ทูตพญายม
http://www.creditonhand.com/images/Ghost/h5-26-03-55.jpg
'หนิง' เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อพบกับยมทูต
เชื่อว่าทุกคนย่อมเคยได้ยินได้ฟังเรื่องผีๆ สางๆ มาตั้งแต่สมัยเด็กแล้วนะคะ บ้างก็เชื่อบ้างก็ไม่เชื่อว่าภูตผีมีจริง แต่ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม สังเกตว่าของจริงๆ น่ะล้วนแต่กลัวผีแทบทุกคน เลยค่ะ!
ดิฉันคิดว่าตัวเองเชื่อหลักวิทยาศาสตร์มากกว่าไสยศาสตร์ เลยไม่ค่อยเชื่อเรื่องผีเท่าไหร่นัก จนกระทั่งประสบเข้าตัวเองชนิดจังๆ
เหตุการณ์น่าสยดสยองนี้ตอนดิฉันเรียนมหา วิทยาลัยแถวรังสิต อยู่หอพักกับเพื่อนๆ รวม 3 คน วันหนึ่ง 'นุ้ย' เพื่อนที่อยู่ด้วยกันปัสสาวะออกมาเป็นเลือด ต้องพาไปหาแพทย์ให้ตรวจอาการว่าเป็นอะไรแน่
กระเพาะปัสสาวะอักเสบค่ะ ต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการระยะหนึ่งก่อน
นุ้ยขอให้ดิฉันมานอนเป็นเพื่อน ความที่สงสารเพื่อนก็เลยตกลง!
นุ้ยนอนป่วยอยู่ในห้องรวมซึ่งมี 4 เตียง พวกเรารูดม่านไม่อยากสนใจคนไข้เตียงอื่น แต่ก็พอทราบว่าคนไข้ที่เพิ่งผ่าตัดมา และนอนเตียงริมประตูนั้นอาการไม่ค่อยดีนัก ได้ยินว่าเป็นมะเร็งที่ปากมดลูกค่ะ
ที่แน่ๆ คือพยาบาลเดินเข้าออกบ่อยมากจนเราชักรำคาญ
ตกดึก ดิฉันผล็อยหลับไปแล้ว แต่ต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงสวบสาบเหมือนมีใครรูดม่านอยู่ในความเงียบเชียบ คือคล้ายกับเสียงรูดม่านที่กั้นเตียงคนไข้น่ะค่ะ...รูดเล่นไปมาจนดังอยู่ครู่ใหญ่ ดิฉันหงุดหงิดเลยลืมตาขึ้นดู
ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากหรอก นึกว่าคงเป็นญาติคนไข้เตียงอื่นๆ ลุกเข้าลุกออก พอดีปวดท้องเบาเลยลุกไปเข้าห้องน้ำด้านนอก
ครั้นทำธุระเสร็จกลับเข้ามาก็มองดูรอบห้อง ทุกเตียงต่างก็รูดม่านนอนตามปกติ มีบางเตียงเปิดไฟดวงเล็กๆ พอสว่างเอาไว้ รวมทั้งเตียงแรกริมประตูนั่นด้วย
ทันใดนั้นเอง มีอะไรบางอย่างสะดุดใจดิฉันให้หันมองเตียงนั้นพอดี!
สิ่งนั้นคือขาคนค่ะ!!
ม่านรูดเตียงไม่ได้ยาวระพื้น ใครยืนก็สามารถเห็นขาโผล่มาได้ ที่น่าสังเกตคือไม่ได้ใส่รองเท้า ซึ่งก็ดูไม่น่าแปลกใช่ไหมคะ? แต่ตอนนั้นดิฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลย
ขานั้นเดินไปมารอบเตียงคนไข้ เดี๋ยววนทางซ้าย เดี๋ยววนทางขวา ความเงียบเชียบในห้องที่มีกลิ่นยาอวลกรุ่น ทำให้ดิฉันได้ยินเสียงใครงึมงำคล้ายพูดอะไรบางอย่าง....มองดูสักครู่ดิฉันก็ขนลุกซ่า เกิดกลัวขึ้นมาดื้อๆ เลยรีบเปิดม่านเข้ามาที่เตียงเพื่อน...แหม! นุ้ยนอนหลับสนิทเชียว
ดิฉันพยายามข่มเปลือกตาให้หลับก็หลับไม่ลงจริงๆ ค่ะ
นอนอยู่ไม่นานก็เกิดปวดห้องน้ำขึ้นมาอีกแล้ว!
ยอมรับว่าไม่อยากจะลุกออกไปอีกเลย แต่ก็ปวดจนทนไม่ไหว ต้องหลับหูหลับตาเดินออกไปเข้าห้องน้ำ โดยไม่ยอมชำเลืองไปที่เตียงแรกนั่นเลย
ตอนกลับเข้ามาก็ไม่อยากจะมองหรอก แต่มันเหมือนกับมีอะไรบางอย่างดลใจให้หันไปมอง...
คุณพระช่วย! ดิฉันเห็นเป็นเงาคนค่ะ เห็นเป็นแค่เงาจริงๆ ซึ่งน่าแปลกตรงที่ห้องไม่ได้มืดอะไรมากมาย...เป็นเงาคนตัวใหญ่หายแวบเข้าที่เตียงคนไข้เตียงแรก...หายเข้าไปแบบไม่ได้เปิดม่านออกเลยด้วยซ้ำ!
ทันใดนั้น ดิฉันก็ได้ยินเสียงคนร้องอึกอักเหมือนหายใจไม่ออก ยอมรับว่ากลัวสุดขีด รีบผวากลับเตียงเพื่อน นั่งใจหายใจคว่ำอยู่ในนั้น มือเท้าเย็นเฉียบไปหมด...กลัวจนต้องสวดมนต์อยู่ตั้งหลายจบ
อีกสักครู่ พยาบาลก็เข้ามาเปิดไฟ บอกขอโทษคนไข้เตียงอื่นแล้วก็ลากคนไข้เตียงแรกออกไป...ดิฉันมองดูเวลาตอนนั้นประมาณตี 4 แล้ว
ยอมรับว่านอนไม่หลับเลยค่ะ นึกถึงบรรยากาศโรงพยาบาลที่มีคนตายนับพันนับหมื่นศพมาแล้ว ยิ่งทำให้ปากคอแห้งผาก ใจเต็นแรงจนแทบจะเป็นครึกโครม...คนไข้เตียงแรกไม่ได้ถูกเข็นกลับเข้ามาอีกเลย เพราะเขาเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ตอนที่พยาบาลเข็นเตียงออกไปนั่นเอง!
อาการนอนไม่หลับน่ะไม่ได้เกิดขึ้นกับดิฉันคนเดียวเท่านั้นนะคะ
บรรดาญาติและคนไข้เตียงอื่นๆ ก็เป็นหมือนกัน มีคนนอนเตียงข้างๆ บอกขนงี้ลุกซู่ซ่าไปหมด เขายืนยันว่าได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมา พึมพำแต่คำว่า ตาย! ตาย...จนคนไข้เตียงนั้นต้องตายไปจริงๆ
เดี๋ยวนี้ดิฉันเชื่อเรื่องผีเต็มร้อยแล้วค่ะ...บรื๋อส์!!
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ http://www.creditonhand.com/images/ks.gif
หน้า:
[1]