ดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพกันไหม ?
ดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสุขภาพกันดีกว่า
รู้ๆ กันอยู่ว่ามีงานรื่นเริงที่ใดที่นั่นต้องมีเหล้า ยา ปลาปิ้ง และก็เป็นเรื่องเบสิกอีกเช่นกันที่ทุกคนจะรู้ว่า
http://news.phuketindex.com/wp-content/uploads/2010/01/1120.jpg http://img.kapook.com/image/Food/Beverage-Drink/alcohol1.jpg
การดื่มของมึนเมาจะก่อให้เกิดโทษหลายประการ จนเป็นที่มาของสโลแกน ให้เหล้า เท่ากับแช่ง ที่คณะกรรมการสร้างเสริมสุขภาพแห่งชาติ (สสส.) ใช้ในการโฆษณาทางโทรทัศน์ช่วงที่ผ่านมา ซึ่งผลของการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากนั้นทราบกันดีว่าเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะผลต่อตับและสมอง รวมถึงการเกิดอุบัติเหตุด้วย แต่ก็มีคนไข้หลายคนที่แอบถามหมอว่า ขอดื่มสักนิดหนึ่งจะได้ไหม คำตอบของหมอก็คือ ได้ แต่ดื่มได้ปริมาณแค่ไหนนั้น ต้องพิจารณากันให้ดี ซึ่งวันนี้อีแมกกาซีนจะมาแนะนำวิธีดื่มเพื่อสุขภาพให้กับคอทองแดงทั้งหลาย
งานนี้ นพ.สิรวิชญ์ เดชธรรม จากโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา เผยว่า ถ้าใครมีปัญหาเรื่องการทำงานของตับผิดปกติ เป็นโรคตับเรื้อรัง หรือเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบ ที่หมอก็คงต้องบอกว่า ไม่คุ้มเลยกับความสนุกชั่วครู่ในการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะนั่นจะยิ่งทำให้ตับของเรามีปัญหามากขึ้นไปอีก
ในผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องสมองหรือระบบประสาท เช่น เคยประสบอุบัติเหตุได้รับกระทบกระเทือนทางสมอง เคยผ่าตัดกะโหลกศีรษะ เป็นโรคลมชัก ก็ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เช่นกัน เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้อาการแสดงทางระบบประสาทเป็นมากขึ้น
คนที่ตรวจพบว่ามีไขมัน ไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglyceride) ในกระแสเลือดสูงก็ควรจะหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเช่นกัน เพราะเสี่ยงต่อการอักเสบของ ตับอ่อน (pancreas)
และแน่นอน สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูงการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เพราะกระตุ้นให้หัวใจบีบตัวแรงขึ้น ส่วนคนที่เป็นเบาหวาน แอลกอฮอล์ก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะแอลกอฮอล์ไปขัดขวางกระบวนการเมตาบอลิสซึม ของน้ำตาล และในแอลกอฮอล์บางชนิดเช่น ไวน์ เบียร์ ก็ยังมีน้ำตาลอยู่ด้วย
หมออาจจะสรุปได้ว่า คนที่มีโรคประจำตัวอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงโรคที่ไม่ได้กล่าวถึงข้างต้นด้วย มีเหตุผลอธิบายได้ ซึ่งท่านสามารถถามจากแพทย์ประจำตัวได้ และคนที่จำเป็นต้องรับประทานยาไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เนื่องจากปฏิกริยาระหว่างยากับแอลกอฮอล์จะให้ผลที่ไม่พึงประสงค์ ดังที่เราเคยได้ทราบข่าวเรื่องมีผู้เสียชีวิตจากการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับใช้ยานอนหลับ หรือพบผู้ป่วยตับอักเสบจากการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับการใช้ยาฆ่าเชื้อโรค
แต่สำหรับคนที่ไม่มีโรคประจำตัว อาจจะดื่มแอลกอฮอล์ได้ในปริมาณเล็กน้อยต่อวัน ซึ่งมีการวิจัยหลายการวิจัยในช่วงสิบปีที่ผ่านมาที่ระบุว่า ถ้าดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่กำหนดนั้น เป็นผลดีต่อร่างกายในการลดไขมันคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีที่ชื่อ LDL-Cholesterol ซึ่งไขมันชนิดนี้มักจะทำให้หลอดเลือดมีภาวะอุดตัน
Standard drink
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดปริมาตรการดื่มที่เรียกว่า Standard drink สำหรับแอลกอฮอล์แต่ละประเภท ดังนี้
-วิสกี้หรือสุราที่มีแอลกอฮอล์ 40 ดีกรี 1 standard drink คือ 43 ซีซี หรือประมาณ 1.5 ออนซ์
-เบียร์ที่มีแอลกอฮอล์ 5 เปอร์เซ็นต์ 1 standard drink คือ 341 ซีซี หรือ 12 ออนซ์ (ประมาณ 1 กระป๋องเล็ก) แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า เบียร์ในเมืองไทยนั้นมีความเข้มข้นสูงกว่าที่ระบุไว้คือประมาณ 6-10 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นปริมาตรเบียร์ 1 standard drink สำหรับบ้านเราคือประมาณน้อยกว่า 1 กระป๋องนั่นเอง
-ไวน์ ที่เป็น table wine ซึ่งมีแอลกอฮอล์ประมาณ 8-12 เปอร์เซ็นต์นั้น กำหนดให้ 1 standard drink เท่ากับ ประมาณ 142 ซีซีหรือ 5 ออนซ์ ในขณะที่ fortified wine ไวน์หวาน หรือ port wine ซึ่งมีแอลกกอฮอล์ถึง 18 เปอร์เซ็นต์ 1 standard drink เท่ากับ 85 ซีซี หรือ 3 ออนซ์
สำหรับเพศชายนั้นไม่ควรดื่มเกิน 2 standard drinks ในขณะที่เพศหญิงไม่ควรดื่มเกิน 1 standard drink โดยที่ใน 1 สัปดาห์ไม่ควรดื่มเกิน 3-4 ครั้ง, ไม่ควรดื่มต่อเนื่องกันทุกวัน และควรเป็นการจิบระหว่างการรับประทานอาหารมื้อใหญ่
อย่างไรก็ตาม การที่เราจะไม่ดื่มของมึนเมานับว่าดีที่สุด เพราะเมื่อเริ่มต้นดื่มแล้ว ความสามารถในการควบคุมตัวเองจะลดลงทำให้การควบคุมปริมาณการบริโภคไม่ให้เกินที่กำหนดนั้นเป็นเรื่องยาก และต้องไม่ลืมว่า หากต้องขับขี่ยานพาหนะการไม่ดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นความรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเองและต่อสังคมอีกด้วย
ขอบคุณมากครับ กำ กินเหล้า smirnoff green apple ขวดใหญ่ไปเกือบ 2 ขวดในคืนเดียว จะเป็นไรไหมนิเรา
หน้า:
[1]