กระท่อมน้อย คอยรัก
..สายลมแผ่ว แว่วเบา เคล้ากลิ่นหญ้ากลางเมษา หน้าร้อนแผด แดดเผาผลาญ
ท้องทุ่งนา คราฝนแล้ง แห้งกันดาร
มีดอกจาน บานชูช่อ รอฝนคืน
...เฝ้าเหม่อมอง ท้องทุ่งร้าง อย่างท้อแท้
เหลือเพียงแต่ แค่ซากฟาง วางทั่วผืน
อัศดง ตรงขอบฟ้า ราตีคืน
ดาวดาษดื่น แต่คืนนี้ มีเพียงเรา
...นั่งเหม่อรอ ท้อแท้ใจ ในกระท่อม
เสียงลมลอย คอยขับกล่อม พร้อมความเหงา
แต่ก่อนนี้ มีน้องนาง ข้างกายเรา
แต่ตอนนี้มีเพียงเงา เราเคียงกาย
...เจ้าจากนา ลาพี่ชาย หลายปีก่อน
ทิ้งนาดอน ก่อนลาไกล ไปเงียบหาย
จนน้องสาว ข่าวหาพี่ เมื่อปีกลาย
เป็นจดหมาย ท้ายสุด หยุดสัมพันธ์
...คำจากใจ ในจดหมาย บรรยายบอก
น้องสุขใจ ในบางกอก บอกกับฉัน
เพลินแสงสี มีห้างใหญ่ ไปทุกวัน
อยู่บ้านอก คอกนานั้น มันไม่มี
...ท้าย ปอ ลอ พอคำนี้ พี่แทบทรุด
ใจสะดุด หยุดลง ตรงคำนี้
เขียนบอกว่า อย่ารอน้อง มองอีกที
อ่านคำนี้ พี่เจ็บแปลบ แทบขาดใจ
...จำได้ไหม ใครเคยพร่ำ คำสัญญา
ไม่ไปลับ จะกลับมา อย่าหวั่นไหว
จันทร์ดวงเด่น เป็นพยาน สานสายใย
แม้นตัวไกล ใจยังอยู่ คู่ท้องนา
...สัญญาใจ ไม่ได้เขียน จึงเปลี่ยนใจ
ถึงลืมได้ ไม่นึกถึง จึงหายหน้า
กระท่อมน้อย รอยคาดไถ ไร้ราคา
จึงทิ้งนา ลาท้องถิ่น บินจากรัง
...หรือแสงสี มีมนต์ขลัง ดั่งคนว่า
ถึงเปลี่ยนได้ ใจสาวนา ลาคนหลัง
มีรถหรู อยู่คอนโด โก้เสียจัง
ไม่ผุพัง ดั่งกระท่อม ล้อมเศษฟาง
...แม้เจ้าไกล ไปลับ ไม่กลับทุ่ง
หากอยู่กรุง รุ่งเรืองได้ จะไม่ขวาง
ไม่เปลี่ยนไป ใจพี่ขอ รอน้องนาง
กระท่อมร้าง กลางทุ่งนา รอหน้ามน
...กระท่อมน้อย ยังคอยนาง กลางทุ่งแล้ง
ใจคนรอ ท้อจนแห้ง แล้งเหมือนฝน
ทุ่งคอยฝน คนคอยข่าว สาวหน้ามน
จะรอจน ฝนโปรยร่วง ทวงสัญญา
...กระท่อมน้อย คอยจนร้าง เกินสร้างใหม่
สายลมโบกโยกไหว ใจผวา
ไม่อาจยั้ง พังลงไป ในผืนนา
คนก็ล้า นาก็แล้ง แห้งเฉาตาย
มาเติมกำลังใจให้กันนะครับ ขอบคุณมากนะครับ
หน้า:
[1]