ปีศาจวัดเสมียนฯ
http://www.creditonhand.com/images/Ghost/201259105371.gif
"ลุงชาย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากร้านชำยามดึก
ผมอยู่แถวประชานิเวศน์ หลังวัดเสมียนนารี กทม. นี่เองครับ มีเรื่องเล่ากันเป็นตุเป็นตะว่า ผู้หญิงสองคนโดนรถไฟทับตายแถวนั้น แขนขาขาดกระเด็น เลือดสาดกระจายน่าสยดสยองสิ้นดี...ไม่รู้ว่าจงใจฆ่าตัวตายหรืออุบัติเหตุกันแน่?
โจษขานกันหนาหูไปถึงหนังสือพิมพ์และวิทยุและทีวีว่าผีสองนางนี่ดุบรรลัย
ยอมรับว่าไม่รู้ต้นสายปลายเหตุว่าจริงเท็จยังไง? ตัวเองทำงานดึกๆ ดื่นๆ ทุกคืนยังไม่เคยประสบเหตุการณ์ที่เขาร่ำลือกันเลย...อ้อ! ไม่อยากเจอะเจอด้วยนะครับ พับผ่าเถอะเอ้า! ที่ผมอยู่ดึกๆ บางคืนก็รุ่งเช้าน่ะ เพราะผมมีร้านชำเล็กๆ อยู่ใกล้สะพานข้ามคลองเปรมฯ หลังวัดน่ะซี...เราอยู่กันสองตายายมาเกือบสิบปีแล้วครับ
ตึกแถวเล็กๆ มีสินค้าแทบทุกชนิดที่ร้านสะดวกซื้อเขามีกัน ไม่ต้องจาระไนก็คงนึกภาพออกหรอกน่า แต่ร้านผมเหนือกว่าตรงที่เปิดขายอาหารตามสั่งอีกด้วย ไม่ว่ากับแกล้ม ข้าวผัด หรือข้าวราดหน้ากะเพราไข่ดาว ก๋วยเตี๋ยวราดหน้ากับผัดซีอิ๊วก็มี
ตอนแรกเปิดเป็นคาเฟ่แต่ทนขาดทุนไม่ไหว ทำคารา โอเกะก็ไม่ขึ้น เพราะคนชอบไปเที่ยวทางใกล้คลองประปากันหมด พวกเด็กๆ ก็คุมยาก ผมเลยตัดสินใจทำร้านชำกับอาหารตามสั่ง...ไม่ต้องมีลูกจ้างลูกออนให้ยุ่งยาก
อ๋อ...พวกลูกๆ ของเราล้วนเติบโตไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว นานๆ ก็พาลูกเต้ามาเยี่ยมที ไม่มีปัญหาอะไร
เมียผมขายของตอนกลางวัน ส่วนผมมารับช่วงตอนเลยค่ำไปจนถึงตี 3 ตี 4 บางคืนก็รุ่งเช้า เมียมารับหน้าที่ต่อ ผมก็ผัดก๋วยเตี๋ยวกิน ก่อนจะขึ้นชั้นบน อาบน้ำเข้านอนแทบทั้งวัน
ตอนเย็นๆ ค่ำๆ ก็มีคนจะไปรถทัวร์ฝั่งตรงข้าม เข้ามาสั่งเหล้าเบียร์และกับแกล้มอย่างสองอย่างเป็นการอุ่นเครื่อง ส่วนมากจะนั่งโต๊ะที่ระเบียงแคบๆ หน้าร้าน
ตอนดึกๆ ก็มีคนในหมู่บ้านมาซื้อเหล้า เบียร์ บุหรี่ กับแกล้มไปยันยากันยุง
สมัยก่อนผู้คนคึกคักน่าดู พวกหนุ่มๆ สาวๆ จากหมู่บ้านริมคลองเปรมฯ หลังวัดน่ะมีเป็นร้อย เคยมาทำงานร้านผมก็มี ออกไปทำงานที่อื่นก็มี หลายๆ คนเคยเห็นตั้งแต่เด็กจนโต มีผัวมีเมีย จนกระทั่งมีลูกเต้าก็หลายคน
ใต้สะพานนั่นเขาทำเป็นห้องเช่ากันราวสิบห้องได้ มีคนทำอาชีพนึ่งปลาทูควันโขมงเชียว เขาไปซื้อปลาทูจากสะพานปลาโน่น แล้วมาควักไส้พุงออก ใช้ฟืนที่ซื้อจากซาเล้งมาเป็นไฟนึ่งปลาทูในถังน้ำมันตัดครึ่ง เสร็จสรรพก็เอาไปขายตลาดวงศ์สว่าง ได้กำไรพอเลี้ยงครอบครัวได้
เรื่องไส้พุงปลาไม่ต้องห่วงครับ เพราะมีแม่ค้ามารับไปทำไตปลาทุกวัน
ถ้าจะพูดถึงผีดุ รับรองว่าละแวกนี้ไม่เป็นรองใครก็แล้วกัน!
ไหนจะใกล้วัดที่มีเผาศพทุกวัน ไหนจะรถไฟทับคนตาย ไหนจะเกิดอุบัติเหตุรถชนกัน สิงห์มอเตอร์ไซค์ซิ่งจนชนกันวินาศสันตะโร...ปะเหมาะคอเหล้าที่ตั้งวงใกล้ๆ ทางรถไฟเกิดทะเลาะกัน ควักมีดมาจ้วงอกเพื่อนดื้อๆ ก็มี
ชุมทางผีดุละครับ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เดี๋ยวจะวิ่งกันปอดอ้า ตับแลบจริงๆ เอ้า!
คืนเกิดเหตุขนหัวลุก ราวตี 3 เศษ ผมเพิ่งได้นั่งพักเหนื่อยเพราะมีลูกค้าเข้าออกแทบไม่ขาดระยะ เดี๋ยวซื้อบุหรี่ ไฟแช็ก เหล้า เบียร์ โซดา น้ำขวด พวกข้าวเกรียบกุ้งกับมันฝรั่งทอดเป็นถุงๆ ขายดีเป็นพิเศษ...เดี๋ยวมาซื้อสบู่ ยาสีฟัน ครีมทาหน้า นั่นยายอ๋อยเข้ามาซื้อผ้าอนามัย
พอลูกค้าซาได้นั่งพัก ว่าจะทำผัดซีอิ๊วหมูของโปรดกินซะหน่อย อ้าว? ตาเบี้ยวขาประจำกับเพื่อนๆ อีกสามคนเข้ามานั่งที่ระเบียง สั่งหงส์กับน้ำแข็ง โซดาไม่ต้องเป็นของเสาะท้อง...ว่างั้น!
คราวนี้ลูกค้าคนอื่นๆ หายจ้อยเลย แต่ก็ดีเหมือนกัน ผมได้โอกาสผัดซีอิ๊วหมูเส้นใหญ่กินได้ตามใจชอบ...กำลังผัดฉ่าๆ กลิ่นหอมเตะจมูก ตาเบี้ยวดันร้องสั่งเหล้าอีกแบน ผมบอกว่ารอเดี๋ยวรีบตักผัดซีอิ๊วใส่จาน คะน้าผสมกะหล่ำปลีนิดหน่อย-อร่อยอย่าบอกใคร!
ตอนที่ยกเหล้ากับน้ำแข็งไปให้ เพิ่งสังเกตว่าคนที่นั่งข้างๆ ตาเบี้ยวคุ้นหน้าแต่ยังนึกชื่อไม่ออก...พอวางเหล้าเท่านั้นแหละ อีกสองคนที่หันหลังให้เงยหน้าขึ้นมอง...ทั้งเหล้าทั้งน้ำแข็งหลุดมือผมแตกกระจาย
ไอ้ 2-3 คนนี่มันตายเพราะซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปหลายเดือนแล้วนี่นา...ตาเบี้ยวดันผ่าพาผีมากินเหล้าร้านผมดื้อๆ
ผงะหน้าชนผนัง ร้องเฮ้ยๆๆๆ สองหูอื้อดึง ม่านตาพร่าพราย แต่ยังไม่วายเห็นภูตผีเหล่านั้นแหงนหน้าหัวเราะแหบโหย ดังกึกก้องเข้ามาเต็มสองหู...ก่อนจะจางหายไปต่อหน้าต่อตา!
ผมปิดร้านทันใด รุ่งเช้าถึงมารู้ข่าวว่าตาเบี้ยวเมาตกน้ำตายตั้งแต่ตอนบ่าย หน็อย! ... พอตกดึกดันยกโขยงปีศาจมาเยี่ยมผมเฉยเลย...ไม่ขนหัวลุกได้ยังไงไหว งานนี้น่ะ! บรื๋อออ....
หน้า:
[1]