ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 647|ตอบกลับ: 8

++ จะขอเก็บไว้ในความทรงจำ ++ $ 6

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

...น่ารักขนาดนี้นี่เอง ราญมันถึงได้รักนักรักหนา น่าอิจฉามันหว่ะ ถ้ากูได้น้องน่ารักแบบนี้มั่งก็ดีสิวะ...ชัย นึกในใจ
“เฮ๊ย....ไอ้ ตั้ม มาทำอะไรแต่เช้าวะ” ผมตะโกนเรียกไปตั้ม หันมามองผม ดูสีหน้าตกใจไม่น้อย
“มานี่เลยมึง มาไวไวอย่าช้า” ผม กวักมือเรียกตั้ม มันเหลียวมองไปรอบๆ สักครู่ก็เดินมาหาผมที่โต๊ะ

“นั่งตรงนั้นทำไม” ตั้ม กำลังจะนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามผม “มานั่งฝั่งนี้ ข้างๆกูนี่ ที่ยังมีอีกเยอะ” ผมรีบบอกให้ ตั้ม มันมานั่งข้างๆผมบนเก้าอี้ยาว
“หิ้วอะไรมาเยอะแยะ ไหนเอามาดูดิ๊” แล้วผมก็หยิบเอากระเป๋าสะพายของ ตั้ม มาเปิดดู
“กินไรมารึยัง เอ้า .... เอานี่ไปกิน” ผมยื่นถุงถั่วตัดถุงใหญ่ให้ ตั้ม เห็นมันมองทำหน้าอึ้งๆ คงคิดในใจว่าผมจะหลอกเอาอะไรประหลาดๆให้มันกิน
“น่ารำคาญมึงหว่ะ เฉยอยู่ได้ บอกให้กินก็กินดิ” แล้วผมก็หยิบถั่วตัดชิ้นหนึ่งยัดเข้าไปในปาก ตั้ม  
“อร่อยนะเว้ย เพิ่งออกจากเตาร้อนๆเมื่อเช้าเลย บ้านกูทำเอง” ผมพูดด้วยความภูมิใจ
“อื้อ....อร่อยมากเลยอะ ชัย ปรกติที่ซื้อกินมันไม่เห็นอร่อยอย่างนี้เลย สงสัยเพราะเพิ่งทำเสร็จอะเน๊อะ นี่ยังอุ่นๆอยู่เลย ทั้งหอม ทั้งอร่อยเลย อะ บ้านชัยทำขายเหรอ มียี่ห้อพิมพ์ที่ถุงด้วย” มันมองไปที่ตรายี่ห้อกับชื่อร้านที่อยู่บนถุง
“สงสัยขายดีน่าดูเน๊อะ ต้องทำตรากับยี่ห้อเป็นของตัวเอง” มันพูดต่อแล้วหันมายิ้มให้ผม พลางกัดถั่วตัดเข้าไปคำเล็กๆ
เห็น ตั้ม เคี้ยวถั่วตัดดังกร๊อบๆแล้วน่าขำ เวลากินยังเหมือนเด็ก แต่ดูแล้วก็รู้สึกอร่อยไปด้วย เออ...มารยาทดีเชียวนะเอ็ง กินอะไรทีก็เอาเข้าปากทีละนิด เคี้ยวหมดปากก่อนแล้วค่อยพูด บทจะเรียบร้อยก็ยังกับผ้าพับไว้ แต่เวลาอยู่กับเพื่อนกระโดดมั่ง วิ่งมั่ง ไปหาคนโน้นคนนี้ อยู่ไม่สุขเหมือนลูกหมาซนๆที่ชอบวิ่งไปงับโน่นงับนี่อยู่ตลอดเวลา......ชัยนึกพลางยิ้มด้วยความนึกเอ็นดูคนที่อยู่ข้างๆ
“อร่อยก็กินเยอะๆ มีตั้งถุงเบ้อเร่อ แล้วนิยายพวกนี้มึงอ่านเองหรือคนฝากมาคืนร้าน” ผมถามพลางหันไปทำท่าว่าสนใจกับหนังสือ หลบสายตากับรอยยิ้มซื่อๆหวานๆ แถมพกด้วยความไร้เดียงสาตามภาษาของมันที่ส่งมาให้ผม มันทำให้ผมรู้สึกวูบวาบแปลกๆอยู่ในใจ
“เราเช่ามาอ่านน่ะ เดี๋ยวเอาไปคืนร้าน” ตั้ม ตอบหลังจากเคี้ยวถั่วตัดจนหมดคำ แล้วกัดถั่วตัดเข้าปากไปอีกคำ
“เล่มนี้ท่าทางสนุกหว่ะ เดี๋ยวกูไปร้านกับมึงด้วยดีกว่า พอมึงคืนแล้วกูจะได้เช่าต่อเลย” ผมพลิกหนังสือในมืออ่านคร่าวๆ รู้สึกว่าเสียงมันเงียบไป เลยหันไปดู เห็น ตั้ม กำลังหยิบหนังยางเตรียมมัดปากถุงถั่วตัด
“อ้าวแล้วไหนบอกว่าอร่อยไง กินแค่นั้นน่ะเหรอ กินอีกดิวะ”
“๒ ชิ้นพอแล้วอะ พอดีเราเพิ่งทานโจ๊กมา ยังอิ่มอยู่เลย ไม่งั้นนะจะทานให้หมดเลย อิ อิ” ตั้ม มันหัวเราะหน้าบาน อ้อ ไปกินโจ๊กมานี่เอง ถึงมาเอา ๗ โมง ครึ่ง
“เออ มึงก็ต้องกินบ้าง ไม่ใช่อยู่บ้านไม่ได้ทำไรก็ไม่หิว ไม่กิน  กูอยากให้มึงอ้วนมีเนื้อมีหนังกว่านี้หน่อย เอาให้แก้มยุ้ยๆหน่อย” ผมเผลอพูดไป เพราะ ราญ เคยเล่าให้ฟังว่า ตอนปิดเทอม ตั้ม มันเอาแต่อ่านหนังสือ ไม่ค่อยกินอะไร มองไปเห็นมันมองผมตาแป๋ว น่ารักจนผมอดใจไม่ได้ ก็แลยเอามือแตะเบาๆที่แก้ม ตั้ม ๒-๓ ที มันคงกำลังอารมณ์ดี ก็เลยยิ้มให้ผม สงสัยเพราะถั่วตัดแสนอร่อยของบ้านผม หรือไม่ก็เป็นเพราะผมพูดกับมันด้วยความเป็นมิตรกว่าที่เคย
มองๆแล้วมันก็น่ารักดี ไม่สิ.....น่ารักฉิบหายเลย ดีนะ ที่หกล้มในห้องเรียนคราวนั้นไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้เลย ผมนึกถึงอุบัติเหตุในห้องแล้วก็เอามือมาจับมุมปากซ้ายของ ตั้ม มันสะดุ้งตกใจนิดหน่อย สงสัยจะกลัวว่าผมจะแกล้งอะไรมัน
“อยู่นิ่งๆ มึง .....กูไม่แกล้งไรมึงหรอก” ผมพูดไปแล้วก็ลูบมุมปากด้านซ้าย ตั้ม มันเบาๆ .....ไม่มีรอยอะไรทิ้งไว้จากแผลคราวนั้น....แล้วเลื่อนมาลูบที่แก้มมันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลูบผ่านหางตาไปที่หางคิ้วซ้าย แล้วก็ลูบเบาๆพลางนึกในใจ ........เจ็บมากรึเปล่าวะตอนนั้น คิดๆไปสงสารมึงเหมือนกันหว่ะ เจ็บตัวจนต้องหยุดเรียนไปหลายวันเพราะพวกกู แล้วมาโดนพวกกูพูดใส่ซะขนาดนั้น วันนี้ยังมายิ้มให้กูอีก  เออ...นึกขึ้นได้ ไม่เห็นมึงยิ้มมานานแล้วนี่หว่า ทำกูเป็นห่วงนะมึง........มาทำมองกูตาแป๋วอีก เดี๋ยวกูก็............เฮ๊ย.............กูคิดอะไรของกูวะนี่ แล้วไหน ราญ บอกว่ามันไม่ค่อยกินอะไร ทำไมมันดูมีเนื้อมีหนังแบบนี้วะ จับตรงไหนก็นิ่มไปหมด แล้วกลิ่นหอมจางๆจากตัวมันอีก กลิ่นออกไทยๆ จะว่าน้ำอบไทยก็ไม่ใช่ ทำเอากูอยากเอาจมูกไปสูดกลิ่นที่ตัวมันให้ชื่นใจ
...........ไม่ได้แล้ว ก่อนที่กูจะตะบะแตก เสียฟอร์มแย่แน่กู
“กูกลับบ้านก่อนดีกว่า ถั่วตัดมึงเอาไว้กินแล้วกัน” แล้วผมก็รีบลุกขึ้น เดินออกนอกโรงเรียนไปโดยไม่หันกลับไปมอง ตั้ม เลย
ฮ่าๆ ไอ้ราญ เอ๊ย กูรู้แล้วมึงรู้สึกยังไงเวลาอยู่ใกล้ ไอ้ตั้ม ความรู้สึกของพี่ชายมันเป็นอย่างนี้นี่เอง มันจะยอมรับกูเป็นพี่ชายอีกสักคนมั๊ยวะ... ไอ้ตั้ม...ไอ้ลูกหมาตัวน้อยๆ ของพวกกู
๑๑ เปิดเทอมใหม่ กับความเปลี่ยนแปลง
โอย......ผมยังง่วงอยู่เลยนะนี่ ปิดเทอมตื่นสายซะเคยตัว พอเปิดเทอมใหม่ต้องตื่นตั้งแต่ตี ๕ เพื่อออกจาบ้านตอน ๖ โมงเช้านี่เป็นเรื่องทรมานน่าดู แต่วันที่ออกไปร้านหนังสือตอนช่วงปิดเทอมไม่ยักกะเป็น อิ อิ......
ภาคเรียนใหม่นี้ โรงเรียนผมเปลี่ยนระบบการเรียนการสอนมาเป็นเข้าเรียนตอน ๘ โมงเช้า และเลิกเรียนประมาณ บ่าย ๓ พร้อมกันหมดทุกชั้นเรียน เพราะตึกใหม่ที่เริ่มทำการก่อสร้างมาตั้งแต่ภาคเรียนที่แล้ว ตอนนี้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้มีห้องเรียนเพียงพอในการจัดห้องเรียนประจำชั้นให้แก่นักเรียนชั้นต่างๆเสียที หลังจากที่ใช้ระบบการเดินเรียนมาเป็นเวลานาน
แต่ถึงกระนั้น.......ผมก็มาโรงเรียนสายจนได้ เหตุผลง่ายๆครับ..................รถเสีย     T-T
ยังดีนะครับที่เสียเอาใกล้ๆอู่ซ่อมรถ ก็เลยเดินไปตามช่างมาดูได้ รถมือสองก็แบบนี้แหละครับ ต้องมีรวนบ้าง ( สมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้กันเกร่อแบบนี้หรอกครับ ขนาดโทรศัพท์สาธารณะในตัวเมือง ยังหายากเลย ยิ่งแถบชานเมืองไม่ต้องพูดถึง ) พอถึงโรงเรียนผมก็วิ่งแน่บไปที่ห้องประจำชั้น พร้อมกับความตื่นเต้นในใจ
..........เพื่อนใหม่จะเป็นยังไง
..........จะโดนใครเหม็นหน้าเอาบ้างรึเปล่า
..........เราจะเข้ากับเพื่อนใหม่ได้ไหม
ใช่แล้วครับผมโดนย้ายกลุ่ม หรือเรียกง่ายๆ ย้ายห้อง นั่นแหละครับ
น่าแปลก พวก ราญ ตุ่ม เต่า จก ต่อ กร แถมพกด้วย ศักดิ์ สิทธิ์ สมชาย ชัย ย้ายไปอยู่รวมกันหมดที่ห้อง ๒ พร้อมกับเพื่อนคนอื่นอีก  ๔-๕ คน ส่วน ปอ กับเพื่อนอีกจำนวนหนึ่ง ถูกย้ายไปอยู่ห้องที่เรียกว่าห้องการงาน ซึ่งเป็นห้องสำหรับเด็กที่เตรียมจะเข้าเรียนในสายอาชีพ อย่างงานช่าง หรือ พานิชย์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นห้อง บ๊วย และยังมีกระจายไปตามห้องต่างๆอีกหลายห้อง ห้องละหลายๆคน
ในขณะที่เพื่อนๆถูกจับย้ายไปตามห้องต่างๆกันเป็นกลุ่มๆ แต่มีเพียงผมคนเดียว ที่โดนย้ายมาห้อง ๖ คนเดียว....หัวเดียวกะเทียมลีบเลยครับ ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัวนิดๆ ดีใจหน่อยๆเพราะได้เรียนตึกใหม่ครับ อิ อิ
“คุณครูค๊าบ.....ขออนุญาติเข้าห้องค๊าบบบบ” ผมขออนุญาตครูที่ปรึกษาทั้งสองท่าน พร้อมกับหอบแฮ่กๆ เพราะวิ่งมาจากประตูโรงเรียนจนมาถึงชั้น ๔ ของตึก
“ศิลปี เปิดเทอมวันแรกก็สายเลยเหรอไงจ๊ะ” ครูพูดยิ้มๆ โชคดีครับ ได้ครูประจำชั้นเป็นครูผู้หญิง ใจดีด้วย อ้อที่มีครูประจำชั้น ๒ ท่านเพราะว่าทางโรงเรียนยังคงแบ่งนักเรียนเป็นห้องละ ๒ กลุ่มอยู่ครับ มีครูที่ปรึกษากลุ่มละท่าน เพื่อจะได้ดูแลนักเรียนทั้ง ๕๐ คนในห้องได้อย่างทั่วถึงมากที่สุด
“รถเสียค๊าบครู เกือบต้องเข็นมาถึงโรงเรียนตอนเย็นๆแล้วค๊าบบบบ” ผมยิ้มกว้างบอกครู ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของนักเรียนในห้อง
“เข็นไหวเหรอจ๊ะ ครูว่าถ้าเธอเข็นมาจริงๆน่ะ คงถึงโรงเรียนเทอมหน้ามากกว่า” คราวนี้เสียงหัวเราะในห้องดังกว่าเดิมครับ ผมบอกแล้วว่าครูท่านใจดี ไม่อย่างนั้นผมไม่กล้าพูดแบบนั้นออกไปหรอกครับ “รีบเข้ามาจ๊ะ สงสัยคงต้องไปนั่งตรงนั้นแล้วมัง ศิลปี ว่างอยุ่โต๊ะเดียว” ครูอีกท่านพูดแล้วชี้มือไปที่โต๊ะหลังสุด ทางมุมซ้ายของห้องติดกับหน้าต่าง
อ๊า.........................มุมนั้นเป็นมุมพิฆาตสำหรับผมเลยนะนั่น ( คงพอจำเหตุการณ์ที่ห้องโสตฯของผมเมื่อตอน ม.๑

ได้นะครับ ) ทำไงได้อะ....มาซะสายขนาดนี้ จะมีที่นั่งดีๆเหลือได้ยังไง......  
ผมเดินไปที่โต๊ะแล้วเอาเป้วางกับเก้าอี้ก่อนจะนั่งลง พอเห็นโต๊ะแล้วก็ยิ้มแป้นเลยครับ หุ หุ โต๊ะเก้าอี้ชุดใหม่ซะด้วย ผมนั่งลูบโต๊ะไปมาด้วยความเห่อของใหม่ นึกในใจ เดี๋ยวเย็นนี้ต้องไปโม้ให้ที่บ้านฟังซะหน่อย คริ คริ
“ดูแลเพื่อนใหม่กันให้ดีๆนะจ๊ะ เพื่อนเค้าน่ารักขนาดนี้อย่าแกล้งกันจนเพื่อนทนไม่ไหวต้องลาออกไปซะล่ะ”
หา....อารายน๊ะ.....ใครน่ารัก แล้วใครแกล้งใครจนลาออก หน้ายิ้มๆของผมเหว๋อขึ้นทันทีครับ เงยหน้ามองครูตาโต อ้าปาก เหว๋อสนิท ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆมาจากคนที่นั่งข้างๆด้านติดหน้าต่าง เสียงออดดังขึ้นพอดี
“หมดเวลาโฮมรูมแล้ว เดี๋ยวก็ตั้งใจเรียนกันนะจ๊ะนักเรียน” ครูอีกท่านหนึ่งพูด
“นักเรียนเคารพ” เสียงคนที่เป็นหัวหน้าห้องดังมาจากด้านหน้าสุดตอนกลางของห้อง
“ขอบคุณครับคุณครู” แล้วครูทั้ง ๒ ท่านก็เดินออกจากห้องไป
ยังคงมีเวลา ๑๐ นาทีเหมือนเดิมสำหรับการเปลี่ยนคาบเรียน แต่คราวนี้ไม่ได้มีไว้ให้นักเรียนครับ แต่มีไว้ให้ครูเดินเปลี่ยนห้องแทน ^_^
“นายชื่อไร เราชื่อวินท์” เสียงมาจากคนข้างๆในขณะที่ผมกำลังทยอยหยิบแบบเรียนและเครื่องเขียนออกมาจากเป้ พร้อมทั้งเอาม้วนกระดาษชำระ และกล่องแว่น ๒ กล่องใส่เข้าไปในเก๊ะใต้โต๊ะเรียน ( ผมตัดแว่นแล้วค๊าบบบ ก่อนวันเปิดเรียนประมาณ ๒ สัปดาห์ ยังไม่ค่อยชินครับ ตอนอ่านหนังสือก็ใส่ แต่ตอนเดินมักลืมครับ นึกได้ก็ใส่  บางทีก็ลืมไปไม่ได้ใส่เลย

ทั้งวัน )
“ศิลปี” ผมบอกชื่อจริงไป “ เรียกเราตั้มก็ได้” ผมตอบแล้วมองไปดูหน้าว่า วินท์ หน้าตาเป็นยังไง ก็เจอกับหน้าขาวๆตี๋ๆของ วินท์ ยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตร ผมก็เลยยิ้มกว้างให้ วินท์ บ้าง
“ไหนชื่อไรนะ  ตั้ม เหรอ ชื่อโหลหว่ะ” ผมหันไปยังคนพูดที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าวินท์ หน้าไทยๆ ผิวคล้ำๆ ถึงจะยิ้มมาอย่างกวนๆ แต่ก็ดูเป็นมิตรเหมือนกัน “เราชื่อ เป็ด ไอ้นี่ชื่อ เบ๊” เป็ด ชี้ไปที่คนที่นั่งโต๊ะข้างๆ ก็โต๊ะหน้าผมแหละครับ
“เบ๊ เฉยๆนะครับ ตั้ม แต่ไม่ใช่เบ๊รับใช้นะครับ ฉะนั้นมีอะไรห้ามเรียกใช้” เบ๊ หันหน้าตี๋ๆมายักคิ้วให้ผม คำพูดของ เบ๊ ทำเอาผมหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ
“นี่ๆ ห้องนี้เคยมีคนโดนแกล้งจนต้องลาออกไปคนนึงเหรอ ถึงได้มีที่ว่างให้คนย้ายมาแค่คนเดียวอะ” ผมหยุดหัวเราะเพราะนึกที่ครูพูดเมื่อตอนโฮมรูมขึ้นมาได้ แล้วถามทั้ง ๓ คนด้วยสีหน้าจริงจัง ปนความหวาดกลัวนิดๆ ทั้ง ๓ คนมองหน้ากันไปมาแล้วระเบิดหัวเราะขึ้นพร้อมกัน
“ฮ่าๆ เปล่าเว๊ย ครูเค้าพูดเล่น นายนี่ทำเป็นคิดมาก ตลกหว่ะ” เป็ด บอก “พอดีมีเพื่อนคนนึงลาออกไปเรียนที่อื่นเลยมีที่ว่าง

ตั้ง ๑ ที่สำหรับเอ็งพอดี”
“เหรอ” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจในคำตอบ “เราก็ตกใจอะ นึกว่าห้องไหนที่มีคนย้ายเข้าไปเยอะๆ แปลว่าห้องนั้นมีคนโดนแกล้งจนลาออกเยอะซะอีก ที่แท้คงย้ายโรงเรียนเหมือนกันนิ”
“ฮ่าๆ......ตั้ม คิดได้ไงน่ะ” วินท์ พูดพร้อมกับหัวเราะกันใหญ่ทั้ง ๓ คน ผมเลยพลอยหัวเราะไปด้วย
“ว่าแต่ไม่กลัวโดนแกล้งจนต้องลาออกมั่งเหรอครับ ตั้ม” เบ๊ ถาม
“ไม่อะ เราโดนจนชินแล้ว” ทั้งสามคนทำหน้าประหลาดใจ คงคิดว่าผมพูดเล่น
ก่อนที่จะได้คุยอะไรกันต่อ ครูก็เข้าห้องเรียนมาพอดี
“นักเรียนเคารพ” เสียงดังมาจากทางหน้าชั้น
“สวัสดีครับคุณครู” แล้วพวกเราก็หันไปให้ความสนใจกับการสอนของครู
ระหว่างการรอครูในช่วงต่อของคาบเรียน เพื่อนๆที่นั่งอยู่ใกล้ๆกันก็หันมาทักทายทำความรู้จักกับผมเป็นระยะ จนกระทั่งการเรียน ๓ คาบแรกในตอนเช้าก็หมดลง ก่อนจะลงไปทานข้าว ผมก็ถาม วินท์ ด้วยความเกรงใจ หลังจากที่ผมเปลี่ยนแว่นแล้ว
“วินท์ เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้ว เราขอยืมสมุดจดงาน วินท์ ลอกหน่อยได้มั๊ยอะ”
“วิชาไหนบ้างล่ะ” วินท์ ถาม
“๓ วิชาเลย เราจดบนกระดานไม่ค่อยทัน” ผมตอบอายๆ เพราะกลัวว่า วินท์ จะคิดว่าผมเป็นคนขี้เกียจ ไม่ตั้งใจเรียน
“จดไม่ทันหรือไม่ได้จด เราไม่เห็น ตั้ม จดอะไรเลยเวลาที่ครูขึ้นกระดาน” วินท์ ขมวดคิ้ว “เออ...จริงสิ หรือ ตั้ม มองกระดานไม่เห็น” วินท์พูดอย่างนึกขึ้นได้
“อื้อ” แล้วผมก็บอก วินท์ ถึงปัญหาของสายตาผม
“โธ่....แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก เราเห็นแว่นหนาซะขนาดนั้นแล้ว ก็ไม่นึกว่าจะเป็นมากขนาดนี้” วินท์ ตอบยิ้มๆ
“เกรงใจอะ มาวันแรกก็รบกวนเพื่อนแล้ว” ผมบอก วินท์

“ไปกินข้าวกันก่อน เดี๋ยวกลับขึ้นมาเราค่อยหยิบให้ดู...เป็ด มันเร่งใหญ่แล้ว” แล้วผมกับ วินท์ ก็เดินไปหา เป็ดที่กวักมือเรียกพวกเราอยู่ที่ประตูห้อง พร้อมๆกับเพื่อนคนอื่นอีก ๕-๖ คน
ทานข้าวเสร็จ วินท์ ก็มานั่งอ่านในสมุดจดงาน ให้ผมจดตาม
“เราลอกเองก็ได้มังอะ วินท์” ผมบอกวินท์ด้วยความเกรงใจ
“เราว่าแบบนี้ดีกว่า เดี๋ยวอะไรที่เป็นตาราง ตั้ม ค่อยลอกจากสมุดเราจะได้ทวนไปด้วยในตัวไง” วินท์ ให้เหตุผล ผมก็จดๆๆไปตามที่วินท์ บอกจนเสร็จทั้ง ๓ วิชา ก็ได้เวลาเรียนในคาบบ่ายพอดี


มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
5
พลังน้ำใจ
1448
Zenny
25960
ออนไลน์
408 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-5 22:16:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
" I'm limited edition "

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
559
Zenny
6561
ออนไลน์
105 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-12 02:07:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1861
Zenny
4470
ออนไลน์
416 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-12 19:33:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
555 มีแต่คนชอบ แล้วปอหายไปไหนอ่า

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-2 18:13:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1157
Zenny
2209
ออนไลน์
532 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-3 18:21:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สุดยอดเลยอ่ะคร๊าฟ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-19 19:06:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
209
พลังน้ำใจ
14088
Zenny
42724
ออนไลน์
1088 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

โพสต์ 2016-4-18 22:13:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 18:15:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 00:31 , Processed in 0.114323 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้