้ว”
ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกครับว่าประโยคไหนใครเป็นคนพูด มัน งง ไปหมด ผมไปยั่วอะไรใครตอนไหน แล้วคนอื่นที่ว่าเข้ามากอดคอ เข้ามาจูงมือ ก็มีแต่เพื่อนๆในชั้นเรียนเดียวกันทั้งนั้น กอดคอคุยกันมันเรื่องธรรมดานี่นา แล้วสายตาผมมันผิดปรกติ เวลาลงบันไดตึกบางตึกผมทำท่าจะตกบันได เพื่อนๆก็ช่วยจูงมือ หรือเวลาข้ามถนน เพื่อนก็จูงมือด้วยความเป็นห่วง มี ราญ นี่แหละที่ผมสนิทมาก เดินเกาะแขนจูงมือบ่อยๆ ก็ ราญ เค้าพี่ชาย ผมเป็นน้องมันเสียหายอะไรตรงไหน กับพี่ๆที่บ้าน ผมก็ทำแบบนี้ แล้วมันไปทำให้พวกนี้หมั่นไส้ได้ยังไง ผม งง แล้วยิ่งประโยคสุดท้าย ผมเกือบน้ำตาไหล
“ถ้าพวกนายเกลียดเรา หมั่นไส้เราขนาดนั้น ก็ไม่ต้องมามามองเรา ไม่มายุ่งกับเรา มันไม่ง่ายกว่าเหรอ” ผมกลั้นใจพูดออกไปเบาๆ หลังจากที่กลั้นน้ำตาไว้ไม่ยอมให้มันไหลออกมา
“ไม่ได้หว่ะ มึงเสีอกโผล่มาให้พวกกูเห็น แล้วพอพวกกูเห็นมึงนะ มันเกิดอารมณ์หว่ะ ต้องระบายออกกับมึงแบบนี้แหละ” แล้วพวกมันก็ประสานเสียงหัวเราะกัน
“งั้นเราจะพยามยามไม่มาให้พวกนายเห็นเราก็แล้วกัน พวกนายจะได้สบายใจขึ้น” พูดจบผมก็ออกวิ่งไปหาเพื่อนๆที่ยืนรออยู่ไม่ไกลนัก
“คุยอะไรกับพวกนั้นน่ะ” จก ถาม
“ไม่มีไร ไปกินข้าวกันเหอะ หิวแล้ว” ผมแกล้งวิ่งเลยกลุ่มเพื่อนๆไปข้างหน้า แล้วถึงได้เงยหน้าขึ้นมาตอบ โดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองใคร
“ไม่มีอะไร แล้วทำไมคุยกันนานขนาดนั้น” ตุ่ม ถามอีก
“เรื่องไร้สาระตามเคยแหละ รู้ๆกันอยู่ ไปกินข้าวเหอะ หิวๆ เดินช้าตามเราไม่ทันนะ” พูดจบ ผมก็วิ่งเหยาะๆตรงไปยังโรงอาหาร แอบเอามือเช็ดน้ำตาที่มันค่อยๆไหลออกมา ไม่อยากให้เพื่อนๆเห็น
“ดูมัน เมื่อกี้ยังเหมือนจะสลดอยู่เลย วิ่งแผล๋วไปโน่นแล้ว เปลี่ยนอารมณ์เร็วจริง” เต่า ส่ายหน้าเหมือนกับระอาในพฤติกรรมที่แปรเปลี่ยนไปตามความแปรปรวนของอารมณ์ของผม โดยไม่มีการปิดบังหรือเสแสร้ง
“ตั้ม มันไม่อยากให้พวกเราเป็นห่วงน่ะ” ราญ พูดแล้วก็ออกวิ่งเหยาะๆตาม ตั้ม ไป พอวิ่งทันก็จูงมือ ตั้ม เดินไปโรงอาหาร พร้อมกับเพื่อนๆที่วิ่งตามกันมา
๘ เสียงหัวเราะที่จางหาย
จากวันนั้นเป็นต้นมา ผมจะไปโรงเรียนให้จวนเวลาเข้าเรียนให้มากที่สุด บางครั้งเข้าห้องเรียนเกือบจะพร้อมกับครูเลยก็ว่าได้ พอหมดคาบเรียน ผมก็เก็บของอย่างรวดเร็วที่สุดเพราะจะได้ออกจากห้องเรียนพร้อมกับเพื่อนๆ (ปรกติผมเก็บของช้าครับ วิ่งตามเพื่อนเป็นประจำ) แต่อย่างว่าแหละครับ ยังไงก็ต้องประจัญหน้ากันอยู่ดี  อยู่โรงเรียนเดียวกัน ชั้นเดียวกันยังไม่พอกลุ่มเรียนเดียวกันอีก ยังไงก็ไม่พ้นครับ แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วครับ
สู้น่ะเหรอครับ......ไม่หรอกครับ ผมชกต่อยกับใครไม่เป็น ผมเงียบครับ นิ่งสนิท ไม่ขืนตัว ไม่สะบัดดิ้นรน  ไม่แม้แต่จะเหลือบตามองด้วยซ้ำ ว่าใครทำอะไรผมบ้าง มีอยู่ครั้งหนึ่งผมถูกผลักไปผลักมา จนตัวผมเองเสียหลักลงไปนั่งกองกับพื้น ถึงตอนนั้นผมก็นั่งนิ่งมันอยู่อย่างนั้นแหละครับ นิ่งสนิทไม่ขยับตัวไปไหนทั้งสิ้น ทำใจแล้วครับ ใครอยากทำอะไรก็ทำไป จนผมรู้สึกว่าทุกคนเดินออกไปจากผมแล้วนั่นแหละครับ ผมถึงได้ยืนขึ้น เก็บเป้ ที่ถูกโยนไปกองอยู่ที่พื้น แล้วก็ออกเดินไปตามทางของผม
ผมเข้าใจครับกับการที่ไม่มีเพื่อนคนไหนเข้ามาช่วยผมตอนที่ผมโดนแกล้ง บางคนเขาอาจจะเห็นว่ามันก็แค่เล่นๆกันเฉยๆ บางคนอาจเห็นแล้วสนุกสนานตามไปด้วย และมีบางคนที่ผมเห็นด้วยกับเขาเหมือนกันว่า หากเข้ามาช่วยผม มันอาจเป็นการทำให้โดนแกล้งหนักขึ้นกว่าเดิมก็ได้ ดังนั้นทุกคนจึงดูอยู่ห่างๆ ในระยะที่เห็นว่าหากมีอะไรไม่ชอบมาพากลจริงๆก็สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ทัน
อดทนไว้ อีกไม่กี่วันก็ปิดเทอมแล้ว....ผมท่องไว้ในใจ...อดทำไว้ ไอ้ตั้ม ปิดเทอมเดี๋ยวก็ไม่เจออะไรแบบนี้แล้ว
สัปดาห์หน้าก็จะมีการสอบปลายภาคแล้วเพื่อนๆทยอยกันไปทานข้าวกลางวันที่โรงอาหาร แต่ผมยังนั่งทบทวนแบบเรียนอยู่ เพราะคิดว่ารอสักพักให้คนน้อยลงก่อน จะได้ไม่ต้องไปเบียดแย่งซื้ออาหารกลางวันกับคนอื่นๆ
“หมู่นี้ลูกหมาจอมซนเรียบร้อยผิดปรกตินะ” ราญ ที่นั่งออยู่ตรงข้ามผมพูดขึ้นมาลอยๆ
“................” ผมไม่ได้ตอบอะไรไป เพราะกำลังมีสมาธิอยู่กับแบบเรียนตรงหน้า
“ตั้ม หมู่นี้ทำตัวเหินห่างกับเพื่อนๆนะ รู้ตัวรึเปล่า” คราวนี้ ราญ เรียกแล้วเอื้อมมือมาบังหน้าแบบเรียนที่ผมอ่านอยู่
“เหรอ.......ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ” ผมเงยหน้าขึ้นตอบ
“หยุดอ่านแล้วมาคุยกันก่อนดีกว่า” พูดจบ ราญ ก็ลุกมานั่งข้างๆผม แล้วเอื้อมมือมาปิดหนังสือแบบเรียนที่ผมอ่านอยู่ โดยไม่ลืมหยิบที่คั่นหนังสือเล็กๆมาคั่นหน้าหนังสือไว้ด้วย ผมจึงต้องหยุดการทบทวนแบบเรียนไปโดยปริยาย
“จะคุยไรเหรอ” ผมยกขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิ แล้วหันตัวไปทาง ราญ ที่อยู่ข้างๆ
“ตั้งแต่วันนั้นเงียบๆไปนะ ไม่เห็นร่าเริงเหมือนเคย”
“................” ผมก้มหน้านิ่งไม่ตอบอะไร ผมรู้ว่า ราญ หมายถึงวันนั้น....วันที่ ราญ เห็นผมร้องไห้
“ทำหน้านิ่งๆแบบนี้อีกแล้ว........ไม่เอา ทำหน้าแบบนี้ ไม่น่ารักเลย” ผมเงยหน้ามองหน้า ราญ แบบ งง งง ….ผมเนี่ยนะ น่ารัก “เพื่อนๆเป็นห่วงกันนะ รู้มั๊ย” ราญ พูดต่อ
“แล้วพี่ชายเป็นห่วงน้องมั่งมั๊ยอะ” ผมถามเสียงอ้อนๆ เหมือนเวลาที่ผมพูดกับพี่ๆที่บ้าน
“ห่วงสิ” ราญหัวเราะ “พวกนั้นก็ห่วงนะ” พูดพลาง ราญ ก็เอามือมาจับมือผมไว้
“พวกไหนอีกอะ” ผมขมวดคิ้วถาม
“ก็พวก....พวก” ราญ อึกอักสักพัก “พวกเพื่อนๆนั่นแหละ.......เอาน่า ยังไงก็รีบๆร่าเริงให้เหมือนเดิมก็แล้วกัน” ราญพูดต่อ
“จะพยายามค๊าบบบบบ” ผมตอบแล้วยิ้มนิดๆ “เดี๋ยวปิดเทอมจะไปนั่งเลียแผลใจก่อน เปิดเทอมใหม่แล้วค่อยว่ากันนะ”
“โห......ยาวไปโน่นเลยเหรอ แต่เอานะ พยายามเข้าแล้วกัน พวกเราน่ะอยากให้ ตั้ม กลับมาเป็นเสียงหัวเราะของพวกเราเหมือนเดิม ว่าแต่รีบไปโรงอาหารกันดีกว่า ไม่รู้พวก กร ยังรออยู่รึเปล่า”
ผมกับ ราญ หันไปเก็บของลงเป้ แล้วหยิบเป้ขึ้นสะพายไหล่ ก่อนจะเดินไปโรงอาหาร ผมก็ถาม ราญ
“พี่ชายไม่ได้เล่าให้พวกนั้นฟังใช่มั๊ย” ผมหมายถึง กลุ่มเพื่อนสนิท และเรื่องที่เกิดขึ้นภายในตึกใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในวันนั้น
“ก็ไม่ได้เล่า อยากให้พวกนั้นรู้เหรอ” ราญ ตอบโดยไม่ต้องคิดเลยว่า ตั้ม ถามถึงเรื่องไหน แล้วถามกลับไป ทั้งๆที่รู้ดีถึงคำตอบ
“ไม่อะ อย่าเล่านะ พี่ชายอย่าเล่าให้ใครฟังนะ ไม่ว่าใคร แล้วก็.................”  ผมคิดอยู่ว่าจะพูดดีหรือไม่
“...............” ราญ มองหน้า ตั้ม นิ่ง คิดว่า ตั้มจะพูดในสิ่งที่เขาคิดหรือเปล่า

“พี่ชายอย่าไปมีเรื่องกับใครเพราะ ตั้มนะ” ....นั่นไงอย่างที่เขาคิด... “ไม่ว่าใครเจ็บตัวตั้ม ก็เจ็บด้วยนะ” ...ตั้ม ห่วงคนอื่นเสมอ ทั้งพวกผมและเพื่อนคนอื่นๆ รวมทั้ง ‘พวกนั้น’ ที่ทำให้ตั้ม ‘เจ็บ’... ราญอดนับถือไม่ได้ในความมีน้ำใจต่อเพื่อนของ ตั้ม ถ้าเป็นเขา เขาจะทำได้แบบนี้หรือเปล่า

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
5
พลังน้ำใจ
1448
Zenny
25960
ออนไลน์
408 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-5 21:57:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
" I'm limited edition "

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
559
Zenny
6561
ออนไลน์
105 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-12 01:28:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1861
Zenny
4470
ออนไลน์
416 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-12 19:14:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โดนแกล้งเหมือนเราเลย บางทีถ้ามันเล่นแรงก้เคืองๆนะ แต่ก้หายไม่โกดมันอยู่ดี 555

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24560
Zenny
38464
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-28 18:38:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-2 17:47:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1157
Zenny
2209
ออนไลน์
532 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-3 17:56:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
17510
Zenny
4426
ออนไลน์
3294 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-8 00:46:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-19 18:43:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากนะ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
209
พลังน้ำใจ
14088
Zenny
42724
ออนไลน์
1088 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

โพสต์ 2016-4-18 18:16:57 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 17:18:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 00:20 , Processed in 0.084820 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้